ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าก้าวกระทบพื้นดังขึ้นยามเมื่อลดาพาร่างสง่างามของเธอเดินเข้ามาภายในบริษัท ใบหน้าอ่อนหวานแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบาต่างเรียกสายตาของผู้คนให้หันมามอง ริมฝีปากเรียวกระจับแต่งเติมด้วยลิปสติกสีหวานคลี่ยิ้มหวานส่งไปให้กับผู้คนเป็นการทักทายด้วยความอัธยาศัยดี ความน่ารักเป็นกันเองเข้ากับคนได้ง่ายดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามแต่มันก็เป็นได้แค่เพียงความคิดเมื่อหัวใจของเธอนั้นดันมีเจ้าของจับจองเสียแล้ว ปึง "วันนี้มาทำงานแต่เช้าจังเลยนะคะน้องลดาคนสวยของพี่" "แต่คงไม่เช้าเท่ากับพี่กุ้งนางหรอกมั้งคะ ลดาว่าลดามาเช้าแล้วแต่พี่กุ้งนางยังมาเช้ากว่าลดาอีก" "ที่พี่ต้องมาเร็วก็เพราะว่าต้องรีบมาส่งน้องลูกปลามาโรงเรียนยังไงล่ะจ๊ะ"หญิงสาวเอ่ยกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนเธอจะนำกระเป๋าสะพายใบสวยราคาไม่กี่บาทวางลงบนโต๊ะทำงานพร้อมกับเอกสารสำคัญในการทำงานของวันนี้ "จะว่าไปแล้วลดาก็คิดถึงน้องลูกปลาแล้วเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันตั้งนานว่าง ๆ พี่กุ้งนางพาน้องลูกปลามาด้วยสิคะ" "ใจตรงกันจังเลยนะสองน้าหลาน" "ทำไมคะ" "ก็เมื่อเช้ายายลูกปลาก็บ่นคิดถึงน้าลดาคนสวยอยู่เหมือนกัน รบเร้าขอให้พี่พามาที่ทำงานด้วย"ใบหน้าของกุ้งนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อเธอกำลังพูดถึงลูกปลาบุตรสาวเพียงคนเดียวอันเป็นที่รัก เด็กสาววัยกำลังน่ารักพูดจาฉอเลาะทำเอาลดาที่รักเด็กอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วรักหัวปักหัวปำ "น้องลูกปลาแกน่ารักนะคะ ลดาอยู่ใกล้แล้วอดใจไม่ไหวต้องหอมแกทุกครั้งเลยค่ะ" "อย่าว่าแต่น้องลดาเลย ขนาดพี่เป็นแม่แท้ ๆ ยังอดใจกับความน่ารักของลูกไม่ได้" "ว่าแล้วก็อยากหอมแก้มจ้ำม่ำของน้องลูกปลาจัง น่าเสียดายที่วันนี้น้องลูกปลาต้องไปโรงเรียน" "เอาอย่างนี้ไหมล่ะ เสาร์อาทิตย์นี้เรามาทำอาหารกินกันที่บ้านพี่ลดาจะได้มาเล่นกับน้องลูกปลาด้วย"กุ้งนางออกความคิดเห็น วันธรรมดาลูกปลาต้องไปโรงเรียนจะมีเวลาว่างแค่วันเสาร์อาทิตย์ครั้นจะให้เธอพาลูกสาวมาที่ทำงานด้วยมันก็คงไม่ได้ "ดีเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์นี้ลดาไปหาพี่กุ้งที่บ้านนะคะ" "จ้า เดี๋ยวพี่จะเตรียมของสดทำกับข้าวไว้รอ"สองสาวพยักหน้าเมื่อเสร็จเวลาการนัดหมายก่อนจะพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ใบหน้าของลดาไร้ความขี้เล่น สายตาของเธอจับจ้องไล่อ่านตัวเลขบนเอกสารสลับกับมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจดูงาน เมื่อผลประกอบการตัวเลขตรงกันเธอจึงสามารถส่งงานกับหัวหน้าแผนกเดียวกันได้ ความตั้งใจในการทำงานของเธอเป็นที่ยกย่อง น้อยครั้งมากที่จะเกิดความผิดพลาด