จากคนไม่ชอบขี้หน้ากัน ด่ากันหน้าคณะจนอับอาย แต่จู่ๆเขาก็พบกับความลับของเธอทำให้อยากแก้แค้น แต่กลับพาตัวเองไปวนอยู่รอบเธอจนกลายเป็นตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัวจนสุดท้าย.... "มาเป็นเด็กเลี้ยงของพี่เถอะมิว" “ผ่านมาสามปีก็ไม่มีพัฒนาการขึ้นเลยสักนิด” “แล้วมันหนักส่วนไหนของพี่ล่ะคะ” “ไม่หนักหรอกก็แค่อยากรู้เท่านั้นว่าวัน ๆ นอกจากท่องหนังสือสอบหอบตำราแล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง” “ก็ดีกว่าพวกที่ดีแต่พกปากมามากกว่าสมอง แล้วมานั่งเห่าหอนไปวัน ๆ เหมือนพวกหมาหมู่แถวนี้ก็แล้วกัน” “เธอว่าใครเป็นหมา” “ถ้าไม่อยากรับก็อย่าเดือดร้อนสิ” “แล้วเมื่อกี้ว่าให้ใคร เธอเป็นรุ่นน้องนะ” “สันดานต่ำ” “อะไรนะ!” ทั้งสองเหมือนจะไม่มีทางที่จะมาคุยกันดี ๆ ได้เลย ยิ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเขาแล้วยิ่งเกลียดเธอเข้าไส้ แต่โอกาสแก้แค้นของภาวินทร์ก็มาถึงเร็วกว่าที่คิด เมื่อเขาได้รับรู้ความลับบางอย่างของเธอ "ได้เวลาแก้แค้นแล้ว ยัยลูกแกะน้อย"
もっと見るคอนโด
“หยุด…พอก่อน อ๊ะ…อ๊าา”
เสียงขอร้องในค่ำคืนเร่าร้อนไม่มีผล บั้นท้ายงอนงามถูกหนุ่มกำยำดีกรีเดือนคณะวิศวะปีที่สี่ยังคงถูกกระแทกไม่หยุดเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่มุดหน้ากับหมอนเพื่อกั้นเสียงร้อง
“อื้อ… พี่วินทร์…ฮึก!!”
จังหวะสุดท้ายที่เข้าสอดลึกและแช่เอาไว้ “ลักษิกา” จึงรู้ว่าทุกอย่างจบลงแล้ว …แต่เธอเข้าใจผิดว่าเขาจะหยุดเพราะตอนนี้ “ภาวินทร์” กำลังถอดเครื่องป้องกันและจัดการตัวเอง ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับดึงผ้าห่มก็ได้ยินเสียงฉีกซองป้องกันถุงใหม่อีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อนค่ะ พรุ่งนี้มิวมีสอบย่อย คืนนี้คง…”
“นอนลงไปดี ๆ เถอะมิวอย่าให้พี่โมโห พี่เคยบอกแล้วว่าอย่ากลับไปทำงานแบบนั้นอีกไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่นะคะพี่วินทร์เข้าใจผิด มิวแค่ อ๊าา!!”
เขากดศีรษะเธอลงและเริ่มสอดใส่เข้าไปด้านหลังอีกครั้ง แม้ว่ามิวจะไม่ต่อต้านแต่คืนนี้เขาทำแบบนี้มาเกินสองรอบแล้วซึ่งเธอเริ่มจะหมดแรงจนพูดไม่ออกแล้ว
“ฮึก!! เสียวฉิบหาย อาา… มิว”
“อื้อ….”
“มานี่ มาขึ้นให้หน่อย”
“ไม่เอานะพี่วินทร์ อย่าทำแบบนี้ อ๊าา”
เขาดึงตัวเธอมานั่งคร่อมตักและค่อย ๆ สอดอาวุธประจำตัวเข้าไป มิวที่ทั้งจุกและเสียวร้องครางกระเส่าเมื่อเขาสั่งให้เธอขยับเอวขึ้นอีก
“เร็วอีก!! อย่าดื้อสิมิว ไม่งั้นไม่จบแค่รอบนี้แน่ มิวก็รู้ว่าพี่กำลังโกรธหรือจะให้ทำทั้งคืน”
“อื้อ…อ๊าา อย่าจับเอว อย่า!! อ๊าาา กรี๊ด!!!”
