แชร์

บทที่ 10 คนสกุลซ่ง

ผู้เขียน: BigM00N
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-21 13:08:11

ต่อให้หยางเม่าพยายามสั่งให้คนในจวนสกุลหยางห้ามพูดถึงเรื่องความผิดของหยางสุ่ยเซียน แต่มีหรือที่เขาจะสามารถทำได้ จวนสกุลหยางมีคุณชายห้าคนและมีคุณหนูถึงหกคน มีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ถือกำเนิดจากฮูหยินคนก่อนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก ส่วนนอกนั้นล้วนเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากอนุเกือบทั้งสิ้น การแก่งแย่งชิงดีกันเองภายในจวนสกุลหยางดุเดือดไม่ต่างไปจากจวนขุนนางทั่วไปที่มีลูกหลานในจวนมากมาย

ในจวนสกุลหยางมีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ไม่จำเป็นต้องลงไปแก่งแย่งชิงดีและประชันฝีมือด้วย ไม่เพียงชาติกำเนิดดีกว่าผู้อื่น แต่ก่อนที่ฮูหยินคนก่อนจะเสียชีวิตนางได้วางรากฐานให้บุตรชายและบุตรสาวเอาไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งฮูหยินคนใหม่ก็ไม่ค่อยจะมีฝีไม้ลายมือเท่าใดนัก หากไม่พึ่งพาหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ก็แทบจะสู้รบตบมือกับผู้ใดไม่ได้เลย คุณหนูภายในจวนที่มีฝีไม้ลายมือมากที่สุดและได้รับความโปรดปรานรองจากหยางสุ่ยอวี้ก็คือหยางสุ่ยเซียน ดังนั้นพอหยางสุ่ยเซียนพลาดพลั้ง ย่อมมีคนรอที่จะเหยียบย่ำนางให้จมดินอยู่แล้ว

หลินเหม่ยเหยานั่งทบทวนความทรงจำที่ตนเองมีต่อสกุลหยางด้วยความตั้งอกตั้งใจ เดิมทีในชาติก่อนนางไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องในจวนของผู้อื่นเท่าใดนัก ฟังจากแค่ที่หยางสุ่ยเซียนเคยเล่าให้ฟังในฐานะที่เป็นสหายสนิทอยู่บ้าง แต่นางก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าใดนัก พอหยางสุ่ยเซียนหักหลังนางด้วยการแต่งเข้ามาในจวนโดยหวังจะใช้ตำแหน่งภรรยาเอกร่วมกัน นางจึงเริ่มสนใจเรื่องราวของจวนสกุลหยางในทันที

ชาติกำเนิดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาใช้โจมตีได้อย่างตรงจุด แม่สามีของนางในชาติที่แล้วชิงชังบุตรและบุตรีที่ถือกำเนิดจากอนุมากที่สุด หลินเหม่ยเหยาจึงได้ใช้ข้อด้อยจุดนี้โจมตีหยางสุ่ยเซียนทำให้ผลสุดท้ายหยางสุ่ยเซียนจำต้องแต่งเข้าจวนสกุลซ่งมาทางประตูข้างซึ่งเป็นการแต่งเข้ามาในฐานะอนุ ผลของการกระทำในครั้งนั้นทำให้นอกจากจะทำให้หยางสุ่ยเซียนเป็นคู่แค้นอย่างถาวรของนางแล้ว ยังทำให้ซ่งเสวี่ยหรงมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงไป

“หยางสุ่ยเซียน ข้าจะทำให้เจ้าได้ลิ้มรสชาติของการถูกหักหลัง ได้ลิ้มรสชาติของการถูกเล่นงานแต่กลับตอบโต้ไม่ได้ ที่สำคัญจะทำให้เจ้าเจ็บปวดเจียนตายเป็นร้อยเท่าพันเท่าจากสิ่งที่ข้าเคยได้รับจากเจ้าในชาติก่อน” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพึมพำออกมา เพราะนางมัวแต่สู้รบตบมือกับหยางสุ่ยเซียนในจวนสกุลซ่งทำให้นางเหินห่างจากบิดาไป ทำให้ผลสุดท้ายในยามที่บิดาถูกใส่ความนางไม่สามารถช่วยเหลือบิดาได้

