หญิงสาวสะบัดมือของคนแปลกหน้าออกอย่างแรงโดยที่เขาก็ไม่ได้ยื้อต่อ แล้วก้าวเดินขึ้นบันไดไป ทว่าหากเพียงแค่ก้าวเดียวเธอกลับต้องหมุนตัวมาหาเขาอีกครั้งเพราะนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้อ ลืมเตือน คราวหน้าแนะนำว่าถ้าไม่ไหวไปเปิดห้องดีกว่านะคะ ใกล้ ๆ นี่ก็มีเยอะแยะ แถวนี้มันคงตื่นเต้นเกินไป แต่ถ้าเลือกไม่ถูกนี่เลยค่ะ...”
“ครับ?”
ภาวัตเลิกคิ้วประหลาดใจเมื่อหญิงสาวเจ้าของเสียงหวานยื่นกระดาษแผ่นเล็กประมาณครึ่งเอสี่ที่ถูกคลี่ออกมาทั้งยังเห็นรอยพับอยู่ให้
“ใบปลิวน่ะค่ะ โรงแรมของฉันเอง อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ ถ้าคุณไม่ไหวเปิดห้องที่นี่ก็ได้นะคะ รับรองว่าโรงแรมเราจะบริการคุณอย่างดีเลยค่ะ ห้องสะอาด พนักงานมารยาทเยี่ยม ราคาประทับใจ มีทั้งรายวันรายสัปดาห์และรายเดือน อาหารอร่อย บรรยากาศพรีเมี่ยมมากค่ะ หวังว่าจะได้ต้อนรับคุณผู้ชายนะคะ” เจ้าของโรงแรมสาวร่ายยาวเหยียดตบท้ายด้วยรอยยิ้มการค้าแบบสมบูรณ์ก่อนหันหลังเดินขึ้นไปชั้นสาม ทิ้งชายหนุ่มไว้กับท่าทีนิ่งอึ้งพร้อมใบปลิวยับ ๆ ในมือ
ผ่านไปหลายนาทีกว่าที่ภาวัตจะขยับตัวและระเบิดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นึกไม่ถึงว่าเธอจะมาในรูปแบบนี้ ช่างแตกต่างกับผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเจอมากจริง ๆ เธอหันหลังให้กับคำชวน หันหลังให้กับความหล่อเหลาของเขา หันหลังให้กับนามสกุลอันมีอิทธิพลมากมายที่ทุกคนอยากจะได้ครอบครองมัน
เอ...หรือว่าเขาควรจะไปเป็นลูกค้าเธอดีนะ
ชายหนุ่มมองใบปลิวในมืออย่างพิจารณาอีกครั้ง
“โรงแรมทริปเปิลแอลเหรอ”
เขาพยายามนึกอยู่ว่าเจ้าของโครงการทริปเปิลแอลนี่คือใคร เพราะดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินว่ามันเป็นโครงการลูกที่แตกแขนงมาจากโครงการแม่อย่างเดอะทรูธ เขาเองก็มีเพื่อนแนะนำโรงแรมในเครือลูกมาหลายครั้งแล้วเช่นกัน แต่ไม่มีโอกาสได้แวะเสียที ถ้ารู้ว่าไปแล้วจะได้เจอเธอคนนี้เขาคงจะไปเสียตั้งนานแล้ว
แต่คืนนี้สิแย่ของจริง เขาตั้งใจจะหิ้วนางแบบสาวคนนั้นติดมือกลับบ้านไปสักหน่อย แถมตอนนี้แม่สาวคนนั้นก็หลุดมือไปแล้ว จะให้หาคนใหม่ตอนนี้เขาก็ไม่มีอารมณ์เสียด้วยสิ แต่พอนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงกดโทรออกในหมายเลขที่คุ้นเคยดี
“ไงแนทคุณอยู่ไหน”
“อยู่คอนโดค่ะคุณวัต แนทเพิ่งกลับมาถึงน่ะค่ะ คิดถึงคุณวัตจะแย่”
คำตอบของปลายสายทำให้ชายหนุ่มพอใจเป็นอย่างมาก แนทหรือนันสินีรู้จักรุกและถอย ไม่มากไม่น้อยไปเมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ดังนั้นเธอคนนี้จึงอยู่กับเขาได้นานกว่าใคร
