ตอนที่ 17 เกมความจริง
“อย่าจีจี้” ผมพูดเสียงเข้มพร้อมกับเบือนหน้าหนีทันทีเมื่ออีกฝ่ายจะยืดตัวมาหอมแก้มอีกครั้ง
“ทำไมคะพี่เกมส์” จีจี้ถามเสียงดัง เมื่อกี้ยังทำได้ แล้วทำไมตอนนี้เธอจะทำอีกไม่ได้
“จีจี้! พี่บอกแล้วใช่ไหม ถ้าจะนั่งตรงนี้กับพี่ห้ามวุ่นวาย” กรภัคเอียงตัวหลบ เพราะก่อนหน้ามัวแต่มองยัยเด็กขี้เมาที่กำลังกระดกเหล้าหมดไปหลายแก้ว จนไม่ทันระวังตัวถูกจีจี้หอมที่แก้มทันทีแบบฉิวเฉียด
“พี่ไม่ให้จูบ จีจี้ก็จะหอมไง”
“อย่าพูดไม่รู้เรื่องได้ไหม”
“จีจี้ก็ตามจีบพี่เกมส์มานานแล้ว เมื่อไหร่พี่จะใจอ่อนให้จีจี้บ้างล่ะคะ”
“พี่เคยบอกไปแล้วนะว่าพี่ไม่ชอบเด็ก”
“แล้วเด็กแบบจีจี้มันไม่ดีตรงไหน”
“จีจี้ไม่ใช่สเปคพี่”
“แหม่ พี่เกมส์ขา ของแบบนี้มันเปลี่ยนแปลงกันได้นะคะ ลองชิมดูก่อนไหมถ้าไม่ใช่ค่อยว่ากันอีกที” จีจี้ใช้ปลายนิ้วชี้ดันคางได้รูปขึ้น ก่อนจะยกยิ้มยั่วยวนแววตาเป็นประกาย
“ไม่”
“ใจร้าย”
“จะมาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะ ในเมื่อพี่ก็บอกกับจีจี้ตรงๆทุกอย่าง”
“แหม่ ถ้าพี่ไม่มีใคร ก็เปิดใจให้กันหน่อยสิคะ บางทีเราสองคนอาจจะเข้ากันได้อย่างลงตัวก็ได้นะคะ”
“เพ้อเจ้อ”
“อ้าว แล้วนั่นพี่เกมส์จะไปไหนคะ”
“อย่ามายุ่งกับพี่”
ในเวลาเดียวกันรมย์รวินท์ยืนเท้าเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกับจ้องมองตัวเองผ่านกระจกเงาใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มกลับเรียบเฉย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วถอนหายใจออกมายาวเหยียด เธอยกมือทาบหน้าอก แล้วก้มหน้าหลับตาลงเมื่อความเจ็บที่พยายามซุกซ่อนเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดเริ่มแสดงอาการออกมา
จากที่เคยไม่มั่นใจว่ารู้สึกกับเขายังไง วันนี้เธอรู้แล้วว่าหลงรักเขาเข้าเต็มหัวใจ
“เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นสินะ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ขอเกลียดผู้ชายอบอุ่น รักเดียวใจเดียวดีกว่า”
หรือมันจะถึงเวลาที่เธอควรถอยออกจากความสัมพันธ์คลุมเครือแล้วกลับมารักตัวเองบ้างแล้ว เพราะยิ่งอยู่ใกล้เขามากเท่าไรก็ยิ่งถลำลึกมากขึ้น
“เฮ้อ เอาไงดีวะเนี่ย” เสียงหวานเปรยขึ้น ทั้งที่อีกใจก็อยากถอย แต่อีกใจดันอยากอยู่ต่อ
ติ๊ง ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความทำให้เธอก้มมอง หลงคิดว่าเป็นเขา แต่กลับเป็นสองเพื่อนสนิทที่ส่งมารัวๆ
ProudFah : ไปห้องน้ำนานจังกอบัว
ตังเมนะจ๊ะ : โดนฉุดไปแล้วมั้ง รีบกลับมาเร็ว
KO-BUA : กำลังไปแล้ว
เมื่อตอบกลับข้อความเพื่อนเรียบร้อยเธอจึงพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะชะงักเมื่อมีร่างสูงเดินมาขวางหน้า
“พี่เกมส์”
“ไหนบอกจะนอน”
“แล้วไหน ใครบอกว่าไม่มา” รมย์รวินท์ย้อนถาม
“ก็พวกมันตื้อ พี่รำคาญก็เลยออกมา ไม่อยากให้มันสงสัยด้วย”
“งั้นพี่ก็ไม่ควรมาคุยกับหนูแบบนี้นะ กล้องวงจรปิดมีทั่วผับ เกิดพี่พายุอยากดูกล้องขึ้นมาจะโป๊ะแตกเอานะ”
“พี่เป็นห่วง เห็นเดินออกมาคนเดียว”
