กล้วยไม้ล้อมตะวัน

กล้วยไม้ล้อมตะวัน

last updateLast Updated : 2025-05-06
By:  นลพรรณUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
24Chapters
7views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อคนแปลกหน้า นัยว่าเป็นเศรษฐีใหม่เข้ามาในเชียงราช เขากว้านซื้อบ้าน ที่ดินและทรัพย์สินที่ตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูลของ ณิชา ไป ทายาทที่เหลือเพียงคนเดียว แถมยังสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างเธอจะทำอย่างไรได้ นอกจากทำใจยอมรับ คิดจะหลีกทางให้อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวที่สุด แต่นั่นไม่นับรวมถึงการถูกทำร้ายจิตใจ ดูหมิ่นเกียรติไม่เว้นวัน มันทำให้ณิชาสุดจะทน...จากที่คิดจะถอยอย่างสงบ จึงฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง คอยดูนะ เผลอเมื่อไหร่ ณิชาคนนี้จะตลบหลัง เอาทุกอย่างคืนมาให้หมด! ส่วน ไรวินทร์ คนอย่างเขาคงไม่เหมาะกับการปิดทองหลังพระจริงๆ สำหรับแม่คุณหนูตกอับอย่างณิชาคงเข้ากับสำนวนไทยที่ว่าทำคุณบูชาโทษแท้เชียว เมื่อเสียเงินไปก็มาก แต่เจ้าตัวยังทำตัวร้ายกาจไม่เลิก เขาก็หมดความอดทนได้เหมือนกัน แม่จอมวายร้าย งั้นมาลองดูกันสักตั้งไหม ว่างานนี้ใครจะอยู่หรือใครจะไป!

View More

Chapter 1

บทที่ 1

เสียงรถดังฝ่าความเงียบสงัดของราตรีกาล กระทั่งมาเบรกเอี๊ยดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ ทำให้คนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงพร้อมกับถือหนังสือในมือต้องวางมันลงข้างตัว หล่อนนิ่งฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก จนมั่นใจว่าคนมาใหม่ได้เข้ามาในบ้านแน่นอนแล้ว จึงหย่อนเท้าลงกับพื้นเย็นเฉียบ แล้วตรงไปกดปิดสวิตช์ไฟข้างประตู

ความมืดปกคลุมทั่วห้องขนาดกว้างขวางหากจะคิดว่ามีเพียงหล่อนที่อาศัยอยู่คนเดียว ณิชาใช้แสงสว่างจากด้านนอกที่ยังลอดผ่านขอบล่างของบานประตูเข้ามา นำทางกลับไปยังเตียงนอนที่เข้ามายึดไว้เป็นเวลากว่าปีแล้ว

ดวงตาหวานเพ่งมองหนังสือนิยายโรมานซ์เล่มหนา หน้าปกสวยงามดูคลาสสิกที่ยังเห็นในความสลัว หยิบมันมาถือไว้แล้วถอนใจยาว บ่นพึมพำตามลำพัง

“คืนนี้ไม่ได้ทำงานอีกแล้ว ใกล้จะถึงเดดไลน์ แต่ยังแปลงานส่ง บก.ครึ่งแรกไม่ได้เลย ตายแน่ๆ ยายนิดเอ๊ย! ถ้าจับงานสำนักพิมพ์นี้ไว้ไม่ได้ อนาคตเธอมืดมนแน่”

เจ้าของเสียงบ่นหย่อนกายนั่งแกว่งเท้าอยู่ขอบเตียง แล้วนิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงห้าวเคล้ากับเสียงของหญิงสาวที่เธอไม่คุ้นเคย

จะให้คุ้นได้อย่างไร ในเมื่อผู้หญิงที่เข้ามาในบ้านแต่ละคืนไม่เคยซ้ำหน้ากันเลย และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งยามที่แพทริเซีย แพทย์หญิงคนเก่งที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงเธอไม่อยู่

ณิชากัดริมฝีปากแน่น นึกชิงชังเจ้าของเสียงห้าวนั้นเหลือเกิน ครั้งแรกหล่อนเจ็บปวดหัวใจเหลือจะกล่าวเมื่อรู้ว่าบ้านที่เป็นสมบัติตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูลของมารดาต้องตกอยู่ในมือของคนอื่น แต่ก็ยอมรับความจริง หญิงสาวพอจะทำใจได้ ถึงแม้ต้องกล้ำกลืนฝืนทนก็ไม่ดึงดันละว่าบ้านที่อาศัยมาตั้งแต่จำความได้ ตอนนี้กลายเป็นสิทธิ์เด็ดขาดของคนข้างนอกนั่นไปแล้ว 