เธอเสร็จไปอีกครั้งเมื่อเขาตกลงที่จะจัดการที่เหลือเองเพราะหากรอเธอทำเขาคงอารมณ์ค้างอยู่แบบนี้อีกนาน หน้าอกที่เคยขาวเนียนตอนนี้เต็มไปด้วยรอย แม้ว่าเธอจะขอร้องเขาไม่ให้ทำแต่สุดท้ายทุกครั้งเธอก็ไม่เคยได้กลับไปแบบไร้ริ้วรอยเลยสักครั้ง
“ให้รู้เสียบ้างว่าอย่าลองดีกับภูวินทร์ พี่เตือนเธอแล้วนะ”
ร่างบางถูกวางเบา ๆ ลงที่เตียงหลังจากกิจครั้งสุดท้ายจบลง ภูวินทร์เดินไปเทน้ำมาจิบก่อนจะหันมาถามคนที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงในคอนโดหรูของเขา
“ดื่มน้ำหน่อยไหม”
เธอส่ายหัวเป็นคำตอบ เขารู้ว่าเธอคงโกรธไม่น้อยที่เขาทำแบบนี้แต่ระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่คู่รัก ไม่ใช่แฟน ไม่ได้คบกัน ทั้งสองคนเพียงแค่มีข้อตกลงกันอย่างลับ ๆ เท่านั้นเอง เมื่อภูวินทร์เดินไปอาบน้ำ ลักษิกาก็รีบจัดการตัวเองทันที
เธอค่อย ๆ ลุกจากเตียงและคว้าเสื้อผ้าที่กระจายอยู่รอบ ๆ ห้องมาใส่ทีละชิ้นและรีบออกจากคอนโดของเขาทันทีโดยไม่ลาเขา ส่วนคนที่อาบน้ำอยู่เมื่อออกมาไม่พบเธอก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ยังไม่ดึกมากเขาจึงไม่คิดจะไปตามเธอกลับมา
“ยังมีแรงเดินกลับได้อีกเหรอ ฮึ ดูเหมือนว่าฉันจะใจดีเกินไปสินะยัยลูกแกะน้อย”
หอพัก DC
“ลักษิกา” หอบร่างที่ขาสั่นและแทบหมดแรงเรียกรถให้พาเธอกลับมาถึงหอพักที่หน้ามหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ มิวเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลปีสาม ซึ่งปีนี้มีเรียนหนักขึ้นอีกอย่างนักศึกษาก็ต้องเวียนไปฝึกงานที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเพื่อเก็บคะแนนก่อนจบ เมื่อเธอเปิดประตูเข้าห้องพักไปได้ก็พบกับ “แยม” เพื่อนสนิทคนเดียวที่รออยู่ที่ห้อง
“มิว! เชี่ย… นี่พี่วินทร์ทำแกถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“แยม... เราเหนื่อย หิวน้ำ หมดแรง”
“รอเดี๋ยวก่อนอยู่นิ่ง ๆ นะ”
“ธนัญญา” หรือแยมรีบวิ่งไปเปิดตู้เย็นและเทน้ำมาให้เพื่อนสนิทค่อย ๆ จิบก่อนที่มิวจะนั่งสงบอารมณ์ได้แยมก็หันมาโมโหและด่ากราดขึ้นทันที
“อีพี่วินทร์นี่ยังไงนะ ทำไมแม่งกินโหดขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ามันมีความลับของแกอยู่ ฉันจะแฉให้ทั้งมหาลัยรู้เลยว่ามันชั่วขนาดไหน ไหวไหมมิว”
“ไม่มีประโยชน์หรอก มีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นคนยังไง”
“เฮ้อ ก็นั่นสินะ เสือผู้หญิง เพลย์บอยพวกเจ้าชู้ ใครจะไม่รู้ล่ะว่าแก๊งมันแต่ละคนสันดานเป็นยังไง เฮ้อ แกไหวแน่นะมิว”
“อืม ฉันไม่เป็นไร ฉันพลาดเองนี่ที่ทำให้เขาจับได้จนต้องเป็นแบบนี้”
“ไอ้ทุนเนี่ยฉันว่าถ้ามันยากนักแกก็ไม่ต้องเอาหรอก เอาแบบนี้ฉันบอกคุณพ่อให้ออกเงินกู้ให้แกเรียนต่อ เรียนจบแล้วค่อยทยอยใช้ไม่ดีกว่าเหรอ”
“ไม่ได้หรอก แกก็พูดเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วนะแยมแต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้ใคร ถ้าฉันตายหรือเป็นอะไรขึ้นมาละ หนี้ไม่สูญเปล่าเหรอ ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากให้แกเสียชื่อเพราะฉัน”
“แต่ว่าแกจะไปทำงานแบบนี้มันก็อันตรายจริง ๆ นั่นแหละ อีกอย่างการที่แกรับปากไอ้พี่วินทร์นั่นมันก็…”
“ฉันอยากอาบน้ำสักหน่อย แกนอนก่อนได้เลยนะ”
“แกเดินไหวแน่นะ”
“ไหวสิแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกินยาแล้วก็จะนอนแล้วพรุ่งนี้มีสอบแต่เช้า”