“หนูแค่จะมาเข้าห้องน้ำ จะกลับโต๊ะแล้วค่ะ”
“งั้นไปพร้อมกัน”
“พี่ไม่กลัวคนอื่นเห็นหรือไง” รมย์รวินท์เอ่ยถามอีกครั้งพร้อมกับมองมือหนาแสนอบอุ่นที่กุมมือเธอไว้
“พอใกล้ถึงค่อยปล่อยก็ได้”
พอได้ฟังคำตอบเธอจึงบิดข้อมือออกจากมือใหญ่แล้วก้าวถอยออกมาห่างๆ
“งั้นก็ต่างคนต่างเดินกลับเถอะค่ะ” เธอเอ่ยบอกก่อนจะเดินหนีออกมา แต่ก็ถูกเขายื้อแขนไว้อีกครั้งแล้วดันไหล่จนแผ่นหลังติดผนังเย็นเชียบ
“ปล่อยนะคะ เดี๋ยวเพื่อนพี่มาเห็นเข้า”
“ไม่ปล่อย คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“คุยอะไรอีกคะ”
“โกรธพี่เรื่องจีจี้หรือเปล่า”
“ถ้าบอกว่าโกรธ และไม่พอใจมากๆล่ะคะ”
“พี่ไม่ได้ผิดสัญญานะ พี่กับจีจี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แต่พี่ก็ให้เขาเข้ามาใกล้ชิดนี่คะ”
“พี่ขอโทษ”
“กลับกัน ถ้าเป็นหนูบ้างล่ะคะ พี่รับได้ไหม”
“กอบัว อย่าคิดที่จะประชดพี่แบบนั้นเด็ดขาดนะ”
“เห็นไหม แค่หนูพูดพี่ยังรับไม่ได้เลย แต่นี่พี่ทำให้หนูเห็น คิดว่าจะรับได้ไหมล่ะคะ รู้...ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็ควรเคารพข้อตกลง หรือพี่จะยกเลิกไปเลยก็ได้นะคะ”
“ไม่เอาสิ อย่างอนพี่เลยนะเด็กดี” กรภัครั้งร่างบางเข้ามากอดแล้วลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน เพราะคนที่ผมแคร์มากที่สุดก็คือเธอ
“ไม่ได้งอนค่ะ ปล่อยได้แล้วเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
“คืนนี้กลับพร้อมพี่นะ”
“ไม่ค่ะ” มือบางผลักร่างสูงออกห่างแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทันที
“คิดว่าหนีกลับไปแล้ว”
“จะหนีไปไหนได้กุญแจอยู่ในกระเป๋า” ฉันบอกพร้อมกับจิ้มไปที่กระเป๋าที่อยู่บนตักตังเม
“คิดว่าพี่เกมส์เขาไปตามแกมาซะอีก”
“โอ๊ย จะมาทำไมล่ะ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวซักหน่อย อีกอย่างเขาก็อาจจะปวดฉี่พอดีก็ได้ มาๆดื่มดีกว่า น้ำแข็งละลายจนยุงเข้ามาวางไข่แล้วมั้ง” เธอรีบยกแก้วชนกับเพื่อนแล้วยกขึ้นดื่มเมื่อตังเมอ้าปากจะถามต่อ
“กินแบบนี้มันเหงาว่ะ เล่นเกมไหม” ชวกรเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนต่างนั่งดื่มเงียบๆ บางคนก็เล่นโทรศัพท์ ส่วนคนไหนที่มีแฟนก็ ทำอย่างกับทั้งโลกมีกันแค่สองคน
“เกมอะไรของมึง” กรภัคที่เดินกลับเข้ามาเอ่ยถาม “จีจี้ จะมานั่งเบียดพี่ทำไม พี่จะตกแล้วเนี่ย”
“ก็พี่จะนั่งห่างจีจี้ทำไมล่ะคะ”
“ขยับไปห่างๆ ถ้ายังอยากนั่งตรงนี้ต่อ”
“ก็ได้ค่ะ” จีจี้พยักหน้ารับเมื่อดวงตาคมดุจ้องมอง จนเธอต้องขยับถอยออกห่าง ถึงเขาจะเป็นคนใจดี เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังขี้เล่นแต่อย่าให้ได้โกรธอะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ
“เกมหมุนขวดไหม ตกที่ใครต้องตอบคำถาม ถ้าตอบไม่ได้ ดื่มหมดแก้ว” ชวกรเอ่ยบอกพอเห็นว่าทุกคนพยักหน้ารับจึงหยิบขวดโซดาที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ขึ้นวางไว้กลางโต๊ะ
“อ่า ตามึงหมุนก่อนคนแรกเลยไอ้ธันย์”
ธนัทจับขวดเหล้าหมุนเป็นวงกลมก่อนที่ปลายขวดจะหยุดอยู่ที่กรภัค
