เป็นความบังเอิญหรือจงใจสะกดรอยตามมา เธอก็สุดจะคาดเดาได้ แต่ความไม่ประมาทย่อมดีที่สุด เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่บ้านเธอวันก่อนทำให้ไม่วางใจคนตรงหน้านัก
“ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ฉันกลับเองได้”
อีกฝ่ายมีทีท่าผงะไปนิดๆ นายปิยะแอบขุ่นข้องหมองใจกับคำว่า ‘คุณ’ ของคนเป็นลูก ดูเหมือนรุจารินจะได้รับกรรมพันธุ์ความหยิ่งยโสจองหองจากเมียเก่าของเขามาเต็มตัวทีเดียว คิดแล้วก็ให้หงุดหงิดไม่น้อย
“ฝนตกหนัก พ่อจอดรถตรงนี้นานๆ ไม่ได้ ขึ้นรถก่อนเถอะเดี๋ยวพ่อไปส่ง” พร้อมคำพูด มือของฝ่ายนั้นก็คว้าข้อมือเธอหมับ และหญิงสาวก็สะบัดมือทันทีด้วยความตกใจ และดูเหมือนอีกฝ่ายเองก็คงตกใจเช่นกัน นายปิยะหน้าถอดสี แววตาสำนึกผิดเจือด้วยความหมองหม่นน้อยใจคู่นั้นทำเอาหญิงสาวแอบรู้สึกผิดนิดๆ หากคิดว่าเป็นเจตนาดี ก็ดูเหมือนเธอจะทำลายน้ำใจอีกฝ่ายไปไม่น้อย
“พ่อขอโทษนะลูก พ่อแค่เป็นห่วงกลัวหนูโดนฝนไม่สบาย เหมือนตอนเด็กๆ ไง เวลาหนูตากฝนหรือโดนละอองฝนนิดเดียวก็จะเป็นหวัดทุกที” หัวใจคนฟังกระตุกนิดๆ เมื่อยามได้ยินความหลังจากปากบิดาบังเกิดเกล้า
“แต่ไม่เป็นไรนะถ้าหนูรังเกียจพ่อ พ่อมันก็เลวน่ารังเกียจเองจริงๆ สมควรให้หนูกับแม่โกรธ แต่ขอให้หนูรู้ไว้ว่าพ่อสำนึกผิดและละอายใจทุกครั้ง”
รุจารินมองท่าทีอ่อนลงผิดกับวันก่อนที่พบกันที่บ้านอย่างชั่งใจ หากเป็นการแสดงก็ถือว่าบิดาเธอแสดงได้แนบเนียนมาก แต่ถ้าไม่ใช่การแสดงล่ะ มันก็น่าคิด...
“ถ้าหนูไม่ไว้ใจพ่อ งั้นก็ไม่เป็นไรลูก พ่อคงเลวมากจนเกินที่ลูกจะให้อภัย งั้นพ่อจะไม่มาให้หนูเห็นหน้าอีกแล้วกัน แต่ร่มนี่หนูเก็บไว้ใช้นะลูก เปียกฝนจะไม่สบาย แม่ของหนูก็จะเป็นห่วงด้วย”
ว่าแล้วชายมากวัยก็ยัดร่มใส่มือของลูกสาว ก่อนที่จะเดินคอตก ไหล่ลู่ตากฝนกลับไปที่รถ รุจารินเหลือบไปเห็นตำรวจจราจรเดินฝ่าสายฝนมาแต่ไกลเพราะรถจอดในที่ห้ามจอด เสี้ยววินาทีนั้นเอง ความถูกผิดในหัวใจเธอก็ตีกันให้สับสนวุ่นวาย แล้วสุดท้ายร่างระหงก็ลุกพรวดขึ้น พร้อมยื่นร่มในมือกางกั้นสายฝนให้ผู้เป็นบิดาอย่างลืมตัว
“ลูกจ๋า!” นายปิยะหน้าชื่นขึ้น ก่อนที่จะสลดลงในนาทีต่อมา
“เอาร่มของคุณคืนไปเถอะค่ะ หนูไม่ต้องการ”
“ไม่เป็นไรลูก พ่อไม่เป็น...”
