“อีกสามวันเท่านั้น แกจะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในจังหวัด ไม่สิ อาจจะในภาค หรือประเทศด้วยซ้ำ” เสียงชื่นชมยินดียังคงดังออกมาไม่ขาดปาก เมื่อศจีเอ่ยถึงชุดเจ้าสาวที่ถูกตัดเย็บอย่างประณีต ราคาของมันอีกเล็กน้อยก็จะขึ้นเจ็ดหลักอยู่แล้ว หญิงสาวชื่นชมมันด้วยความยินดีแกมอิจฉา ไม่คิดเลยว่ารุ่นน้องที่ฝึกงานด้วยกันเมื่อหลายปีก่อนจะมีบ้านหลังใหญ่โตขนาดที่ว่าต้องขับรถจากบานประตูสูงเทียมฟ้าเข้ามาในตัวบ้านเลยทีเดียว
“ถ้าหนูเลือกได้หนูให้พี่แต่งแทนหนูแล้วพี่ศจี” ว่าที่เจ้าสาวกลับเอ่ยถ้อยคำออกมาด้วยท่าทีเบื่อโลกเสียอย่างนั้น
มณีรัตน์นั่งจ่อมอยู่กับโต๊ะทำงานของเธอมาตั้งแต่เช้า ไม่ได้สนอกสนใจชุดเจ้าสาวที่เพิ่งตัดเสร็จซึ่งถูกนำเอามาให้ชื่นลมเลยสักนิดเดียว ภายในห้องหับที่โอ่โถง ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งนำเข้า กระทั่งพรมเช็ดเช้ายังราคาหลักหมื่น แต่มณีรัตน์หาได้ปรารถนาสิ่งเร้าเหล่านั้นไม่
“หนูไม่ได้รักเขาเลย...ไม่เลยจริง ๆ”
ศจีถอนหายใจ เดินเข้ามาวางมือบ่นบ่าหญิงสาวจากด้านหลังเพื่อให้กำลังใจ “มันเป็นเรื่องของธุรกิจสินะ ทำไงได้ ครอบครัวของแกมีธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้ามูลค่าเป็นพัน ๆ ล้านต่อปี จะให้ลูกสาวมาแต่งงานกับไอ้เข้ม ไอ้ดำ ไอ้ขุนที่ไหนไม่รู้ก็คงไม่ได้แหละ”
“แต่พี่รู้ไหม ว่าฉันเองก็อยากจะมีชีวิตของตัวเองเหมือนกัน”
ศจีทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้หรูยกเท้าไขว่ห้างกอดอก “นี่แหละน้า...ลูกคนรวยที่มีพร้อมอยู่แล้วก็มักจะตามหาชีวิตธรรมดา ส่วนคนอย่างนังศจีที่หาเช้าก็กินเช้า อยากถูกหวยแล้วรวย นั่งกินนอนกินเฉย ๆ”
มณีรัตน์หน้าเง้า หันมองรุ่นพี่ “ถ้ามันรวยแล้วมันอิสระก็ว่าไปอย่างค่ะ แต่นี่ตั้งแต่เกิดมา หนูไม่เคยได้รู้สึกว่ามีชีวิตของตัวเองเลย จนกระทั่งได้ไปเรียนที่ต่างปประเทศนั้นแหละที่พอจะได้อิสระบ้าง ตั้งแต่หนูเกิดจนโตมา หนูไม่เคยได้ยินคำว่า จะเอาอะไร อยากได้อะไรไหมลูก จากพ่อกับแม่เลย มีแต่คำว่า ต้องเอาอันนี้สิลูก ต้องทำแบบนี้สิลูกจากพ่อเสมอ ถ้าบอกว่าหนูเป็นหุ่นยนต์ที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่สุดก็คงจะใช่”
“ขอโทษที่พูดอะไรไม่ค่อยดีออกไปนะ แต่พี่แค่รู้สึกว่าคนเรามันก็อยากได้อยากมีทั้งนั้น”
“และหนูก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง”
ศจียกสองมือขึ้นยิ้มกว้าง “โอเคจ้ะ น้องมณีรัตน์คนงามทรายเชยของพี่...พี่ยอมแล้ว แต่แบบนั้นจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อทุกอย่างมันถูกจัดวางเอาไว้แล้ว และมันก็เป็นเรื่องของธุรกิจแบบสามร้อยเปอร์เซ็นต์”