“เพียงแต่ข้าจะต้องหาหนทางช่วยเหลือท่านพ่อก่อน อย่างน้อยก็ต้องทำให้ท่านพ่อไม่อาจจะรับหมาป่าตาขาวอย่างซ่งเสวี่ยหรงมาเป็นลูกศิษย์ และที่สำคัญเรื่องที่ท่านพ่อสามารถปรุงยาพิษเกล็ดหิมะสลายวิญญาณได้จะต้องไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้อย่างเด็ดขาด” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพึมพำออกมา

ในยามนี้หยางสุ่ยอวี้ผู้เคยได้รับพิษเกล็ดหิมะสลายวิญญาณยังคงดำรงตำแหน่งเป็นแค่เพียงกุ้ยเฟย แต่อีกห้าปีนับจากนี้ราชสำนักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง หยางกุ้ยเฟยไม่เพียงได้ขยับฐานะขึ้นเป็นฮองเฮา แต่สองปีหลังจากนั้นก็ทรงได้ดำรงตำแหน่งเป็นไทเฮานั่งว่าราชการหลังม่านมีพระราชอำนาจสูงสุดเหนือผู้คนในแคว้น แล้วหลังจากนั้นพระนางก็ทรงถูกวางยาพิษจนสิ้นพระชนม์ หลินเจวี๋ยที่ยามนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงกลายเป็นผู้ต้องหาและถูกประหารหลังจากนั้น

หยางไทเฮาสิ้นพระชนม์ในยามที่องค์ฮ่องเต้เสวียนเทียนหลงพึ่งจะมีพระชนม์แค่เพียงเจ็ดปี จึงเกิดเหตุจลาจลในราชสำนักเพื่อแย่งชิงพระราชอำนาจขององค์ยุวกษัตริย์เกิดขึ้น จวบจนพระมาตุลาหยางนำกองกำลังในมือเข้ามาโอบล้อมเมืองหลวงและตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ความวุ่นวายในราชสำนักจึงได้สงบลงได้ในที่สุด

หลินเหม่ยเหยาได้แต่หลับตาลงเพื่อระงับความเจ็บปวดจากความทรงจำอันเลวร้ายในชาติก่อน เจ็ดปีหลังจากนี้จวนสกุลหลินจะขึ้นสู่จุดรุ่งโรจน์และร่วงหล่นสู่จุดที่ต่ำสุดอย่างรวดเร็ว หลินเหม่ยเหยารู้ดีว่าบิดาของนางไม่มีทางวางยาพิษหยางไทเฮาแน่ เพียงแต่คนที่ลงมือคือผู้ใดกัน นี่คือสิ่งที่นางต้องขบคิดและหาคำตอบให้ได้ แต่ยามนี้สิ่งที่นางสามารถทำได้ก็คือหาหนทางที่ทำให้บิดาของนางไม่รับหมาป่าตาขาวอย่างซ่งเสวี่ยหรงมาเป็นลูกศิษย์ของเขาและที่สำคัญก็คือในชาตินี้นางไม่คิดจะแต่งงานกับซ่งเสวี่ยหรงอีกแล้ว

“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านให้ข้ามาเชิญคุณหนูไปที่โถงรับแขกของเรือนชั้นนอกเจ้าค่ะ” อิงจื่อผู้เป็นสาวใช้รุ่นใหญ่ของนางเดินเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

“มีผู้ใดมาเป็นแขกที่จวนหรือ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางเดินเข้าไปในเรือนเพื่อผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมที่จะออกไปรับแขก นางรู้ดีว่าการที่บิดาสั่งให้คนมาตามนางไปที่โถงรับแขกของเรือนชั้นนอกย่อมจะต้องมีแขกที่นางต้องออกไปให้การต้อนรับเพียงแต่แขกที่มานางอยากรู้ว่าเป็นผู้ใด จะได้เตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม

