[ทรมานก่อน สะใจทีหลัง] แต่งงานกันตามข้อตกลงมาห้าปี แม้รู้ทั้งรู้ว่าฟู่ซือเหยียนเลี้ยงชู้รักสวยเย้ายวนยั่วใจไว้ข้างนอก เสิ่นชิงซูก็ยังคงเลือกที่จะกล้ำกลืนฝืนทน กระทั่งเธอค้นพบว่าลูกชายที่เธอเห็นเป็นลูกในไส้เกิดจากฟู่ซือเหยียนกับชู้รัก เธอถึงตระหนักว่าที่แท้การแต่งงานครั้งนี้เป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้น ชู้รักทำเหมือนตัวเองเป็นเมียหลวง บุกมาถึงบ้านพร้อมกับใบหย่าที่ฟู่ซือเหยียนร่างขึ้นมา ในวันนั้นเอง เสิ่นชิงซูตรวจสอบรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ในเมื่อผู้ชายได้แปดเปื้อนไปแล้ว งั้นก็อย่าเอามันเลย ส่วนลูกชายที่เป็นลูกชู้ก็ส่งคืนให้ชู้ไปเสีย เสิ่นชิงซูที่ตัดขาดจากความรักและความสัมพันธ์ได้แสดงความสามารถอย่างเฉิดฉาย หาเงินเองอย่างสง่างามตามลำพัง ญาติใกล้ชิดที่เคยดูถูกเหยียดหยามเธอในวันวานนึกเสียใจแล้ว พยายามแย่งกันมาประจบเอาใจเธอกันยกใหญ่ บรรดาลูกหลานตระกูลเศรษฐีที่เคยหัวเราะเยาะเธอว่าพึ่งผู้ชายในการไต่เต้าก็นึกเสียใจแล้วเหมือนกัน ต่างพากันทุ่มเงินวิงวอนขอความรักจากเธอ เด็กน้อยซึ่งถูกหญิงอื่นสั่งสอนจนเสียผู้เสียคนก็เสียใจแล้วเหมือนกัน จึงร้องห่มร้องไห้พลางเรียกเธอว่าแม่ ...... กลางดึกในคืนนั้น เสิ่นชิงซูได้รับสายหนึ่งจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก น้ำเสียงเมามายของฟู่ซือเหยียนดังมาจากปลายสาย “อาซู คุณจะตอบตกลงแต่งงานกับหมอนั่นไม่ได้นะ ผมยังไม่ได้เซ็นใบหย่า”
ดูเพิ่มเติมแกร้ง!เสียงมีดผ่าตัดหล่นลงพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนแพทย์วิสัญญีที่กำลังจะฉีดยาก็ชะงักทันที!หัวหน้าเจียงขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ช่วยคนที่หนึ่ง “เธอเป็นอะไรไป?”ผู้ช่วยคนที่หนึ่งทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่ฉันนะคะ นี่มัน...”ทันใดนั้นแพทย์วิสัญญีก็ดึงเข็มฉีดยาออก “แผ่นดินไหว!”เสิ่นชิงซูเบิกตาโพลงขึ้นทันที......ไฟผ่าตัดเหนือศีรษะกะพริบติด ๆ ดับ ๆ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เตียงผ่าตัดใต้ร่างกำลังสั่นไหว!ในวินาทีต่อมา เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงพยาบาล!“หยุดการผ่าตัด! อพยพไปทางหนีไฟเร็วเข้า...”เสิ่นชิงซูงุนงงไปหมด ถูกเฉียวซิงเจียและแพทย์วิสัญญีประคองลงจากเตียงผ่าตัดประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทางเดินเต็มไปด้วยผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สถานการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่งเวินจิ่งซีเห็นพวกเธอออกมาก็รีบเข้าไปหา“เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดไปหรือยัง?”“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เฉียวซิงเจียพูดพร้อมกับประคองเสิ่นชิงซูเวินจิ่งซีพยักหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาคอยป้องกันพวกเธอขณะเดินไปยังทางหนีไฟ...โชคดีที่แผ่นดินไหวหยุดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ทั้งทางหนีไฟและทางเดินต่างเต็มไปด้วยผู้คนถึงแ
