Share

บทที่ 1342

Penulis: ซีลั่วหวง
“ไม่มีอะไรหรอก! ตอนนั้นฉันสนใจศักดิ์ศรีของตัวเองมากเกินไปและไม่กล้าพูดออกมา ตอนนี้ฉันอายุมากขึ้นแล้ว ฉันจึงยอมรับมันได้ บางสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยพลาดไปก็พลาดไปตลอดกาล”

"เดิมที่ควรจะเป็นการพบปะแบบสบายๆ ระหว่างคนรู้จักเก่าๆ แต่คุณทำให้ฉันสับสนจนไม่รู้จะพูดอะไร" หลินตงดูไร้เรี่ยวแรง

"งั้นมาคุยเรื่องอื่นกันเถอะ! หานชือหยุนน่าจะอยู่กับคุณตอนนี้ใช่ไหม" ซูยิงเสวี่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

"อย่าพูดไร้สาระ! ฉันมีแฟนชื่อยุนซี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของฉัน ไม่นานหลังจากถูกเจียงซานทิ้ง ฉันก็เริ่มคบกับเธอ แต่เพื่อนหานกำลังฝึกกับยุนซีและคนอื่นๆ" หลินตงอธิบาย

"พวกเธอเป็นใคร" ซูยิงเสวี่ยถามด้วยความสับสน

"อืม... ก็แค่เพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกันนิดหน่อย"

"เป็นผู้หญิงทั้งหมดเหรอ?"

"อืม... ฉันเดาว่าใช่! แต่อย่าเข้าใจผิด เพื่อนซู ฉันมีแฟนแค่ยุนซีเท่านั้น"

หลินตงสามารถตอบได้อย่างไม่เต็มใจ

กัดฟันและย้ำว่า ตัวเองมีแฟนแค่คนเดียว

“หลินตง! ไม่เลวเลย! คุณลองพิจารณาเพิ่มฉันอีกสักคนไหม?” ซูยิงเสวี่ยแซว

“เพื่อนซู อย่าล้อเล่นนะ”

"หลินตง ฉันไม่ได้ล้อเล่น ทุกวันนี้มีการฝึกศิลปะการต่อสู้กันอย่างมากมายทั่วประเทศ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1343

    หลินตงออกจากมหาวิทยาลัยเจียงหนานเขาไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็น เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความตื่นตระหนกหลังจากเปิดเผยตัวตนปัจจุบัน บริษัทลงทุนตงไหลให้เงินทุนจำนวนมากทุกปีเพื่อสนับสนุนสถาบันที่หลินตงเคยเข้าเรียนเขาไม่จำเป็น ต้องไปสอบถามในท้ายที่สุดซูยิงเสวี่ยยังคงไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันทีเธอเพียงบอกให้หลินตงรอจนกว่าเธอจะคิดเรื่องนี้ดูตามที่หลินตงบอก เมื่อจากไป มีแนวโน้มว่าจะกลับไม่ได้ท้ายที่สุดแล้ว โลกคือสถานที่ที่ซูยิงเสวี่ยอาศัยอยู่มานานกว่า 20 ปี ซึ่งเธอมีพ่อแม่ ญาติ และเพื่อนๆ อยู่ที่นั่นทันใดนั้น เธอถูกขอให้ปล่อยวางทุกสิ่งและติดตามหลินตงไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักจากส่วนลึกของหัวใจของเธอ ซูยิงเสวี่ยยังคงยอมรับไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวหลินตงคิดว่าซูยิงเสวี่ยไม่น่าจะไปแน่นอนว่านี่ก็เป็นเป้าหมายของเขาเช่นกัน การไม่ไปคือสิ่งที่ดีที่สุดไปแล้ว ก็จะเป็นภาระให้หลินตงไม่น้อยถึงตอนนี้ เมื่อต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ที่วุ่นวายระหว่างผู้หญิงอย่างหวงฝู่ซีเยว่ เขาก็ปวดหัวพอแล้วซูยิงเสวี่ยอีกคน นั่นก็เท่ากับว่ากำลังหาเหาใส่หัวคงมีแค่ผู้หญิงนิสัยแบบยุนซีเท่านั้น ที่ไม่คิดมากเร

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1344

    เมื่อเห็นหลินตง ทั้งสามคนต่างก็ตื่นเต้นดีใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีหลินตงก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกันแค่ยืนอยู่ในลานบ้านแบบนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเงียบไปนานกว่าสิบวินาทีจางกุ้ยฟางดึงชายเสื้อของหลินกั๋วปังเบาๆ เพื่อทำท่าให้เขาพูดในที่สุดหลินกั๋วปังก็รวบรวมความกล้าที่จะกลั้นใจพูดออกมา"หลิน... หลินตง คะ... คุณกลับมาแล้ว!""ฉันกลับมาดูบ้านเก่า พวกคุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันต้องไปแล้ว"หลินตงพูดขณะที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจากไปเขาไม่อยากเผชิญหน้ากับครอบครัวนี้จริงๆความเจ็บปวดที่พวกเขาเคยสร้างนั้น ยากที่จะลืมได้ไม่เช่นนั้น หลินตงก็คงไม่ตัดขาดทุกอย่างถึงขนาดนี้อย่างน้อยก็เหมือนกับการหลับตาข้างหนึ่งต่อครอบครัวของลุงสี่ขอให้ป้าช่วยจัดการงานให้ครอบครัวของพวกเขาที่โรงแรมโกลเด้นลิฟเมื่อเห็นว่าหลินตงกำลังจะจากไป จางกุ้ยฟางก็รู้สึกวิตกกังวลมากไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้พบหลินตงเธอปล่อยให้หลินตงจากไปแบบนี้ได้อย่างไร?ตอนนี้ตัวตนของหลินตงแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงแค่ประโยคเดียว ก็เปลี่ยนชะตากรรมของครอบครัวพวกเขาได้อย่างพี่สาวคนโต หลินกั๋วยิงก็เป็นเหมือนกันครอบครั