“หนูอยากจะไปทำงานที่ร้านกาแฟของพี่นะ แต่นั่นแหละ ถ้าไปแค่นั้นก็คงจะโดนลากคอกลับมาแน่นอน” มณีรัตน์ถอนหายใจ “เฮ้อออ...หนูละอยากจะหนีไปไกล ๆ อยากไปในที่ที่พ่อตามหาหนูไม่เจอ ให้เขาได้รู้ว่าหนูไม่ใช่สิ่งของที่จะบงการทุกอย่าง...” คนพูดกล่าวด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
มณีรัตน์ ลูกสาวคนสุดท้องของนักธุรกิจใหญ่ที่ถูกขนานนามว่าเจ้าสัวแห่งการส่งออก เธอเกิดมาบนกองเงินกองทองสูงเทียมฟ้า ชีวิตของเธอฝ่าเท้าแทบจะไม่ได้สัมผัสพื้นดินเลยด้วยซ้ำ ด้วยความที่เป็นลูกคนสุดท้ายก่อนที่แม่ของเธอตัดสินใจทำหมัน ทำให้มณีรัตน์ได้รับความรักและความเอ็นดูจากบรรดาพี่ ๆ และคนรอบตัวเต็มเปี่ยมมาตั้งแต่เด็ก
ทว่ามันเต็มจนล้น
ทุกคนต่างมั่นใจว่าจะมีเรื่องราวดี ๆ ของที่สมฐานะ หรือเครื่องใช้ที่หรูหรามามอบให้เธอ ต่างมั่นใจว่าการได้สรรหาข้าวของเหล่านั้นมาปรนเปรอ เธอจะมีความสุข เพียงแต่มณีรัตน์กลับคิดเพียงอย่างเดียวว่าเธอดูเหมือนตุ๊กตากระดาษที่ใครจะดึงทึ้งเธอไปทางไหนก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ความฝันของเธอเป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ ได้ใช้ชีวิตแบบไม่ลำบาก รวมทั้งเขียนนิยายที่เธอโปรดปราน
กระทั่งตอนที่เธอเรียนอยู่และนิยายของเธอได้รับการเสนอซื้อลิขสิทธิ์ตีพิมพ์ เธอยังไม่กล้าบอกที่บ้านด้วยซ้ำ เพราะเม็ดเงินที่ได้รับจากตรงนั้นจะโดนพ่อของเธอดูถูก สุดท้ายก็จะน้อยอกน้อยใจ พูดกับเธอว่า พ่อทำให้หนูลำบากจนต้องเสียเวลาไปเหน็ดเหนื่อยแลกกับเศษเงินแค่นั้นเองหรือ?
แต่พ่อไม่เคยถามเลยว่าเธอภูมิใจและรู้สึกมีความสุขจากสิ่งที่ได้ทำบ้างไหม?
ความสุขของเธอ...คือคำสั่งจากพ่อ เธอจะต้องมีความสุข เท่านั้น นั่นแหละคือพ่อของเธอ
มือของสิงหราจับประสานกับเธอบีบกระชับแน่น เท้าที่มณีรัตน์ใช้รับน้ำหนักตัวเองทรงตัวได้ในจุดที่พอเหมาะแล้วเช่นกัน นั่นก็ทำให้เธอขยับยกร่างกายขึ้นไปแล้วขย่มลงมาอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงร่างกายของทั้งคู่กระทบกันอย่างต่อเนื่อง วินาทีนี้ เป็นช่วงเวลาที่สิงหราเสียอาการที่สุด จังหวะตกกระแทกที่กดลงมามิดลำกล้องทำให้เขาร่างกายกระตุกถี่อย่างไม่อาจจะหยุดยั้งแรงกระตุ้นตรงหน้าการถูกขึ้นนี่ไม่ว่าจะเป็นครั้งไหนมันก็วิเศษเหลือเกินเชียว“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊า...พะ พี่สิงห์ เสียวจังเลย ซี้ดดด...อื๊อออ”“อา อา...เสียวมากเลยครับ ซี้ดดด แรง ๆ เลย โอยยย...พี่เสียวสุด ๆ เลยครับเมียจ๋า อือออ...”สิงหราบรรจงยกตัวขึ้นมาในลักษณะนั่ง คลายแรงลงปล่อยมือของเธอให้โอบลำคอของเขาเอาไว้แทน และโดยที่ไม่ให้ร่างกายซึ่งสวมสอดใส่กันอยู่นั้นหลุดพรากจากกัน เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้าหาเธอแล้วประคองแผ่นหลังเอาไว้จนในที่สุด สิงหราก็พาเธอลงนอนแผ่ตรงหน้าของเขาได้แล้วเวลานี้