“เป็นนายท่านสกุลซ่งและคุณชายใหญ่สกุลซ่งเจ้าค่ะ” คำพูดของอิงจื่อทำให้มือที่กำลังเลือกเครื่องประดับชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงได้เลื่อนมือไปเลือกเครื่องประดับที่นางเห็นว่างดงามที่สุดและเหมาะสมที่จะออกไปต้อนรับบุรุษที่ในยามนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมายของตนเอง

ในชาติก่อนภาพความทรงจำสุดท้ายที่นางได้มองเห็นเขาก็คือสายตาที่เต็มไปด้วยความดูแคลนและความเกลียดชัง ยามนี้เมื่อจะได้พบกันอีกครั้งนางย่อมอยากจะแต่งตัวให้ตนเองดูดี เพื่อจะได้ลบเลือนความทรงจำที่มีภาพสะท้อนอันโหดร้ายของตนเองในดวงตาของเขา ใช้เวลาแต่งเนื้อแต่งตัวแค่เพียงไม่นานนางก็ออกไปต้อนรับแขกที่โถงรับแขกของเรือนชั้นนอก แม้ว่าอยากจะดูดีในสายตาของเขาแต่นางก็ไม่อยากจะแต่งตัวอย่างพิถีพิถันมากจนเกินไป ด้วยไม่อยากจะให้เขาเข้าใจผิดว่านางบรรจงแต่งตัวให้ดูดีก่อนที่จะไปพบเขาก็เพราะอยากจะให้เขานิยมชมชอบในตัวนาง

“เหยาเหยาคารวะท่านลุงซ่งและท่านป้าซ่งเจ้าค่ะ” เมื่อเดินเข้าไปในโถงรับรอง นางก็ย่อกายคารวะผู้อาวุโสอย่างซ่งสวินและหวังชินหรูก่อน แล้วจึงได้หันคารวะซ่งเสวี่ยหรงในฐานะที่เขามีความอาวุโสกว่า

“เหยาเหยา ไม่ได้พบกันเสียนานคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเติบใหญ่และงดงามได้เช่นนี้ มานี้มาป้ามีของขวัญมามอบให้เจ้าด้วย” หวังชินหรูเอ่ยพลางกวักมือเรียกนาง หลินเหม่ยเหยาจึงได้เดินเข้าไปหา หวังชินหรูเป็นสหายของมู่หยวนชิงมารดาแท้ๆ ของนาง ตอนที่ผู้อาวุโสของทั้งสองสกุลทำการหมั้นหมายนางกับซ่งเสวี่ยหรงมารดาแท้ๆ ของนางจึงไม่ได้คัดค้านเพราะเห็นแก่ความเป็นสหายของหวังชินหรู ในชาติก่อนหากไม่ใช่เพราะหวังชินหรูเคยมอบความเมตตาให้นาง ตัวนางเองก็คงจะออกจากสกุลซ่งตั้งแต่วันที่รู้ว่าซ่งเสวี่ยหรงคิดจะแต่งหยางสุ่ยเซียนเข้าจวนมาในฐานะภรรยาเอกที่มีฐานะเทียบเท่านางแล้ว และก็เป็นหวังชินหรูผู้นี้ที่ช่วยนางจัดการซ่งเสวี่ยหรงจนผลสุดท้ายหยางสุ่ยเซียนจำต้องแต่งเข้าจวนในฐานะอนุคนหนึ่งของจวน

“ท่านป้านี่ออกจะเป็นของที่มีราคามากจนเกินไปนะเจ้าคะ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยออกมาเมื่อได้เห็นว่าหวังชินหรูถอดกำไลหยกมันแพะที่ตนเองสวมใส่อยู่มาให้นาง

“ไม่มากหรอก คนงามเช่นเจ้าก็ต้องมอบให้แต่สิ่งของที่ดีที่สุดสิ” เมื่อหวังชินหรูเอ่ยเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็รับกำไลนั้นมาแล้วส่งยิ้มให้สหายของมารดาแท้ๆ ของตน

“ใต้เท้าหลิน ที่พวกข้ามาที่จวนของท่านในวันนี้นอกจากตั้งใจจะมาเยี่ยมเยียนท่านและบุตรสาวแล้วยังตั้งใจจะมาพูดถึงเรื่องการหมั้นหมายด้วย เรื่องที่ผู้คนภายนอกกำลังพูดกันมันทำให้พวกข้ารู้สึกไม่สบายใจ” ซ่งสวินเอ่ยออกมาด้วยความนอบน้อม เขาจ้องมองหลินเหม่ยเหยาแล้วก็ทอดถอนใจออกมา

“ข้ารู้ดีว่ายามนี้ตำแหน่งของข้าในสำนักแพทย์หลวงไม่สูงนัก แต่ข้ากับท่านก็คบหากันในฐานะสหายที่ชื่นชอบเรื่องตำราแพทย์และตำราสมุนไพรเช่นเดียวกัน ข้าจึงย่อมจะรู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องยศศักดิ์หรือว่าเงินทอง ดังนั้นวันนี้จึงได้กล้าบากหน้ามาพบท่านแล้วพูดคุยกับท่านในเรื่องนี้” คำพูดของซ่งสวินทำให้หลินเหม่ยเหยาพลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที นางไม่อยากแต่งกับซ่งเสวี่ยหรงและไม่ยินดีให้ซ่งเสวี่ยหรงเข้าออกจวนสกุลหลินของนาง แต่นางที่ยังเป็นแค่เพียงผู้เยาว์จะเอ่ยวาจาคัดค้านเช่นไรดี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 10 คนสกุลซ่ง

    ต่อให้หยางเม่าพยายามสั่งให้คนในจวนสกุลหยางห้ามพูดถึงเรื่องความผิดของหยางสุ่ยเซียน แต่มีหรือที่เขาจะสามารถทำได้ จวนสกุลหยางมีคุณชายห้าคนและมีคุณหนูถึงหกคน มีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ถือกำเนิดจากฮูหยินคนก่อนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก ส่วนนอกนั้นล้วนเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากอนุเกือบทั้งสิ้น การแก่งแย่งชิงดีกันเองภายในจวนสกุลหยางดุเดือดไม่ต่างไปจากจวนขุนนางทั่วไปที่มีลูกหลานในจวนมากมายในจวนสกุลหยางมีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ไม่จำเป็นต้องลงไปแก่งแย่งชิงดีและประชันฝีมือด้วย ไม่เพียงชาติกำเนิดดีกว่าผู้อื่น แต่ก่อนที่ฮูหยินคนก่อนจะเสียชีวิตนางได้วางรากฐานให้บุตรชายและบุตรสาวเอาไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งฮูหยินคนใหม่ก็ไม่ค่อยจะมีฝีไม้ลายมือเท่าใดนัก หากไม่พึ่งพาหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ก็แทบจะสู้รบตบมือกับผู้ใดไม่ได้เลย คุณหนูภายในจวนที่มีฝีไม้ลายมือมากที่สุดและได้รับความโปรดปรานรองจากหยางสุ่ยอวี้ก็คือหยางสุ่ยเซียน ดังนั้นพอหยางสุ่ยเซียนพลาดพลั้ง ย่อมมีคนรอที่จะเหยียบย่ำนางให้จมดินอยู่แล้วหลินเหม่ยเหยานั่งทบทวนความทรงจำที่ตนเองมีต่อสกุลหยางด้วยความตั้งอกตั้ง