“อาบน้ำรอเลยนะ เดี๋ยวผมเข้าไป” ชายหนุ่มสั่ง
“แนทนึกว่าคุณจะรออาบพร้อมกันซะอีก” คนปลายสายอ่อยกลับมา
“ไม่ละ วันนี้ผมไม่อยากรอ” เสียงห้วนสั้นของเขาเอ่ยเพียงเท่านั้นความกระเง้ากระงอดของปลายสายก็หายไปทันที หญิงสาวรู้ดีว่าภาวัตไม่ชอบคนเรื่องมากและพูดไม่รู้ฟัง ปกติแล้วเขาไม่ชอบอาบน้ำกับใคร กับเธอนั้นมีบ้างนาน ๆ ครั้งซึ่งถือว่าเหนือกว่าคนอื่นมากแล้ว เธอจึงยอมเข้าใจเขาอย่างง่ายดาย
“ได้ค่ะ รีบมานะคะ”
ภาวัตที่กำลังจะเตรียมเซอร์ไพรส์คนรักอีกครั้งในตอนดูดาวด้วยกันถึงกับเป็นฝ่ายตกใจเสียเองเขาเมื่อเดินมาที่สวนดอกไม้แล้วเจอกับซุ้มลูกโป่งสีหวานในศาลากลางสวน บรรยากาศโรแมนติกด้วยไฟระยิบระยับ ขาดก็แต่ไม่มีดินเนอร์ท่ามกลางหมู่ดาว แต่ก็มีบางอย่างที่พิเศษยิ่งกว่ารอเขาอยู่ลลิสานั่งรอเขาอยู่ที่ศาลานั่น เธอสวมเดรสสีชมพูอ่อนขับผิวสวยจนเขานึกว่ากำลังมองเทพธิดาตัวน้อยในป่าวิเศษ เมื่อเขาเดินมาถึงเธอก็บอกให้เขานั่งลงข้าง ๆ“เอ้า อึ้งอยู่ทำไม...รีบ ๆ ขอสิคะ”“หา!”ภาวัตที่กำลังตะลึงยังตั้งสติไม่ทันจึงออกการเหรอหรา“ก็จะขอฉันแต่งงานไม่ใช่เหรอคะคุณวัต”ชายหนุ่มถึงกับเบิกตาโตพร้อมรอยยิ้มกว้าง รีบลงไปนั่งคุกเข่าจนเธอตกใจ เขาคว้าเอากล่องกำมะหยี่ที่เตรียมไว้ออกมา และสวมสร้อยข้อเท้าที่สั่งทำเป็นพิเศษเข้ากับข้อเท้าของลลิสา“ผมดีใจที่คุณให้โอกาสผมอีกครั้งนะลูกไม้ แต่งงานกับผมนะ”ภาวัตเงยหน้ามองเธอที่ยิ้มให้เขาอยู่ก่อนแล้ว แล้วก้มลงจุมพิตที่หลังมือเธอแผ่วเบา“คุณนี่...ใครเขาใช้สร้อยข้อเท้าขอสาวแต่งงานกันบ้างคะ”ถึงเธอจะทำเสียงดุแต่ใบหน้ากับเต็มไปด้วยร่องรอยของความสุขแบบปิดไม่มิด“ก็ที่รักเคยบอกว่า จะยอมแต่งงานด
ด้านกรณ์กิตติหลังจากที่พาเจ้านายหนุ่มไปตรวจร่างกายเสร็จแล้วเขาก็กลับมาที่บ้านหลังหนึ่งที่ให้คนเฝ้าญาดาเอาไว้ ร่างบางที่ถูกมัดข้อมือจับโยนไว้บนเตียงนอนยังคงโวยวายไม่หยุด กระทั่งเขาต้องเดินเข้าไปหาญาดาที่เห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาก็เริ่มด่าทอทันที “ไอ้บ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”กรณ์กิตติมองคนที่อยู่บนเตียงนิ่ง เธอจัดว่าเป็นคนสวยจัดคนหนึ่ง แต่ก็แค่เปลือกนอก เพราะจิตใจของเธอช่างสกปรกดำมืดเกินกว่าจะหาอะไรมาเปรียบ มิเช่นนั้นเธอจะวางแผนการณ์ร้ายอย่างนั้นได้หรือเขาเหยียดยิ้มแล้วตรงเข้าไปหาเธอ มือใหญ่คว้าเข้าที่ใบหน้าเล็กแล้วบีบให้เธออ้าปากพร้อมกับจับกรอกด้วยไวน์ที่เตรียมมาเป็นพิเศษญาดาดิ้นเร่าให้หลุดจากพันธนาการ แต่เขาไม่ยอมผ่อนปรน จนเธอกลืนไปหมดแก้วนั่นแหละ“ไอ้ชั่ว!! แกเอาอะไรให้ฉันกินฮะ!” เธอตวาดเขาทันทีที่มือใหญ่ปล่อยให้เป็นอิสระ“ก็ยาแบบเดียวกับที่คุณให้เจ้านายผมกินไงล่ะ...ถ้าผมชั่วคุณมันก็หน้าด้าน ไร้ยางอาย จ้องจับผู้ชายที่มีแฟนแล้ว”กรณ์กิตติด่ากลับอย่างไม่ไว้หน้า มองดูร่างกายที่เริ่มนั่งไม่นิ่งเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์“ไหวไหมล่ะ ...ขอร้องผมสิ”“ไม่ ฉันไม่มีวันขอร้องคนอย่างแก”ญาดากัดฟันพูดแม
