เลยเที่ยงคืนมาเกือบสองชั่วโมง ไรวินทร์นั่งกอดอกมองออกนอกหน้าต่างในห้องทำงาน การประชุมข้ามทวีปเสร็จลงเมื่อชั่วโมงก่อน แต่เขาตั้งใจอยู่รอเพื่อทอดเวลาจนมั่นใจว่าคนตัวบางในห้องนอนได้หลับสนิทแล้ว
ช่วงนี้มีหลายสิ่งกระทบใจณิชา เขาจึงอยากให้เธอมีความเป็นส่วนตัว อยากให้ผ่อนคลายและพักผ่อนเสียบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในสายตาเขา ให้อย่างไรเสียไรวินทร์ไม่อาจปล่อยให้เธออยู่ห่างจากสายตาเพราะห่วงความปลอดภัยของเธอจากใครสักคนที่ยังเฝ้ามองอยู่นั้นหนึ่งละ อีกเหตุผลคือห่วงว่าเมื่อเธอห่างจากเขาแล้วอาจกลายเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่เคยตีจากเข้ามาใกล้ชิดแทน...ซึ่งไรวินทร์ไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอนแม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นเค้าลาง แต่เชื่อว่าเมื่อผู้ชายคนนั้นรู้ถึงสถานะที่เปลี่ยนไปของณิชา สถานะที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ ฝ่ายนั้นคงไม่รีรอที่จะกลับมาหา...ไรวินทร์เชื่อตัวเองว่ามองผู้ชายขี้ขลาดคนนั้นไม่ผิดไปแน่คนร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าถึงเวลาพักผ่อนของตัวเองด้วยเช่นกัน เขาจัดการปิดอุปกรณ์ทำงานจนเรียบร้อยแล้วถึงเดินเข้าไปในห้องนอนที่แยกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน เมื่อมาหยุดอยู่เลยเที่ยงคืนมาเกือบสองชั่วโมง ไรวินทร์นั่งกอดอกมองออกนอกหน้าต่างในห้องทำงาน การประชุมข้ามทวีปเสร็จลงเมื่อชั่วโมงก่อน แต่เขาตั้งใจอยู่รอเพื่อทอดเวลาจนมั่นใจว่าคนตัวบางในห้องนอนได้หลับสนิทแล้วช่วงนี้มีหลายสิ่งกระทบใจณิชา เขาจึงอยากให้เธอมีความเป็นส่วนตัว อยากให้ผ่อนคลายและพักผ่อนเสียบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในสายตาเขา ให้อย่างไรเสียไรวินทร์ไม่อาจปล่อยให้เธออยู่ห่างจากสายตาเพราะห่วงความปลอดภัยของเธอจากใครสักคนที่ยังเฝ้ามองอยู่นั้นหนึ่งละ อีกเหตุผลคือห่วงว่าเมื่อเธอห่างจากเขาแล้วอาจกลายเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่เคยตีจากเข้ามาใกล้ชิดแทน...ซึ่งไรวินทร์ไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอนแม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นเค้าลาง แต่เชื่อว่าเมื่อผู้ชายคนนั้นรู้ถึงสถานะที่เปลี่ยนไปของณิชา สถานะที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ ฝ่ายนั้นคงไม่รีรอที่จะกลับมาหา...ไรวินทร์เชื่อตัวเองว่ามองผู้ชายขี้ขลาดคนนั้นไม่ผิดไปแน่คนร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าถึงเวลาพักผ่อนของตัวเองด้วยเช่นกัน เขาจัดการปิดอุปกรณ์ทำงานจนเรียบร้อยแล้วถึงเดินเข้าไปในห้องนอนที่แยกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน เมื่อมาหยุดอยู่
