Se connecter"นั่งตรงไหนดีวะ เต็มหมดทุกโต๊ะเลย" เก้าพูดขึ้น ขณะที่บุรุษทั้งสี่เดินเข้าไปในโรงอาหารของมหา'ลัย และพวกเขาก็ยังคงเป็นจุดเด่น ที่บรรดาสาวๆ ให้ความสนใจ
"พี่ค่ะ นั่งกับหนูไหมคะ" นักศึกษาสาวกลุ่มหนึ่งพูดขึ้น ทั้งที่โต๊ะเธอก็ไม่มีที่ว่าง แค่อยากทอดสะพานให้หนุ่มแก๊งไทเกอร์หันมามองบ้างเท่านั้นเอง
"จะให้พวกพี่นั่งตักหนูเหรอครับ" กวินเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ แต่ประโยคนั้นกินใจสาวๆ กลุ่มนั้น
"ว้าย! ถ้าได้แบบนั้นก็ดีค่ะพี่" หญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น พร้อมกับส่งสายตาเย้ายวนมาที่กวิน เพื่อเชิญชวนให้เขาได้มองเข้ามา ซึ่งหล่อนนั้นได้สื่อความหมายเอาไว้ในดวงตา มันมีนัยแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ดวงตาคู่นั้น ซึ่งเสืออย่างกวินนั้นทราบดี ถึงความลึกซึ้งที่เธอต้องการจะสื่อมา
แต่ทว่าเวลานี้ชายหนุ่มที่หล่อเหลาโดดเด่นกว่าใครอย่างพายุกำลังข้องใจว่าทำไม สองสาวถึงไม่สนใจผู้ชายในกลุ่มของเขาเลย ทั้งที่โต๊ะของเธอมีที่นั่งพอสำหรับเขาทั้งสี่คน แต่เธอกลับนิ่งเฉยไม่เชิญชวนเหมือนกับหญิงสาวนักศึกษาโต๊ะอื่นๆ
"ขอนั่งด้วยคนนะครับพอดีโต๊ะอื่นเต็มหมด" พายุพูดพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ แพรไหม หญิงสาวแค่ชำเลืองมองเขาไป เธอไม่ตอบและไม่ได้สนใจเขาเหมือนเคย
"อิ่มยังริต้าไปกันเถอะ" แพรไหมหันไปพูดกับริต้าแทน ในขณะที่เพื่อนกำลังก้มรับประทานอาหารในจานอย่างเอร็ดอร่อย
"เธอจะรีบไปไหนแพรไหม เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง ขอริต้าทานเพิ่มอีกจานนะ"
"ฮ๋า!" แพรไหมถึงกับอุทานออกมา พร้อมทั้งทำหน้าทำตาตกใจ จนพายุอดที่จะอมยิ้มให้กับหน้าตาท่าทางบ้องแบ๊วของเธอไม่ได้ แพรไหมคงไม่คิดว่าเพื่อนจะกินจุขนาดนี้
"นั่งด้วยคนนะครับ" นั่นคือเสียงของแบงก์ พูดจบเขาได้หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ ริต้า ก่อนที่กวินและเก้าจะนั่งลงตรงที่ว่าง ในที่สุดแก๊งไทเกอร์ก็ได้ยลโฉมความงามของแพรไหมอย่างสมใจอยาก ยิ่งมองใกล้ๆ แบบนี้เธอยิ่งสวยสะดุดตา จนยากที่จะโฟกัสมองไปที่อื่นได้
แม้แต่ริต้าเวลานี้เธอกำลังต้องตาตรึงใจ พี่รหัสอย่างแบงก์ที่มองเธอตาไม่กะพริบ เขาชอบในความเป็นตัวเองของเธอ ริต้าเองก็ไม่ได้สนโลกเช่นกันกับแพรไหม เธอยังคงทานข้าวไม่สนใจใคร ไม่ว่าชายคนไหนจะมองมาเธอก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารในจานด้วยความเอร็ดอร่อย
"เบิ้ลสอง..ใครได้เป็นแฟนหมดตัวแน่" แบงก์พูดขึ้นเบาๆ แต่เขาพูดในระยะเผาขนมีหรือที่ริต้าจะไม่ได้ยิน
"ขอโทษนะคะรุ่นพี่ บังเอิญว่าเกิดมาเพื่อเลี้ยงตัวเอง ไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตให้ผู้ชายเลี้ยง จบนะคะ ไปกันเถอะแพรไหม ชิ! " ริต้าพูดพร้อมกับคว้าข้อมือเพื่อนเดินออกมา ก่อนจะเชิดหน้าใส่แบงก์ ด้วยท่าทางหยิ่งๆ
"แม่ง..อย่างชอบเลยวะ!" แบงก์พูดขึ้นพร้อมกับมองตามหลังสองสาวที่เดินออกไป
"กูอิจฉาพวกมึงสองคนจัง เคยเจอแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่สองคนนี้น่าค้นหาชะมัดเลยวะ" กวินพูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสองสาว ซึ่งเดินห่างไกลออกไปทุกทีด้วยความรู้สึกเสียดาย ที่เขาไม่ได้เป็นพี่สายรหัสของพวกเธอ