“และถ้าไม่รบกวนคุณจนเกินไป หากพบรถเมล์หรือรถแท็กซี่ข้างหน้าก็ช่วยจอดให้หนูลงนิดนึงแล้วกันค่ะ” สีหน้าคนเป็นพ่อสดชื่นในพริบตา
“ดะ...ได้ลูกได้ หนูบอกมาแล้วกัน พ่อจะจอดให้ตามที่ลูกต้องการ”
รุจารินถอนหายใจเบาๆ เอาเถอะน่า ก็แค่รับน้ำใจไว้นิดหน่อย คงไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยื่นไมตรีมาให้โดยไม่หวังผลตอบแทนนี่นา
รถของนายปิยะไม่ใช่รถคันเดียวกับสมัยที่รุจารินกับแม่ยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น แม้จะดูเก่าไปหน่อยแต่สภาพภายในก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ดีที่ฝนตกอากาศไม่ร้อนอบอ้าวมากนัก หากเจ้าของรถก็ยังคงเปิดแอร์เบาๆ
“หนาวไหมลูก พ่อมีเสื้อสูทที่เบาะด้านหลัง หนูจะหยิบมาห่มก่อนก็ได้นะ”
แน่นอนว่าหญิงสาวไม่หันไปหยิบเสื้อของอีกฝ่าย ยังคงนิ่งเฉย จนกระทั่งรถติดไฟแดง คนเป็นพ่อจึงหันไปหยิบเสื้อสูทตัวนั้นมายื่นคลุมให้เสียเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ จ๋าไม่หนาว” หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบติดเย็นชา
“คลุมไว้เถอะลูก อากาศเย็นๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย แม่หนูจะเป็นห่วง” คนขับตัดบท พอดีกับที่ไฟเขียวพอดี รุจารินจึงยอมคลุมเสื้อตัวนั้นเป็นการตัดรำคาญและเพราะเห็นแก่คำว่าแม่จะเป็นห่วง
กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของพ่อโรยรินแตะจมูกของเธอชวนให้คิดถึงวันเก่าเมื่อยามเป็นเด็กอีกครั้ง เธอชอบเอาเสื้อสูทของพ่อมาสวมเล่น เพราะชอบกลิ่นหอมสะอาดๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกลิ่นอาฟเตอร์เชฟของอีกฝ่าย ที่ทำให้จิตใจสงบผ่อนคลาย คราวนี้ก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนเสื้อตัวนี้คงอยู่ในรถนานไปหน่อยจึงมีกลิ่นอับปนฉุนแปลกๆ ผสมมาจางๆ ด้วย
“หนูทำงานตำแหน่งอะไรเหรอ”
“พนักงานทั่วไปค่ะ” ตอบไปแบบเสียไม่ได้
“อืม...ดีจริง เมื่อกี้ตอนเห็นหนูสวมชุดนี้พ่อเกือบจำไม่ได้ หนูสวยเหมือนแม่ตอนสาวๆ ไม่มีผิด” ผู้โดยสารสาวนั่งนิ่งไม่ตอบ ตามองตรงไปข้างหน้า อันที่จริงคงเป็นเพราะอากาศเย็นๆ ทำให้เธอเริ่มง่วงงุน
“แล้วนี่หนูมีแฟนหรือมีใครมาจีบบ้างหรือยังละลูก”
“ยะ...” คำว่ายังถูกกลืนลงคอไป พร้อมกับเปลี่ยนคำถามทันควัน “ถามทำไมเหรอคะ”
“เอ่อ...ไม่มีอะไรลูก พ่อก็แค่อยากเตือน ผู้ชายสมัยนี้น่ะไว้ใจยากจะคบใครต้องดูให้ดีๆ ว่าเจ้าชู้หรือเปล่า”
กำลังจะโต้กลับไปว่า...เหมือนพ่อใช่ไหมคะ แต่กระนั้นในเมื่อเรื่องมันจบลงไปนานแล้ว เธอก็ไม่อยากรื้อฟื้นสิ่งใดขึ้นมาอีก
“หิวไหมลูก”
“ไม่ค่ะ”
อีกฝ่ายพยายามชวนคุยอย่างไม่ย่อท้อแม้คำตอบจะเริ่มสั้นลงทุกทีๆ เมื่อม่านตาของหญิงสาวชักจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคู่งามพยายามกะพริบถี่ๆ ไล่ความง่วงงุน พลางมองข้างทางเพื่อหารถเมล์หรือรถแท็กซี่ที่ขับผ่านแต่ก็ไร้วี่แวว ฝนตกแบบนี้รถราในเมืองกรุงหายากยิ่งกว่างมเข็ม จนท้ายที่สุดหญิงสาวก็ไม่อาจต้านทานความง่วงได้อีกต่อไป
“ลูกจ๋า...”
