“ฮั่วซือหาน ปล่อยฉัน!”ฉือหว่านผลักเขาออกสุดแรงหางตาเรียวยาวของฮั่วซือหานมีแววปรารถนาเรื่อยซึม เขายังโน้มตัวจะจูบฉือหว่านอีกครั้ง“ฮั่วซือหาน เราหย่ากันแล้วนะ คุณควรนึกถึงฉือเจียวบ้าง!”ชื่อของ “ฉือเจียว” ราวกับน้ำเย็นถังใหญ่ราดลงมากลางหัวฮั่วซือหาน เขาชะงักทันทีฉือหว่านใช้แรงผลักเขาออก แล้วหันหลังวิ่งหนีไปทันทีฮั่วซือหานยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองเมื่อครู่ทำอะไรลงไปบ้าง ฉือเจียวคือผู้หญิงของเขา เขารู้ว่าตัวเองต้องรับผิดชอบต่อเธอแต่เขากลับถูกฉือหว่านดึงดูดตลอดเวลา ควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนต้องมนต์สะกดบางอย่าง……หลังจากกินหม้อไฟเสร็จ ทุกคนกลับมายังโรงแรมริมทะเลฮั่วซือหานเดินอยู่กับรุ่นพี่ชายอีกสองคน ข้างหน้า ฉือหว่านกับโจวจิ่นเดินคู่กันอยู่ฮั่วซือหานมองไป โจวจิ่นไม่รู้พูดอะไรออกมา ฉือหว่านหัวเราะอย่างสดใส“รุ่นพี่ฮั่ว คุณพักห้อง 621 แบบนี้โอเคไหม?”ฮั่วซือหานไม่แสดงสีหน้า “แล้วรุ่นน้องโจวพักห้องไหน?”“รุ่นน้องโจวพัก 609 ค่ะ อยู่ตรงข้ามห้องน้องฉือเลย”“รุ่นพี่ฮั่ว ฉันว่าโจวจิ่นกับน้องฉือเหมาะกันดีนะคะ เราควรช่วยเขาสองคน ให้โอกาสอยู่กันต
เขามองเพดานเหนือศีรษะ ที่แท้เขากำลังฝันอยู่เขาฝันถึงฉือหว่านเมื่อคืน ฉือหว่านเข้ามาในความฝันของเขาลำคอของเขาตึงแน่น กล้ามเนื้อทั่วร่างเกร็งไปทีละนิ้ว ความเป็นชายที่เลือดลมพลุ่งพล่านนั้น ในช่วงเช้าย่อมไวต่อความรู้สึกเป็นพิเศษฮั่วซือหานค่อยๆ เอื้อมมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม หลับตาลงอย่างอ่อนแรงและปล่อยตัว……หิมะข้างนอกตกทั้งคืน วันนี้ทุกคนได้นัดกันไปเล่นสกีทุกคนมารวมตัวกันครบแล้ว เหลือเพียงฮั่วซือหานที่ยังไม่ออกมา“รุ่นพี่ฮั่วยังไม่มาอีกเหรอ?”“เดี๋ยวฉันไปเรียกรุ่นพี่ฮั่ว”ทุกคนเตรียมจะไปตามฮั่วซือหาน แต่ในตอนนั้นเอง ฮั่วซือหานก็เดินออกมาจากห้อง“อรุณสวัสดิ์ รุ่นพี่ฮั่ว”บนใบหน้าหล่อเหลาไร้อารมณ์ใดๆ ของฮั่วซือหาน แต่รัศมีรอบตัวกลับเย็นเฉียบเหมือนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เขาแค่พยักหน้าเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์”“รุ่นพี่ฮั่วมาแล้ว งั้นพวกเราออกเดินทางไปลานสกีกันเถอะ!”ฮั่วซือหานเห็นฉือหว่าน เธอยืนอยู่ข้างโจวจิ่นโจวจิ่นกำลังคุยกับเธอ “น้องฉือ ฉันเพิ่งส่งวีแชทให้เธอเมื่อกี้ เธอเห็นไหม?”ฉือหว่านพยักหน้า “เห็นแล้วค่ะ รุ่นพี่โจว”ฮั่วซือหานหัวเราะเย็น “รุ่นน้องโจว เธอมีวีแชทของฉือหว่าน