หลายวันมาแล้วที่ภาวัตติดต่อลลิสาไม่ได้เลย โทรไปเธอก็ไม่รับ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ชายหนุ่มขับรถไปตามโรงแรมในเครือทริปเปิลแอลหลาย ๆ ที่เผื่อว่าเธอจะไปดูงานต่างสาขาแต่แล้วก็ไม่เจอ มือหนากระดกเหล้าไม่ยอมหยุดอย่างที่ใครหลายคนบอกว่ากรอกเหล้าเข้าปากแทนน้ำนี่แหละ ขนาดพี่ชายทั้งสองคนของลลิสายังตอบว่าไม่รู้เลยว่าน้องตัวเองอยู่ที่ไหน“เฮ้ย...คุณภาวัตทำไมมานั่งดื่มอยู่คนเดียว”ภาวัตชะงักมือที่กำลังจะจดแก้วเข้าปากแล้วหันมองคนที่เดินเข้ามาทัก แต่พอเห็นหน้าก็กลับมาทำหน้าอมทุกข์เหมือนเดิม หมอนี่คือเจ้าบ่าวที่จัดงานแต่งที่กระบี่ในคราวนั้นนี่แหละ ตั้งแต่ตอนนั้นก็เริ่มสนิทกันขึ้นมา“ทะเลาะกับแฟน” ภาวัตบอกออกไปแล้วกลับไปสนใจกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว“อ๋อ มิน่าล่ะน้องลูกไม้เขาถึงไปคนเดียว ก็ว่าอยู่ ตอนแรกนึกว่าคุณไปด้วยผมจะทักซะหน่อย”เมื่อได้ยินอย่างนั้นภาวัตก็หูผึ่งทำตาโต ไม่นึกไม่ฝันว่าจะโชคดีขนาดนี้“คุณเจอลูกไม้เหรอ!”เสียงของเขาเต็มไปด้วยความดีใจจนอีกฝ่ายนึกขำ แต่ก็อยากช่วยเพื่อนใหม่คนนี้บ้าง“ใช่ครับ วันก่อนที่
หลังผ่านวันหยุดที่แสนเร่าร้อนลลิสาก็ต้องกลับไปตรวจงานสาขาอื่น ๆ ต่อ ส่วนภาวัตก็เร่งเคลียร์งาน เขาตั้งใจจะได้บินไปหาเธอบ้างเพื่อที่จะได้เคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันกับคนรัก นอกจากนี้เขายังมีแพลนสำคัญที่วาดหวังไว้ ดังนั้นจึงตัดสินใจโทรไปปรึกษากับบรรดาพี่ ๆ ของคนลลิสาถึงเรื่องแผนการต่าง ๆ ด้วยตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงานในวันนั้นขณะเดียวกันร่างเล็กของญาดาที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานของภาวัตปิดประตูที่แง้มลงอย่างเงียบเชียบ ทำให้เจ้าของห้องที่ยืนหันหน้าเข้าหากระจกหน้าต่างบานใหญ่ไม่สังเกตเห็นเธอ เธอยิ้มกริ่มอย่างมาดหมาย เพราะเลขาคนสนิทตัวติดกันอย่างกรณ์กิตติไม่อยู่ เธอถึงบังเอิญได้ยินแผนการขอแต่งงานของเขาในครั้งนี้“หึ ๆ คุณคอยดูก็แล้วกันว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” และแน่นอนว่าคนอย่างเธอคงไม่ยอมให้แผนสำคัญของเขาสำเร็จ ไม่อย่างนั้นเธอคงพลาดโอกาสที่จะได้เป็นคนรักของเขา พลาดตำแหน่งลูกสะใภ้ภัควเดชาที่มีหน้ามีตาไปแน่ ๆ“แก...ฉันมีเรื่องสนุกแต่สำคัญให้ช่วยหน่อย”ญาดาเดินออกห่างจากห้องทำงานของชายหนุ่มที่หมายปองมาในมุมลับตาแล้วกดต่อสา
