“ให้หนูช่วยนะคะ” ย่าหยารีบเดินตามยายละเอียด บ้านทรงไทยของภาคกลางจะมีหน้าต่างหลายบาน กว่าจะเสร็จเธอก็โดนน้ำฝนสาดใส่จนเสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด
“แย่แล้วๆ หนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า อยู่แบบนี้จะเป็นหวัดเอา”
“หนู...” เธอกอดอกยกมือขึ้นถูกแขนไปมาเพราะเริ่มหนาว
“ถ้าไม่รังเกียจเอาเสื้อผ้าของยายไปใส่ก่อนนะ อย่าใส่เสื้อเปียกๆเลย จะไม่สบายเอา”
ย่าหยาพยักหน้ารับ ปากเริ่มสั่นเพราะความหนาว หญิงสาวเดินตามร่างของหญิงชรา แม้ภายนอกมองเห็นเป็นบ้านทรงไทยโบราณ แต่ด้านในทันสมัยครบครันด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดวางอย่างลงตัว ยายละเอียดเดินนำไปที่ห้องหนึ่ง
“นี่เป็นห้องรับรองแขก มีห้องน้ำในตัว หนูใช้ห้องนี้ได้ เดี๋ยวยายจะเอาเสื้อผ้ามาวางไว้ให้”
“ลำบากคุณยายแล้ว”
“ไม่เป็นไรๆ ไปเถอะรีบไปอาบน้ำเสียก่อน”
ย่าหยาก้าวเข้าไปด้านใน สายตาสะดุดที่เตียงสี่เสาแบบโบราณมีม่านมุ้งสีขาวเข้ากับผ้าปูที่นอนลูกไม้นั้น เธอเดินเลยไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านใน มีผ้าขนหนูและเครื่องใช้ทุกอย่างครบครันราวกับห้องนี้มีคนอยู่ประจำ เจ้าของบ้านอาจมีแขกมาบ่อยจึงเตรียมไว้พร้อมสรรพเช่นนี้ หญิงสาวถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกหมดแล้วเปิดน้ำอุ่นรินรดร่างที่หนาวสั่น เธอไม่ชอบอากาศเย็นชื้นนักพาลจะทำให้ภูมิแพ้กำเริบ น้ำอุ่นช่วยขับไล่ไอเย็นออกไปทำให้เธอรู้สึกสบายมากขึ้น เธอหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบกายเปลือยเปล่าแล้วเดินออกมาก็พบว่าบนเตียงมีชุดเสื้อผ้าฝ้ายวางอยู่ เป็นเสื้อแขนกุดกับผ้านุ่งสำเร็จ เธอหยิบออกมาดูอย่างขัดเขินเพราะไม่คุ้นกับการใส่ผ้าถุงนัก
“เรามาทำให้คุณยายลำบากเลย” ย่าหยาพึมพำเมื่อเห็นว่าที่โต๊ะข้างเตียงมีถาดวางถ้วยน้ำชาอุ่นๆ เธอยกขึ้นมาดมได้กลิ่นหอมของดอกไม้ “ชาดอกมะลิแน่ๆ”
หญิงสาวยกถ้วยน้ำชาดอกไม้ขึ้นมาดื่ม น้ำอุ่นร้อนกำลังพอดีและกลิ่นหอมละมุ่นทำให้ร่างกายผ่อนคลายลงไปมาก นอกจากไล่ไอเย็นแล้วเธอยังรู้สึกว่าความเคร่งเครียดที่สะสมมาหลายเดือนเบาบางลงไป มือเรียววางถ้วยน้ำลงที่โต๊ะข้างเตียง เธอเดินกลับไปที่เตียงเพื่อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาจะสวมใส่
จู่ๆ ก็รู้สึกร่างกายเบาหวิวจนต้องนั่งลงบนเตียงหนานุ่ม ความง่วงงุนจู่โจมจนดวงตาแทบลืมไม่ขึ้น ร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรงจนทิ้งตัวลงบนที่นอน กลิ่นหอมหวานของดอกไม้อบอวลไปทั่วไป ขณะที่เข้าสู่ห้วงนิทรา เธอรู้สึกถึงปลายนิ้วแตะที่แก้มเบาๆ แม้พยายามฝืนลืมตาขึ้นมองก็เห็นเพียงเงารางๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง.
ปลายนิ้วที่สัมผัสใบหน้ารบกวนการหลับใหลทำให้หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งจึงรู้ว่ามีดวงตาคมปลาบคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ ลมหายใจอุ่นร้อนที่ปะทะผิวแก้มทำให้เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ย่าหยาตื่นตกใจพยายามขยับตัวหนีแต่แขนสองข้างถูกกดลงข้างตัว
“จะดิ้นหนีไปทำไมเล่า อุตส่าห์ปีนขึ้นเตียงฉันได้แล้วนี่”
“!”
ดวงตากลมเบิกกว้าง เธออ้าปากจะปฏิเสธแต่กลับไม่มีเสียงออกมา ทำไมจู่ๆ เธอเปล่งเสียงไม่ได้!