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าหล่อเหลาสง่างามของฮั่วซือหานเมื่อครู่นี้ ในเสี้ยววินาทีที่วิกฤตที่สุด ฮั่วซือหานเป้นคนที่พุ่งเข้ามาทำไมถึงเป็นเขา?“ประธานฮั่ว?”ร่างของทั้งสองคนกลิ้งตกลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว ข้างล่างนั้นมีหินก้อนใหญ่ ทั้งสองคนกำลังจะชนหินนั่นแล้วฮั่วซือหานใช้แขนแข็งแรงโอบรัดฉือหว่านไว้แน่น พูดเสียงเบา “กอดฉันให้แน่น”ฉือหว่านรีบกอดฮั่วซือหานโดยไม่รู้ตัว“ปัง” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งสองคนชนเข้ากับก้อนหินและหยุดลงตอนนี้ฝ่ายชายอยู่ด้านล่าง ฝ่ายหญิงอยู่ด้านบน ฉือหว่านถูกฮั่วซือหานโอบกอดอยู่ เธอนอนทับอยู่บนตัวเขา รีบยันตัวขึ้น “ประธานฮั่ว คุณชนหินรึเปล่า?”เมื่อครู่ก่อนจะชนเข้ากับหิน ฮั่วซือหานอุ้มเธอแล้วบิดตัวแรงๆ ศีรษะของเขาชนเข้ากับหินเสียงดัง “ปัง”เธอไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะถูกเขากอดไว้แน่นจนไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยตอนนี้ฮั่วซือหานหลับตาอยู่ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆฉือหว่านตกใจมาก “ประธานฮั่ว? ประธานฮั่ว! ลืมตาสิ อย่าทำให้ฉันกลัวนะ!”ฮั่วซือหานก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆฉือหว่านพยายามจะลุกขึ้นไปตามคนแต่แขนเรียวของเธอกลับถูกมือใหญ
ฮั่วซือหานค่อยๆ หันใบหน้าหล่อเหลาของเขาไปทางด้านข้างฉือหว่านกำลังตั้งใจนวดก้อนบวมให้เขาอยู่ จนไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในท่าทีที่คลุมเครือแค่ไหน จู่ๆ ฮั่วซือหานก็หันหน้ามา เธอรู้สึกว่าริมฝีปากเหมือนถูกบางอย่งนุ่มๆ สัมผัสเข้าริมฝีปากบางเย็นชาของฮั่วซือหานเฉียดกับริมฝีปากแดงนุ่มของเธอ ทั้งสองจูบกันโดยไม่ได้ตั้งใจดวงตาใสกระจ่างของฉือหว่านเบิกกว้างทันที ร่างชะงักแน่นิ่งฮั่วซือหานมองเธอ “ฉือหว่าน เธอจูบฉัน!”เขาพูดว่า ฉือหว่าน เธอจูบฉัน!ฉือหว่านอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พอดีโจวจิ่นกับพวกรุ่นพี่ก็ตามหากันมาถึงแล้ว “รุ่นน้องฉือ? รุ่นน้องฉือ!”“เมื่อกี้ยังเห็นรุ่นน้องฉือเล่นสกีอยู่ตรงนั้นเอง ทำไมจู่ๆ หายไปซะแล้ว?”ฉือหว่านหายตัวไป โจวจิ่นเลยพาทุกคนออกตามหาฉือหว่านกำลังจะส่งเสียง “ฉัน…”แต่คำพูดยังไม่ทันหลุดจากปาก เธอก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งจับท้ายทอยไว้ ฮั่วซือหานโน้มหน้าเข้ามาจูบเธอทันทีเขาคิดจะทำอะไรน่ะ!?ฉือหว่านรีบขัดขืน แต่แรงของผู้ชายแข็งแรงกว่ามาก เขากดท้ายทอยเธอไว้แน่นไม่ให้เธอหนีไปไหน แถมยังแทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดจูบอย่างหนักหน่วงตอนนั้นเอง โจวจิ่นก็เด