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 9 ทำลายชื่อเสียง

    นายท่านหยางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ คำพูดที่ว่าหากนางไม่ยั้งมือป่านนี้บุตรสาวของเขาคงจะตายไปแล้วทำให้เขารู้สึกโกรธเคือง เขาจึงได้เอ่ยต่อว่าหลินเหม่ยเหยาออกมาตามตรง“คุณหนูใหญ่สกุลหลินคำพูดคำจาช่างโอหังเสียจริง ท่านรองหัวหน้าแพทย์หลวงหลินท่านดูบุตรสาวของท่านสิ ไร้มารยาทเช่นนี้วันหน้าจะมีสกุลใดอยากจะแต่งนางเข้าสกุลกัน” นายท่านหยางเอ่ยออกมาพลางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่ได้เกรงกลัวและไม่ได้ทำตัวเสียมารยาทนางย่อกายคารวะขออภัยด้วยท่วงท่าอันงดงามแล้วจึงได้เอ่ยตอบคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อม“ต้องขออภัยที่ล่วงเกินท่านหัวหน้าราชบัณฑิตหยางนะเจ้าคะ เพียงแต่คำพูดของข้าไม่ได้ตั้งใจจะข่มขู่หรือว่าแสดงความโอหัง แต่ข้าพูดตามความเป็นจริง ในยามปกติหากถูกทำร้ายข้าแค่โปรยยาพิษหรือไม่ก็ยาสลบก็สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว แต่กับคุณหนูสามที่เคยเป็นสหาย ข้าลงมือทำร้ายนางไม่ลงหรอกเจ้าค่ะ แต่หากไม่ลงมือคนที่ถูกตบหน้าคงจะต้องเป็นข้าแน่ ถึงอย่างไรโทสะที่ถูกคุณหนูสามหมิ่นแคลนวงศ์สกุลก็ยังคงอยู่จึงได้ไม่คิดจะออมแรงที่ฝ่ามือเจ้าค่ะ” คำพูด

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 8 จงใจยั้งมือ

    ในขณะที่ทางจวนสกุลหลินกำลังพูดคุยถึงเรื่องน่ายินดีด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นที่มีให้กัน แต่ทางจวนสกุลหยางกลับเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ หยางเม่าผู้เป็นนายท่านใหญ่สกุลหยางได้แต่นั่งปลอบใจอนุคนโปรดของตนเองและบุตรสาวคนที่สามที่ถือกำเนิดจากอนุผู้นี้ด้วยความปวดใจ“ท่านพ่อ! หลินเหม่ยเหยาไม่เพียงตบใบหน้าข้า แต่ยังพูดจาดูหมิ่นเรื่องที่ข้าเป็นบุตรสาวของอนุ คำพูดของนางไม่เพียงดูถูกข้าและแม่เล็กของข้า แต่นางยังกล้าพาดพิงไปถึงกุ้ยเฟยที่อยู่ในวังด้วย” หยางสุ่ยเซียนเอ่ยพลางร่ำไห้ออกมา ยามนี้นางนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงหน้านายท่านหยางด้านข้างของนางยังก็มีเฉินอี๋เหนียงผู้เป็นมารดาแท้ๆ นั่งร่ำไห้อยู่เป็นเพื่อนท่าทีของสองแม่ลูกจากเรือนทิศเหนือทำให้สวีเยียนผู้เป็นภรรยาเอกคนที่สองของนายท่านหยางจำต้องยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มเพื่อปกปิดรอยยิ้มของตนเอง ส่วนสายตาของนางก็จ้องมองสองแม่ลูกราวกับกำลังจ้องมองตัวตลกอยู่ นายท่านหยางยังคงโปรดปรานเฉินอี๋เหนียงอยู่ก็จริง แต่ยามนี้เฉินอี๋เหนียงมีอายุมากแล้วจะสู้นางที่อ่อนวัยกว่าอีกทั้งยังมีสกุลสวีคอยหนุนหลังอยู่ได้อย่างไร จริงอยู่ที่นางยังไม่มีบุตรธิดา แต่ในฐานะภ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 7 เลื่อนฐานะ

