ปากของเขาเดี๋ยวหุบเดี๋ยวอ้าเช่นเดียวกับดวงตาที่เบิกกว้างและหรี่ลงอย่างครุ่นคิด “ศิษย์รักเจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าเรื่องพวกนี้ใครเป็นผู้สอนหรือบอกเจ้า”คำถามของชายชราทำให้แผ่นหลังของหนิงอันหลั่ง เหงื่ออันเย็นเยียบออกมา กระนั้นสีหน้าและแววตาของเจ้าตัวก็พยายามตีหน้าเซ่อต่อไป“เป็นท่านปู่ของข้าเจ
ยังไม่ทันที่ชายชราจะได้พักหายใจหายคอเขาก็ต้องตื่นตะลึงอีกครั้งเมื่อมองเห็นผลึกสีขาวที่ชาวบ้านชายคนหนึ่งกำลังใช้ไม้กระดานแผ่นบางขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือตนขูดบางสิ่งในกระทะใบโต ฉู่เกอจึงเดินไปนั่งยองต่อหน้ากระทะใบนั้น “ข้าขอจับดูได้หรือไม่” เสียงแหบของชายชราสั่นเล็กน้อยทว่าต้องการยืนยันให้มั่นใจ
ดังนั้นเจ้าตัวน้อยจึงตั้งใจอ่านตำรามากมายนั้นทันทีหลังจากที่อ่านไปเรื่อย ๆ ความสนใจในตัวอักษรก็มีเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้นางถูกตัดออกจากโลกภายนอกอย่างไม่รู้ตัวหนิงอันรู้สึกว่าความจำของเธอดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากเพียงแค่มองผ่านตัวอักษรกับจำรูปภาพในตำราสิ่งเหล่านั้นก็เหมือนจะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำได้
เช้าวันต่อมาอากาศเริ่มเย็นหมอกขาวปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แม้ว่าเด็กทั้งสี่จะอยากขี้เกียจสักปานใดก็ไม่อาจทำได้เนื่องจากเกรงใบหน้าดุ ๆ ของอาจารย์หนุ่ม ทว่าเมื่อพวกเขาพบกับอาจารย์จึงได้กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจที่วันนี้ไม่ต้องวิ่งขึ้นเขาเนื่องจากหมอกหนากระนั้นยังไม่ทันดีใจได้จนสุดสีหน้าของพว
ใบหน้าของเจ้าตัวน้อยยังคงเอ่อคลอด้วยน้ำตา เมื่อเจ้าตัวมองเห็นคนร่างสูง “อาจารย์” เสียงของนางทำให้ยงเผยเงยหน้ามองอย่างตกใจ“เจ้าร้องไห้ทำไม ตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มปลอบศิษย์ตัวน้อยเพราะเข้าใจว่าผู้เป็นศิษย์ไม่ผ่านการทดสอบในขณะเดียวกันก็อุ้มนางขึ้นมาเพื่อปลอบโยน เด็กหญิงสะอึกสะอื้นส่งเสียงร้องไ
หลังจากท้องอิ่มอันอันตัวน้อยก็พร้อมรบ สองเท้าของเจ้าตัวจึงเดินไปยังเรือนหลังใหม่ที่ติดกับเรือนของอาจารย์หญิงอย่างมุ่งมั่น ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะเคาะประตู “มาแล้วก็เข้ามา” เสียงแหบแห้งของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้น ในขณะที่หนิงอันกำลังจะก้าวข้ามธรณีประตูชายเสื้อก็ถูกดึงรั้งไว้จากมือของมู่ตาน