แต่ยังมีสิ่งที่ทำให้เธอปวดร้าวอยู่ทุกคืนวัน ไม่อาจทำใจยอมรับได้สักครั้ง เมื่อเห็นตำตาว่าคนที่เข้ามาครอบครองใหม่ไม่เคยจะให้เกียรติบ้านหลังนี้เลย

เขาทำเหมือนบ้านที่เคยเป็นของครอบครัวเธอไม่มีความหมาย บ้านที่พ่อกับแม่รักนักหนาคงกลายเป็นแค่สมบัติชิ้นหนึ่งในจำนวนไม่รู้ตั้งเท่าไรของเขา จึงได้ทำตามใจปรารถนา โดยไม่ใส่ใจอะไรเลย

ณิชาเอนกายลงกลางเตียง หลังจากลังเลอยู่เป็นครู่ว่าจะเปิดไฟหัวเตียงแล้วนั่งทำงานเงียบๆ มีความมืดห้อมล้อมเป็นเกราะกำบังดีไหม แต่สุดท้ายเมื่อหูยังแว่วเสียงหัวเราะคิกด้านนอกอยู่ จึงรู้ว่าให้ตายอย่างไร สมาธิทำงานคงไม่เกิดแน่ในคืนนี้

หญิงสาวหลับตา พร่ำถามกับตัวเองเหมือนเช่นทุกคืนวัน

เมื่อไหร่เหตุการณ์ซ้ำๆ แบบนี้จะจบลงสักทีนะ เมื่อไหร่สวรรค์จะหาทางออกให้เธอเจอ หรือเมื่อไหร่เขาคนนั้นจะจากที่นี่ไปเอง…

สายมากแล้ว หน้าต่างในห้องนอนชั้นล่างที่หันไปทางด้านหลังของบ้านหลังโอ่โถงถึงถูกผลักเปิดรับแสงสว่างให้สาดส่องเข้ามา ณิชาหรี่ตาลงเมื่อม่านตายังไม่สามารถปรับรับแสงจ้าได้ทันที

มือเรียวขาวยกขึ้นปกป้องดวงตา หลายสิบวินาทีถึงค่อยๆ ลดลงพร้อมกับปรือเปิดเปลือกตาขึ้นมาใหม่ จนเมื่อสายตาปรับโฟกัสรับภาพเบื้องหน้าได้ ดวงตาหวานก็เบิกโต

ผู้ชายร่างสูงในเสื้อทีเชิ้ตสีเทากับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มอยู่ในซุ้มกล้วยไม้ที่กำลังออกดอกสะพรั่งนั้นทำให้เธอไม่อาจละสายตา มองข้ามไปได้

มันไม่ใช่ภาพชวนมอง ให้ตายอย่างไรณิชาก็ไม่ปรารถนาให้ผู้ชายคนนั้นมาปรากฏอยู่ในคลองจักษุของตัวเองแน่ หากเมื่อเขาเข้าไปอยู่ในสถานที่สุดรักสุดหวง และด้วยท่าทางไม่น่าไว้วางใจก็ทำให้คนในห้องส่วนตัวต้องจับตามองอย่างระแวง

ครั้นมือหนาเอื้อมแตะกลีบดอกคัทลียาที่ห้อยย้อยเป็นพวงจากกระถางเหนือศีรษะ คนเฝ้ามองตาไม่กะพริบต้องกลั้นลมหายใจ และแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา หัวใจของเธอก็โลดแรงขึ้น

ดอกกล้วยไม้สีขาวบอบบางถูกปลิดหลุดจากขั้วมาอยู่ในมือของเขา ณิชาอยากกรีดร้องให้สุดเสียง ถ้ามันทำให้หัวใจที่อัดแน่นด้วยความเกลียดชังบรรเทาลงได้ แล้วดอกไม้ช่อสวยก็ร่วงลงสู่พื้น เขาก้าวข้ามอย่างไม่ไยดี จนคนเฝ้ามองสุดจะทนอีกต่อไป

“คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปในซุ้มกล้วยไม้” 

เจ้าของเสียงหวานใส ที่ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าโผล่พรวดมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกระชากเสียงถาม อย่างที่ไม่ต้องเดาอารมณ์ละว่ากำลังเป็นแบบใด 

คนร่างสูงใหญ่ที่เมื่อเข้าไปยืนใกล้ ก็ยิ่งรับรู้ว่ายิ่งสูงกว่าที่เธอคิดนักค่อยเบือนหน้ามา ชั่ววินาทีณิชาถึงกับกลั้นลมหายใจเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมที่ล้อมกรอบด้วยขนตาหนาที่จ้องมาทางเธอ

