แบบนี้มันผิดปกติเกินไปแล้ว...หยิบยาสีฟันมาล้างหน้าเนี่ยนะ!? ไหนจะเดินออกคอนโดโดยไม่ยอมเอากุญแจรถมาอีก!? นี่ตัวฉันกำลังเกิดการต่อต้านแน่ๆ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็เอาแต่เห็นภาพของจีราญาตลอด เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันถึงต้องคิดถึงแต่เธอด้วย ไม่เข้าใจเลย!
“อะไรของเธออารมณ์บูดแต่เช้าเลยนะ”
รินคุปรากฎตัวขึ้นด้านหลังของฉันซึ่งกำลังกุมศีรษะอย่างไม่รู้จะหาทางออกยังไงก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมาสบตากับเขาที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“รู้เรื่องแล้วงั้นหรอ”
“แน่สิ เธอนี่ขยันหาเรื่องได้ตลอดเลยนะ รอบนี้ก็ดันไปทำสัญญาเลือดกับเจ้าปีศาจตลบตะแลง จนคะแนนติดลบ คิดอะไรอยู่กันแน่”
อ่า คะแนน...จริงสิ...ยังไม่มีเลยแท้ๆ ดันติดลบซะแล้ว ให้ตายเถอะ!
“แล้วคะแนนที่ติดมันลบเยอะไหมอ่ะ”
ฉันทำหน้าหงอยเต็มขั้นโดยไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกหักคะแนนหางเร่ไปด้วย
“เพิ่งจะสำนึกงั้นหรอ”
<
“ประธานค่ะ คุณอีเมลมาขอเข้าพบค่ะ”“ให้เธอเข้ามา”ปวดหัวฉันชะมัด ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่กล้าไปพบหน้าจีราญาอีกเลย เธอมาหาก็เอาแต่หลบหน้า ทำไงดี เกิดกลัวความรู้สึกขึ้นมาดื้อๆ ไอ้ความรู้สึกชอบเนี่ย ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจ...ตาโหล....เนื่องจากอดนอน....“สวัสดีค่ะ คุณยูโร”คนร่างบางสวมกางเกงขายาวสามส่วนพร้อมกับชุดน้ำตาลสีเข้มเข้ามาหาฉันที่นั่งจดจ่อกับเอกสารพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกคน“สวัสดีค่ะ คุณอีเมล”ฉันส่งยิ้มให้เธอนิดๆตามมารยาท ก่อนจะยื่นเอกสารฉบับเต็มซึ่งมีลายเซ็นต์ของฉันเรียบร้อยให้กับอีกคน“อันนี้เป็นเอกสารสัญญาเพิ่มเติมของคุณอีเมลที่ฉันร่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณต้องการเพิ่มเติมอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ”“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ว่าแต่คุณยูโร เป็นอะไรรึเปล่าคะ”“ฉันหรอคะ ก็ไม่นี่น่า....”
คนร่างสวยลอบมองท่าทางของทั้งสองสาวอย่างชั่งใจก่อนจะเอ่ยคำถามออกมาด้วยความยากลำบาก“แล้วเมลอยากรู้ไปทำไมหรอคะ...”“เพราะฉันชอบคุณค่ะ”ป๊อก....อยู่ๆ คนหน้าสวยก็เริ่มหน้าขึ้นสีอีกครั้งพลางยกมือปิดหน้าไว้ด้วยความสับสน ‘พวกประสบการณ์ด้านความรักเป็นศูนย์’นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย แค่เขาบอกชอบก็ดันหน้าแดงแล้วหรอ จะมีความรู้สึกกับทุกคนที่มาชอบไม่ได้นะ ยูโร ถึงแม้จริงๆ ฉันจะไม่มีเหตุผลที่ต้องเกลียดพวกเขาก็เถอะ“คุณหน้าแดงอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นพวกตกหลุมรักง่ายเกินไปหรอคะ”จีราญาตวัดตาค้อนฉันที่ปรับสีหน้าไม่ถูก ก่อนจะทำหน้ามุ่ยพลางจ้องคนร่างสวยตาเขม็ง“คือฉันไม่เคยรักใครมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ขอโทษนะ ...”ฉันยืนปิดหน้าที่แดงก่ำของตัวเองก่อนจะถูกคนร่างบางเปิดมันออกและสบตากับฉันด้วยความไม่พอใจ“ถ้าอย่
