เพียงนึกถึงอวี้เจียวหรง ไฟแค้นในใจของชายหนุ่มก็ลุกโชนจนยากที่จะควบคุมไว้ได้อยู่ โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงท่าทีที่สนิทสนมระหว่างอวี้เจียวหรงและฉินเป่ย เขาก็แค้นเสียจนอยากหั่นฉินเป่ยออกเป็นพันเป็นหมื่นชิ้นเพียงครู่เดียว รถทุกคนก็มุ่งกลับสู่เมืองหยางตูทันทีในเช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเป่ยลืมตาขึ้นแล้วพบว่าข้างกายมีอวี้เจียวหรงและหลินชิงเสียนอนทับแขนทั้งสองข้างของเขาอยู่คนละฝั่ง หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็นอนหลับสนิทตอนนี้เองที่ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกได้ว่าแขนทั้งสองข้างนั้นปวดระบมไปเสียหมด เมื่อพิจารณาดูให้ดีแล้วก็พบว่าอวี้เจียวหรงกับหลินชิวเสียยังนอนน้ำลายยืดอีก เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกเขาจำได้ว่าเมื่อคืนนี้ตอนที่กลับมาก็เห็นว่าอวี้เจียวหรงหลับไปแล้ว เขาจึงไปที่ห้องของหลินชิวเสียเพื่อฝังเข็มแทนหญิงสาวจากนั้นเขาก็นอนที่อีกห้องหนึ่งเพียงลำพัง แต่บัดนี้ชายหนุ่มไม่อาจรู้ได้เลยว่าตนเองมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร มิหนำซ้ำยังนอนอยู่กับอวี้เจียวหรงและหลินชิวเสียด้วยเสียอีกครั้นเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของหญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังหลับพริ้ม สมองของฉินเป่ยก็สั่งการให้นิ่งสงบลงทันที ชายหนุ่มค่อย ๆ ดึงแขนท
“เร็วสิ คุณยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่าน่ะ”“ฉันเป็นฝ่ายรุกขนาดนี้แล้ว คุณก็เลิกชักช้าลีลาสักทีได้ไหม!”พอเห็นฉินเป่ยนิ่งอยู่กับที่ หญิงสาวก็โกรธขึ้นมาทันทีฉินเป่ยสงบจิตสงบใจในทันที ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปคว้าเสื้อของเธอคลุมตัวคนรักเอาไว้พลางเอ่ย “หรงเอ่อร์ คุณอย่าทำแบบนี้เลย คุณมีอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่า”“เปล่านี่คะ ในเมื่อคุณไม่รุกงั้นเดี๋ยวฉันจัดเอง นอนลงสิ”อวี่เจียวหรงผลักฉินเป่ยลงอย่างเด็ดเดี่ยวและนั่งคร่อมบนตัวของชายหนุ่ม ส่งผลให้ฉินเป่ยนึกตกใจจนทำตัวไม่ถูก ในเวลานี้เองที่ริมฝีปากอันหอมหวนของอวี่เจียวหรงถูกประทับลงบนริมฝีปากของเขา ด้วยความรียร้อน ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงนวดคลึงบริเวณหลังคอของเธอเบา ๆเพียงครู่เดียว อวี่เจียวหรงก็หมดสติล้มลงบนตัวของชายหนุ่มในที่สุดฉินเป่ยก็ถอนหายใจออกมาได้ด้วยความโล่งอก เมื่อครู่นี้เขาแทบจะยั้งใจไว้ไม่ได้แล้ว แต่เพราะชายหนุ่มรู้สึกว่าคนรักของเขามีบางอย่างที่ผิดแปลกจากปกติ เพราะครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายจู่โจมอย่างดุเดือดมากเกินไปเมื่อขบคิดเรื่องนี้แล้ว ฉินเป่ยก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วโทรไปหาเลขหมายหนึ่ง“บอกมาซะ นายจะส่งเมียฉันไปที่ไหนก