เสิ่นชิงซูต้องตรวจเจอว่าท้องตั้งนานแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญคือเธอไม่เคยคิดจะบอกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!ฟู่ซือเหยียนนึกถึงวันนั้น...วันนั้นทั้งลมทั้งหิมะรุนแรงขนาดนั้น ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ทำให้เขาในตอนนั้นถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว กลับมองข้ามรายละเอียดที่สำคัญที่สุดไป!รถเมย์บัคแล่นด้วยความเร็วสูงอยู่บนถนนในเมือง เปลี่ยนเลนอย่างอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย!ภายในรถ มือที่กุมพวงมาลัยของฟู่ซือเหยียนเกร็งแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเย็นชานี่เสิ่นชิงซูวางแผนที่จะหย่าทั้ง ๆ ที่ท้องลูกของเขา แล้วไปคบกับเวินจิ่งซีอย่างนั้นเหรอ?เธอคิดจะให้ลูกของเขาเรียกคนอื่นว่าพ่องั้นเหรอ?ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มแน่นอยู่พลันโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน“เหอะ เสิ่นชิงซู คุณนี่มันแน่จริง ๆ!”ฟู่ซือเหยียนกุมพวงมาลัยด้วยมือเดียว เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรออกหาฉินเยี่ยนเฉิง“เสิ่นชิงซูอยู่ที่โรงพยาบาลพวกนาย นายรีบช่วยฉันเช็คประวัติการรักษาของเธอให้หน่อยสิ...”ปรี๊น ปรี๊น...ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ฝ่าไฟแดงพุ่งออกมาจากสี่แยกข้างหน้า!ฟู่ซือ
เฉียวซิงเจียช่วยเสิ่นชิงซูทำเรื่องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอีกสองสามอย่างผลตรวจจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงเวลาแห่งการรอนั้นยาวนานและทรมาน เสิ่นชิงซูยืนอยู่ริมหน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเฉียวซิงเจียและเวินจิ่งซีอยู่เป็นเพื่อนเธอเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าไปรบกวนครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผลตรวจออกมา ทุกอย่างเป็นปกติ สามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน ทางห้องผ่าตัดก็ส่งข่าวมาว่าเตรียมพร้อมแล้ว“อาซู” เฉียวซิงเจียเรียกเธอ “เราต้องไปที่ห้องผ่าตัดแล้วนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ขนตาของเสิ่นชิงซูก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมาเฉียวซิงเจียเดินเข้ามาสวมกอดเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเบา “อืม”เวินจิ่งซียืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักทั้งสามคนมาถึงหน้าห้องผ่าตัด เวินจิ่งซีหยุดเดินเฉียวซิงเจียควงแขนเสิ่นชิงซูเดินเข้าไป ประตูห้องผ่าตัดปิดลงอย่างหนักหน่วง......ศาลประชาชนเมืองเป่ย ผู
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ” เสิ่นชิงซูเม้มปากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันขอบคุณในความหวังดีของคุณมากนะ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว”เวินจิ่งซีลุกขึ้นยืนตาม จ้องมองเธอแล้วถามย้ำ “แน่ใจแล้วเหรอครับ?”“อืม” เสิ่นชิงซูพยักหน้า น้ำเสียงหนักแน่น “ตอนแรกฉันยังคิดอยู่เลยว่าหลังผ่าตัดจะปิดบังคุณยังไงดี แต่ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว ก็ช่วยฉันเก็บเป็นความลับด้วยแล้วกันนะ”เวินจิ่งซีเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรต่อ“คุณวางใจได้เลย ผมช่วยคุณเก็บเป็นความลับแน่นอน” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามต่อ “พรุ่งนี้คุณผ่าตัดกี่โมงเหรอ?”“เก้าโมงค่ะ”“งั้นพรุ่งนี้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูไม่อยากรบกวนเวินจิ่งซี “ซิงซิงอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเธอจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยเอง”“อาจารย์กับภรรยาของอาจารย์กำชับผมนักหนาก่อนที่เขาจะไป ว่าต้องดูแลคุณให้ดี” เวินจิ่งซีพูด “คุณจะให้ผมช่วยเก็บเป็นความลับ งั้นอย่างน้อยผมก็ต้องอยู่เฝ้าคุณ ให้แน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ผมถึงจะวางใจได้!”เสิ่นชิงซูยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินจิ่งซีก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นก่