“เธอว่าอะไรนะ ใครไม่มีสิทธิ์” 

เสียงห้าวทุ้มเปล่งเบาๆ หากกระแสเสียงช่างเขย่าขวัญคนในชุดเสื้อกล้ามกระชับลำตัวกับกางเกงเนื้อผ้านุ่มที่เกาะเกี่ยวเอวกลมกลึงลู่ผ่านสะโพกผายตึงนั้นนัก...และเจ้าของดวงตาคมก็ไม่พลาดที่จะมอง

ผิวกายของณิชาร้อนวูบเมื่อถูกสายตาจ้วงจาบโลมไล้ทั่ว แต่เมื่อพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้แล้ว สิ่งที่ทำได้คือเร่งเรียกความกล้าออกมา ก่อนจะทำเรื่องน่าอายโดยการหันหลังกลับเสียดื้อๆ 

“ฉันเคยขอหมอแพทว่าซุ้มกล้วยไม้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของฉัน ห้ามพวกคุณยุ่งเกี่ยว หมอแพทก็รับปาก...ดังนั้นคุณไม่ควรเหยียบย่างเข้ามาด้วย”

“ทำไมฉันถึงเข้ามาในนี้ไม่ได้ ในเมื่อทุกตารางนิ้วในบ้านเป็นสิทธิ์ของฉัน และการที่เธอบอกว่าขอแพทเอาไว้ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน ฉันเป็นฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับใคร” 

คนตัวโตที่มีรูปลักษณ์เป็นฝรั่งเสียครึ่งค่อนย้ำเสียงเข้มอย่างช้าๆ ชัดๆ มันชัดเสียจนคนฟังนึกโมโหอย่างไร้เหตุผล

“แต่...พวกคุณ” 

หญิงสาวเค้นเสียงได้แค่นั้นก็หยุดลง สมองเชื่องช้าอย่างน่าขัดใจ คงเพราะเรือนกายหนาใหญ่ที่เห็นหลอกตาว่าสูงเพรียวนั้นช่างข่มขวัญ อีกทั้งดวงตาคมกริบที่จ้องมองเธอก็ทอประกายประหลาด

ชายหนุ่มก้าวขยับไปหาก้าวหนึ่ง ณิชาก็ถอยกรูดโดยอัตโนมัติ ยกสองมือขึ้นกอดอกเป็นเชิงปกป้องตัวเอง...ทั้งที่เมื่อครู่ยังรู้สึกเหมือนผิวกายถูกไฟสุมหมาดๆ แต่ตอนนี้เธอกลับหนาวคล้ายจะจับไข้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย 

“พวกคุณ? เธอหมายถึงใคร” 

ไรวินทร์ยกมือเท้าเอวสอบ ท่อนขากางออกน้อยๆ ท่าทางราวกับราชสีห์ที่พร้อมตะครุบแม่กวางน้อยที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาในกรงเล็บ

“ซุ้มกล้วยไม้เป็นของรักของคุณพ่อ ฉันไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย และฉันก็ดูแลกล้วยไม้ทุกกอทุกกระถางอย่างดี แต่คุณมาเด็ดมันทิ้ง คุณทำลายมันทำไม”

“แค่นี้นะเหรอที่ทำให้เธอเป็นเดือดเป็นร้อน” เขาอุทานเสียงสูง เรียวคิ้วหนาเลิกขึ้น แลคล้ายประหลาดใจ แต่ณิชารู้หรอกว่าเสแสร้งชัดๆ จนเมื่อคำท้ายหลุดออกมา ดวงหน้าเธอถึงกับร้อนผ่าว 

“ไร้สาระจริงๆ”

แล้วเรือนร่างบอบบางทว่ากลมกลึงได้สัดส่วนที่ยืนนิ่งอยู่นั้นถึงกับผงะเซแทบล้ม เมื่อกายหนาเคลื่อนเฉียดกระแทกออกไป ไม่ต้องให้ใครบอกณิชาก็รู้ว่าเขาตั้งใจทำหยาบคายกับเธอ

หล่อนหันมองตามคนที่ย่างเท้าออกไปอย่างมั่นใจ มือบางกำแน่น เนื้อตัวสั่นเทาเมื่อไม่อาจทำอะไรเขาได้

“คนจิตใจหยาบกระด้าง จอมทำลาย น้ำหน้าอย่างคุณไม่เหมาะที่จะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ คุณมันคนหยาบ ไม่คู่ควรจะเข้ามาอาศัยด้วยซ้ำ”