บุรุษหนุ่มเห็นหญิงสาวตื่นกลัวแต่เขากลับกระตุกยิ้มที่มุมปาก รอยยิ้มของเขายิ่งทำให้หญิงสาวยิ่งพยายามขยับตัวให้ดิ้นหลุดจากพันธนาการ เขาก้มมองร่างเล็กที่ดิ้นไปมาพลางโน้มหน้าลงหมายจะหยอกล้อแต่ใบหน้าหวานเบือนหน้าหลบทำให้ปลายจมูกของเขาสัมผัสแก้มเนียนนุ่ม กลิ่นหอมละมุนชวนให้ดอมดมทำให้ชายหนุ่มไม่อาจยั้งใจได้
“ปะ...ปล่อย...”
“หือ?” เขาได้ยินเสียงไม่ชัดนัก มันแผ่วเบาจนเหมือนเสียงครางเสียมากกว่า
“ปล่อย...ฉัน”
ย่าหยาเค้นเสียงออกมาจนได้ แต่มันเบาเสียงจนเธอเองก็แทบไม่ได้ยิน แต่กระนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักไป หญิงสาวอาศัยจังหวะนี้หันมากัดใบหูอีกฝ่ายเต็มแรง
“โอ๊ย!”
เพราะโดนจู่โจมไม่ทันตั้งตัวทำให้บุรุษร่างใหญ่ถึงกับผงะปล่อยมือจากข้อมือเรียวเล็ก ย่าหยารีบพลิกตัวหนีแต่เพราะรีบร้อนจนเกินไปทำให้เธอตกเตียงดังตุ๊บ! พร้อมกับเสียงร้องเจ็บปวด
“นี่ เธอ!” ชายหนุ่มยันกายขึ้นแล้วลงจากเตียงหวังจะไปช่วยหญิง แต่ภาพที่เห็นคือผ้าแถบที่รัดรอบอกคลายออกจนเห็นปลายถันสีหวานชูชันท้าทายสายตา
“!”
ย่าหยามองตามสายตาตกตะลึงก็พบว่าตนเองแทบจะเปลือยหน้าอกให้เขาดูแล้ว เธอหันซ้ายหันขวาเห็นชายผ้าห่มแพรห้อยอยู่ข้างเตียงจึงรีบคว้ามันมาคลุมร่าง
“ย่าหยา! ย่าหยาอยู่ไหน! ย่าหยา!”
เธอได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอ แม้จะไม่คุ้นกับเสียงเรียกนั้นแต่ก็ทำให้ย่าหยาตัดสินใจวิ่งออกไปจากห้องนี้ทันที ทว่าเมื่อก้าวพ้นธรณีประตูก็ต้องตกใจ เธอไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน หรือว่าเธอถูกลักพาตัวมา
“นี่! จะออกไปแบบนั้นไม่ได้นะ”
ย่าหยาสะดุ้งสุดตัว เธอหันไปเห็นผู้ชายคนนั้นเต็มตา ตัวเขาสูงใหญ่ผิวสีเข้มและเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพราะเขาไม่ได้สวมเสื้อ! ทำให้เธอตัดสินใจวิ่งไปตามเสียงเรียกที่ได้ยิน เท้าเปลือยเปล่าวิ่งออกมาจากบ้านทรงไทย พื้นหญ้าอ่อนนุ่มและชุ่มชื้นทำให้รู้ได้ว่านี่เป็นของจริง ไม่ใช่ความฝัน
“ย่าหยา!”
หญิงสาวในชุดผ้าแถบคาดอกและนุ่งผ้าโจงกระเบนเมื่อเห็นร่างเล็กถลาออกมาจากเรือนไม้ก็ยื่นมือไปโอบร่างนั้นไว้ในอกอย่างปกป้อง โดยไม่ทันสังเกตว่าคนในอ้อมกอดมีสีหน้าเช่นไร
“น้องไปไหนมา พี่ตามหาเสียทั่ว” หญิงสาววัยประมาณยี่สิบสองบ่นแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าของอีกฝ่าย “เหตุใดซุกซนถึงเพียงนี้ เอาผ้าห่มมาคลุมกายทำไมเล่า”
หญิงสาวมึนงงสับสนไปหมด ผู้หญิงคนนี้เรียกเธอว่า ‘ย่าหยา’ แต่เธอกลับไม่รู้จัก ซ้ำยังทำเหมือนเป็นพี่สาวเธอด้วยซ้ำ แต่เธอเป็นลูกคนเดียว พลันจู่ๆ หัวสมองเหมือนมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากถาโถมเข้าใส่ เธอปวดศีรษะจนต้องยกมือขึ้นกุม
“ย่าหยา! น้องเป็นอะไร! ไม่สบายตรงไหนบอกพี่สิ”
“ปะ...ปวด...หัว...”
น้ำเสียงแห้บแห้งพยายามเปล่งเสียงออกมา ย่าหยาปวดศีรษะจนแทบจะเป็นลม สองขาไร้เรี่ยวแรงทรุดฮวบลงไป
“ว้าย!” หญิงสาวผู้นั้นร้องเสียงร้องรีบประคองร่างน้อยไว้แต่ไม่อาจมีเรียวแรงพอจะอุ้มได้ เธอเงยหน้าขึ้นหมายจะส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แต่ร่างสูงใหญ่ก้าวพรวดเข้ามาช้อนร่างของย่าหยาขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็วและทำเหมือนกับว่าอุ้มแมวน้อยตัวหนึ่ง
“คุณสินธุ์”
“หล่อนเป็นน้องสาวของเธอรึ”
“เจ้าค่ะ ย่าหยาน้องสาวของอิชั้นเอง”
“เช่นนั้นฉันจะพาไปส่งที่เรือน”
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