로그인เสิ่นชิงซูก้มหน้า กลัวเขามองความผิดปกติออกเธอพยักหน้า แล้วตักโจ๊กเข้าปากอีกช้อนหนึ่งฟู่ซือเหยียนยืนมองอยู่ข้าง ๆ ท้ายที่สุดในตอนที่เธอกินคำที่สามก็สัมผัสได้ว่าไม่ถูกต้องเขารีบย่อตัวลง เห็นน้ำตาในดวงตาของเธอหยดลงมาพอดีน้ำตาหยดลงในโจ๊กในใจของฟู่ซือเหยียนแผ่ความเจ็บปวดขึ้นมา “อาซู?”เสิ่นชิงซูยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา “ฉันไม่เป็นไร...”ฟู่ซือเหยียนรับโจ๊กถ้วยนั้นไปวางไว้บนโต๊ะ“อาซู ขอโทษนะ ในอดีตทำให้คุณต้องลำบากมามาก” เขาคุกเข่าข้างเดียวอยู่ตรงหน้าเธอ ความรู้สึกหนักอึ้งเขารู้ว่าทำไมเธอถึงร้องไห้โจ๊กหนึ่งถ้วยกระตุ้นความทรงจำของเธอในห้าปีนั้น เธอค่อย ๆ เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เป็นศูนย์ ค่อย ๆ เลี้ยงเด็กทารกที่เพิ่งครบหนึ่งเดือนเต็มจนโต ทุ่มเทอย่างปราศจากความขุ่นเคืองและความเสียใจ ท้ายที่สุดสิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นการหลอกลวงของเขา ความเคียดแค้นและการแทงข้างหลังของเด็กคนนั้น...หลังจากนั้นแยกกันอยู่สี่ปี ได้พบกันอีกครั้ง เขาก็ยังทำให้เธอได้รับความทรมานอย่างถึงที่สุด...ทุก ๆ เรื่องราว ท้ายที่สุดก่อให้เกิดแผลเป็นที่ไม่มีวันเรียบในใจของเธอที่เธอบอกว่าปล่อยวางแล้ว แค่ไม่อยากเป็น
ฟู่ซือเหยียนยกโจ๊กขึ้นไปชั้นบนเสิ่นชิงซูกำลังวิดีโอคอลกับเสี่ยวอันหนิงและเสี่ยวเนี่ยนอันเธอนั่งอยู่ข้างเตียง จงใจคลุมเสื้อโค้ตไว้บนตัว ในกล้องมองไม่ออกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล“แม่ เมื่อไหร่แม่ถึงจะกลับบ้านเหรอคะ?” เสี่ยวอันหนิงถามขึ้นต่อหน้าลูกสาวแสนนุ่มนิ่ม ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็ผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว โทนเสียงที่พูดก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนมากตามไปด้วย“อีกสองวันนะจ้ะ ครั้งนี้แม่มาต่างประเทศนานมาก ที่สตูดิโอมีเรื่องสะสมเยอะแยะ เพราะงั้นสองสามวันนี้แม่จะยุ่งมากเลยละ”เสี่ยวอันหนิงกะพริบตา “แล้วพ่ออยู่กับแม่ด้วยไหมคะ?”เสิ่นชิงซูได้ยินแบบนั้น ก็มองฟู่ซือเหยียนทีหนึ่งโดยไม่รู้ตัวฟู่ซือเหยียนเดินเข้ามา ก่อนจะวางโจ๊กไปบนโต๊ะ แล้วนั่งลงข้างกายเสิ่นชิงซูเขามองลูกสาวและลูกชายในโทรศัพท์ น้ำเสียงอ่อนโยน “พ่อก็อยู่ด้วยนะจ้ะ”“ว้าว” เสี่ยวอันหนิงเอามือปิดปาก ยิ้มอย่างมีเลศนัย “พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเหรอคะ พ่อกับแม่กำลังแอบเราจู๋จี๋กันหรือเปล่าคะ?”ได้ยินแบบนั้นเสิ่นชิงซูก็อึ้งไปฟู่ซือเหยียนมองเธอทีหนึ่งเขาเห็นความไม่เป็นธรรมชาติในดวงตาของหญิงสาวเขามองไปที่โทรศัพท์ แล้วอธิบายกับลูกสาวอย่างอ
