[ทรมานก่อน สะใจทีหลัง] แต่งงานกันตามข้อตกลงมาห้าปี แม้รู้ทั้งรู้ว่าฟู่ซือเหยียนเลี้ยงชู้รักสวยเย้ายวนยั่วใจไว้ข้างนอก เสิ่นชิงซูก็ยังคงเลือกที่จะกล้ำกลืนฝืนทน กระทั่งเธอค้นพบว่าลูกชายที่เธอเห็นเป็นลูกในไส้เกิดจากฟู่ซือเหยียนกับชู้รัก เธอถึงตระหนักว่าที่แท้การแต่งงานครั้งนี้เป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้น ชู้รักทำเหมือนตัวเองเป็นเมียหลวง บุกมาถึงบ้านพร้อมกับใบหย่าที่ฟู่ซือเหยียนร่างขึ้นมา ในวันนั้นเอง เสิ่นชิงซูตรวจสอบรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ในเมื่อผู้ชายได้แปดเปื้อนไปแล้ว งั้นก็อย่าเอามันเลย ส่วนลูกชายที่เป็นลูกชู้ก็ส่งคืนให้ชู้ไปเสีย เสิ่นชิงซูที่ตัดขาดจากความรักและความสัมพันธ์ได้แสดงความสามารถอย่างเฉิดฉาย หาเงินเองอย่างสง่างามตามลำพัง ญาติใกล้ชิดที่เคยดูถูกเหยียดหยามเธอในวันวานนึกเสียใจแล้ว พยายามแย่งกันมาประจบเอาใจเธอกันยกใหญ่ บรรดาลูกหลานตระกูลเศรษฐีที่เคยหัวเราะเยาะเธอว่าพึ่งผู้ชายในการไต่เต้าก็นึกเสียใจแล้วเหมือนกัน ต่างพากันทุ่มเงินวิงวอนขอความรักจากเธอ เด็กน้อยซึ่งถูกหญิงอื่นสั่งสอนจนเสียผู้เสียคนก็เสียใจแล้วเหมือนกัน จึงร้องห่มร้องไห้พลางเรียกเธอว่าแม่ ...... กลางดึกในคืนนั้น เสิ่นชิงซูได้รับสายหนึ่งจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก น้ำเสียงเมามายของฟู่ซือเหยียนดังมาจากปลายสาย “อาซู คุณจะตอบตกลงแต่งงานกับหมอนั่นไม่ได้นะ ผมยังไม่ได้เซ็นใบหย่า”
ดูเพิ่มเติมเสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ
เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช
เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา
เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ
เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน
เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ
ความคิดเห็น