เสื้อผ้าอาภารณ์ค่อย ๆ ถูกถอดออกไปทีละชิ้นอย่างเว้าวอน หญิงสาวอ่อยเหยื่อล่อลวงชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียงด้วยสายตาอันหยาดเยิ้ม จนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ร่างกายสะโอดสะองที่เปลือยเปล่าก็ทำให้สิงหราฉีกยิ้มขึ้นมาด้วยความสุข จ้องดูส่วนสงวนของเธอที่อวบอิ่มนูนเด่นขึ้นมาไม่วางตา“สวยเหลือเกิน...”“มองหน้าสิคะ”“หน้าน่ะพี่มองทุกวันนี่นา”เขายิ้ม ค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเช่นกัน ก่อนจะเดินเข้าไปดึงร่างเล็กเข้ามาแนบชิด หงายมือลูบสัมผัสเนินสวาทที่รับกับองศามือนั้น ร่างเล็กกระตุกสั่น สีหน้าสยิวซ่านปรากฏขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วหนึ่งค่อย ๆ รูดขึ้นไปตามร่องสวาท แหวกพลางสอดแทรกนิ้วเข้าไปทันที“อ๊ะ...อา...เอาเลยหรือคะ”“ไม่รอหรอก...ดูสิ แข็งไปหมดแล้ว”“ใจร้อนจริงพี่สิงห์”
“เธอมันขัดขวางสามีของฉันมากเกินไป”เสียงของหญิงสาวที่คุ้นหูแว่วขึ้นมา สิงหราปรือตาขึ้นพร้อมกับความงุนงง เมื่อมองโดยรอบแล้ว เวลานี้เขาอยู่ในห้องที่ไม่รู้จัก เตียงหรูหราที่ทิ้งกายและเปลือยเปล่า เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ได้อย่างไร และอีกอย่าง หญิงคนนี้ก็ไม่ควรมาอยู่ในท่าทีเช่นนี้คุณราตรี ภรรยาของนายทหารยศใหญ่เธอยังสะสวยเพราะอายุยังน้อย หากแต่ท่าทีน่าเกรงขามและแววตาเชือดเฉือนของเธอนำมาซึ่งความเกรงอกเกรงใจจากนายทหารชั้นผู้น้อยทุกคน เธอสวมเพียงคาดผ้าขนหนูพันเอาไว้รอบอก แต่ในขณะนี้ร่างกายของสิงหรากลับหนักอึ้ง และสมองพร่าเบลอไปหมด แค่บังคับร่างกายให้ลุกขึ้นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ...เธอปลดปมที่ผูกผ้าผืนนั้นอกจนเหลือเพียงแค่ร่างกายอันเปลือยเปล่า แม้ในสายตาของผู้ชายมากมาย รูปร่างของเธอช่างปลุกเร้าความกำหนัดได้เป็นอย่างดี ทว่าไม่ใช่กับสิงหรา เขาไม่อาจจะแตะต้องเธอ และไม่มีความคิดนั้นในหัวด้วยซ้ำ เธอคือหญิงผู้มีเจ้าของ เธอไม่อาจจะทำเช่นนี้กับเขาได้“คะ...ค
สิงหราพุ่งเข้าไปประคองร่างเล็กขึ้นแล้วตระกองกอดทันที ลูบไล้เนื้อนางอย่างหวงแหน“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เขาปลอบโยน “เราพ้นแล้ว เราจะกลับไปบนเกาะกัน”“ค่ะพี่สิง...