    หลินเหม่ยเหยารู้ดีว่าหยางสุ่ยเซียนไม่มีทางยอมถูกทำร้ายโดยไม่ตอบโต้ หลังจากที่สาวใช้ที่นางส่งไปจับตาที่เรือนหนิงฝูเข้ามารายงานว่าหลินเจวี๋ยผู้เป็นบิดาของนางกลับมาถึงจวนแล้วและยามนี้กำลังพักผ่อนอยู่ที่เรือนแห่งนั้นนางก็รีบตรงไปที่เรือนหนิงฝูเพื่อขอเข้าพบบิดาในทันที“เกิดอะไรขึ้นเหตุใดวันนี้เจ้าจึงได้มาหาพ่อจนถึงเรือนแห่งนี้ได้” หลินเจวี๋ยเอ่ยพลางยื่นมือรับถ้วยชาที่ชุยอวี้หลันส่งให้ด้วยสีหน้าผ่อนคลาย“ข้าก็แค่มีเรื่องอยากจะเรียนให้ท่านพ่อและแม่เล็กทราบเอาไว้ก่อน จะได้ไม่ตื่นตระหนกยามที่คนสกุลหยางส่งคนมาเจ้าค่ะ” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หลินเจวี๋ยวางถ้วยชาลงในทันที“เกิดอันใดขึ้น เจ้าสามารถบอกกับพ่อมาได้ตามตรง” คำพูดของบิดาทำให้หลินเหม่ยเหยายิ้มออกมาในทันที“วันนี้ข้าตบหน้าของหยางสุ่ยเซียนเจ้าค่ะ ยามนี้นางน่าจะเอาเรื่องที่ถูกข้าทำร้ายไปฟ้องนายท่านหยางผู้เป็นบิดาของนางแล้ว “คำพูดของนางทำให้หลินเจวี๋ยพลันขมวดคิ้วในทันที"นางล่วงเกินเจ้าหรือ พ่อรู้ว่าเจ้าไม่มีทางลงมือทำร้ายคนอย่างไม่มีเหตุผลแน่" คำพูดของบิดาทำให้นางยิ้มออกมา ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้นอย่างน้อยก็ยังมีบิดาของนางที่สามารถเ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 6 หยางสุ่ยเซียน

    หลังจากวันที่ได้พบกับหยางเจี้ยน หลินเหม่ยเหยาก็ไม่ได้ออกจากจวนอีก ทางจวนสกุลหยางเองนอกจากเทียบเชิญจากหยางสุ่ยเซียนแล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางจวนสกุลหยางอีกเช่นกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นปลอดภัยดี“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูสามสกุลหยางมาขอเข้าพบเจ้าค่ะ” เสียงรายงานของสาวใช้ทำให้หลินเหม่ยเหยาได้แต่ขมวดคิ้ว นางจำได้ว่าหยางสุ่ยเซียนไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดหยางสุ่ยเซียนจึงได้พยายามจะพบนางให้ได้เช่นนี้ ทั้งที่นางก็ปฏิเสธทั้งเทียบเชิญและเทียบขอเข้าพบของหยางสุ่ยเซียนไปตั้งหลายครั้งแล้ว“ไปเชิญนางเข้ามาเถิด” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางก้มหน้าลงไปอ่านตำราในมือต่อ ยามนี้เข้าสู่หน้าร้อนแล้วนางจึงมักจะมานั่งอ่านตำราในศาลากลางน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัว สายลมที่พัดพาผ่านผิวน้ำทำให้อากาศรอบกายเย็นสบาย ดังนั้นในหน้าร้อนของทุกปีนางจึงชอบมานั่งเล่นในสถานที่แห่งนี้ ยามที่หยางสุ่ยเซียนเดินเข้ามาจึงได้แต่จ้องมองท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายของนางด้วยความริษยา“เหยาเหยา เหตุใดช่วงนี้เจ้าจึงได้ห่างเหินกับข้ากันเล่า หรือเป็นเพราะว่าคุณชายใหญ่สกุลซ่งผู้เป็นคู่หมาย