“งั้นฉันไปแล้วนะ เธออย่าลืมพักผ่อนล่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้าให้เธอ “โอเค”......ฉินเยี่ยนเฉิงลงมาชั้นล่างก็เข้าไปหาฟู่ซือเหยียนในห้องครัวเลยฟู่ซือเหยียนกำลังต้มโจ๊กอยู่อยู่ในกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อแขนสั้นสีขาว กำลังใช้พันผ้าพันแผลด้วยมือข้างเดียวในวินาทีนี้เขายืนอยู่หน้าเตาทำอาหาร ไหล่กว้างเอวคอด แม้เป็นแค่แผ่นหลัง ก็ยังสะดุดตาเป็นพิเศษฉินเยี่ยนเฉิง ‘จุ ๆ’ สองที แล้วยืนกอดอกพิงอยู่บนขอบประตู มองฟู่ซือเหยียนที่ตอนนี้คล้ายกับเป็นพ่อบ้านผู้ชายแสนดี แล้วพูดอย่างสะท้อนใจว่า “การเปลี่ยนแปลงใหม่หมดมันก็อย่างนี้เองสินะ!”ฟู่ซือเหยียนหันหน้าไปมองเขา “เยี่ยมอาซูมาแล้วเหรอ?”“อืม” ฉินเยี่ยนเฉิงเดินเข้ามา “เอารายงานให้เธอแล้ว ฉันว่าอาการของเธอในตอนนี้ยังโอเคอยู่ ที่สำคัญก็คือฉันรู้สึกว่าสภาพจิตใจของเธอดีทีเดียว”ฟู่ซือเหยียนจ้องโจ๊กที่เดือดปุด ๆ อยู่ในหม้อดิน “ตอนนี้เธอก็แค่อยู่ในสภาพของการยอมรับชะตากรรม เพื่อลูกแม้เป็นความหวังอันน้อยนิด เธอก็จะกระตือรือร้นให้ความร่วมมือกับการรักษา แต่ถ้ารักษาไม่ได้ เธอก็ยอมรับได้”“เยี่ยมเลย!” ฉินเยี่ยนเฉิงพูดหยอกล้อ “นายแอบสมัครคอร์สฝึกอบรมใช่ไหม? ค
เฉียวซิงเจียตกตะลึงไปแล้วฉินเยี่ยนเฉิงได้ยินหรือเปล่านะ?เสิ่นชิงซูก็มึนงงเช่นกัน“เอ่อ...บังเอิญจังนะ ฉันเพิ่งมาถึงไม่นานคุณก็มา...” เฉียวซิงเจียมองฉินเยี่ยนเฉิง พลางหัวเราะแห้ง ๆใบหน้าของฉินเยี่ยนเฉิงไร้ความรู้สึก เขาเดินเข้ามาในมือถือรายงานผลการตรวจเขาไม่มองเฉียวซิงเจีย มองเพียงเสิ่นชิงซู น้ำเสียงทุ้มใส “วันที่คุณหมดสติไปหนึ่งวัน ผมกับหมอซ่งตรวจร่างกายให้คุณอีกรอบ นี่คือรายงานผลตรวจเลือด เมื่อวานพวกเราปรึกษากับหัวหน้าแผนกการแพทย์แผนจีนหลายท่านแล้ว แผนการรักษาในปัจจุบันคือการรักษาร่วมกันระหว่างแพทย์แผนจีนและแผนตะวันตก ยังไม่ทำคีโม ตอนนี้ร่างกายคุณอ่อนแอเกินไป ทนผลข้างเคียงจากการทำคีโมไม่ไหว”เสิ่นชิงซูทำใจยอมรับเรื่องที่ตัวเองป่วยได้แล้วหลังจากผ่านเรื่องราวในประเทศเอ็น เธอก็ยอมรับชะตากรรมแล้วแต่ยังมีลูกอีกสองคน ต่อให้เจ็บปวดแค่ไหน หรือความหวังจะริบหรี่เพียงใด เธอก็จะตั้งใจให้ความร่วมมือเธอยิ้มให้ฉินเยี่ยนเฉิงเล็กน้อย “ฉันเชื่อพวกคุณค่ะ ฉันจะให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างเต็มที่”ฉินเยี่ยนเฉิง “สภาพจิตใจก็สำคัญมาก อย่ากังวลเกินไปนะครับ”“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”“ถ้าไม่มีอะ