ฉินเป่ยผงะไปในทันที !เหล่าสมาชิกของกองกำลังหงส์ไฟเองก็มองไปที่อวี่เจียวหรงด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่อยากเชื่อ“ทุกคน กลับหันหลัง วิ่งออกไป!”อวี่เจียวหรงออกคำสั่งโดยตรง กองกำลังหงส์ไฟจึงออกวิ่ง เมื่อเห็นไอสังหารของหญิงสาวมีหรือที่ฉินเป่ยจะกล้าลังเล เขาจุมพิตคนรักในทันที !…หนึ่งนาทีต่อมา อวี่เจียวหรงก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ คว้าเชือกที่เฮลิคอปเตอร์ปล่อยลงมาแล้วจากไปเดิมทีฉินเป่ยต้องการจะไปกับเธอเพื่อบอกลาอันหนิง แต่หญิงสาวบอกว่าไม่ทันการเสียแล้ว ไว้เธอจะเป็นคนโทรหาอันหนิงเองฉินเป่ยมองดูเฮลิคอปเตอร์หายลับตาไปในตอนกลางคืน เขาไม่เคยคิดฝันว่า การเดินทางไปของอวี่เจียวหรงครั้งนี้อาจทำให้เขาเสี่ยงต่อการสูญเสียเธอไปในเวลานี้เองที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นมา จู่ๆ ก็มีข้อความจากศิษย์ของเขาพร้อมข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับเขตทะเลกุ่ยไห่และเกาะแห่งนั้นที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นหลังการอ่านอย่างรวดเร็ว ฉินเป่ยก็ตระหนักว่ายังมีอีกหลายสิบดินแดนที่กำลังให้ความสนใจกับเกาะนั้นอยู่ก่อนแล้ว และต่างก็กำลังส่งยอดฝีมือของตนเดินทางไปยังเกาะนี้“การเดินทางของหรงเอ่อร์ในครั้งนี้อาจจะอันตรายกว่าที่คิด”ฉินเป่ย
เวินหงอิงและคนอื่น ๆ มองไปที่ยาบำรุงตานเล็กของฉินเป่ยและฟังแนวความคิดของเขา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวินหงอิง เธอไม่กล้าคิดว่าจะทะลวงขั้นราชาจอมยุทธ์ได้ภายในครึ่งปีด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เธอเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในคำพูดของฉินเป่ย ขณะคนอื่นมองไปยังยาบำรุงตานเล็กในมือของฉินเป่ย ตกใจมากเสียจนดวงตาของพวกเขาแทบหลุดออกจากเบ้าฉินเป่ย มองไปรอบ ๆ ทุกคนและพูดทีละคำ “ทุกคน สิ่งที่ทนไม่ได้ที่สุดในชีวิตของผมคือการทรยศ พวกคุณต้องคิดให้ดี เมื่อคุณเข้าร่วมต้าถังกรุ๊ปแล้ว คุณจะไม่ทรยศไปตลอดชีวิตที่เหลือของคุณ หากระหว่างนี้มีใครทรยศ ผมฉินเป่ย จะไม่ปล่อยไปเป็นอันขาด !”“สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือเม็ดยาและความมั่งคั่งที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดที่พวกคุณพึ่งพาได้ไม่ใช่ผมแต่เป็นกรมการทหาร สิ่งที่ผมให้พวกคุณไปผมก็สามารถนำกลับคืนมาได้เช่นกัน สำหรับพวกคุณแล้ว ตระกูลจ้าวนั้นทรงพลังมาก จ้าวเทียนจี๋ไม่มีวันรามือง่าย ๆ แน่”“ต่อไปพวกคุณทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับการปราบปรามอย่างเต็มกำลังจากพวกตระกูลจ้าว ตระกูลโจวและหวังเป่ยซาน นอกจากนี้ ยังมีบุคคลลึกลับที่คอยกดขี่หลินซื่อกรุ๊ปเอาไว้