“...”
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ นายปิยะจึงหันไปมอง ก็เห็นลูกสาวนั่งหลับคอพับคออ่อนไปเสียแล้ว จึงลองสะกิดปลุก
“ลูกจ๋า...ลูก”
พอเห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งไม่ไหวติง เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น เขาจึงระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกปนด้วยความรู้สึกผิดบาปลึกๆ ในใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำต่อคนที่ได้ชื่อว่าลูกสาว
ใช่! ถึงเขาจะไม่ค่อยได้เลี้ยงดูอีกฝ่ายมาสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรหญิงสาวตรงหน้าก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเขา
“จะเป็นไรไปคะ เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว แต่จ๋าอยากเก็บความทรงจำดีๆ กับครอบครัวของเราไว้มากๆ นี่คะ อีกอย่างตอนนี้จ๋าไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วด้วย นั่งเครื่องบินคงลำบาก”ประโยคนั้นทำให้คนฟังแอบกลืนน้ำลายฝืดคอ“แต่น่าแปลกนะคะ ถึงเดี๋ยวนี้จ๋าไม่เห็นมีอาการแพ้ท้องเลย พี่เบสไม่เห็นว่ามันแปลกเหรอคะ”“อะ อ๋อ จ๋าคงแข็งแรงไงคะ พี่ว่าลูกเราคงไม่อยากให้แม่ต้องเหนื่อยแพ้ท้องละมั้ง”“จริงเหรอคะ” จู่ๆ สายตาหญิงสาวก็เปลี่ยนไปจนภูเบศแอบเสียววูบ “พี่เบสว่าอย่างนั้นเหรอคะ”“จ๋ามีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำเสียงแบบนี้ พี่ชักจะกลัวแล้วนะที่รัก”“จ๋าจะให้โอกาสพี่เบสอีกที มีอะไรที่พี่ยังบอกจ๋าไม่หมดหรือเปล่าคะ ถ้าบอกตอนนี้จ๋ารับปากว่าจะไม่โกรธ แต่ถ้าไม่บอกแล้วจ๋ามารู้ทีหลังอันนี้ไม่รับประกันสวัสดิภาพนะคะ”ภูเบศนิ่วหน้ามองว่าที่เจ้าสาวอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะสุดลมหายใจเข้าลึกๆ“สัญญามาก่อนว่าถ้าพี่บอกอะไรไป งานแต่งของเราจะไม่ล้มเลิกและจ๋าจะไม่หนีพี่ไปไหน”รุจารินมองสบตาชายหนุ่ม ก่อนพยักหน้ารับ“ค่ะ จ๋าสัญญา”คนฟังมีสีหน้าโล่งใจ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเผยความจริงออกมา“ที่จริงจ๋าไม่ได้ท้อง...” แทนที่หญิงสาวจะตกใจแต่เป็นภู
ข่าวด่วน! ตำรวจบุกทลายบ่อนการพนันและซ่องเถื่อนใจกลางกรุงครั้งใหญ่ พบเหยื่อถูกทารุณทางเพศอย่างน่าอนาถ มากกว่าครึ่งเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ถูกกักขังและบังคับให้ค้าประเวณีอย่างป่าเถื่อน มีบางรายถูกพบเป็นศพหลังโดนทารุณกรรมจนเสียชีวิตคาซ่อง ส่วนเจ้าของบ่อนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมพร้อมลูกสมุนหลังพบกำลังจะหลบหนี!ข่าวใหญ่และรูปที่ลงว่อนในสื่อโซเชียลรวมถึงในโทรทัศน์ทุกช่องตลอดทั้งวันสร้างความสะเทือนขวัญรุจารินปิดปากอย่างตกตะลึง เมื่อมองเห็นภาพเด็กสาวที่ถูกพบเป็นศพในข่าวอย่างจำได้ แม้จะพบกันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เธอก็จำได้ว่าเด็กคนนั้นก็คือน้องสาวต่างมารดาที่บิดาบอกว่าถูกจับตัวไปนั่นเอง เด็กสาววัยใสที่ควรใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุข ต้องมารับกรรมจากการกระทำของบุพการีจนพบจุดจบที่น่าอนาถตัวเธอเองหากไม่ได้ภูเบศช่วยไว้วันนั้นก็อาจจะเป็นหนึ่งในเหยื่อเคราะห์ร้ายไปแล้ว แม้เวลาจะผ่านไปนานพักใหญ่ แต่เธอก็ยังฝันร้ายถึงคืนนั้น ภาพเด็กสาวที่ถูกทารุณจนตายไปต่อหน้าต่อตายังคงหลอนเธออยู่ เพียงคิดถึงใจก็สั่นรัวหญิงสาวมองผ่านรูปในข่าวก่อนจะไปสะดุดตากับรูปของบ่อจระเข้ที่เสี่ยอำพลผู้เป็นเจ้าของเลี้ยง