ได้ผลชะงัดนัก เมื่อได้ปล่อยคำที่อัดอยู่ในอกออกไป คนร่างใหญ่ถึงกับชะงักเท้า ณิชาเกร็งตัวรับสถานการณ์ ถ้าเลือกได้หล่อนก็ไม่โง่ที่จะต่อกรกับคนคนนี้ซึ่งหน้า แต่ถ้าให้ทนอยู่นิ่งเฉย ทั้งที่เห็นอยู่ตำตาว่าข้าวของของพ่อแม่ที่เหลือไว้ให้ดูต่างหน้า ให้เธอเป็นกำลังใจนั้นถูกเขาย่ำยีอยู่ทุกวี่วัน โดยไม่คิดทำอะไรเลย เธอคงเป็นลูกอกตัญญูเกินไป

แต่สิ่งที่ณิชานึกหวั่นก็ไม่ได้เกิดขึ้น ผู้ชายคนนั้นแค่หยุดนิ่ง เขาหยุดหลายวินาที นานพอจะให้เธอต้องกลั้นลมหายใจรอจนปวดแสบในอก ก่อนเดินต่อเข้าบ้านเสียอย่างนั้น ทิ้งให้หญิงสาวยืนมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยหัวใจเต้นระรัวอยู่ลำพัง 