โจวห้าวร้องไห้โฮออกมาอู่เทียนสงส่ายหัวพลางทอดถอนหายแล้วพูดว่า “ขาของคุณไม่ได้บาดเจ็บสาหัสมากนัก แต่คุณฉินฝังเข็มที่ขาของคุณเอาไว้ ขอแค่ฝังเข็มอีกครั้งขาของคุณก็จะหายทันที แต่ผมไม่กล้าฝังเข็มลงไปนี่น่ะสิ คุณฉินเคยบอกใช่ไหมว่ามีแค่เขาคนเดียวในโลกที่สามารถรักษาขาของคุณได้น่ะ”โจวห้าวหยุดร้องไห้ เมื่อนึกย้อนดูอย่างละเอียดแล้วเขาก็จำได้ว่าฉินเป่ยเคยพูดไว้จริง ๆ จึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วอู่เทียนสงเห็นดังนั้นจึงกล่าวขึ้น “งั้นก็ใช่แล้วละ คุณไปขอร้องคุณฉินจะดีกว่า ถ้าให้ผมรักษาขาของคุณ คุณคงไม่รอดแน่ !”ครานี้ ใจของสองพ่อลูกราวกับดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้งในพริบตา ความเกลียดชังที่มีต่อฉินเป่ยได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นตอนนี้เองที่จ้าวเทียนจี๋เอ่ยถามด้วยสีหน้าที่หม่นหมองขึ้นมา “หมอเทวดาอู่ คุณไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ เหรอ”อู่เทียนสงส่ายหัว เขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน เขารู้ตั้งแต่ก่อนมาที่เมืองหยางตูว่าฉินเป่ยได้รักษาอาการบาดเจ็บภายในของอวี่เจียวหรงจนหายดีแล้ว ตอนนั้นได้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะวัดทักษะทางการแพทย์กับฉินเป่ยสักตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่ที่โรงแรมไดนาสตี้เขากลับยังไม่มีโอกาส ยามนี้พอได้เห็น
จ้าวเทียนจี๋เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเป่ยเฉินอีหลางพูดขึ้นทันที “ดูเหมือนว่าแกจะมั่นใจมากว่าหมาแก่อู่นั่นจะเข้าร่วม ฉันดีใจจริง ๆ ต่อไปแกต้องพยายามแล้วละนะ คราวนี้แกแพ้เด็กฉินเป่ยนั่น ทำให้ฉันผิดหวังในตัวแกมากจริง ๆ !”“อาจารย์จะสอนวิชาลับให้แกในตอนนี้ เมื่อแกเรียนสำเร็จแล้ว ระดับการบำเพ็ญของแกจะเพิ่มขึ้นได้มากในระยะเวลาสั้น ๆ ภายหน้าอาจารย์จะสอนวิชาดาบเป่ยเฉินให้แกอย่างเป็นทางการ”“แล้วแกก็ต้องจัดเตรียมต้อนรับนักฆ่าที่แกเชิญมาให้เรียบร้อย บอกพวกเขาว่าอย่าเพิ่งทำอะไร ฉันอยากพบกับเจ้าเด็กฉินเป่ยนั่นด้วยตัวเอง ฉันอยากจะรู้นักว่าเขามีความลับอะไรกันแน่ !”“นอกจากนี้ แกต้องเร่งสร้างกองกำลังในเมืองหยางตูให้อาจารย์ เรื่องเงินและทรัพยากรไม่ใช่ปัญหา”“สิ่งสุดท้ายและสำคัญที่สุด ก็คือการส่งคนไปอยู่กับหลินชิวเสียและหลินซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด”“ศิษย์รับคำสั่ง แต่อาจารย์ครับ มีบางอย่างที่ศิษย์ไม่เข้าใจนัก”เป่ยเฉินอีหลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วเอ่ยขึ้น “ว่ามาได้”จ้าวเทียนจี๋เห็นดังนั้นก็รีบเอ่ยถามขึ้นทันที “อาจารย์ ถ้าอาจารย์ต้องการตัวหลินชิวเสีย ศิษย์จะให้คนไปพาตัวเธอมาขึ้นเตียงของอาจารย์ทันท