ฟู่ซือเหยียนพาฟู่ซืออวี่จากไป พร้อมกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ที่โจวอวี๋ชูย้ำนักย้ำหนาว่าเสิ่นชิงซูจะต้องชอบหลังจากพวกเขาไปแล้ว เสิ่นชิงซูที่ฝืนทนมาตลอดก็ล้มพับลงเวินจิ่งซีรับร่างที่อ่อนแรงของเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนโซฟาในห้องทำงานเสิ่นชิงซูพิงโซฟา มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก หายใจหอบถี่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนี่คืออาการหายใจเร็วเกินไปที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปเวินจิ่งซีใช้มือปิดปากเธอ แล้วแนะนำอย่างใจเย็น “คุณหายใจเร็วเกินไป ปิดปาก แล้วทำตามจังหวะผมนะ หนึ่ง สอง หายใจ ใช่ แบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง หายใจ...”ด้วยความช่วยเหลือของเวินจิ่งซี ในที่สุดการหายใจของเสิ่นชิงซูก็กลับมาเป็นปกติเวินจิ่งซีรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง ส่งไปจ่อที่ริมฝีปากเธอ “ดื่มน้ำหน่อยนะ”เสิ่นชิงซูพิงโซฟาอยู่ หลังจากดื่มน้ำอุ่นไปครึ่งแก้ว ร่างกายที่เกร็งอยู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเวินจิ่งซีคว้าหมอนอิงใบหนึ่งมารองหลังให้เธอ “พิงไว้จะสบายขึ้นหน่อย”เสิ่นชิงซูมองเวินจิ่งซี ริมฝีปากที่ซีดเซียวเม้มขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณค่ะ”จากการที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ เธอพบว่าถึงแม้เวินจิ่งซีจะปากร้ายไปหน่อย แต
เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียน ถ้อยคำของเขาแทงใจจนเธอต้องยิ้มทั้งน้ำตา“ฟู่ซือเหยียน ลูกชายของคุณเขามีแม่ของเขาอยู่แล้ว แม่ของเขาชื่อโจวอวี๋ชู ไม่ใช่ฉันเสิ่นชิงซู! แล้วก็ ในเมื่อคุณคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่แม่ที่ได้เรื่อง งั้นก็ได้ ฉันยอมรับ! เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของฟู่ซืออวี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เชิญคุณพาลูกชายของคุณไสหัวออกไปจากที่ของฉันได้แล้ว!”เสิ่นชิงซูพูดรวดเดียวจบ ก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ร่างบางโงนเงนเหมือนจะล้มเวินจิ่งซีรีบเข้าไปประคองเธอไว้ ก้มลงกระซิบถามข้างหูเบา ๆ “คุณยังโอเคไหม?”เสิ่นชิงซูสูดหายใจลึก ภาพที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนขึ้น เธอส่ายหน้า “ยังไหว”ฟู่ซือเหยียนมองการกระทำของคนทั้งสอง สันกรามล่างเกร็งแน่น แววตาเย็นเยียบในขณะที่ฟู่ซืออวี่กำลังจ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอย ปากเล็ก ๆ ยังอ้าค้างอยู่ แต่กลับลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้เมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะ?แม่...ไม่ต้องการเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาในใจของฟู่ซืออวี่ มือที่โอบคอฟู่ซือเหยียนอยู่กระชับแน่นขึ้น “พ่อครับ แม่แค่พูดประชดใช่ไหมครับ? แม่เป็นแม่ของผม แม่ไม่มีทางไม่ต้องการผมใช่ไหมค
ความคิดเห็น