“เดี๋ยวค่ะ! ยูโร ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ! มันเป็นอุบัติเหตุ”คนร่างบางรีบวิ่งออกมาด้วยท่าทางร้อนล่นพลางคว้าแขนเสื้อของฉันไว้เพราะตกใจที่คนหน้าสวยรีบเดินออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว“ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่คะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักนิด”โกหก อันที่จริงฉันคิดมาก คิดจริงจัง คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว ทำไมทั้งสองคนนั้นถึงได้ไปนอนคร่อมกันในห้องของฉัน ท่าทางล่อแหลม ไหนจะอาการเห่อร้อนนั่นอีก!“หันมานี่ก่อนสิคะ”คนตัวเล็กพยายามง้อฉันที่พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหันไปสบตากับคนร่างบางด้วยรอยยิ้มปลอมๆ“คุณยูโร เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”“ค่ะ”ฉันตอบกลับเสียงแข็ง บ้าจริง ฉันเกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาได้ไงกัน“นี่หรือว่ายูโรจะ...”“จะอะไรคะ”คนตัวเล็กยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจ
เมื่อคืนเราร้องไห้หนักมากจนตาบวมเลยแหะ ฉันส่องกระจกพลางเช็คสภาพตัวเองและจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาตามเวลานัดที่ไล่เลี่ยกัน หวังว่าเธอคงจะไม่รอนานนะ“จี”คนร่างบางหันมาตามเสียงเรียกของฉันก่อนเธอที่จะรีบวิ่งเข้ามาหากันด้วยรอยยิ้มสดใส“ยูโร”“รอนานไหม”“ไม่นานหรอกค่ะ”โกหก ฉันมาเลทตั้งครึ่งชั่วโมงเพื่อจะพิสูจน์ความจริงใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ตัวเลยนะ“ขอโทษที่มาช้านะ”“อย่าคิดมากสิคะ ไปกันเลยไหม สวนสนุกน่ะ”ท่าทางกระตื้อรื้อล้นของเธอมันทำให้ฉันแอบปวดใจนิดๆ แหะ“เอาสิ ว่าแต่คนพวกนั้นไม่อยู่แล้วหรอ”ฉ
คนร่างบางสบตาฉันนิ่งและไม่ปรากฏรอยยิ้มใดๆ จากเจ้าตัวเลย ที่พูดว่าจะฆ่า เธอคงไม่ได้โกหกสินะ ตัวฉันเริ่มสั่นเทาไปด้วยความกลัวขึ้นมาดื้อๆ ทำไมคนที่มีอำนาจขนาดนั้นถึงได้มาหาฉันได้ล่ะ แต่แล้วเสียงของรินคุก็ทำให้ฉันมีสติขึ้นมา“ยูโร!!”“หืม นายคงเป็น ตัวแทนลำดับที่เก้ามิคาเอล รินคุ”“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เขาหันมามองฉันอย่างเป็นห่วง ในขณะเดียวกันสีหน้าของรินคุก็ไม่สู้ดีนัก ทำให้ยูแอลต้องคลายแรงกดดันลง“เธอคงตกอยู่ในอาการหวาดกลัวน่ะ เพราะไม่เคยเจอแรงกดดันแบบนี้มาก่อน ว่าแต่นาย-”“ขออภัยที่กระผมเสียมารยาท ถ้าเธอทำอะไรผิดไปยกโทษให้ยูโรด้วยเถอะครับ! ท่านยูแอล”“ยกโทษ...งั้นหรอ ตลกดีนะ เด็กคนนั้นไม่คิดจะขอโทษฉันด้วยซ้ำไป”“ท่านยูแอล!”“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดจะทำร้ายเธอหรอก เพราะฉะนั้น เด็กคนนี้ฉันจะอบรมเอง
หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือสามชั่วโมง ฉันถูกพามาอยู่ในยุคสงครามรวบรวมหัวเมืองกันอยู่รึไง เหนื่อยชะมัด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันก็จับดาบไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ ไม่ตลกเลยนะ ไหนพวกเกมแนว rpg มันถึงจับกันง่ายขนาดนั้นล่ะ ชีวิตจริงไม่เห็นเหมือนอย่างที่คิดไว้เลยนี่หว่า!“ท่านเป็นน้องของท่านหญิงซายะแน่หรอ”คนร่างสูงปลายตามองฉันอย่างเหนื่อยใจ แต่นั่นมันก็ช่วยไม่ได้ เพราะชีวิตจริงหรือโลกหลังความตายฉันก็ไม่เคยใช้อาวุธกับใครเค้าซะหน่อย จะใช้ไม่เป็นแล้วมันผิดรึไงย่ะ ไอ้คนคลั่งอาวุธหัวทองเอ้ย!“นี่...ฉันว่าพอก่อนเถอะ”“เห แต่ท่านยังไม่ได้ฝึกพวกธนูกับมีดเลยนะ”จะอะไรฉันก็ไม่อยากฝึกทั้งนั้นล่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ทั้งมือและขามันก็ชาไปหมด ไม่รับรู้ถึงความเหนื่อยบ้างรึไงกัน“พอแค่นั้นล่ะ”“ท่านหญิงซายะ รับทราบขอรับท่านหญิง”เคารพกันจังเลยนะ ยัยผู้หญิงเผด็จการคนนี้เนี่
ก็ไม่ได้เกลียดกับการถูกติดหนึบจากคนที่ไม่รู้จักหรอกนะ แต่แบบนี้มันก็ดูจะเกินไปหน่อย ฉันแลสายตามองเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งกำลังควงแขนของฉันด้วยรอยยิ้มสดใสแตกต่างจากพี่ชายของเธอลิบลับ“ไปก่อนนะคะพี่”“อืม ไปดีมาดีล่ะ”เอริคพูดขึ้นพลางยื่นกระเป๋าส่งมาให้ฉันซึ่งทำหน้าหนักใจหนักกว่าเดิมเพราะเขายังคงยืนนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน“เอ่อ คือ”ฉันพูดพลางคิ้วกระตุกนิดๆ เมื่อพยายามดึงกระเป๋าออกจากฝ่ามือของเขาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมันสักที สรุปจะให้หรือไม่ให้กันแน่“พี่จะถือกระเป๋ายูกิจังอีกนานไหมคะ ปล่อยได้แล้วนะ”“อ่ะ โทษที เดินทางปลอดภัยนะ”“อื้ม! ยูกิจังไปกันเถอะ”“ยูกิจัง?”“ ขอเรียกยูกิจังได้ไหม ตอนเด็กๆ เราก็เรียกกันแบบนี้ไง แง ทำไงดี รู้สึกแย่จัง เมื่อไรจะจำฉันได้ล่ะ&rdq
ก็ไม่รู้ว่าเฮร่าโกรธฉันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่เล่นมาทิ้งกันไปแบบนี้แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงได้ล่ะ....ฉันพยายามมองหาเธออีกครั้งแต่ทว่ามันก็ไร้ผล ไม่มีวี่แววของเธอเลย หรือว่าคนร่างบางจะจงใจทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่จริงๆ ....“อ้าว ชิยูกิยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”“มีอา?”ฉันหันกลับไปมองเธอที่ถือกระเป๋ามารอฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ามายืนรอฉันทำไม เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจกันเลย“กลับบ้านด้วยกันไหมล่ะ”“เอ่อ คือว่าฉันต้องรอเฮร่ากลับบ้านด้วยกันน่ะ”“เอ๋ งั้นหรอ แต่ดูท่าทางยัยนั่นจะกลับบ้านไปก่อนแล้วนะ”อ่า...สรุปว่าฉันโดนทิ้งเอาไว้ที่นี่จริงๆ ด้วย...“ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะ เอ้า ยื่นมือมาสิ เธอกลับกับฉันก็ได้”“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า”
ทั้งที่ฉันตัดสินใจจะทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังแล้วแท้ๆ แต่ทำไมพอเธอปรากฏตัวขึ้นมาฉันถึงยังตัดใจไปจากเธอไม่ได้กันนะ....นั่นมันเป็นความรู้สึกที่ฉันไม่อยากลบเลือนมันเลยจริงๆ“ยูโร ฟื้นสิ! ยูโร!”เสียงร้องเรียกของใครบางคนทำให้ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ แต่ทว่าดวงตามันก็หนักอึ้งไปหมดไหนจะเสียงกรีดร้องของผู้คนรอบๆ อีกล่ะ..น่าหนวกหูจังเลยนะ ทั้งที่ฉันแค่อยากจะพักผ่อนแท้ๆ ...