โจวซินหลานต้องการเลือกผู้ช่วยคนใหม่จากกลุ่มผู้คนที่มาใหม่ให้กับหลินชิวเสีย หลังจากการสัมภาษณ์และการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ในที่สุดเธอจึงเลือกเฉินเยี่ยนซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง เฉินเยี่ยนมีอายุใกล้เคียงกับเธอ เป็นคนจินหลิง ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มาจากคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยชั้นนำดินแดนพระอาทิตย์!เหตุผลสำคัญที่เธอเลือกเฉินเยี่ยน นอกจากจะเห็นถึงความสามารถของเธอแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเพื่อนสนิทของเธอที่อยู่จินหลิงได้แนะนำเฉินเยี่ยนให้กับเธอ เธอจึงเชื่อว่านิสัยของเฉินเยี่ยนจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนหลังจากจัดเรียงเอกสารของเฉินเยี่ยนเสร็จอีกครั้ง โจวซินหลานก็เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงานในขณะเดียวกันฉินเป่ยและเวินซูซูได้เข้าไปยังห้องนั่งเล่นของหลินชิวเสีย ถึงแม้ว่าก่อนที่จะมา ฉินเป่ยได้แจ้งเธอไว้แล้วว่าจะรักษาให้เธอ ไม่อนุญาตให้เธอทำงานแต่พอฉินเป่ยเข้าไปยังห้องนั่งเล่น กลับพบว่าเธอกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการทำงาน ทั้งทานข้าวทั้งทำงานไปด้วย!พอฉินเป่ยเห็นเข้าก็โมโหขึ้นมาทันที“ทำไมคุณไม่ฟังผมสักนิดเลยนะ?”ฉินเป่ยก้าวไปข้างหน้าแล้
ด้านนอกของห้องนั่งเล่น โจวซินหลานพาเฉินเยี่ยนมาถึงแล้ว“ประธานหลินไม่สบาย พี่ฉินกำลังรักษาประธานหลินอยู่ พวกเราสองคนรออยู่ที่นี่ก่อน ต่อไปคุณต้องแบ่งเบาภาระประธานหลินให้มาก ๆ ล่ะ อย่าปล่อยให้เธอทำงานหนักเกินไป”โจวซินหลานหาที่นั่งแล้วนั่งลง ทั้งกำชับเฉินเยี่ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฉินเยี่ยนเคารพในตัวเธอมาก เธอมีความสุขมากที่ได้มาเป็นผู้ช่วยของหลินชิวเสีย“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ รองประธานโจว ฉันจดจำสิ่งที่คุณพูดมาได้หมดแล้ว ว่าแต่รองประธานโจวคะ ประธานหลินป่วยเป็นโรคอะไรเหรอคะ ร้ายแรงไหมคะ? ตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่ต่างประเทศรู้จักกับหมอท่านหนึ่งมีชื่อเสียงมาก ฉันสามารถเชิญเขามารักษาประธานหลินที่นี่ได้นะคะ!”เฉินเยี่ยนเป็นวัยแรกรุ่นที่หน้าตางดงาม หุ่นดี มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้านโจวซินหลานพอใจในตัวเธอมาก“ฉันขอบคุณคุณแทนประธานหลินด้วยนะ แต่ว่าโรคของประธานหลินมีแค่พี่ฉินเท่านั้นที่จะสามารถรักษาให้หายได้ อีกอย่างเธอก็ยอมให้พี่ฉินรักษาเพียงแค่คนเดียวน่ะ”“ผู้ช่วยเฉิน ไม่ต้องกังวลกับอาการป่วยของประธานหลินหรอก ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอ!”พอเฉินเยี่ยนได้ยิน ก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วทันใ