“ฮั่วซือหาน เราเคยเจอกันมาก่อน!”เคยเจอกันมาก่อนงั้นเหรอ?แต่เขากลับไม่จำได้เลยสักนิด เขาเคยเจอเธอตอนไหนกัน?ทว่า ความรู้สึกที่เธอให้กับเขานั้นมันคุ้นเคยเหลือเกิน ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ที่จะเข้าใกล้เธอ“ฮั่วซือหาน เรา…”ฉือหว่านยกมือแตะที่ลำคอของตัวเอง ตั้งใจจะหยิบหยกจี้ที่เขาเคยให้เธอออกมาแต่กลับคลำไม่เจอ แล้วเธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหยกจี้นั้นเธอวางไว้ในห้อง“ฮั่วซือหาน รอฉันตรงนี้นะ ฉันจะกลับไปเอาของชิ้นหนึ่ง แล้วจะรีบกลับมา” พูดจบฉือหว่านก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งจากไปฮั่วซือหานมองเงาร่างบอบบางของเธอที่ค่อยๆ ห่างออกไป ก็ตกอยู่ในภวังค์ เธอจะไปเอาอะไร?…ฉือหว่านกลับมาที่โรงแรม รีบตรงไปยังห้องของตัวเอง แล้วหยิบหยกจี้ชิ้นนั้นออกมาเธอจับจี้หยกไว้ในฝ่ามือ หวังว่าตอนที่ฮั่วซือหานเห็น มันจะช่วยให้เขารำลึกถึงอดีตที่เคยมีร่วมกันได้ฮั่วซือหานจะจำเธอได้ไหมนะ?เธออยากลองดูสักครั้งฉือหว่านถือหยกจี้แล้วรีบวิ่งกลับไปยังลานสกี จากที่ไกลๆ เธอก็มองเห็นฮั่วซือหานที่ยังยืนรออยู่ที่เดิมฉือหว่านอยากวิ่งเข้าไปหา “ฮั่ว…”แต่เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เธอกลับหยุดชะงั
เขาจะจับได้ไหมว่าเธอกำลังปลอมตัวเป็นฉือหว่านอยู่?ฮั่วซือหานมองไปรอบๆ เขารออยู่นานมากแล้ว แต่ฉือหว่านก็ยังไม่กลับมาในที่สุด ฮั่วซือหานก็ก้าวเท้าเดินออกไปฉือเจียวตรงเข้าไปหากู้เป่ยเฉิน “เป่ยเฉิน ตอนนี้พี่รองของนายหลงฉือหว่านไปแล้ว นายต้องช่วยฉันนะ”กู้เป่ยเฉินไม่พูดอะไรหัวใจของฉือเจียวเริ่มร้อนรนอย่างรุนแรง เธอรู้ว่ากู้เป่ยเฉินเคยตั้งใจจะจีบสาวอัจฉริยะคนนี้มาตลอด และตอนนี้เขาก็เพิ่งรู้ว่าฉือหว่านคือเด็กสาวอัจฉริยะคนนั้น แล้วหัวใจของกู้เป่ยเฉินจะเริ่มเอนเอียงไปทางฉือหว่านหรือเปล่า?ไม่ได้เด็ดขาดเธอจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้ฉือเจียวรีบคว้าแขนเสื้อของกู้เป่ยเฉินไว้ แล้วเริ่มใส่ร้ายฉือหว่าน “เป่ยเฉิน นายอย่าไปหลงกลฉือหว่านเชียวนะ คนอย่างเธอรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่กลับไม่พูดออกมา แกล้งทำเป็นปิดบังไว้ แค่จะคอยเล่นกับใจนายกับซือหาน จากนั้นก็ไปแย่งซีนกลางงานสัมมนา หล่อนมันเจ้าเล่ห์มาก รู้ดีว่าจะมัดใจผู้ชายยังไง”กู้เป่ยเฉินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเธอกลับ “ซ้อเจียวเจียว ซ้ออยากให้ผมช่วยยังไง?”ในดวงตาของฉือเจียวฉายแววเย็นชาเจียนกัดกระดูก “เป่ยเฉิน ฉัน