กลับกันเถอะ” ถึงน้ำเสียงจะถูกปั้นแต่งอย่างดี แต่สติของสาวเจ้าก็กระเจิงไปไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นมรสุมครั้งนี้ก็ผ่านไปด้วยดีด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าของสิงหรา เธอหวาดกลัวจนหมดสติลงในอ้อมกอดของชายหนุ่มทันที**********สิงหราขับเรือเข้าเทียบท่าบนเกาะในช่วงเวลาที่แสงจันทร์อวดโฉม เห็นว่ามณีรัตน์ยังหลับอยู่บนฟูกจึงเอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอไว้ ไม่อยากปลุก ทว่าความผิดปกติก็ทำให้เขาสัมผัสได้ ความเงียบ และแสงสว่างที่หายไป ไม่มีเสียงเครื่องปั่นไฟทำงานไม่มีกระทั่ง...เทียนสักเล่มที่ถูกจุดไม่ได้การ!สิงหราวิ่งเลียบลัดเลาะเข้าไปในชายป่าทันที แฝงตัวเองกั
ก่อนพายุใหญ่คลื่นลมมักสงบเสมอ...มณีรัตน์สัมผัสอ้อมกอดจากชายอันเป็นที่รักอยู่ที่ส่วนด้านหน้าของเรือ ทอดยาวออกไปเป็นส่วนของผ้าสามสีที่ผูกบูชาแม่ย่านาง หากแม้นี่จะไม่ใช่เรือลำใหญ่เหมือนภาพยนตร์ระดับตำนาน แต่เธอก็มั่นใจเหลือเกินว่าความอบอุ่นจากนางเอกผู้นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเธอมากนักหรอกสิงหราเกยคางลงที่ไหล่ของเธอ เอนกายแผ่วเบาเข้าประชิด“วันนี้ร้องดังกว่าทุกวันนะ...พี่ทำดีใช่ไหม”“พี่ก็ทำดีมาตลอดนั่นแหละ” เธอยิ้ม “แต่วันนี้มีแค่เรากับทะเลไง นีก็เลยได้ทำทุก ๆ อย่างที่อยากจะทำ” เธอกอบกุมมือของสิงหราเอาไว้ รู้สึกดีเหลือล้นที่ได้รับอ้อมกอดอุ่นที่เธอเคยโหยหา ย้อนกลับไปวันแรกที่ถูกกระชากจนตัวปลิว วันนี้ชายหนุ่มผู้ล่ำกำยำคนนี้อ่อนโยนกับเธอเหลือเกินเว้นเพียงแต่ช่วงเวลาที่เขาต้องกระแทกก็เท่านั้นเรือค่อย ๆ โยกเบา ๆ ตามพื้นน้ำที่ไหวเป็นระลอก ทิศตะวันตกตะวันเริ่มยอแสงแล้ว
ภายในกายเล็กเพรียวพลิ้วของมณีรัตน์ตอดรัดแก่นกายของเขาเป็นอย่างดี แม้จะอบอุ่นและลื่นไหล แต่กลับยิ่งสร้างความซาบซ่านให้ผู้สอดใส่ได้อย่างมหาศาล สองมือของสิงหราจับที่แข้งของเธอแล้วกดให้ขาที่พาดบ่านั้นแนบกาย เริ่มโยกสะโพกขยับไหวอย่างถี่รัวและหนักหน่วงทันทีจนได้ยินเสียงเพียงสัมผัสอันอยาบโลนของร่างกายที่กำลังเดือดพล่านด้วยไฟแห่งราคะต่อเนื่อง ยิ่งสัมผัสเร็วรี่เท่าไหร่ ดูเหมือนความปรารถนาอันร้อนฉ่าจะยิ่งโหมกระพือ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า...พะ พี่สิงห์คะ พี่สิงห์ อื๊อออ...เสียวจังเลยค่ะ เสียว อ๊า...” ไม่มีความเอียงอายเมื่อได้อยู่ใกล้เคียงจุดที่เรียกว่าสวรรค์ มณีรัตน์หลับตาแน่น ปล่อยร่างกายไหวไปตามแรงกระแทกอันดุดันของชายหนุ่มตรงหน้า มือหนึ่งป่ายปัดไร้ทิศทาง ส่วนอีกข้างยังคงกระตุ้นอารมณ์กระสันของตัวเองด้วยการไล้วนเสียดสีที่เม็ดเสียวเป็นวงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งแรงกระแทกที่ได้รับมาลึกล้ำเท่าไหร่ เธอเองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะถูกห้วงแห่งความหฤหรรษ์อัดแน่นจนเต็มปรี่“ซี้ดดด...พี่เสียวเหลือ