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 5 น้องชายสกุลหลิน

    แม้ว่ายามนี้หยางเจี้ยนจะยังเป็นแค่เพียงคุณชายใหญ่ของจวนสกุลหยาง ยังไม่ใช่พระมาตุลาผู้สำเร็จราชการแผ่นดินดังเช่นในชาติที่แล้ว แต่รอบกายของเขากลับมีพลังอำนาจคุกคามบางอย่างที่แผ่กระจายออกมาแล้วทำให้ทุกคนต่างก็เกรงขามและหวาดกลัว สายตาอันคมกล้าคู่นั้นของเขาทำให้หลายคนไม่กล้าสบตา แต่คนที่เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วอย่างหลินเหม่ยเหยากลับจ้องมองเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณาพลางคิดในใจว่าทำอย่างไรดีนางและสกุลของนางจึงจะไม่มีเรื่องขัดแย้งกับคนผู้นี้“ข้าน้อยคือหลินเหม่ยเหยา บิดาของข้าคือรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงหลินเจวี๋ย ส่วนนี่คือน้องชายของข้าเป็นเพราะข้ากังวลว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นจะทำอันตรายเขาก็เลยลงมือกับลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นหนักมือไปหน่อย ขอคุณชายใหญ่ได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยเถิดเจ้าค่ะ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางย่อกายคารวะขออภัย หยางเจี้ยนได้แต่หรี่ตาลงเมื่อได้เห็นท่าทีของนางแม้ว่าจะดูอ่อนน้อมและขออภัยอย่างจริงใจแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเขาอย่างที่เด็กสาวคนอื่นๆ มักจะเป็น“คุณหนูใหญ่หลินเป็นสหายสนิทของคุณหนูสามจวนเราขอรับ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 4 หยางเจี้ยน

    เมื่อตามตัวน้องชายได้แล้วหลินเหม่ยเหยาก็ตั้งใจว่าจะพาน้องชายของตนกลับ แต่มู่เปียวผู้ดูแลสำนักคุ้มภัยคนปัจจุบันกลับรั้งให้นางอยู่ต่อเพื่อพูดคุยเรื่องการแบ่งปันผลกำไรจากกิจการในช่วงนี้ นอกจากสำนักคุ้มภัยแล้วมารดาของนางยังทิ้งร้านค้าเอาไว้ให้นางอีกหลายร้าน แต่เพราะนางไม่ค่อยจะได้สนใจเรื่องการค้าชีวิตในชาติก่อนของนางจึงได้ขัดสนเรื่องเงินทองในยามที่ตนเองต้องประสบกับความยากลำบากในชาติที่แล้วพอนางแต่งเข้าจวนสกุลซ่งบรรดาร้านค้าเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ล้วนไม่ค่อยจะทำเงินให้นางจนผลสุดท้ายนางก็ขายทอดตลาดในที่สุด เงินที่ได้มาเป็นเงินจำนวนน้อยนิดที่นางพกติดตัวเอาไว้ ในยามที่บิดาต้องโทษมารดาเลี้ยงและน้องชายถูกคุมขัง นางแทบจะไม่มีเงินพอที่จะติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนพวกเขาได้จนผลสุดท้ายนางจำต้องขายเครื่องประดับทั้งหมดของตนเอง จึงสามารถไปเยี่ยมเยียนได้แค่เพียงมารดาเลี้ยงและน้องชายเพียงเท่านั้น ส่วนบิดากว่านางจะรวบรวมเงินได้เขาก็ถูกประหารที่ลานประหารไปเสียแล้วมาชาตินี้นางรู้แล้วว่าชีวิตของนางไม่อาจจะขาดเงิน ดังนั้นยามที่มู่เปียวเชิญนางเข้าไปฟังเขารายงานผลกำไรทางการค้า นางจึงได้ให้ความสนใจก