“คุณรับปากผมได้ไหม ชะ...ช่วยลูกจ๋าด้วย อย่าให้ลูกผมเป็นอะไร”“คุณอย่าเพิ่งพูดดีกว่า เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว”“ไม่! ผมไม่มีเวลาแล้ว แฮ่กๆ” คนเจ็บหอบหายใจ รู้ชะตากรรมตัวเองดี“พี่ยะ!”จู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังมาจากกลุ่มไทยมุง นางดารินที่เพิ่งเดินลงมาจากตึกตะโกนลั่นอย่างตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นอดีตสามีนอนจมกองเลือด แล้วพอหันไปเห็นร่างลูกสาวในอ้อมแขนของภูเบศ นางก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที“ลูกจ๋า! ลูกแม่เป็นอะไรไป”“แม่คะ...”“คุณจ๋าไม่เป็นอะไรครับแม่ เธอปลอดภัยดี แต่ว่า...” ภูเบศปรายตามองไปที่บิดาของรุจาริน “พ่อของคุณจ๋าเอาตัวเองบังกระสุนให้ เขาเลยถูกยิงบาดเจ็บสาหัสครับ”นางดารินฟังแล้วแทบล้มพับทั้งยืน นางทรุดกายลงแล้วประคองศีรษะอดีตสามีมาวางไว้ที่ตักตัวเองด้วยมืออันสั่นเทา“ดา...ริน พะ...พี่ขอโทษ”“พี่ยะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้” นางเอ่ยถาม น้ำตานองหน้าเมื่อเห็นสภาพอดีตสามีที่นอนหายใจรวยริน“พี่ผิดเอง ผิดที่ทำร้ายเธอกับลูกจ๋า พี่สมควรตายแล้ว”“ไม่นะพี่ ฉันไม่ได้อยากให้พี่ตายแบบนี้ แข็งใจไว้นะพี่” คำนั้นจากปากคนที่เคยรักกันทำให้คนเจ็บน้ำตาไหลออกมา นายปิยะมองใบหน้าของอดีตภรรยาที่เขาเคยทำ
‘พ่อคะ จ๋ารักพ่อที่สุดในโลกเลย’“เดี๋ยว!”“อะไรของมึงอีกวะ เดี๋ยวกูไปช้า เสี่ยก็ได้ฆ่ากูพอดี”“เสี่ยจะไม่เอาลูกสาวฉันถึงตายใช่ไหม”“ใครจะไปรู้วะ ทางที่ดีมึงปล่อยมือนังนี่เสียทีก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้าแล้วจะพาพวกกูซวยกันหมด”“ฉันไปด้วย” จู่ๆ อะไรบางอย่างก็ดลใจให้นายปิยะเอ่ยออกมา“มึงจะไปทำไมให้เกะกะ กลับไปรอลูกเมียมึงที่บ้านดีกว่า ถอยไป เสียเวลากูชิบหาย”“ไม่ๆ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันขอคุยกับเสี่ยก่อน”“ไอ้เวรนี่วอนตายเสียแล้ว ปล่อยกู!”นายปิยะรีบยื้อตัวลูกสาวไว้แน่น“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!”“ไอ้เวรนี่ไม่รู้จักที่ตายเสียแล้ว ปล่อยกู”แล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างยื้อยุดร่างของหญิงสาวที่เกือบจะสิ้นไร้สติอย่างไม่มีใครยอมกัน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ทันเห็นรถคันหนึ่งที่ขับปราดเข้ามาจอดภูเบศที่ย้อนกลับมาเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือที่หญิงสาวลืมไว้ในรถมาคืน ต้องหรี่ตามองภาพความชุลมุนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่แล้วเขาต้องใจหายวาบ ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อได้เห็นหญิงสาวที่คุ้นตาอยู่กลางวงนั้น“จ๋า!”ไวเท่าใจคิด ชายหนุ่มรีบเหยียบคันเร่งรถพุ่งเข้าไปที่กลางจุดเกิดเหตุทันที“เฮ้ย!” ได้ผล กลุ่มคนที่กำลังยื้อแย่งหญิงสาวว