เช้าวันหยุดนี้ลลิสารู้สึกว่าแฮปปี้กว่าในทุก ๆ วันเมื่อเธอลืมตาตื่นมาในอ้อมกอดของใครบางคนที่คุ้นเคย ลมหายใจของเขายังสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่ายังหลับสนิท หญิงสาวขยับตัวขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากของเขาแรง ๆ หลายครั้งอย่างตั้งใจจะแกล้ง เจ้าตัวก็ได้แต่ครางฮือราวกับรำคาญที่ถูกก่อกวนตอนนอนแบบนี้มือเรียวเริ่มสอดเข้าใต้ผ้าห่มจนเจอกับผิวเนื้อแน่นของคนรักที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด ก่อนจะลูบไล้ไปมารอบ ๆ และเริ่มลงต่ำจนน่าหวาดเสียว จนเมื่อมันสัมผัสกับขอบกางเกงนอนก็ถูกมือหนาคว้าหมับ“ที่รักจะซนแต่เช้าแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเหนื่อย”เสียงยานคางทว่าแหบพร่าของเขาดังประท้วง ดวงตาสีอ่อนปรืออย่างง่วงงุนแต่ทำคนมองร้อนฉ่าขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก“เหนื่อยยังไงคะก็นอนเฉย ๆ เดี๋ยวที่รักทำเอง”“แน่ะมีรุกด้วยนะเดี๋ยวนี้”เมื่อได้ยินเมียบอกจะทำเองชายหนุ่มก็ตื่นเต็มตาแทบจะทันที แถมตื่นทั้งบนทั้งล่างเสียด้วย มือหนานำทางให้เธอสัมผัสตัวตนของเขาที่กำลังร้อนฉ่าและแข็งขึง“ปลุกแล้วรับผิดชอบด้วยนะที่รัก”เขากระซิบข้างหูพร้อมกับงับใบหูเธอเบา ๆ จนเธอขนลุกไปทั้งตัว จากนั
ผ่านไปเกือบครึ่งปีตั้งแต่ภาวัตกลับกรุงเทพฯ ไปทำงานทั้งสองจึงเจอกันด้วยการผลัดกันเดินทางไปกลับแทน หญิงสาวมักจะขึ้นไปเยี่ยมเขาบ่อย ๆ เนื่องจากเธอต้องกลับไปดูแลโรงแรมสาขาหลักที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกันวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ลลิสาแวะมาเยี่ยมเขาที่ออฟฟิศพร้อมกับของฝากหลังจากที่เธอต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศไม่ได้เจอคนรักเกือบสองอาทิตย์ได้ หญิงสาวแวะส่งของฝากให้พนักงานตามแผนกก่อนจะขึ้นไปหาภาวัตที่ห้องทำงานเหมือนเคยแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องเจอกับช็อตละคร ที่ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะล้มและฝ่ายชายที่เป็นเจ้าของห้องรีบเข้าไปประคอง เส้นเลือดที่ขมับของเธอเต้นตุบขึ้นมาทันที เธอหอบของฝากไปวางบนโต๊ะทำงานของชายหนุ่มอย่างพยายามใจเย็น แล้วจึงเดินมาที่คนทั้งคู่ที่นิ่งเหมือนโดนสตาฟไว้“จะประคองกันอีกนานไหมคะ” ผู้มาใหม่ถามเสียงเย็น ทำให้คนรักรู้สึกตัวรีบปล่อยมือออกจากผู้หญิงร่างเล็กทันที“ไม่มีอะไรนะที่รัก พอดีเขาจะล้มผมก็เลยช่วยไว้” ภาวัตพยายามอธิบายกลัวใจกลัวอารมณ์ของเมียสุดที่รักเหลือเกิน“ฉันเห็นค่ะไม่ได้ตาบอด” ลลิสาปรายสายตาไปยังผู้หญิงอีกค