หิมะที่เวยไห่หยุดตกแล้ว แต่ท่าเรือกลับชื้นแฉะและหนาวเย็นเป็นพิเศษฉือเจียวกับกู้เป่ยเฉินยืนอยู่บนท่าเรือ ข้างๆ มีเรือยอชต์ลำหนึ่งจอดอยู่ คนชุดดำคนหนึ่งโยนร่างของฉือหว่านที่ยังหมดสติขึ้นไปบนเรือกู้เป่ยเฉินมองฉือหว่าน แล้วหันไปถามฉือเจียว “ซ้อเจียวเจียว ทำไมซ้อให้คนจับฉือหว่านมาที่นี่? ซ้อทำอะไรฉือหว่าน?”ฉือเจียวขมวดคิ้ว “นี่นายสงสัยฉันเหรอเป่ยเฉิน? ฉันว่าตอนนี้นายเปลี่ยนไปนะ ดูเหมือนจะเริ่มลัง นายมีใจให้ฉือหว่านใช่ไหม?”“เปล่าครับซ้อเจียวเจียว”“เป่ยเฉิน นายยังเห็นฉันเป็นซ้ออยู่ไหม?”กู้เป่ยเฉินพยักหน้า เขาชอบฉือเจียวมาตลอด และเคยคิดว่าเธอกับพี่รองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด “แน่นอนครับ”“งั้นก็พิสูจน์ให้ฉันดูสิ นายเกลียดฉือหว่านที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอสลบอยู่ นายขึ้นเรือไป พาเธอออกไปกลางทะเล แล้วโยนเธอลงน้ำ ให้เธอหายไปจากโลกนี้ตลอดไป”กู้เป่ยเฉินอึ้ง ก่อนหน้านี้ที่ซ้อเจียวเจียวพูดว่าจะทำให้ฉือหว่านหายไป เขานึกว่าเธอพูดเล่น แต่ไม่คิดว่าฉือเจียวอยากให้ฉือหว่านหายไปจริงๆกู้เป่ยเฉินยืนนิ่ง “ซ้อเจียวเจียว…”“เป่ยเฉิน ตอนนี้แม้แต่นายก็ไม่ช่วยฉันแล้วใช่ไหม? ทั้งนายทั้งพี่รอ
ความจริงแล้ว ฉือเจียวได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เธอให้คนลอบติดตั้งระเบิดไว้บนเรือยอชต์ลำนั้นและนี่ก็คือระบบจับเวลาของระเบิดอีกเพียงสามนาที เรือก็จะระเบิดฉือเจียวมองออกไปยังผืนน้ำกว้างไกลในทะเล “กู้เป่ยเฉิน อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวนายเอง หัวใจของนายเริ่มเอียงไปหาฉือหว่านแล้ว งั้นก็หายไปพร้อมกันเถอะ!”…บนเรือยอชต์ กู้เป่ยเฉินกำลังจะบังคับเรือกลับฝั่งแต่ในตอนนั้นเอง คลื่นยักษ์ลูกหนึ่งกระแทกเข้ามา น้ำเย็นเฉียบสาดกระเซ็นไปโดนใบหน้าของฉือหว่านขนตาเรียวยาวของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ฉือหว่านลืมตาขึ้น เธอฟื้นแล้วเธอค่อยๆ ยันตัวขึ้น มองไปที่กู้เป่ยเฉิน “กู้เป่ยเฉิน ที่นี่ที่ไหน?”ซี๊ดเธอรู้สึกเจ็บบริเวณท้ายทอยแปลบๆกู้เป่ยเฉินรีบหันมาทางเธอ “ฉือหว่าน เธอฟื้นแล้วเหรอ?”ฉือหว่านเริ่มจับต้นชนปลายได้ เธอมองไปรอบๆ เห็นเพียงทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ดวงตากลมโตใสสว่างของเธอพลันเย็นเยียบลง “กู้เป่ยเฉิน คุณพาฉันมาอยู่กลางทะเลทำไม?”“ฉือหว่าน เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย คิดว่าฉันจะทำร้ายเธอเหรอ? ฟังนะ ซ้อเจียวเจียวให้ฉันพาเธอมา ฉันไม่ชอบเธอก็จริง แต่ฉันไม่มีวันทำร้ายเธอหรอก เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับเด
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ
เย่ฮวนเอ่อร์นิ่งไปครู่หนึ่งเธอติดกิ๊บจริงๆ เป็นคุณป้าของเธอที่มอบให้หวังจื่อเหยาหัวเราะ “กิ๊บ Chanel สามหมื่นแปดเธอใส่ได้ตามใจ แต่เงินจำนวนนี้เฉินจิ้นต้องทำงานนานแค่ไหนถึงจะหาได้เธอคิดว่าเธอสองคนเหมาะกันเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์เท้าสะเอว “พวกเราสองคนเหมาะกันหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเธอแต่ที่แน่ๆ คือเธอกับเฉินจิ้นไม่เหมาะกัน!”หวังจื่อเหยา “เธอ!”ตอนนั้นเอง เฉินจิ้นหันไปพูดกับหวังจื่อเหยา “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก อย่าบังคับให้ฉันต้องพูดรอบที่สาม!”หวังจื่อเหยา ทั้งรักทั้งกลัวเฉินจิ้นตอนนี้เขามองมาด้วยสายตาเย็นชาเธอสะท้านไปทั้งตัว“เฉินจิ้น ฉันจะคอยดูเธอกับเย่ฮวนเอ่อร์ไม่มีทางจบลงด้วยดีหรอก!”พูดจบ หวังจื่อเหยาก็พาคนของเธอจากไป“หวังจื่อเหยาคนนั้นในที่สุดก็ไปซักที เฉินจิ้น นายห้ามไปหลงกลเธอเด็ดขาดนะ อย่าไปคบกับเธอ เธอพูดจาด่านายนะ!” เย่ฮวนเอ่อร์พูดกับเฉินจิ้นเฉินจิ้นมองเธอ “หล่อนด่าฉันว่าอะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์กลัวจะกระทบความรู้สึกเขาเลยพูดอ้อมๆ “เธอก็พูดเรื่องครอบครัวของนายไง”เฉินจิ้นเข้าใจดี ความเป็นมาของเขาไม่ใช่ความลับอะไร ใครจะพูดก็พูดไปเขาไม่สนใจเฉินจิ้นมองดวงตากลมโตสดใสของเย่
เฉินจิ้นรีบปล่อยข้อมือของเธอถอยหลังออกไปสองก้าวรักษาระยะห่างอย่างปลอดภัยเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าที่ปีกจมูกมันร้อนๆ เธอยกมือแตะนิ้วเต็มไปด้วยเลือด“อ๊า ฉันเลือดกำเดาไหล” เย่ฮวนเอ่อร์ร้องเสียงหลงเฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่งเธอเลือดกำเดาไหลจริงๆเขาดึงกระดาษทิชชู่สองแผ่นส่งให้ “เงยหน้าขึ้น เดี๋ยวก็หาย”เย่ฮวนเอ่อร์รับกระดาษไว้เงยหน้าขึ้น “ทำไมฉันถึงเลือดกำเดาไหลล่ะ?”เฉินจิ้นไม่ตอบ เปิดประตูเดินออกไปลมเย็นภายนอกพัดใส่หน้าเขาทันทีหนาวมาก แต่ก็พัดกลิ่นหวานๆ ของเด็กสาวออกไปหมดเช่นกันตอนนั้นเอง เย่ฮวนเอ่อร์ที่ห้ามเลือดได้แล้วก็วิ่งตามออกมา “เฉินจิ้น นายรอก่อน ทำไมร่างนายถึงมีแผลเยอะขนาดนั้น?”เฉินจิ้นไม่หยุดยังก้าวยาวๆ ต่อไปแต่เย่ฮวนเอ่อร์ก็ยังไล่ตามเขาพลางบ่นไม่หยุด “แผลพวกนั้นนายไปมีเรื่องกับคนอื่นมาใช่ไหม? ต่อไปอย่าทะเลาะวิวาทแล้วนะตั้งใจเรียนเถอะการเรียนรู้คือทางออกที่ดีที่สุด”เฉินจิ้นไม่มีสีหน้า ทำเหมือนเย่ฮวนเอ่อร์เป็นอากาศแต่แล้วด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว หวังจื่อเหยาเดินนำกลุ่มสาวๆ มาด้วยความโกรธหวังจื่อเหยาตะโกน “เย่ฮวนเอ่อร์ หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันพาคนมาด้วยนะ เธอกลัวไห