จนก้อนเนื้อเท่ากำปั้นที่ฝังตัวอยู่ในอกซ้ายสงบลง ณิชาจึงผ่อนลมหายใจยาวเหยียด

“ช่างเขา เราพูดความจริงนี่ จะโกรธก็ช่าง”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
24 Chapters
บทที่ 1
เสียงรถดังฝ่าความเงียบสงัดของราตรีกาล กระทั่งมาเบรกเอี๊ยดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ ทำให้คนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงพร้อมกับถือหนังสือในมือต้องวางมันลงข้างตัว หล่อนนิ่งฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก จนมั่นใจว่าคนมาใหม่ได้เข้ามาในบ้านแน่นอนแล้ว จึงหย่อนเท้าลงกับพื้นเย็นเฉียบ แล้วตรงไปกดปิดสวิตช์ไฟข้างประตูความมืดปกคลุมทั่วห้องขนาดกว้างขวางหากจะคิดว่ามีเพียงหล่อนที่อาศัยอยู่คนเดียว ณิชาใช้แสงสว่างจากด้านนอกที่ยังลอดผ่านขอบล่างของบานประตูเข้ามา นำทางกลับไปยังเตียงนอนที่เข้ามายึดไว้เป็นเวลากว่าปีแล้วดวงตาหวานเพ่งมองหนังสือนิยายโรมานซ์เล่มหนา หน้าปกสวยงามดูคลาสสิกที่ยังเห็นในความสลัว หยิบมันมาถือไว้แล้วถอนใจยาว บ่นพึมพำตามลำพัง“คืนนี้ไม่ได้ทำงานอีกแล้ว ใกล้จะถึงเดดไลน์ แต่ยังแปลงานส่ง บก.ครึ่งแรกไม่ได้เลย ตายแน่ๆ ยายนิดเอ๊ย! ถ้าจับงานสำนักพิมพ์นี้ไว้ไม่ได้ อนาคตเธอมืดมนแน่”เจ้าของเสียงบ่นหย่อนกายนั่งแกว่งเท้าอยู่ขอบเตียง แล้วนิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงห้าวเคล้ากับเสียงของหญิงสาวที่เธอไม่คุ้นเคยจะให้คุ้นได้อย่างไร ในเมื่อผู้หญิงที่เข้ามาในบ้านแต่ละคืนไม่เคยซ้ำหน้ากันเลย และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งยามที่แ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 2
ณิชากลับเข้าห้องนอน หรือจะเรียกให้ถูกคงเป็นห้องส่วนตัวที่เธอใช้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะหมกตัวทำงาน เธอสามารถขังตัวเองให้อยู่ในนี้ได้เป็นวันๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ออกไปพบใคร เว้นแต่คนรับใช้เก่าแก่ที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่สมัยพ่อแม่ยังอยู่ในแต่ละวันถ้าจะออกไปก็เพื่อรดน้ำดูแลซุ้มกล้วยไม้ ซึ่งเป็นงานที่เธอไม่ยอมปล่อยให้อยู่ในมือของใครอื่น นับจากพ่อได้จากไป ณิชาก็เฝ้ามอง ดูแลมันด้วยตัวเองตลอดมา เพราะเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงหัวใจของเธอให้คงอยู่แม้กระทั่งห้องรับประทานอาหารที่จัดไว้อย่างหรูหราสมเกียรติที่ครอบครัวเคยใช้ประจำ ณิชาก็ไม่เฉียดใกล้มานานแล้ว เพราะมันได้กลายเป็นห้องหนึ่งที่เจ้าของคนใหม่กับแขกไม่ซ้ำหน้าของเขาใช้ประจำแทบทุกวัน ใช้จนเกินคุ้มทีเดียวโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับณิชาจึงเปลี่ยนเป็นโต๊ะม้าหินอ่อนในห้องครัวเก่า...สถานที่ที่มีคนรับใช้เก่าแก่ห้อมล้อมเธออยู่ ที่แห่งเดียวที่ไม่ทำให้เธอรู้สึกว่าเหลือตัวคนเดียวโดดเดี่ยวหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายอย่างไม่อ้อยอิ่ง ตลอดเวลาที่ทำธุระส่วนตัว หัวใจยังไม่อาจกลับเข้าสู่ปกติ เหตุปะทะคารมกับผู้ชายคนนั้นยังตรึงอยู่ในหัว ไม
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 3