แม้การทำงานหนักจะต้องแลกกับการทำให้ร่างกายอ่อนแรงแต่เธอก็ฮึดสู้เมื่อเห็นตัวเลขของจำนวนเงินเดือน สิ่งที่ทำให้ลดาขยันยึดมั่นและอดทนในการทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อที่จะสร้างอนาคตของตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้น เธอไม่เน้นใช้ข้าวของหรูหรา เสื้อผ้าเครื่องสำอางหรือแม้แต่กระเป๋ารองเท้าเธอเลือกจะจับจ่ายซื้อสอยตามตลาดนัดเพราะมันมีราคาที่ถูกกว่า เธอไตร่ตรองคิดอยู่เสมอว่ากว่าคนเราจะหาเงินมาได้แต่ละบาทมันยากเย็นแสนเข็ญมากขนาดไหน เธอใช้ชีวิตดั่งคนธรรมดา เช้าตื่นขึ้นมาล้างหน้าอาบน้ำเตรียมตัวมาทำงาน การใช้ชีวิตของเธอไม่ได้หรูหราแม้แต่พักกลางวันเธอก็จัดปิ่นโตมาจากที่บ้านเพื่อช่วยลดค่าอาหารที่ไม่จำเป็น ต่างจากความคิดเห็นของคนส่วนมากที่ทำงานหาเงินเพื่อมาซื้อข้าวของราคาแพงยกตัวเองให้อยู่ในสังคมชั้นสูงเทียบเท่ากับคนมีเงินซึ่งหนึ่งในนั้นไม่มีผู้หญิงที่ชื่อลดา เพราะขนาดท่านประธานบริษัทอยากจะลื่นตำแหน่งให้เธอขึ้นไปเป็นผู้ช่วยเลขาเธอยังปฏิเสธ เหตุการณ์วันนั้นเธอจำมันได้อย่างดีหลังจากที่เธอพบเจอแหวนเพชรเม็ดใหญ่เท่าไข่ห่านของภรรยาท่านในห้องน้ำ 'ฉันอยากเลื่อนตำแหน่งให้หนูขึ้นมาเป็นผู้ช่วยเลขา เงินเดือนดีกว่าพนักงานบัญชีที่หนูทำอยู่ตอนนี้เพื่อเป็นการตอบแทนที่หนูนำสิ่งนี้มามอบให้ฉัน'คุณหญิงแก้วจริญญายื่นข้อเสนอให้ เธอสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่บนนิ้วเรียวสวย เห็นการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากเพราะความขี้ลืมทำให้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายยังดีที่มีเด็กสาวผู้นี้เจอแหวนเพชรแล้วนำกลับมาคืนให้ 'ขอบคุณ คุณหญิงและท่านประธานมากเลยนะคะ แต่ลดาคงรับตำแหน่งนั้นเอาไว้ไม่ได้ แล้วอีกอย่างการนำสิ่งของมาคือเจ้าของมันคือสิ่งที่ลดาควรจะทำ' 'หนูเป็นคนใจดีมีน้ำใจมากเลยรู้ไหม ฉันชักจะถูกใจหนูแล้วสิ ว่าแต่หนูชื่ออะไร' 'ลดาค่ะ หนูชื่อลดา' 'ฉันชื่นชอบหนูนะ หนูลดา'คุณหญิงแก้วจริญญามองเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายด้วยแววตาเปล่งประกาย ยามเมื่อเด็กสาวขอตัวเดินกลับออกไปจากห้องทำงานของสามี คุณหญิงวัยกลางคนที่ยังดูสง่างามหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับผู้เป็นสามีอย่างคุณ'พยัคฆ์'โดยทันที 'คุณพยัคฆ์ น้องถูกชะตากับเด็กผู้หญิงคนนี้จัง เธอไม่เหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นที่น้องรู้จัก' 'พี่ก็เห็นด้วย ถ้าเป็นคนอื่นคงดีใจจนเนื้อเต้นยอมรับข้อเสนอของน้องไปนานแล้ว'คุณพยัคฆ์เห็นด้วยกับคำพูดของภรรยา แววตาผ่านร้อนผ่านหนาวของชายวัยกลางคนมองออกทะลุปรุโปร่ง 'น้องอยากได้เด็กคนนี้มาเป็นลูกสาวของเราจังเลยค่ะ' 'เอามาเป็นลูกสะใภ้ดีกว่านะพี่ว่า ลูกชายของเราจะได้เป็นฝั่งเป็นฝามีเมียดี ๆ กับเขาสักที'และแล้วก็มาถึงวันที่บ่าวสาวต่างเฝ้ารอคอย งานแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจชื่อดังกับหญิงสาวผู้ได้ครอบครองเจ้าของหัวใจถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมใหญ่ ทางด้านคุณพยัคฆ์และคุณหญิงแก้วจริญญาล้วนเป็นคนมีผู้นับหน้าถือตาแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานล้วนเป็นคนมีระดับส่วนทางด้านของคุณป้าพรรณีของลดาก็ไม่น้อยหน้าแขกฝ่ายเจ้าสาวถูกเชิญมาร่วมงานนับกว่าร้อยชีวิตทำให้ภายในสถานที่จัดงานหนาแน่นไปด้วยแขกเหรื่อมากมายพิธีในยามเช้าจะถูกจัดแบบเรียบง่าย ฝ่ายชายเป็นผู้ยกขันหมากมาสู่ขอตามประเพณีโดยมีสินสอดระดับหนึ่งร้อยล้านสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกภายในงาน อีกทั้งนั้นยังไม่พอเมื่อคุณหญิงแก้วจริญญายกเครื่องเพชรชุดใหญ่ประจำวงศ์ตระกูลให้ลูกสะใภ้คนโปรดและไหนยังมีทรัพย์สมบัติอีกมากมายที่ทางผู้ใหญ่ฝ่ายชายเต็มใจยกให้เธอ"เหนื่อยไหมครับ"ลดาเงยหน้ามองสามีทางนิตินัยและพฤตินัย ชายหนุ่มได้ตกเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายของเธอแล้ว ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ได้เข้ามาอยู่ในห้องพักภายในโรงแรมซึ่งรอเตรียมพร้อมเปลี่ยนชุดในงานเลี้ยงช่วงเย็น"นิดหน่อยค่ะ ว่าแต่คุณล่ะคะเหนื่อยไหมอาการเป็นยังไงบ้าง""ดีขึ้นแล้วครับ เมื่อเช้าคุณแม่เอาน้ำส้มมาให้พอจะช่วยได้บ้าง
หญิงสาวหมุนตัวหันมามองหน้าชายหนุ่มเมื่อเธอได้ยินเสียงของเขาดังอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ฝ่ามือกั้น ความรู้สึกของเพลงขวัญในตอนนี้นั้นมันเหมือนกับว่ากำลังมีใครมาตีกลองอยู่ในใจของเธอสายจากคุณหญิงเรไรถูกตัดไปตั้งแต่เธอหมุนตัวหันกลับมา ใบหน้าของเธอยังคงแสดงอาการเรียบนิ่งแม้ลึก ๆ หัวใจของเธอมันกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะก็ตาม"คุณตามหาฉันถูกได้ยังไง""ตามจีพีเอสหัวใจมาครับ"ภีรวัฒน์อ้าแขนหมายจะโอบกอดร่างเล็กให้หายคิดถึงแต่เพลงขวัญกลับก้าวถอยหลังหนี"กลับไปค่ะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณ"คำพูดเชือดเฉือนบาดลึกลงบนหัวใจทำให้ชายหนุ่มน่าเศร้า เขามองหน้าเธอด้วยแววตารู้สึกผิด"ผมขอโทษ""...""ขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่างเราสองคนกลับมาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม""คุณกลับไปเถอะค่ะ อย่าให้เพลงต้องเกลียดคุณไปมากกว่านี้""คะ...คุณเกลียดผม ทั้งที่ผมรักคุณอย่างนั้นเหรอเพลง"ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาตัดพ้อ เขารู้สึกเศร้าเสียใจเมื่อได้ยินคำว่าเกลียดและไม่ต้องการเจอจากปากของเธอ"ผมถามว่าคุณเกลียดผมอย่างนั้นเหรอเพลงขวัญ คุณไม่รักไม่เคยรู้สึกดีกับผมเลยใช่ไหม""...""ทั้ง ๆ ที่ผมรักคุณหมดหัวใจ ฮึก ทำไมคุณ