เย่ฮวนเอ่อร์พูดทีละคำ เฉินจิ้น นายเห็นหมดทั้งตัวฉันแล้วนะเฉินจิ้นมองเธอ “ฉันไม่ได้ดู”“ยังจะเถียงอีกเหรอ? เมื่อกี้นายไม่ได้มองฉันหรือไง?”เฉินจิ้น “……” มองสิ เขาไม่ได้ตาบอดนี่ใบหน้าสวยหวานของเย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นสีชมพูจางๆ แค่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ เธอก็ทั้งอายทั้งหงุดหงิดเธอคิดว่าเป็นฉือหว่านที่เข้ามาไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา“เมื่อกี้นายเห็นอะไรบ้าง ได้ยินอะไรบ้าง?” เย่ฮวนเอ่อร์ถามเฉินจิ้นเงียบ ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์เกลียดที่สุดคือเวลาที่เขาเงียบไม่ยอมพูด “เป็นใบ้เหรอ?”เฉินจิ้น “เธอบอกว่าอยากได้คัพ D……”อ๊า!เย่ฮวนเอ่อร์ร้องออกมาเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเอามือปิดปากเขาไว้ ไม่ให้พูดต่อ“อย่าพูด!”ฝ่ามือนุ่มของเธอวางลงอย่างรวดเร็วระยะห่างระหว่างทั้งสองคนลดลงทันที เฉินจิ้นมองเข้าไปในดวงตาสวยคมของเธอดวงตาของเธอสว่างสดใสเหมือนมีแสงอาทิตย์อยู่ในนั้น เหมือนกับตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรกไม่มีผิดวันนั้นฝนตกเขาบังเอิญช่วยเธอไว้ ตอนนั้นเธอยังมีปานอยู่บนหน้า แต่ดวงตาคู่นั้นก็ยังสวยแบบนี้เฉินจิ้นยกมือดึงมือนุ่มของเธอลง “ฉันไม่อยากพูด เธอเป็นคนบอกให้ฉันพูดเอง”เย่ฮวนเอ่อร์ “……นายยังจะพูดอีก!”
…………ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เย่ฮวนเอ่อร์หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเธอหันหลัง กำลังสวมชุดชั้นในอยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตูมีคนมาเคาะประตูหวานหว่านมาเร็วจัง?เย่ฮวนเอ่อร์ “เข้ามาได้เลย”ประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออกมีคนเดินเข้ามาไม่ใช่ฉือหว่าน แต่คือเฉินจิ้นเฉินจิ้นมาถึงแล้วพอเขาเดินเข้ามาก็เห็นเย่ฮวนเอ่อร์กำลังเปลี่ยนเสื้อข้างล่างยังสวมกระโปรงยูนิฟอร์มส่วนด้านบนเธอสวมบราใหม่สองมือเรียวขาวกำลังไขว้หลังพยายามติดตะขอบราเฉินจิ้นชะงักไป เขาเคาะประตูแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ผิวของเด็กผู้หญิงขาวเนียนจนแสบตาโครงร่างบอบบาง ผมยาวสีดำขลับไหลลงมาสลวยพันอยู่กับต้นแขนของเธอแผ่นหลังของเธอสวยมากเนื้อเนียนละเอียดกับเอวคอดบางเส้นโค้งรูปตัว S เด่นชัดเตะตาเฉินจิ้นชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เบือนสายตาหนีเขาหันหลัง เตรียมจะเดินออกไปแต่เสียงนุ่มนวลของเด็กสาวก็ดังขึ้น “ตะขอบราด้านหลังฉันติดไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ”เด็กสาวถอยหลังไม่กี่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา “ตรงนี้ ติดไม่เข้าเลย”เฉินจิ้นยังคงยืนนิ่งเด็กสาวเริ่มร้อนรน “ช่วยหน่อยเถอะ มือฉันเจ็บแถมตัวก็ปวดไปหมด ซี้