ดวงตาหวานของเจ้าของความคิดเหลือบขึ้นมองชั้นบนของบ้าน มั่นใจว่าเขาคงอยู่ในอาณาจักรส่วนตัว ชั้นบนของบ้านกึ่งตึกที่สมัยพ่อกับแม่ยังอยู่จะแบ่งพื้นที่เป็นปีกซ้ายและขวา ทั้งอาณาเขตของปีกซ้ายจะเป็นของหล่อน ส่วนพ่อกับแม่จะยึดครองอีกฝั่ง ณิชายังจำบรรยากาศกรุ่นกลิ่นไอความรัก บางคืนเธอหอบหมอนกับผ้าห่มไปเคาะประตูห้องนอนของพ่อแม่ ความอบอุ่นและปลอดภัยที่มีท่านสองคนคอยปกป้องคุ้มครอง ทำให้ณิชาไม่เคยหวั่นถึงอนาคตว่าหากมันเปลี่ยนไปแล้วเธอจะเดินต่ออย่างไรจนเมื่อแม่เสียชีวิตลงโดยโรคมะเร็งเต้านมตอนเธออายุสิบสามปี เด็กหญิงที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเธอถึงกับเสียหลัก ณิชายึดพ่อเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว กระนั้นพ่อที่เธอเห็นว่าเป็นคนเก่งและมั่นคงพร้อมจะเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับทุกคนนั้นกลับเปลี่ยนไป พ่อกลายเป็นคนไม่สนใจอะไรอีกเลย พ่อเมาเหล้ากลับมาบ้านทุกวัน ไม่ไยดีกับเธอเหมือนก่อน วันทั้งวันพร่ำหาแต่แม่ที่จากไปอย่างไม่หวนคืนแต่ไม่นาน...แม่ของเธอขึ้นสวรรค์ไม่ทันครบขวบปี พ่อกลับมีผู้หญิงคนใหม่ นัยว่ารู้จักเพราะติดต่องาน สุดท้ายผานิตม่ายสาวที่มีลูกติดหนึ่งคนก็เข้ามาแทนที่แม่ของเธอโดยสมบูรณ์ เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 4
ณิชาจอดพาหนะคู่ใจตรงด้านข้างของห้างสรรพสินค้าที่กันไว้สำหรับจักรยานและมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ก่อนจะเดินตรงไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรูที่หมายตา แต่พอถึงประตูร้าน สิ่งที่พบเจอเมื่อสิบนาทีก่อนก็ทำให้ลังเลหญิงสาวหมุนตัวกลับเพื่อจะตั้งหลักและชั่งใจถามตัวเองหากหลายนาทีผ่านไป หัวใจที่ว้าวุ่น ตัดสินใจไม่ขาดทำให้เธอไม่อาจบอกตัวเองได้ว่าจะถอยกลับหรือเดินหน้าต่อดีมือเรียวล้วงกระเป๋าสะพาย หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทร.หาเพื่อนสนิท โดยไม่ต้องรอนาน อีกฝ่ายก็รับสาย แต่ณิชากลับลังเลที่จะพูดธุระเสียอย่างนั้น จึงได้แต่อ้ำอึ้งถาม“บัว ทำอะไรอยู่” “ทำงานสิยะ มีอะไรว่ามา อย่าชักช้า ตอนนี้ลูกค้าเต็มร้าน” ถ้อยคำรัวเร็วบอกชัดว่าคนปลายสายกำลังยุ่งสักแค่ไหน ณิชาตัดสินใจในวินาทีนั้นว่าจะข้ามผ่านสิ่งที่อยู่ข้างหน้าด้วยตัวเอง“โทร.มาคุย ไม่มีอะไร ทำงานไปเถอะ ไว้จะโทร.หาใหม่”“ได้ๆ แล้วฉันจะโทร.หาเธอเอง ตอนนี้ขอดูแลลูกค้าก่อน นานๆ กลุ่มทัวร์ถึงจะเข้า ไม่ปล่อยให้ฉันนั่งตบยุงเฝ้าร้านคนเดียว”“จ้ะ”วางสายจากกันแล้ว ณิชาสูดลมหายใจลึก เดินไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรู ทุกย่างก้าวที่เดินดุ่มก็นึกประดิษฐ์ถ้อยคำไปพร้อมกัน...แ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 5
“อือ...” บัวบูชาเออออตาม หากเห็นสีหน้าและแววตาที่อ่านไม่ออกของเพื่อน แม้จะคาใจในความคิด แต่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากพูดถึงนัก จึงรีบกลับมาคุยเรื่องเดิม “เป็นพนักงานในร้านขายเสื้อผ้านั่นก็ดี เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก เธอพูดภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลางได้คล่องยังกับเจ้าของภาษา เจ้าของร้านคงชอบ เธอก็จะได้ฝึกฝนด้วย”“คงอย่างนั้น เมื่อกี้คุณแหววก็บอกว่าพอใจที่ฉันพูดสองภาษานี้ได้ ที่ร้านกำลังต้องการอยู่พอดี คงเพราะเหตุนี้ฉันถึงได้งานทำ”“คุณแหววงั้นหรือ”“ใช่ คุณแหววเป็นเจ้าของร้าน เธอสวยมากเลยนะ ฉันชอบเธอจัง” ดวงตาของณิชาเป็นประกาย เมื่อนึกถึงหญิงสาวสวย ท่าทางมั่นใจและประเปรียวคนนั้น “อ๋อ ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านเป็นคนจากกรุงเทพฯ แต่ไปเรียนเมืองนอกหลายปี คงเก๋ไก๋ ทันสมัยน่าดูนะ แถมเป็นภรรยาของคุณรัชภาคย์ เจ้าของเหมืองทองคำด้วย คงรวยมากทีเดียว”“ใครนะ เธอว่าคุณแหววเป็นภรรยาของใคร”“อ้าว ก็คุณรัชภาคย์หรือคุณเล็ก แฝดคนน้องของคุณใหญ่ คนดังแห่งเมืองเชียงราชไง อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก” “จริงเหรอ” ณิชาครางถาม หล่อนทรุดนั่งบนเก้าอี้คล้ายหมดแรง ดวงตาทอความสับสน ก่อนจะถูกความหม่นหมองฉาบทับ...อย่างที่คนคอยสังเกตอ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 6