“ไอ้เกมส์ มึงกำลังคุยกับใครอยู่”
“ถามแปลกๆนะคะพี่ธันย์ นาทีนี้พี่เกมส์ต้องตอบว่าจีจี้อยู่แล้วไหมล่ะคะ” จีจี้สะบัดผมไปมาอย่างมีจริต
“ให้เขาตอบเองเถอะหนู” มุกตาภาเปรยขึ้น
“หึ่ย” จีจี้เบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะหันมองกรภัคเพราะลุ้นกับคำตอบอีกฝ่าย
“ไม่มี” กรภัคเอ่ยตอบเสียงเรียบพร้อมกับปรายตามองรมย์รวินท์ที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก
“โอเค อ่า ตาหนูพราว”
“ไม่เล่นได้ไหมคะ” พราวฟ้าเอ่ยถามเสียงหวาดหวั่นเมื่อในที่นี้มีแต่รุ่นพี่ในคณะแล้วยังมีพี่เฮดว้ากนั่งอยู่อีก ใครจะไปกล้าถาม สู้ไม่เล่นดีกว่า
“ถ้าไม่เล่นก็ดื่มไปเลยจ้าน้องพราว” มุกตาภาเอ่ยเย้าพร้อมกับมองหน้าและกดสายตามองแก้วสลับไปมาคล้ายบังคับกลายๆ จนเธอยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“หนูพราว”
“สบายมากค่ะพี่ธันย์”
“มุก มึงแกล้งหนูพราวทำไมเนี่ย”
“ไม่ได้แกล้ง”
“อ่า ตามึงเอาไปหมุนเลย ” ธนัทเอ่ยบอกก่อนจะหันมามองคนข้างกายที่นั่งหน้าแดงด้วยความเป็นห่วง
มุกตาภาหมุนขวด ได้แต่ภาวนาในใจให้ตกที่เดิมทีเถอะ เพราะคิดเกมนี้มาเพื่อมันโดยเฉพาะ และสงสัยพระเจ้าจะเห็นใจเมื่อปลายขวดชี้ไปที่เดิมพอดิบพอดี
“เกมส์ ตอนนี้มึงรู้สึกดีกับใครอยู่ไหม”
“ไม่มี”
“แน่นะ”
“มึงหมดสิทธิ์ถามแล้วมุก”
“เออๆ”
เตวิชญ์หมุนขวดเหล้าแล้วก็ตกที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
“มึงไปห้างกับใครวันนั้น”
“คนเดียว”
“ตามึงละชะเอม”
อรปรียาหมุนขวดโซดาและผลสุดท้ายก็ออกมาเป็นเหมือนเดิมจนเจ้าตัวชักสีหน้าใส่
“หยุดก่อนชะเอม นี่พวกมึงล็อคขวดเหมือนล็อคหวยป่ะเนี่ย”
“ตลกละไอ้เกมส์ มันขึ้นอยู่กับดวงไหม”
“เออ งั้นก็ถามมา”
“มึงรู้สึกยังไงกับน้องกอบัว”
เชรด ทั้งกลุ่มอุทานในใจจนอยากปรบมือให้กับหน่วยกล้าตายที่ถามคำถามตรงประเด็นออกไป
“...”
“ตอบมา”
“ก็น้องร่วมคณะไง จะให้รู้สึกอะไร” เสียงทุ้มตอบราบเรียบพอกับใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
รมย์รวินท์ถึงกับสะอึกเมื่อสบเข้ากับแววตาเย็นชาไม่เหมือนกรภัคผู้ชายแสนอบอุ่นที่เคยรู้จัก
ยิ่งคิดสมองยิ่งอื้ออึงมึนงงไปชั่วขณะ ขอบตาเริ่มเห่อร้อนเมื่อได้ฟังคำตอบที่บาดลึกลงกลางใจ จะให้รู้สึกอะไร นั่นสินะ เขาคงไม่เคยคิดอะไรกับเธอด้วยซ้ำ มีแต่เธอที่หลงรักเขาเพียงคนเดียว แต่สิ่งที่เธอแสดงออกมาได้คงตีหน้าเรียบนิ่งแม้ในใจจะปวดหนึบจนแทบแตกสลายก็ตาม ในเมื่อเธอเป็นคนเลือกแบบนี้เองตั้งแต่แรก เธอจะโทษใครได้
“มาๆจี้ขอหมุนบ้าง”
จีจี้จับขวดกลางโต๊ะมาหมุน ก่อนที่ปลายขวดหันหยุดอยู่ที่รมย์รวินท์ คนที่เธอไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุดเพราะแอบเห็นกรภัคแอบมองอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ
“เธอแอบชอบใครในนี้ไหม”
“ไม่มี”
“แล้วไป อ่ะเชิญคนต่อไป...”
“พี่ว่าเลิกเล่นดีกว่า” มุกตาภาเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบขวดโซดาลงจากโต๊ะ เพราะแค่นี้ก็พอรู้คำตอบแล้ว
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้