“อืม ค่อย ๆ เดินล่ะ”
มิวค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเธอถอดชุดออกก็เห็นหน้าตัวเองในกระจก ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ล้างออกไม่หมดและรอยจ้ำแดงที่หน้าอกนับสิบ แม้ว่าภาวินทร์จะใจดีไม่ทำที่คอก็ตาม
“ความสัมพันธ์แบบนี้มันควรจะจบไปได้แล้ว”
มิวลูบไปที่กระจกเพื่อปลอบใจตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เรื่องราวทั้งหมดนี้มันจะไม่เกิดขึ้นหากว่าเธอไม่พบเขาและเกิดเรื่องไม่คาดคิดเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้นลักษิกาก็ยังเป็นแค่นักศึกษาพยาบาลธรรมดาที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เธอมักจะสวมชุดนักศึกษาหลวม ๆ และกระโปรงยาวเลยเข่า รองเท้าผ้าใบสวมแว่นตาซึ่งเป็นปกติของเด็กเนิร์ดทั่ว ๆ ไป แต่เธอกลับมีความลับบางอย่างที่มีแค่แยมคนเดียวที่รู้
Q-Bar
“เยี่ยมเลยเรเน่ ขอ “มาการ์เรเน่” อีกสองที่นะ”
“ได้ค่ะ”
“เรเน่” คือชื่อที่ทุกคนเรียกเธอในบาร์แห่งนี้ซึ่งที่นี่เป็นร้านเหล้าในย่านดัง เธอเลือกทำงานที่นี่เพราะค่อนข้างห่างจากมหาวิทยาลัยและไม่เสี่ยงที่จะมีเพื่อนร่วมมหาลัยพบเข้า อีกอย่างเธอเองก็เปลี่ยนจากสาวแว่นเด็กเนิร์ดที่ใคร ๆ เห็นเป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟันแต่งตัววาบหวิวในชุดบาร์เทนเดอร์สาวสุดสวยในบาร์แห่งนี้
“เยี่ยมไปเลย นี่ทิปลูกค้าบอกว่าให้เธอ”
“ขอบคุณมากทอม”
“ยินดี เอาไว้เลี้ยงข้าวฉันด้วย”
“ได้เลย”
เงินค่าจ้างที่เยอะและทิปจากลูกค้าที่หนามากพอทำให้เธอเลือกอาชีพนี้ อีกอย่างเธอก็เป็น “บาร์เทนเดอร์” ที่มีลีลาดีและมีความสามารถซึ่งพรสวรรค์นี้เธอได้มาจากแม่ที่เคยสอนตอนเด็ก ๆ แม้ว่าเธอจะดื่มไม่เก่งเลยก็ตาม
“เดอร์ตี้ มาร์ตินี่ที่หนึ่ง”
“ได้ค่ะ”
มิวเกือบจะทำเครื่องผสมตกเมื่อหันมามองคนที่สั่งเครื่องดื่มของเธอซึ่งตอนนี้มานั่งที่บาร์ตรงหน้าเธอ เขาเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่สาว ๆ ดีว่าเขาเจ้าชู้และ “เอวไว” ซึ่งเป็นผู้ชายที่เธอเกลียดมากที่สุดเพราะตอนที่เธออยู่ปีหนึ่งเคยถูกเขาและเพื่อน ๆ แซวจนแทบจะไม่มีคนคบ
“ยัยแว่นเฉิ่มเบ๊อะ พยาบาลน่ะต้องสวย ๆ รูปร่างดี ๆ พี่จ้างสามพันไปซื้อชุดใหม่ดีไหม ไม่มีใครเอาชุดคุณแม่สมัยสาว ๆ มาใส่หรอกนะ”
เธอจำได้ว่าถูกล้อเลียนจากพวกเขาเพราะกลุ่มเพื่อน ๆ ของภาวินทร์มีแต่คนหล่อ ๆ และที่บ้านมีฐานะ แม้ว่าน้อยครั้งที่ภาวินทร์จะเข้าร่วมแซวเธอด้วยแต่เพราะเธอฝังใจจนเกลียดพวกเขาสี่คนไปแล้วดังนั้นจึงไม่อยากแม้แต่จะทักทาย
“ไอ้คนปากรั่ว มั่วผู้หญิงมาก ๆ ระวังนะคะรุ่นพี่จะเป็นโรคติดต่อเอา”
“นิธิศ” เพื่อนในกลุ่มของภาวินทร์เดินเข้ามาเพื่อจะเอาเรื่องเธอแต่ลักษิกาที่โกรธจัดก็ไม่ยอมแล้วเช่นกัน จนกระทั่งเธออยู่ปีสามเมื่อเจอพวกเขาเมื่อไหร่ก็เป็นต้องถูกล้ออยู่จนเธอทนไม่ไหว
“เฮ้ย!! ปากแบบนี้มันน่า…”
“เดี๋ยวไอ้ธิศ น้องมันก็แค่โมโหที่พวกมึงล้อน้องมาหลายปีแล้วนี่น้องสาว ไม่ใช่ว่าจะปลงจนอยากไปบวชชีเสียล่ะ”
ลักษิกาหันมามองหน้าภาวินทร์ที่ดึงนิธิศออกไปและหันมายิ้มกวน ๆ ให้เธอแทน มิวโกรธจนแทบจะคุมสติไม่อยู่และยิ่งเห็นภาวินทร์พูดแบบนี้เธอจึงเผลอพูดเหน็บแรง ๆ กลับไปสักครั้งหนึ่ง
“ค่ะ บวชให้พ่อพี่ตอนตายน่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียใจที่มีลูกสันดานแบบนี้”
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
コメント