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 3 สำนักคุ้มภัยสกุลมู่

    เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหลินเหม่ยเหยาสิ่งแรกที่หลินเหม่ยเหยาตั้งใจจะทำก็คือใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบให้เต็มที่ เดิมทีนางมีความเย็นชาต่อชุยอวี้หลันอยู่เป็นนิจ ต่อต้านทุกสิ่งที่ชุยอวี้หลันชี้นำให้นางทำ แต่ยามนี้สิ่งที่นางทำก็คือการทำตัวเป็นลูกเลี้ยงที่ดีเชื่อฟังคำชี้แนะของชุยอวี้หลันโดยไม่โต้เถียง“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดช่วงนี้คุณหนูใหญ่จึงได้ทำตัวผิดแปลกไปเช่นนี้เล่า” เมื่อชุยอวี้หลันเอ่ยถามเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่งยิ้มให้พลางเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ข้าเปลี่ยนไปมากเลยหรือ ข้าก็หลงคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของข้าน่าจะทำให้แม่เล็กพึงพอใจได้เสียอีก” นางเอ่ยพลางก้มหน้าลงคัดอักษรตามบทคัดลอกที่ชุยอวี้หลันหามาให้“คุณหนูใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียินดีเชื่อฟังข้าเช่นนี้ข้าย่อมดีใจ เพียงแต่อยู่ๆ ท่านก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันเช่นนี้มันทำให้ข้าอดรู้สึกกังวลใจไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน มีผู้ใดพูดจาล่วงเกินท่านหรือว่ามีใครทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า” เมื่อมารดาเลี้ยงของนางเอ่ยถามเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่ายหน้า“ไม่มีหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็แค่คิดว่าสิ่งที่แม่เล็กสอนสั่งอีกทั้งยังเข้มงวดกับข

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 2 กำเนิดใหม่ในร่างเดิม

    ยามที่หลินเหม่ยเหยาลืมตาตื่นขึ้นมา นางก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนอนของตนเองในสกุลหลิน สภาพแวดล้อมภายในห้องล้วนมีสภาพเหมือนตอนที่นางยังไม่ได้ปักปิ่น ในยามนั้นหลินเจวี๋ยผู้เป็นบิดาของนางยังคงเข้าออกห้องของนางโดยไม่ได้ถือสาเรื่องธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น“เหยาเหยา เจ้าดูนี่สิพ่อได้ฟู่จื่อมามากมาย เจ้าต้องช่วยพ่อตรวจสอบดูนะว่าพิษของมันถูกพ่อทำให้เจือจางลงไปจนหมดสิ้นแล้วหรือยัง” เสียงของหลินเจวี๋ยทำให้หลินเหม่ยเหยารีบขยับตัวลุกขึ้น ดึงม่านคลุมเตียงออกแล้วจ้องมองไปยังผู้ที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ“ท่านพ่อ!” เสียงเรียกกับท่าทีของบุตรสาวไม่ได้ทำให้หลินเจวี๋ยรู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด ในตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของเขากำลังจดจ่ออยู่กับสมุนไพรที่เขาพึ่งจะได้มา“อย่ามัวแต่นอนอยู่เลย ดูนี่สิฟู่จื่อนี่คุณภาพดีมากทีเดียว” หลินเจวี๋ยพูดพลางยื่นกล่องไม้ใส่สมุนไพรให้บุตรสาวดู แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่สนใจนางโผเข้าไปโอบกอดบิดาของตนเองแล้วร่ำไห้ออกมา“ท่านพ่อ ต้องโทษข้าที่มองคนไม่เป็น ทำให้ท่านและทุกคนในครอบครัวต้องได้รับเคราะห์กรรมอันเลวร้าย” ท่าทีของบุตรสาวทำให้หลินเจวี๋ยนิ่งงั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status