“ฉันพอกหน้าค่ะ นี่มีเหตุผลพอจะให้ฉันกลับไปนอนห้องตัวเองได้หรือเปล่าคะ ฉันกลัวจะทำห้องคุณเลอะเทอะเสียเปล่า ฉันเกรงใจค่ะ”ถ้อยคำบอกจากคนที่ทั้งดวงหน้าไรวินทร์มองเห็นแต่ดวงตาก็รู้ว่าหล่อนเสแสร้งขนาดไหน แต่คิดว่าใช้วิธีนี้จะรอดมือเขาหรืออย่างไร ถ้านายไรวินทร์จะอ่อนหัดขนาดนั้น ชาตินี้ไม่ต้องมีเมียกันแล้วละ“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ” เจ้าของกายใหญ่ถดร่างลงนอนเช่นเดิมบอก สีหน้าสีตาไม่บ่งบอกว่ากำลังคิดอะไร เพราะมันเรียบเฉย คล้ายเห็นเป็นเรื่องแสนธรรมดา...จนคนคาดหวังว่าตัวเองจะปลอดภัยทั้งคืนด้วยแผนการนี้กลับต้องลังเล เป็นฝ่ายใจแป้วเสียอย่างนั้น“ฉันว่า...ห้องเสื้อผ้าคุณก็ใหญ่โตดี มีที่ว่างเหลือเยอะเลย ฉันจะนอนในนั้น”“อย่าตลกน่าณิชา เตียงนอนอยู่นี่” ไรวินทร์สวนกลับ ไม่คิดจะให้หล่อนทำอะไรเพี้ยนๆ ขนาดนั้น ก่อนตัดสินใจชันกายขึ้นนั่งอย่างหมดอารมณ์ ชำเลืองมองหล่อนแล้วบอกจริงจัง “คืนนี้ผมจะอยู่ในห้องทำงาน ส่วนคุณนอนบนเตียงได้ตามสบาย” “นอนคนเดียวใช่ไหม...ฉันจะเชื่อคุณได้แค่ไหน”“คุณมีทางเลือกด้วยหรือ”โดนย้อนเข้าอย่างนี้ คนที่กำลังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองอยู่แล้วถึงกับทำปากขมุบขมิบ ไม่มีเสียงลอดออก
เสียงน้ำกระทบพื้นจากด้านในเงียบไปหลายนาทีแล้ว รวมเวลาที่ณิชาขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำก็เกินครึ่งชั่วโมง...สมควรแก่เวลาที่เจ้าหล่อนจะออกมาได้แล้วละไรวินทร์ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องน้ำแล้วส่งเสียงเรียกค่อนข้างดัง อย่างที่มั่นใจว่าหล่อนจะได้ยิน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรอยู่ในนั้นก็ตาม“อาบน้ำเสร็จแล้วใช่ไหมณิชา ออกมาได้แล้ว”เงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับเรียวปากหยักจากคนตัวใหญ่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเนื้อดีสีน้ำตาลกระตุกยิ้ม ดวงตาคมทอความเอ็นดูแกมรู้ทัน แล้วส่งเสียงเรียกเป็นครั้งที่สอง“ผมรู้ว่าคุณอาบน้ำเสร็จแล้ว ถ้าคิดจะหนีโดยการมุดหัวอยู่ในห้องน้ำทั้งคืน ขอบอกว่าคิดผิด” ไรวินทร์เปลี่ยนท่าทีเป็นยืนกอดอกอิงกายกับกรอบประตู แล้วยื่นคำขาดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย...แต่มั่นใจว่าณิชารู้จักเขาดีว่าจริงจังแค่ไหน“สามสิบวินาที ถ้ายังไม่เห็นคุณ...ผมจะเปิดประตูแล้วลากคุณออกมา”“ฉันไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน” เสียงโต้จากข้างในดังตามมาทันควัน เรียกรอยยิ้มกริ่มให้เกลื่อนบนใบหน้าคมสันที่ยังรกเรื้อด้วยหนวดเคราที่งอกยาวตลอดวันโดยยังไม่ได้กำจัด“อย่าเรื่องมากน่า เสื้อคลุมอาบน้ำกับผ้าเช็ดตัวคุณก็มีแล้ว ยังไม่พออีกหรือ”“ไม่พอ!
ณิชาขังตัวเองอยู่ในห้องส่วนตัวชั้นบน หลังจากกลับมาถึงบ้าน ไรวินทร์จัดการอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวจนรู้สึกผ่อนคลายแล้วจึงเปิดประตูห้องนอน มองไปทางห้องของหญิงสาวดวงตาคมหรี่มองบานประตูที่อยู่ห่างคนละฝั่ง เขารู้ว่าณิชากำลังสับสนและคงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัว แต่การจะให้หล่อนขังตัวเองอยู่อย่างนั้นทั้งที่มีเรื่องเกิดขึ้นตั้งมากมาย ทั้งเหตุการณ์ระหว่างกันตั้งแต่เมื่อคืน รวมถึงเรื่องงานที่ร้านคุณแหวว เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน...ตลอดทางที่พาเธอกลับมาบ้าน หญิงสาวมีสีหน้าซีดเผือด นั่งนิ่งเงียบอยู่ในรถ ไม่ดึงดันจะไปที่อื่นอย่างที่เขานึกไว้แต่แรก แต่การที่เธอไม่ยอมพูดจาทั้งที่รู้ว่ามีหลายสิ่งอัดแน่นอยู่ข้างในก็ทำให้เขานิ่งต่อไม่ไหวท่อนขากำยำนำพาเจ้าของร่างสูงใหญ่ทอดเนิบไปยังบานประตูห้องที่เป็นเป้าหมายสายตา จนเมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยกมือขึ้นเคาะเรียก เขาแค่ให้สัญญาณ แต่ไม่หวังให้คนข้างในเปิดประตูออกมาต้อนรับแน่นอน ดังนั้นจึงรอให้ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็ยกมือขึ้นสัมผัสแผงควบคุมข้างประตู พอเห็นว่าล็อกประตูถูกปลดออก จึงใช้มืออีกข้างดันให้บานประตูเปิดกว้างแล้วเร้นกายเข้าไปในนั้นณิชานั่งชันเข่าอยู่กลางเตียง ซบหน้า
ใกล้ค่ำ รถสปอร์ตคันสีดำแล่นตรงสู่เขตเมือง คนนั่งข้างคอยแต่ชำเลืองมองคนขับเป็นระยะๆ จากตอนแรกที่กล้าๆ กลัวๆ แต่พอเห็นเขายังตั้งใจขับรถ ท่าทางไม่วอกแวก จึงกล้ามองมากขึ้น...มองเท่าที่ใจอยากจะทำดวงตาคมมีแว่นตากันแดดสีดำนั้นปิดอยู่ ณิชาจึงไม่เห็นว่ากำลังทอประกายพริบพราวขนาดไหน พร้อมกับความคิดอย่างเคลิ้มอกเคลิ้มใจอยู่คนเดียว...อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้โกรธและเกลียดเขาก็แล้วกันน่ารถคันหรูสมรรถนะดีแล่นเร็วขึ้นและเลี้ยวไปอีกทาง ไม่ใช่เส้นทางที่หญิงสาวคิดไว้ จนต้องถามอย่างไม่อยากคาใจ“ไม่กลับบ้านหรือคะ...บ้านของคุณ” “ซื้อของก่อน” คำตอบของไรวินทร์ ทำให้ณิชาหันมองเขาทั้งตัวเหมือนจะหาความจริงจากเขา“คุณจะซื้อของที่ไหนคะ”“ซูเปอร์มาร์เกต ในห้างฯ”“ถ้าคุณจะไปซูเปอร์มาร์เกต ฉันว่าไปตรงถนนคนเมืองดีกว่าค่ะ ที่นั่นคนไม่เยอะด้วย” หล่อนเสนอเสียงแผ่ว ในใจก็แอบลุ้นให้เขาเห็นตาม ทว่าสิ่งที่ได้ยินกลับมาทำให้เผลอพ่นลมหายใจด้วยความสิ้นหวัง“ผมชอบในห้างมากกว่า มีครบกว่า แถมใกล้บ้านของเราด้วย”‘บ้านของเรา’ เจ้าตัวย้ำอย่างมีนัย แต่คนฟังพยายามปัดมันออก ไม่อยากให้ตัวเองสับสนมากไปกว่าที่กำลังเป็น“คุณจะซื้ออะไร แล้วเ
ตะวันเคลื่อนคล้อยคลอเส้นขอบฟ้า แสงแดดเริ่มจางลง สายลมหนาวที่พัดแรงก็อ่อนตัว ครอบครัวเล็กที่หอบหิ้วกันมานั่งอยู่กลางสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ใหญ่ตามความต้องการของคนสำคัญของพวกเขายังคงอิริยาบถผ่อนคลาย กระทั่งมีเสียงโทรศัพท์มือถือเรียกเข้ามา คนที่นอนหนุนตักภรรยาโดยมีลูกชายตัวกลมขดซบอยู่บนอกต้องชันกายขึ้นนั่ง มือหนึ่งโอบร่างเล็กป้อมไว้ ส่วนอีกข้างหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย“หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของเชียงราชลงข่าวน่าสนใจครับนาย”เสียงคนสนิทบอกสั้นๆ ไม่กี่วินาทีเครื่องมือสื่อสารทรงประสิทธิภาพของรัชตะก็ปรากฏทั้งภาพและเนื้อข่าวที่ว่า ปิ่นลดารับลูกชายมากอดไว้ เพราะคิดว่าสามีมีธุระให้พูดคุย แต่พอเขาหันมาหาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้เธอรับไปอ่านดู สีหน้าของหญิงสาวถึงกับงุนงง ให้อย่างไรเธอก็ไม่เข้าใจทั้งเนื้อข่าวและภาพของสองคนที่นั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของรีสอร์ตชื่อดังนอกเมืองเชียงราช ภาพที่ไรวินทร์กำลังเอนกายบนเก้าอี้สานอย่างผ่อนคลายพร้อมจิบเบียร์แก้วใหญ่ ข้างๆ มีสาวร่างบางนั่งด้วยท่าทีสำรวมอย่างคุ้นตา เมื่อซูมใบหน้าจนมั่นใจว่าเป็นใคร ปิ่นลดาถึงหันขวับมองสามีด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยคำถาม“ทำไมถึงเป็นแบบนี้”“คุณ