ไม่นานก็มีนักศึกษาคนอื่นแห่กันเข้ามาดู “แย่แล้ว ตรงนี้มีคนตีกัน!”หวังจื่อเหยาได้ยินเข้าก็เริ่มกลัวขึ้นมา เพราะการตีกันในโรงเรียนถือเป็นเรื่องร้ายแรงอาจถูกบันทึกความผิดทางวินัยได้ ที่สำคัญคือ เธอโดนต่อยจนเจ็บแทบขาดใจ ฮือๆทั้งเหตุการณ์หวังจื่อเหยาโดนเย่ฮวนเอ่อร์กดอยู่กับพื้นและซัดไม่ยั้ง แม้เพื่อนๆ จะรุมเย่ฮวนเอ่อร์แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งเธอได้เลย หวังจื่อเหยารู้สึกเหมือนตัวเองโดนไฟเผาไปทั้งตัวหวังจื่อเหยาดันเย่ฮวนเอ่อร์ออก “เย่ฮวนเอ่อร์ รอดูเถอะฉันจะไปเรียกคนมา!”พูดจบหวังจื่อเหยาก็พาเพื่อนสาววิ่งหนีไปทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ก็มีแผลอยู่เหมือนกันเสื้อผ้าของเธอก็ถูกดึงจนขาด เธอเก็บกระเป๋าขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด ไม่งั้นออกไปข้างนอกไม่ได้แน่เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตบกับหวังจื่อเหยา กับคนปากเสีย เธอไม่มีวันยอมให้อภัยหวังจื่อเหยาไปเรียกคน เธอก็รออยู่ตรงนี้แหละเย่ฮวนเอ่อร์ถอดเสื้อออกแต่พอขยับตัวก็เจ็บจนต้องร้อง “ซี้ด” รอยข่วนแดงๆ เต็มแผ่นหลังตอนชกต่อยกันไม่รู้สึกตอนนี้เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดในขณะนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ฮวนเอ่อร์
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูด “พ่อของเฉินจิ้นเป็นพ่อค้ายาใช่ไหม?”หวังจื่อเหยาพยักหน้า “ใช่ เฉินจิ้นเป็นลูกของพ่อค้ายาแถมแม่ของเขาก็ตาบอด น้องสาวกำลังเรียนมัธยมต้น ฐานะครอบครัวแย่มาก แต่บ้านพ่อค้ายา แม่ตาบอด น้องสาวยังเรียนหนังสือและเขาที่แหลกสลายมันกลับทำให้ฉันอยากท้าทายเขายิ่งขึ้น ฮ่าๆ!”หวังจื่อเหยากับกลุ่มเพื่อนหญิงหัวเราะเสียงดังหัวเราะจนตัวสั่น พวกเธอหัวเราะเยาะครอบครัวของเฉินจิ้นเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มไม่พอใจเธอเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำดวงตากลมโตสวยสดใสจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังจื่อเหยา “พวกเธอหัวเราะพอหรือยัง?”คำพูดของเย่ฮวนเอ่อร์ ทำให้หวังจื่อเหยากับพวกถึงกับชะงักหวังจื่อเหยาหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ และจำได้ทันที “นี่ไม่ใช่เย่ฮวนเอ่อร์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เหรอ เรื่องที่เราพูดมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ!”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “พวกเธอไม่ควรเอาความทุกข์ของคนอื่นมาล้อเล่น ความลำบากของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรถูกเอามาขำ!”เธอเคยไปที่บ้านของเฉินจิ้น เป็นบ้านที่อบอุ่น แม่กับน้องสาวของเฉินจิ้นเป็นคนใจดีและอ่อนโยนแม้สภาพแวดล้อมจะมืดทึบและชื้นแฉะ เฉินจิ้นเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ คืนวันนั้นชายเมามายคนหนึ