ร่างสูงใหญ่นั่งพิงหัวเตียงตรวจงานของกาสิโนผ่านแลปท็อปในระหว่างที่ร่างกายยังไม่รู้สึกง่วงไปด้วย วันนี้เขาตั้งใจจะไม่เข้าไปดูวีนัส เพราะต้องการให้เธอเรียนรู้การอยู่โดยไม่มีเขา
มาเฟียหนุ่มนั่งคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุ สายตาหวาดระแวงที่เขาสบตาในครั้งแรก มองดูราวกับลูกกวางที่หลงทางมาเจอกับเขา
บาดเจ็บ เจ็บปวด พยายามดิ้นรนต่อสู้จนสุดหนทางแล้ว แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตนเองมีชีวิตต่อในวันพรุ่งนี้
แม้ประเทศนี้จะไม่มีบทลงโทษที่รุนแรงกับผู้เยาว์ อีกทั้งการกระทำของเธอก็เป็นการป้องกันตัว แต่การมีประวัติอาชญกรรมติดตัว ย่อมไม่เป็นผลดีกับคนไร้ที่พึ่งเช่นนั้น
เธอจะโตมาอย่างยากลำบากกว่าเดิม ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย มาร์ตินแค่กลัวว่าหากเขาปล่อยเธอไปลำพัง เธอจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่ออีกไม่ไหวก็เท่านั้น
นั่นเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เขาตัดสินใจช่วยเหลือเด็กคนนี้ ทั้งที่ปกติเขาจะไม่เอาตัวเข้าไปสอดเรื่องของใครหากไม่จำเป็น
ก๊อกๆๆ
"นายครับ วีนัสไม่ยอมนอน" เสียงรายงานจากลูกน้องทำเอาเขาเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างเหนื่อยใจ
"ทำไมมึงไม่สนิทกับวีนัส" เผื่อเธอจะเลิกตามติดเขา แล้วเปลี่ยนไปติดคีย์แทน
"ผมพยายามแล้วครับ แต่วีนัสไม่คุยกับคนอื่นนอกจากนาย"
เป็นจริงอย่างที่ลูกน้องกล่าว แม้ตอนเย็นจะได้ยินเสียงหัวเราะตอนอยู่กับพริมโรส แต่วีนัสไม่ได้พูดคุยกับแฟนของเพื่อนแม้แต่ประโยคเดียวให้เห็น
ใบหน้าหล่อเหลาจำต้องพยักหน้ารับคำของลูกน้อง พับหน้าจอ
แลปท็อปลงวางบนเตียง จากนั้นจึงเดินไปยังห้องที่อยู่อีกฟากของชั้นสอง
มาร์ตินเปิดประตูเจ้าไปในห้อง ก็พบว่าห้องนอนของเด็กสาวปิดไฟมืด มีเพียงแสงจากไอแพดบนเตียงเท่านั้นที่ส่องสว่าง
"วีนัส นอนได้แล้ว" ออกคำสั่งออกไป พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาปลายเตียงอย่างเคยชิน
เด็กสาววัยสิบเจ็ดลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ถือไอแพดแนบอกเดินมาทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเท้าเขาเช่นทุกครั้ง
แต่คราวนี้แตกต่างออกไป ตรงที่วางจอไอแพดตั้งกับโต๊ะหน้ากระจก เปิดการ์ตูนเรื่องที่ดูกับพริมโรสก่อนจะซบหน้าลงที่ตักเขา โดยหันหน้ามองที่จอไปด้วย
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากริมฝีปากเล็ก หลุบตามองต่ำไปที่เธอก็เห็นว่ากำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างในปากไปด้วย
"กินอะไร บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ากินอาหารในห้องนอน" เขาดุอย่างไม่จริงจังนัก เพียงแค่อยากให้เธอโตขึ้นอย่างมีระเบียบวินัย
มาร์ตินยามนี้ รู้สึกไม่ต่างจากการเป็นพ่อของวีนัส
"กินไหมคะ" มือเล็กยื่นเยลลี่รูปหมีสีแดงมาให้เขา