แววตาของภีรวัฒน์เป็นประกายเมื่อเขาได้ที่อยู่ของเพลงขวัญ หลังจากหาคำตอบให้กับหัวใจของตัวเองได้ชายหนุ่มก็รีบพุ่งไปหามารดาในเช้าวันถัดไปนำความในใจของเขาไปบอกท่านว่า เขารักเพลงขวัญโดยแท้จริงถึงแม้ว่าความรักในใจของเขาจะเกิดขึ้นกับเธอเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ารักเธอจริง ๆ"ตามหนูเพลงขวัญกลับมาให้ได้นะลูก พ่อกับแม่จะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่""ครับ"บุตรชายคนเดียวโอบกอดมารดาด้วยความซาบซึ้งพลางมองแผ่นกระดาษในมือซึ่งคือที่อยู่ใหม่ของหญิงสาวในตอนนี้เชียงใหม่ภูมิภาคทางตอนเหนือในยามฤดูหนาว มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวมากมาย เป็นที่เที่ยวที่ได้ทั้งอากาศหนาวและธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้จะรู้ว่าช่วงปลายปีอากาศจะเย็นสบายกำลังน่าเที่ยวแต่ก็มีคนบางกลุ่มชอบอากาศหนาวถึงได้พากันขึ้นมาท้าประลองความหนาวในที่แห่งนี้"นมอุ่น ๆ ค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะป้า"หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนหวานราวกับตุ๊กตาหันมาขอบคุณป้าแม่บ้านพร้อมหยิบแก้วนมอุ่นขึ้นรับประทานเพื่อคลายความหนาว เพลงขวัญเธอหอบหัวใจอันบอบช้ำหนีชายคนรักมาถึงที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เธอยอมลาออกจากงานแล้วหอบเสื้อผ้า
"เพลง"ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังจากผ่านศึกรัก เตียงนอนด้านข้างว่างเปล่าไร้ร่างของหญิงสาวซึ่งเขานอนกอดเธอมาตลอดทั้งคืน"เพลงครับ เพลงคุณอยู่ไหน"ภีรวัฒน์ก้าวขาเดินลงจากเตียงพลางตะโกนเรียกหา ภายในห้องน้ำหรือตามส่วนบริเวณต่าง ๆ ไร้เงาของเธอภายในห้องพักเงียบเหงาว่างเปล่ามีเพียงแค่เขาคนเดียว"โถ่เว้ย"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่าหัวเสีย เขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขาเผลอรังแกเธอไปซึ่งตอนนี้เธอหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้"ผมไม่ยอมปล่อยคุณไปหรอกนะเพลง"หลังจากวันนั้นซึ่งมันก็ผ่านมาหลายอาทิตย์ภีรวัฒน์ก็เอาแต่ออกตามหาเพลงขวัญ เธอลาออกจากงานไปหาที่บ้านก็ไม่เจอถามคนรู้จักหรือเพื่อนที่ทำงานก็ไม่มีใครเห็น เธอหาตัวเข้ากลีบเมฆทำให้เขาจนปัญญาที่จะตามหา"งานที่โรงแรมหนักหรือไง ทำไมช่วงนี้พ่อเห็นแกดูเหนื่อย ๆ "คุณดิเรกเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นภายในบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาซูบเซียวหมองคล้ำราวกับคนไม่ได้พักผ่อนของภีรวัฒน์เป็นที่จับตาเห็น"ครับ ช่วงนี้ผมงานเยอะ""พักผ่อนบ้างนะลูก อย่าหักโหมให้มากนัก""ครับแม่"ภีรวัฒน์พยักหน้า อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้เข้าโรงแรมมาหลายวันเน