ณิชาทอดฝีเท้าเข้ามาในบ้าน พร้อมกอดหนังสือนิยายโรมานซ์ฉบับภาษาไทย ซึ่งเป็นผลงานการแปลเล่มแรกของเธอที่สำนักพิมพ์ตีพิมพ์และวางแผงเมื่อเกือบสองเดือนก่อน เงินตอบแทนนับว่าก้อนใหญ่พอสมควรสำหรับเธอถูกโอนเข้ามานอนนิ่งอยู่ในบัญชีตั้งแต่ต้นเดือน มันทำให้ณิชาอุ่นใจว่านับจากนี้ถ้าชีวิตจะต้องเปลี่ยนแปลงอีก เธอก็จะไม่จนทางนักไม่ไร้ทางไปเหมือนเมื่อปีก่อนตอนเพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัย เมื่อเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวนั้นหายไปพร้อมกับจอมหลอกลวง...นั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้ณิชาต้องทำตัวเป็นคนหน้ามึน แสร้งไม่รู้สึกรู้สากับการยื้ออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อ แม้มันจะถูกเปลี่ยนมือไปแล้วก็ตามแม้แต่บัวบูชาก็ยังไม่รู้ถึงความจริงข้อนี้ เธอรู้ว่าเพื่อนสาวแคลงใจและสงสัยตลอดมาว่าทำไมเธอถึงยึดติดกับบ้านนัก จนไม่ยอมย้ายออกไปเริ่มชีวิตใหม่...แม้ส่วนลึกณิชาจะอาลัย อยากได้บ้านคืนมาใจแทบขาด ถึงขนาดวาดฝันว่าไรวินทร์อาจเปลี่ยนใจยอมขายบ้านคืนให้กับแพทริเซีย และเมื่อเธอพร้อมก็จะเจรจาขอซื้อต่อมาได้หนึ่งปีที่ผ่านมาเมื่อต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว โลกของณิชาจึงกลายเป็นสีหม่น มองไปทางไหนเห็นแต่ความทึมเทา ไร้แสงสว่างสาดส่องมาถึง แต่พ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 7
ณิชาล่ำลาป้าสดใสหลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ แม้จะเตรียมใจมาทั้งคืน แต่น้ำตาก็ยังเอ่อคลอจนได้ ป้าสดใสยังทำหน้าที่แม้วันสุดท้ายในฐานะแม่ครัว ร่างท้วมที่เคลื่อนไหวอย่างแช่มช้อยทว่าคล่องแคล่วในทีนั้นแทบไม่มีสิ่งใดผิดจากเดิม หากไม่สังเกตก็คงไม่เห็น...แต่ณิชารับรู้ได้จากดวงตาแฝงแววปรานีคู่นั้นว่าแดงเรื่ออยู่“ไปทำงานเถอะค่ะ ใกล้เวลาห้างเปิดแล้ว ทำงานวันแรก ไปสายไม่ดี”“ดูแลตัวเองนะคะป้า มีอะไรก็โทร.มาหานิดนะ”“คุณนิดก็เหมือนกัน อย่าลืมว่ายังมีป้า ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ป้ายังรักและอยากดูแลคุณนิดเหมือนเดิม”หญิงสาวกอดร่างอวบท้วม แล้วผละออกอย่างรวดเร็ว...กลัวจะตัดใจยากร่างน้อยในชุดเสื้อโปโลสีขาวเข้ารูปกับกางเกงเนื้อผ้าสีดำเดินออกจากห้องครัวไปทางด้านหลังบ้าน ไม่นานเสียงรถสกูตเตอร์ก็ดังขึ้น แล้วเสียงนั้นก็เคลื่อนห่างออกไปมือเรียวแข็งแรงกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างใจเย็น ดวงตาคมจับจ้องร่างคนที่นั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ผ่านผนังกระจกนิรภัยซึ่งแล่นไปทางหน้าบ้าน จนทั้งคนและรถผ่านประตูรั้ว ลับหายจากสายตาไรวินทร์หรี่ตา สมองเริ่มครุ่นคิด ปกติณิชาจะอยู่ติดบ้านจนแทบจะขังตัวเองอยู่ในห้องส่วนตัว จนเขา
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 8