มืออีกข้างมีซองขนมสีน้ำตาลทองในมือ คนอายุมากกว่าคลับคล้ายคลับคลาว่าเห็นเธอถือมันตั้งแต่มื้อเย็น
คงได้จากแฟนของเพื่อน
"กินเสร็จก็รีบไปแปรงฟัน"
"อร่อยมากเลย หนูกินอีกได้ไหมคะ" มือเล็กชูเยลลี่ขึ้นท่ามกลางไฟสลัวจากหน้าจอ ก่อนจะเอามันเข้าปาก "ไม่เคยกินเลย เห็นแต่ในทีวี"
"เรียนจบชั้นไหน" เขาหยั่งเชิงถามเธอขึ้นมา
แม้จะรู้อยู่แล้วจากการให้คนไปสืบ แต่ก็อยากฟังจากปาก อยากมั่นใจว่าวีนัสไว้ใจเขามากขนาดไหน
"มอสามค่ะ" เธอพูดโดยที่ตายังมองจออยู่ "ถ้าโรงเรียนฝรั่งคงเรียกว่าเกรดสิบมั้งคะ"
"อยากเรียนต่อไหม"
"หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
"ไปอยู่อังกฤษ เรียนให้จบไฮสกูล"
สองปีไม่ได้นานนักสำหรับเขา แต่คงไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้
"คุณไปด้วยไหมคะ"
"ฉันจะไปส่ง และไปรับเธอกลับทันทีที่เรียนจบ"
จากที่ตั้งใจจะให้ลูกน้องไปส่ง แต่ได้ยินเสียงสั่นเครือจากเด็กที่นอนซบตักเขามองจอการ์ตูนที่จบแล้วอยู่ก็เข้าใจได้ว่าวีนัสกำลังเสียใจ
เธอเด็กเกินไปที่จะอยู่กับเขา มีเรื่องมากมายที่เขาและเธอต้องแยกย้ายกันไปสะสางให้เสร็จสิ้น
"หนูต้องอยู่คนเดียวเหรอคะ"
"ครอบครัวใหม่ของเธออยู่ที่นั่น วิลเลียมกับเจสสิก้าเขาดีใจที่เธอจะไปอยู่ด้วย"
ทักษะการโน้มน้าวใจถูกงัดออกมาใช้จนหมด ยกฝ่ามือแนบกับศีรษะเล็กเมื่อรับรู้แรงสั่นเบาๆ จากร่างกายของคนที่นอนซบหน้าขาตนเองอยู่
"ร้องไห้ทำไม"
"ไม่อยากไป ฮึก...หนูกลัว"
มาร์ตินลอบถอนหายใจออกมา หยิบถุงเยลลี่ออกจากมือเล็กมาวางบนโต๊ะ จากนั้นจึงช้อนร่างเล็กขึ้นในอ้อมแขน
"ตัวเบาจัง สองปีที่ไม่เจอกันเพิ่มน้ำหนักขึ้นอีกสักห้ากิโลได้ไหม"
แขนเล็กที่แทบจะมีแต่หนังหุ้มกระดูก ทำเอาคนมองเห็นถึงกับไม่สบายใจ
เขาวางเธอลงที่เตียง แล้วจัดการห่มผ้าให้เสร็จสรรพ ฟันผุก็ช่างแม่ง ไม่มีอารมณ์จะบังคับให้ทำนั่นทำนี่แล้วเหมือนกัน
ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้างเธอ โดยไม่ได้สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน เท้าศีรษะมองเด็กสาวที่นอนมองเขาตาแป๋วอย่างเสียอกเสียใจ
"สองปี ฉันจะไปรับ" นิ้วชี้เรียวตีปลายจมูกรั้นเบาๆ "อยู่ที่นั่นเป็นเด็กดี อยากได้อะไรฉันจะส่งไปให้"
"ไปหาหนูปีละครั้งได้ไหมคะ"
"ฉันมีงานที่ต้องทำ แต่เธอโทรหาฉันได้ตลอด แบบนี้โอเคไหม"
เขากลัวว่าหากเธอรู้ว่าจะได้เจอเขาทุกปี จะเป็นการตั้งกำแพงกับครอบครัวใหม่
สองปีที่ไม่เจอกัน อยากให้เธอพึ่งพาฝั่งนั้นให้เต็มที่ จะได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว
"สัญญานะว่าจะไม่เอาหนูไปทิ้งที่นั่น"
"สัญญาๆ นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะพาออกไปข้างนอก" ยกมือตีผ้าห่มเบาๆ เป็นการกล่อมให้เธอนอนกลายๆ
"ไปไหนคะ หนูไม่อยากไปเลย"
"ไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับเดินทาง แล้วก็นัดช่างทำผมไว้"