“ที่พูดแบบนี้ พี่เบสไม่ได้ทำอะไรผิดมาใช่ไหมคะ” คนมีชนักติดหลังแอบเสียวสันหลังวาบ“พี่ก็แค่พูดรวมๆ น่ะ เผื่อๆ ไว้ก่อนไง”“อันนี้ก็ต้องดูตามความผิดก่อนค่ะ แต่...” รุจารินพลิกฝ่ามือกุมมือใหญ่ไว้ “ถ้าพี่เบสไม่ปล่อยมือจ๋าก่อน จ๋าก็จะไม่ปล่อยมือพี่เหมือนกันค่ะ”สองหนุ่มสาวประสานสายตากันด้วยความเข้าใจหลังจากทานอาหารเสร็จ ภูเบศก็ขับรถมาส่งว่าที่เจ้าสาวถึงที่พัก“ขอบคุณที่มาส่งจ๋านะคะ กลับบ้านดีๆ นะคะพี่เบส”“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป จ๋าลืมอะไรหรือเปล่า”“ลืมอะไรคะ” หญิงสาวงุนงง แต่ก็มาถึงบางอ้อ เมื่ออีกฝ่ายยื่นใบหน้าหล่อๆ เข้ามาใกล้“Good Night Kiss”ใบหน้าใสแดงเรื่อ ก่อนหันไปมองรอบข้างเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงขยับไปใกล้และประทับริมฝีปากที่ข้างแก้มเขาเบาๆ แต่อีกฝ่ายกับทำเสียงในลำคอแบบขัดใจ“ฝันดีนะคะพี่เบส”“จะรีบไปไหน มานี่เลย”“อุ้ย!” เสียงร้องอุทานถูกปิดทับด้วยเรียวปากร้อนระอุที่ทาบทับลงมา จูบที่แสนคุ้นเคยทำให้รุจารินราวกับต้องมนต์สะกดของเขา หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่ออีกฝ่ายเพิ่มดีกรีความเร่าร้อนในรอยจูบที่แสนโหยหานั้น จนเขาพอใจจึงถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง“ชักไม่อยากปล่อยให้จ๋ากลับบ้านแล้วสิ พี่
“ขอบใจมากนะดาด้า พี่ขอให้เธอได้พบคนที่ดีที่รักเธอและเธอก็รักเขาในเร็ววันนี้นะ”“คงอีกนานค่ะ เพราะดาด้าคงเข็ดจากพี่เบสไปอีกพักใหญ่เลย เธอน่ะก็ระวังด้วยล่ะ พี่เบสน่ะเจ้าชู้มาก...” รุจารินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะเห็นรอยยิ้มขันของสลิลดา“ฉันล้อเล่นน่ะ! ที่มานี่นอกจากจะมาแสดงความยินดี ฉันอยากจะขอโทษเธอในเรื่องที่ผ่านมาด้วย ขอโทษนะ”ใจจริงก็อยากจะโกรธกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำลงไป แต่เมื่อมองสบตาของสลิลดาที่วันนี้เปลี่ยนไปมาก ก็ทำให้ความโกรธที่มีก็พลันเลือนหาย“ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว เราลืมๆ มันไปดีกว่านะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างจริงใจ “จ๋าก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกัน”สองสาวส่งยิ้มให้แก่กัน“งั้นดาด้าไม่กวนดีกว่า ขอให้พวกคุณโชคดีนะคะ ลาก่อน”สลิลดาส่งยิ้มให้คนทั้งสอง หัวใจรู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก ต่อไปนี้เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีอะไรติดค้างอีกต่อไปรุจารินหันมามองหน้าชายหนุ่มอย่างแปลกใจ“พี่เบสไปทำอีท่าไหนคะ คุณสลิลดาถึงยอมตัดใจแล้วกลายเป็นแบบนี้”“เปล่านี่ พี่ก็แค่บอกเขาว่าพี่รักจ๋า และจะแต่งงานกับใครไม่ได้นอกจากแม่ของลูกพี่ แค่นี้เอง”วาบ! แก้มสาวร้อนผ่าวกับคำพู