"พายุ..มึงเงียบไปเนี่ย คิดอะไรกับน้องแพรไหมหรือเปล่า ดูท่าทางจะยากหน่อยนะ น้องสองคนนั่นไม่สนใจพวกเราเลยว่าไหม หรือว่าพวกเธอจะเล่นตัวเพื่อโก่งราคาวะ!" เก้าเอ่ยขึ้นกับพายุสองคน ในขณะที่แบงก์กับกวินกำลังไปสั่งอาหาร ก่อนจะยกมาเสิร์ฟเพื่อนสองคนที่นั่งรอ
เวลานี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจพายุ เมื่อเขาต้องการจะเอาแพรไหมมานอนข้างกายสักคืนให้ได้ มีหรือที่เธอจะสามารถหลุดพ้นอุ้งมือของเสืออย่างเขาไปได้ หากไม่ได้ด้วยเล่ห์เขาก็เอาด้วยกล หากไม่ได้ด้วยมนต์เขาก็เอาด้วยคาถา แน่นอนว่าพายุร้ายกำลังก่อตัว และอีกไม่นานจุดมุ่งหมายที่เขาตั้งเอาไว้ จะต้องย่อยยับไปในพริบตา โดยที่ไม่สามารถกลับมาฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพดังเดิมได้ ดังเฉกเช่นร่างกายของหญิงสาว หากพายุได้แทรกแก่นกายเข้าไปแล้ว สภาพร่างกายความบริสุทธิ์ที่เคยมี เธอคงไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ดังเดิมเช่นกัน
พายุเดินเข้าไปใกล้แพรไหม ในขณะที่หญิงสาวยืนนิ่ง มีใบหน้าที่เรียบเฉย พายุไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้เย็นชาขนาดนี้ หรือเธอเพียงแค่ทำเป็นแกล้งเก็บอาการเอาไว้ เพื่อดึงดูดความสนใจจากเขากันแน่ เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน ที่ชายหนุ่มเดินเข้าใกล้แล้วจะไม่หวั่นไหวเลยสักราย
แต่ใบหน้าของแพรไหมนั้น ทำให้เขาเดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้ทำราวกับว่าเขาเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตน ทั้งที่เขายืนอยู่ชิดใกล้เธอขนาดนี้
"ต่อไปเราจะมาเล่นเกมวิ่งสามขากันนะครับ เชือกอยู่ที่พี่รหัสแล้ว เราจะให้ออกมาทีละสิบคู่ ซึ่งน้องนักศึกษามีทั้งหมดร้อยกว่าคน นั่นก็หมายถึงเราต้องใช้เวลาในการเล่นเกมนี้ทั้งหมดสิบกว่ารอบ"
กวินได้ประกาศใส่โทรโข่ง เพื่อให้น้องนักศึกษากับพี่รหัสได้ผูกมิตรสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน แน่นอนแพรไหมกับพายุก็ต้องเล่นเกมนี้ด้วย กวินได้ประกาศรายชื่อนักศึกษาแต่ละคู่เข้าแถวเรียงหน้ากระดาน ก่อนจะใช้เชือกผูกขาให้ชิดกัน คนหนึ่งข้างซ้ายอีกคนข้างขวาต้องผูกให้แน่นเชือกห้ามหลุดไม่อย่างนั้นจะถือว่าแพ้ทันที
การแข่งขันได้เริ่มขึ้น ทุกคนต่างเชียร์เพื่อนของตัวเอง ในขณะที่แอนนี่มองมาที่แพรไหมอย่างเอาเรื่อง หล่อนรู้สึกไม่ชอบใจเวลามีผู้หญิงคนใดเข้าใกล้พายุ เมื่อมีโอกาสแอนนี่จะไม่ปล่อยให้แพรไหมได้ลอยนวลแน่นอน แม้ว่าท่าทีของแพรไหมจะไม่ได้ระริกระรี้ แต่แอนนี่ก็ไม่ไว้ใจเธออยู่ดี นักศึกษาสาวสวยรุ่นน้องอาจทำตัวเงียบแต่ฟาดเรียบใครจะรู้ นั่นคือสิ่งที่แอนนี่คิดกับแพรไหมในเวลานี้
ทุกคนต่างสนุกสนานกับเกมนี้ เพราะได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ ที่นักศึกษาหญิงหลายคนได้พี่ใส่รหัสเป็นผู้ชาย แน่นอนต่างคนก็ต่างความคิด คงมีแค่แพรไหมกับริต้าเท่านั้น ที่ไม่ยินดียินร้ายกับชายรูปหล่อ แม้ว่าริต้าจะแอบปลื้มแบงก์อยู่บ้าง แต่เมื่อเธอนึกถึงคำพูดของเขาที่โรงอาหารเมื่อช่วงกลางวัน ทำให้หญิงสาวรู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่มาก
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