“ฉันบอกให้เธอลืมตาขึ้นมาไงยูโร นี่...พูดกับฉันสิ...อย่าเอาแต่เงียบใส่ฉันแบบนี้ ก็ฉัน! บอกให้เธอ...พูดกับฉันยังไงล่ะ..ยัยเด็กอวดดี...”นั่นใครน่ะ...สวยจังนะ...ฉันเองก็อยากจะสวยแบบเธอเหมือนกัน...แต่ว่ามันคงจะยากเกินไปสำหรับฉันสินะ...“นี่ยูโร”และยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อฝ่ายทีมรักษาก็พากันกรูเข้ามายังบริเวณที่ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่กับที่รวมไปถึงยูโรซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ด้วยเช่นกัน“เธอคงกำลังตก
“จี...”คนร่างบางพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่รอบๆ ตัวของเธอก็กำลังกลายเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมไปแล้วไม่ปาน ภายนอกถูกแต่งแต้มไปด้วยสถานที่ซึ่งง่ายต่อการทดสอบในทุกรูปแบบด้วยฝีมือของเทพร่างสูงอย่างคาเซอุสเปรี้ยง!“มัวยืนทำอะไรของเธอ! หลบเร็ว!”ยังไม่ทันที่ยูโรจะได้ก้าวขาเข้าไปยังคนร่างบางซึ่งถูกสะกดจิตเอาไว้โดยเทพแห่งปัญญา สายฟ้าฟาดก็พุ่งตรงลงมายังเธอทันที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนร่วมทีมของคนตรงหน้ารีบวิ่งเข้ามาขวางเธอเอาไว้จนกระเด็นออกไปอีกทางผลั่ก!“ยัยบ้า! ยืนเหม่ออะไร! เดี๋ยวก็ตายหรอก! ถ้าไม่คิดจะสู้ ก็ไปปกป้องตัวประกันแทนซะ! อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากไปมากกว่านี้เลยน่า!”“มือ..ของนาย”“ช่างมันเถอะ! รีบลุกขึ้นเร็วเข้า!”เปรี้ยง!!
พาร์ทยูโรฉันกำลังสับสนกับตัวเองจริงๆ ....แบบว่ามันดันมีความรู้สึกของคนอื่นเข้ามาปนอยู่ด้วยจนฉันแทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนมันคือเรื่องจริงกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ควรจะก้าวเดินต่อไป เพราะไม่ว่าฉันจะเลือกทางเดินแบบไหนมันก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ...และนั่นมันก็เป็น...ความรู้สึกแรกที่ฉันได้พบกับเธอ...“ ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ เหล่าตัวแทนทั้งหลายของเทพเจ้า”เสียงเป่าประกาศของชายวัยกลางคนดังขึ้นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทันทีที่พวกเราก้าวเดินไปถึงสนามลานประลองขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาแต่ทว่าหนึ่งในนั้นสายตาของฉันก็ดันกลับกลายไปสบเข้ากับเรือนร่างอันแสนบอบบางซึ่งฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี...ผู้หญิงคนนั้นคืออีเมลไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้ได้ล่ะ…ดวงตาสีแดงเข้มแบบนั้น....มันก็เหมือนกับว่าเธอกำลังกลายเป็นคนพวกนั้นไปแล้วไม่ใช่รึไง...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ...“คุณยูโร...”ร่างผอมบางเอ่ยทักชื่อฉันทันทีที่ได้เห็นคน
หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของที่นี่ฉันก็ได้รับจดหมายจากอีเดน เจ้านกฮูกตัวสีขาวขนปุยที่ฉันไม่ได้เห็นหน้าของเขามานานมากแล้วจนเกือบลืมไปว่ายังมีเขาที่รอคอยฉันอยู่....“ยูโร !!!!”ทันทีที่เจ้านกฮูกขนปุยสีขาวปรายตาเห็นฉันเข้าเขาก็รีบบินโฉบเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีตื่นเต้นจนถูกผู้หญิงร่างสูงจับปีกของเขาไว้ด้วยความหวาดระแวงหมับ!“ยูโรเธอไม่เป็นอะไรนะ ? ย้า ปล่อยฉันเซ่ ยัยผู้หญิงป่าเถื่อน! ปล่อยปีกฉันเดี๋ยวนี้! อะ ยูโรรอเดี๋ยวนะ ฉันจะจัดการผู้หญิงคนนี้แล้วไปช่วยเธอเอง จิ้ก จิ้ก! บอกให้ปล่อยฉันไง ยัยเบือก!”“ปากเก่งแบบนี้ถ้าฉันจับไปทอดกินก็คงได้สินะ”“O [] O ยะ...ยูโร”เจ้านกฮูกตัวอ้วนกลมหน้าถอดสีพลางมองหญิงสาวร่างสวยที่จับเขาเหวี่ยงไปมาอย่างกับของเล่นจนกระทั่งเจ้านายร่างบางของเขาถือวิสาสะเข้ามาแย่งร่างอันสั่นเทาไปกอดเอาไว้เอง“อีเดน นายโอเครึเปล่า ยูแอลค
พาร์ท อีเมล...ฉันเคยคิดมาตลอดว่าสิ่งมีชีวิตอย่างพวกแวมไพร์ อสูรกาย มนุษย์หมาป่า หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตอันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นแท้จริงแล้วมันก็แค่เรื่องแต่งขึ้นของใครบางคนเท่านั้นเอง มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเราหรอก ใช่ ฉันคิดแบบนั้น....จนกระทั่ง ความหิวกระหาย...ความรู้สึกอยากทำลาย การที่เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเป็นแค่เศษอาหาร มันถาโถมเข้ามาในตัวของฉันตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันวิ่งไล่ตามยูโรไป....ตึก ตึก...“อ้าว คุณเมลนี่เอง มาหาท่านรินคุหรอคะ?”“ท่านรินคุ? ไม่ใช่ค่ะ ฉันมาหาคุณยูโรต่างหาก เธอไม่อยู่หรอคะเลขาชา?”ฉันไล่สายตามองหาเจ้าของเสียงหวานท่ามกลางความสับสนซึ่งปะทุขึ้นมาในใจของฉันตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับเลยตั้งแต่ที่เธอส่งข้อความแบบนั้นมาให้กับฉัน‘ขอโทษงั้นหรอ? คุณยังไม่ได้ลองพยายามเลยแท้ๆ ...อยู่ๆ มาปฏิเสธใส่กันง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง...’“คุณยูโร
พาร์ท จีราญาฉันได้แต่ครุ่นคิดแล้วก็สงสัยในทุกๆครั้ง ว่าทำไมกันนะ ไม่ว่าฉันจะพยายามนึกถึงใบหน้าของใครบางคนอีกสักเท่าไร มันก็ไม่มีทางนึกออกได้เลย....เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำโดยที่ไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยัง...อยากที่จะนึกถึงแต่มันอยู่ดี...แปะ...แปะ...“จี แกเป็นอะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ร้องไห้อีกแล้ว ยังรักษาไม่หายอีกหรอ”ทันทีที่ฉันหยุดคิด เสียงแหลมๆ ของเพื่อนคนสนิทซึ่งมีเพียงไม่กี่คนของฉันก็เอ่ยทักขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากแก้วกาแฟใบโปรดกลับมองเธอที่ทำหน้าตกใจกับรอยแดงจางๆ บนใบหน้าของฉันแทน“อืม ก็นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนฉันฝันร้ายอีกแล้ว”“แบบนี้ก็แย่สิจี ว่างๆ แกควรให้พี่พีเจพาไปตรวจสุขภาพหน่อยก็ดีนะ ฉันเห็นแกชอบร้องไห้ไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาตั้งหลายครั้งแล้ว ”“ไม่เป็นไรหรอกโรส ฉันโอเค แกคิดมากไปแล้ว”“งั้นหรอ ถ้าแกว่า