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเขานั่งอยู่ภายในรถ ดวงตาคมภายใต้แว่นตากันแดดกำลังจ้องมองไปยังรถเก๋งสีขาวธรรมดาซึ่งจอดอยู่ตรงบริเวณลานจอดรถสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องเป็นคนทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทันทีเมื่อเขาได้เห็นเจ้าของรถชายหนุ่มรีบเปิดประตูเดินพุ่งเข้าไปหาเธอโดยทันที"เพลง"น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลสีขาวหมุนตัวหันกลับไปมอง แววตาของเธอแสดงถึงความตื่นตระหนกและเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า"คุณภีม"เพลงขวัญก้าวถอยหลังเตรียมตัวจะเดินหนีแต่ภีรวัฒน์เร็วกว่าเขาคว้าร่างของเธอเอาไว้ได้ทัน"ปล่อยฉันนะคะ ปล่อย""อย่าดื้อกับผมนะเพลง""ปล่อยค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ"เธอรวบรวมแรงอันน้อยนิดพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม เพลงขวัญหันหน้ามองไปทางอื่นความเจ็บปวดภายในใจกำลังตีตื้นกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตา"เพลงอย่าทำแบบนี้ เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน""เราของเราอย่างนั้นเหรอคะ?"เพลงขวัญหันหน้ามามองชายหนุ่ม แววตาของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจนเมื่อได้มองหน้าชายหนุ่ม"เรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ ระหว่างเราสองคนมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบก็แค่เท่านั้น"น้ำเสียงตัดพ้อกระแทกใจคนฟังอย่า
เมื่อทริปการพักผ่อนของทั้งคู่หมดลงก็ถึงเวลาของทั้งสองในการกลับมาทำหน้าที่ ลดาเธอได้ใช้ชีวิตกับคนรักอย่างมีความสุขอีกแค่เพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงวันแห่งความสุขของทั้งคู่ ข่าวการแต่งงานของลูกชายนักธุรกิจใหญ่ได้ถูกเผยแพร่กระจายกันไปอย่างรวดเร็วและสร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วทั้งประเทศเมื่อทุกคนได้เห็นโฉมหน้าของว่าที่เจ้าสาวของตระกูลเมฆาธิบดีผู้ได้ครอบครองหัวใจของลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลดัง"เป็นไงบ้างครับช่วงนี้ ทำงานหนักไม่ได้พักผ่อนเลยเหนื่อยไหม"น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของชายคนรักดังขึ้นในบ้านพักหลังเล็กของหญิงสาว เขาเดินตรงมาหาเธอซึ่งกำลังก้มหน้าทำงานอย่างขยันขันแข็งก่อนจะวางแก้วนมอุ่น ๆ ให้"นมอุ่น ๆ ครับ""ขอบคุณนะคะ"เธอเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะหันไปสนใจเคลียร์งานต่อ"ดูเหมือนว่างานเลขาจะหนักเกินไปแล้วนะครับ ลาออกดีไหม""คิดยังไงคะถึงอยากจะให้ลดาลาออก"เธอปิดแฟ้มเอกสารก่อนจะย้ายมันไปวางรวมกับแฟ้มกองที่เสร็จแล้ว อิทธิพลมองหน้าคนรักพลางถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเธอคว้าแฟ้มเอกสารเล่มใหม่ขึ้นมาเคลียร์งาน"งานเลขาเหนื่อยจะตายไป ผมไม่อยากให้ลดาต้องเหนื่อยหรือลำบาก""ลดาไม่เหนื่อยหรือลำบากอะไรเลยค