ในฐานะเพื่อนรัก เฉียวซิงเจียก็มองไม่ออก“อาซู จริง ๆ แล้วถ้าพวกเธอหย่ากันด้วยดี และต่างฝ่ายต่างก็มีคนใหม่ไปอย่างรวดเร็ว งั้นฉันก็คิดว่าระหว่างพวกเธอไม่มีทางเป็นไปได้อีกแน่นอน แต่ว่า...”“ตอนนี้เธออยู่ในสถานะที่ไม่อยากยุ่งกับผู้ชาย อยากจะหาแต่เงินเท่านั้น ส่วนฟู่ซือเหยียนน่ะเห็นได้ชัดว่าตาสว่างเพื่อความรักแล้ว ตอนนี้เขาวางตำแหน่งตัวเองเป็นอัศวินชัด ๆ ฉันดูออกนะ เขาจะไม่บังคับให้เธอกลับไปคืนดี แต่ว่านะ เขาอยากจะคอยปกป้องเธอเงียบ ๆ ในนามพ่อของลูก เธอจะบอกว่าในการปกป้องครั้งนี้ไม่มีความคาดหวังอยู่เลยสักนิด นั่นมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน! ขอแค่ยังมีความรัก ก็ยังต้องมีความคาดหวัง นี่เรียกว่ากบต้มในน้ำอุ่น เมื่อต้องเจอกับการปกป้องแบบนี้ เธออาจจะปฏิเสธเขาอย่างมีสติได้หนึ่งปี สองปี หรือแม้กระทั่งห้าปี แต่ถ้าเขายังไม่ยอมแพ้ตลอดล่ะ เธอจะยืนหยัดได้นานแค่ไหน ตอนนี้เธออาจจะยังปฏิเสธเขาได้อย่างหนักแน่น แต่ถ้าอีกสักสิบปีล่ะ รอจนถึงวัยชรา เจ็บป่วยแก่เฒ่า มีคนรู้ร้อนรู้หนาวคอยอยู่ข้าง ๆ ถึงตอนนั้น เธอยังจะปฏิเสธเขาอย่างหนักแน่นได้อีกเหรอ?”เสิ่นชิงซูหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างท้องฟ้าสีครามกับเมฆสีขาว เป็นอา
เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว “ฉันจ้างพยาบาลพิเศษก็ได้...”“พยาบาลพิเศษก็ต้องจ้าง จ้างพยาบาลพิเศษผู้หญิง เรื่องบางอย่างในฐานะอดีตสามีอย่างผมทำก็ไม่ค่อยสะดวกจริง ๆ”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนถอนหายใจ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย “อาซู คุณลองเปลี่ยนมุมมองดูนะ ผมเป็นพ่อของลูก ผมดูแลคุณให้ดี อนาคตคุณฟื้นตัวแข็งแรงแล้ว ก็จะสามารถอยู่เป็นเพื่อนลูกได้ดียิ่งขึ้น ผมดูแลคุณ จริง ๆ แล้วก็ถือว่ากำลังช่วยตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกอึดอัดใจเลย”เสิ่นชิงซู “...”สมกับที่เป็นทนาย ถ้าต้องโต้เถียงกันจริง ๆ ไม่ว่าจะเหตุผลหรือข้ออ้างอะไรเสิ่นชิงซูก็ตระหนักดีว่าตัวเองพูดสู้เขาไม่ได้!ขณะที่ทั้งสองคนกำลังยื้อกันไปมา ประตูห้องพักคนไข้ก็ถูกเคาะฟู่ซือเหยียนลุกขึ้นไปเปิดประตูทันทีนอกประตูคือเฉียวซิงเจีย“อาซูตื่นหรือยัง?”ฟู่ซือเหยียนเบี่ยงตัวหลีกทาง “เธอเพิ่งตื่น ยังไม่ได้กินอะไร ผมจะลงไปต้มโจ๊กหน่อย คุณอยู่เป็นเพื่อนเธอไปก่อนนะ”เฉียวซิงเจียขานรับเบา ๆฟู่ซือเหยียนก้าวออกไปอย่างรวดเร็วแผ่นหลังนั้นเดินจากไปอย่างเร่งรีบ ทำเอาเฉียวซิงเจียเห็นแล้วก็ขำ“ก่อนหน้านี้ที่ฉันมาเยี่ยมเธอ ฟู