ฉัน...รู้อยู่แล้ว ว่าความจริงยูกิจังไม่เหมือนเดิม เธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ทั้งรอยยิ้ม และสายตาแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี….เธอไม่ใช่ชิยูกิของฉันหรอก...แต่ถึงอย่างนั้น..แต่ฉันก็ยังทำใจยอมรับมันไม่ได้...เรื่องที่ว่าไม่มีชิยูกิจังอยู่ต่อไปอีกแล้วน่ะ....ฉันควร...จะทำยังไงดีล่ะ....“นี่มันยังไงกันแน่ ตกลงว่าชิยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมอย่างงั้นน่ะหรอ อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันเองก็ปวดใจนะ! อย่าเอาแต่เงียบกันได้ไหม! แล้วตัวจริงล่ะ...ตัวจริงไปอยู่ที่ไหน!”“เรื่องนั้น...”คนร่างบางจับชายเสื้อของชิยูกิเอาไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักลงก่อนจะแสดงสีหน้าอันขนขื่นออกมา“ฉันคิดว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะตายไปแล้ว”คนร่างผอมเพรียวแทบจะล้มไปกองกับพื้นทันทีตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของมีอาเธอเดินเข้ามากระชากคอเสื้อด้านนอกสีน้ำเงินเข้มของยูโรซึ่งไม่มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแ
ฉันปรายตามองคนมาใหม่อย่างโกรธเคืองเพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตามฉันมาถึงที่นี่ ไหนว่าจะขายฉันทิ้งแล้วไงล่ะ ยังจะมาไยดีอะไรกันอีก แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ยังจะมาที่นี่อีกทำไม...“หยุดทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าข้าได้แล้ว พี่สาวอย่างข้าอุตส่าห์ทิ้งภาระอันหนักอึ้งมาหาเจ้าเชียวนะ ตอบแทนกันอย่างนี้รึ”ไม่พูดเปล่ายูแอลยังถือวิสาสะดึงแขนของเด็กสาวออกจากการเกาะกุมของเฮร่าพลางดึงคนร่างบางมาไว้ข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับสองคนที่เหลือ“ชิยูกิ!”“เอริคนี่เจ้าไม่คิดจะสอนมารยาทน้องสาวของเจ้าหน่อยรึไง”คนร่างสวยหวาดตามองหญิงสาวทั้งสองอย่างเอาเรื่องทำให้เอริคผู้เป็นพี่รีบขอโทษแทนน้องสาวแทบไม่ทัน“ขออภัยขอรับ ท่านหญิง น้องสาวของกระผมเสียมารยาทต่อท่านหญิง ได้โปรดอภัยให้นางด้วย”“พี่ / เอริค ย
ฉันคิดว่ามีอาคงผูกใจเจ็บกับเฮร่าจริงๆ นั่นล่ะ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่ายัยนั่นจะตามติดพวกฉันแจขนาดนี้“มีอา”ฉันเหล่ตามองเธออย่างลำบากใจที่เห็นคู่หมั้นของเอริคมายืนส่งยิ้มให้กันตั้งแต่หัววันแบบนี้ แถมยังไม่ยอมปลายตามองคู่หมั้นของตัวเองอีกต่างหาก ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็ ก็ถูกคลุมถุงชนแหง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องพุ่งสายตากดดันมาทางฉันเลยก็ได้นี่!“ฉันมาชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”“ยูกิจังไม่ไปกับเธอหรอก”เฮร่าเดินลงมาจากบันไดพลางปลายตามองผู้มาใหม่อย่างกดดันเธอดูอารมณ์ไม่คงที่สุดๆ“ ชิยูกิต้องได้รับอนุญาตจากเธอก่อนรึไง ถึงจะออกไปข้างนอกกับฉันได้”“ใช่”เหมือนจะไม่ใช่นะ....ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องของฉันด้วยล่ะ อีตาเอริคนี่ก็อีกคนช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนต้นเรื่องไม่ใช่หรอ พวกเค้าทะเลาะกันเพราะคุณนะ“เธอไม่ใช่เจ้าของชิยูกิสักหน่อย ไม่มีสิทธิมาตัดสินใจนะ”“เธอก