"คุณไปกันหนูนะคะ"
สายตาออดอ้อนในความมืด ทำเอาเขาใจอ่อน ทั้งที่ทีแรกตั้งใจว่าจะให้คีย์เป็นคนพาไป
"ได้ นอนได้แล้ว ฉันก็จะกลับไปนอน"
"ฝันดีค่ะ"
"ฝันดี"
คนตัวโตนอนเท้าศีรษะมองวีนัสที่นอนหลับตานิ่ง เขานอนตบผ้าห่มกล่อมเธอนอนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เท้าหนาจึงก้าวลงจากเตียง เดินไปหยิบสายชาร์จไอแพดมาเสียบกับตัวเครื่องไว้สำหรับให้เธอใช้วันพรุ่งนี้ จากนั้นจึงปิดประตูกลับไปนอนที่ห้องตนเอง
เช้าวันต่อมา มาร์ตินเดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา หลายวันมานี้เขาขลุกอยู่แต่ในเซฟเฮาส์จนผิวกายเริ่มออกซีดจากที่ขาวจัดอยู่แล้ว
คนตัวสูงนั่งลง โดยมีเด็กสาวในชุดเดรสลวดลายดอกไม้สีสันสดใสนั่งจิบนมสดรองท้องรอเขาอยู่ด้วยใบหน้าสดชื่น
คีย์เลือกเสื้อผ้าเด็กได้ดี ไม่ซื้อสีอึมครึมที่ทำให้เด็กรู้สึกหม่นหมองมาให้
แต่โบผูกสีชมพูดอ่อนลายกระต่ายนั่นมันอะไรกัน ลูกน้องเขามีรสนิยมแบบนี้ด้วยหรือ
"โบผูกผมอันนั้นมึงเลือก?" หันไปกระซิบคุยกับลูกน้องให้ได้ยินกันเพียงสองคน
"ให้แม่ค้าหยิบให้ครับ นายเห็นผมเป็นคนยังไง?" เขาส่ายหัวตอบให้กับความคิดของเจ้านาย
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" เห็นเขาพูดคุยกันกระซิบกระซาบ ก็กลัวว่าจะมีเรื่องสำคัญ เธอจะได้ออกไปรอข้างนอกก่อน
"ไม่มีอะไร กินข้าวสิ"
อาหารมื้อเช้าวันนี้เป็นสไตล์อเมริกัน แฮม ไส้กรอก ไข่ดาว และขนมปังปิ้งถูกจัดบนจานที่ใหญ่กว่าปกติ
และดูเหมือนวีนัสจะตื่นเต้นกับอาหารวันนี้ไม่น้อย เธอใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกคอกเทลขนาดจิ๋ว จิ้มกับซอสมะเขือเทศเอาเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
หลายวันมานี้เขาบังคับเธอทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และมีข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรตหลัก เด็กคนนี้จะออกอาการเบื่ออาหารก็ไม่แปลก
"อร่อยไหม" คนกินของพวกนี้จนเบื่อถามขึ้น
"อร่อยมากค่ะ ไม่เคยกินไส้กรอกแท้มาก่อนเลย"
"ไส้กรอกแท้?"
"ค่ะ ที่เคยกินเป็นแป้งล้วน ใส่กลิ่นหมูไก่" พูดพลางใช้มีดหั่น
เบค่อนแผ่นอย่างเงอะงะไปด้วย จนคนถามสงสารจึงหยิบช้อนให้อีกคัน
ใช้ช้อนกับส้อมคงถนัดกว่า
"ทำไมต้องกินอะไรแบบนั้น"
"มันถูกค่ะ ทำงานได้วันละสี่ร้อยต้องเอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วย"
เธอตอบยิ้มแย้มออกมา "ถ้าหนูเรียนจบไฮกูลตามที่บอก คุณจะจ้างหนูทำงานไหมคะ"
ไม่รู้ว่างานของเขาทำอะไร ต้องใช้วุฒิสูงไหม?
"ได้ ฉันจะจ้างชั่วโมงละร้อยดอลลาร์ฮ่องกง"
"โอ๊ะ คุณคีย์จดไว้นะคะ เจ้านายคุณจ้างงานฉันแล้ว"
วีนัสพูดจบก็หัวเราะออกมา แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ ส่วนมาเฟียกับลูกน้องก็มองหน้ากันอย่างใจชื้น
เมื่อกี้วีนัสคุยกับคีย์...เป็นครั้งแรกที่เธอคุยกับคนอื่นนอกจากเขาและหมอ