บ้านหลังใหญ่ที่ถูกปรับให้เป็นรูปแบบโมเดิร์นจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมดูเงียบสงัด แม้เป็นเวลาเพียงหกโมงเย็น ณิชาจอดสกูตเตอร์ไว้หลังบ้าน ใกล้ประตูห้องครัวด้วยความเคยชิน แต่พอคิดว่าในห้องครัววันนี้ไม่มีป้าสดใสอยู่แล้ว ความเหงาและโหยหาก็ประดังเข้ามาทันที มือบางดันประตูแง้มให้เปิดกว้าง แต่ต้องชะงักเท้า เมื่อเห็นสภาพข้างในนั้นเปลี่ยนจากเดิม“คุณไรวินทร์ให้ช่างเข้ามาทำค่ะ วันนี้เอาของเก่าออก เห็นช่างบอกว่าใช้เวลาสักสัปดาห์ก็ทำเสร็จ” พ้อหวานวางมือจากจานส้มตำแล้วหันมาบอก เมื่อเห็นอดีตลูกสาวเจ้าของบ้านยืนนิ่งงันอยู่ตรงช่องประตู พลางกวาดสายตามองอย่างสงสัยอยู่สายตาคู่นั้นเบนมาทางเด็กสาว วูบหนึ่งก็นึกห่วงว่าเมื่อป้าสดใสไม่อยู่แล้วจะมีงานให้ทำอยู่หรือเปล่า...หากไม่ทันได้เอ่ยปาก เจ้าตัวก็พูดต่อจ๋อยๆ “ส่วนหนูก็ยังทำงานในครัวเหมือนเดิม คุณไรวินทร์แค่สั่งให้ปรับปรุงครัวใหม่ ของเก่ามันไม่สวย เชยด้วย เคาน์เตอร์พวกนี้ก็จะทุบออก แล้วเอาที่สวยๆ ทันสมัยมาใส่แทน หนูว่าก็ดีนะคะ เห็นในละครบ้านพระเอกนางเอกมีครัวสวยๆ ทั้งนั้นเลย หนูชอบ บ้านเราก็จะทำด้วยคุณไรวินทร์มีเงินเยอะ ทำให้สวยแค่ไหนก็ได้”พ้อหวานร่ายยาวตามป
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 9
ไรวินทร์กระเซ้าถามแล้วได้ยินสาวสวยพ้อ ด้วยก่อนนี้พราวพิชชาหรือคุณแหววมักจะเป็นห่วงร้านเสื้อผ้าที่มาเปิดในห้างใหญ่ นัยว่าเจ้าตัวทุ่มเทแรงใจแรงกายเต็มที่ หลังจากที่ต้องเลิกทำงานที่ออสเตรเลียแล้วมาแต่งงานกับรัชภาคย์ เจ้าของเหมืองทองคำในเชียงราช ซึ่งไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นน้องชายฝาแฝดของรัชตะ เพื่อนรุ่นพี่ที่นับถือของเขาเอง “มันเหมือนกันเสียทีไหนล่ะคะ นี่ร้านเปิดมาเป็นปี ตอนนี้อยู่ตัวแล้ว พนักงานก็รู้งานดี อีกอย่างแหววเพิ่งสั่งสินค้า เคลียร์สต็อกเสร็จ มีเวลาให้เที่ยวพักผ่อนถมไปค่ะ แถมเมื่อวานยังได้พนักงานใหม่หน้าใสกิ๊กมาช่วยอีกแรง สัมภาษณ์ดูแล้ว ความรู้ความสามารถพร้อมเลยรับไว้ ถือว่ามาถูกจังหวะที่แหววต้องการคนด้วย จะได้คอยช่วยติดต่อร้านค้าและลูกค้าต่างประเทศ เธอพูดภาษาได้คล่องมากค่ะ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ภูมิความรู้ค่อนข้างแน่น จนต้องรีบตะครุบ นอกจากนี้แหววก็ยังติดตามดูแลร้าน ไม่ได้ทิ้งทุ่นไปเที่ยวเลยสักหน่อย”“ครับ เข้าใจแล้วครับ” ไรวินทร์ตอบรับกลั้วหัวเราะว่ากระจ่างทุกสิ่งที่สาวสวยโอดมายาวเหยียดแล้ว คุยกันต่อพักเดียวสองคนก็วางสายจากกัน พราวพิชชาเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี แถมยังเป็นผู้หญิ
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
บทที่ 10
ทั้งที่เป็นหน้าหนาว อุณหภูมิลดต่ำในช่วงเย็นเหลือสิบแปดองศา แต่คนเคลิ้มหลับบนโซฟามุมหนึ่งในห้องทำงานกลับมีเหงื่อซึมทั่ว ร่างใหญ่พลิกกายหงายเมื่อรู้สึกถึงความไม่สบายตัว เปลือกตาหนาเปิดปรือ มองเพดานห้องที่เห็นจากโคมไฟจากโต๊ะทำงานที่ยังส่องสว่างจ้าอยู่ไรวินทร์ลุกนั่ง สะบัดศีรษะไล่ความง่วงงุน เมื่อคืนวานเขามีประชุมทางไกลกับทีมงานทางแถบยุโรป ด้วยเวลาที่ต่างกัน เขาจึงต้องอดหลับอดนอนทั้งคืน แถมพอตอนเช้ากลับมีธุระต้องออกข้างนอก กว่าจะกลับก็เย็นแล้ว“ทำไมร้อนอบอ้าวจัง” ร่างสูงยันกายยืนขึ้น เดินไปผลักหน้าต่างให้เปิดกว้าง สายลมหนาวตีกลับเข้ามาวูบใหญ่ พาความสดชื่นคืนให้ร่างกายฟื้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเหลียวมองด้านในโดยรอบถึงได้รู้ถึงสาเหตุ“ไม่มีใครเปิดแอร์หรือไง”ชายหนุ่มบ่นพลางเดินไปหยิบรีโมตบนหลังตู้หนังสือ กดเปิดให้เครื่องปรับอากาศทำงาน เสร็จก็มานั่งที่เดิม แล้วนึกได้ว่าเดิมหน้าที่นี้เป็นของป้าสดใส แม่ครัวเก่าที่พ่วงตำแหน่งคนดูแลบ้าน ต่อเมื่อนางย้ายออกกะทันหัน จึงยังไม่มีใครเข้ามาจัดการแทนไรวินทร์ถอนหายใจ เขาไม่คุ้นชินกับการดูแลบริวารและบริหารบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างสั
last updateLast Updated : 2025-04-29
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status