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1345

    "หลิน... หลินตง! ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว อยู่กินข้าวสักมื้อก่อนค่อยไปสิ!"จางกุ้ยฟางกล่าวอย่างรีบร้อน"ใช่ๆๆ! ในที่สุดพี่หลินตงก็กลับมาแล้ว มากินข้าวก่อน แล้วค่อยกลับกันเถอะ!" หลินฉวนก็พูดแทรกขึ้นมาเช่นกันพ่อและลูกสาวอีกคน แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรแต่เขาก็แสดงท่าทีคาดหวังอย่างเห็นได้ชัด หวังว่าหลินตงจะอยู่ต่อได้"ไม่ล่ะ! ฉันกินอาหารเหลือจากครอบครัวของคุณมาหลายปีแล้ว และฉันก็กินมาพอแล้ว" หลินตงกล่าวด้วยรอยยิ้มคำพูดของเขาทำให้บรรยากาศตรงนั้นเย็นยะเยือกหลินกั๋วปังและครอบครัวทั้งสี่คนเงียบสนิทเพราะไม่มีอะไรจะพูดเมื่อตอนที่หลินตงอยู่กับพวกเขา ไม่ได้รับอนุญาตให้กินข้าวที่โต๊ะด้วยซ้ำ เและกินได้แต่ของเหลือเท่านั้นบางครั้ง ถ้ามีเนื้อเหลือ พวกเธอก็อยากจะเอาให้หมากินมากกว่าจะให้หลินตง"หลินตง! เรื่องนั้นมันผ่านมานานแล้ว ทำไมถึงต้องพูดถึงมันอีก!" หลินกั๋วปังยิ้มอย่างอับอาย"สำหรับพวกคุณ มันผ่านไปแล้ว แต่ฉันจะจำช่วงเวลาอันมืดมนนั้นไว้เสมอ"หลินตงส่ายหัวและพูดต่อ "พวกคุณจะไม่ให้ฉันกินข้าวที่โต๊ะก็ไม่เป็นไร แต่ถึงขนาดไม่ยอมให้แม้แต่ของเหลือ แถมยังเอาไปโยนให้แมวหมากินแทนอีก หลินกั๋วปัง คุณเป็นล

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1346

    "พอแล้ว! ฉันไม่มีเวลามาไร้สาระกับพวกคุณที่นี่ ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ ฟ้าดินรับรู้ คนที่คิดร้ายกับคนอื่นสุดท้ายกรรมก็ตามสนองเอง พวกคุณเตรียมรับผลกรรมไว้เถอะ!"หลินตงพูดจบ และเตรียมตัวจะจากไปโดยไม่คาดคิดจางกุ้ยฟางคุกเข่าลงและพูดเสียงดังว่า "หลินตง! ป้ารู้ว่าป้าผิด โปรดยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว"จากนั้นหลินฉวนและหลินเฟยก็คุกเข่าลงกับพื้นเช่นกัน"พี่หลินตง! ในอดีตเป็นความผิดของฉันที่ทำให้คุณต้องโดนทุบตีบ่อยๆ ตอนนั้นฉันไม่มีเหตุผล โปรดยกโทษให้ฉันด้วย""หลินตง! พี่เฟยเป็นคนขอโทษคุณก่อนหน้านี้ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย"หลังจากพูดจบ จางกุ้ยฟางหันศีรษะและจ้องมองหลินกั๋วปังเป็นสัญญาณบอกว่าให้เขาคุกเข่าลงด้วยนี่คือแผนเรียกคะแนนสงสารที่พวกเขาวางแผนกันไว้หากได้พบหลินตงอีกครั้งถ้าไม่สำเร็จจริงๆ ทั้งครอบครัวจะคุกเข่าลงและอ้อนวอนเขาขอแค่ได้รับสิทธิพิเศษแบบเดียวกับพี่คนโตอย่างหลินกั๋วยิง จะให้พวกเขาทำอะไรก็ยอมหมดหลินกั๋วปังค่อนข้างลังเลและไม่เต็มใจที่จะคุกเข่าลงหลินกั๋วปังยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องให้เขาคุกเข่าต่อหน้าหลานชายตัวเองแต่เมื่อเขาคิดถึงความไร้กังวลและควา

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1347

    เมื่อครอบครัวหลินกั๋วปังกำลังชี้หน้าโทษกันเอง และจางกุ้ยฟางกำลังอาละวาดและกลิ้งไปบนพื้นหลินตงได้ออกจากลานบ้านไปแล้วการหลอกล่อพวกคนธรรมดาเหล่านี้ ง่ายเสียจนไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำแต่คำพูดของจางกุ้ยฟาง เขาได้ยินทุกถ้อยคำอย่างชัดเจนผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนสีเร็วยิ่งกว่ากิ่งก่าอีกเพิ่งจะคุกเข่าลงและขอให้ยกโทษให้ทันทีที่หันหลังกลับ ก็เริ่มสาปแช่งทันทีหลินตงรู้จักจางกุ้ยฟางเป็นอย่างดีเธอเป็นคนหยิ่งยโส หน้าใหญ่และให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เหนือสิ่งอื่นใดฉากที่ครอบครัวคุกเข่าเมื่อกี้ ต้องเป็นจางกุ้ยฟางคิดขึ้นมาอย่างแน่นอนเธอคิดว่าถ้าเธอทำแบบนี้ หลินตงก็จะให้อภัยพวกเธอ เพราะเลือดข้นกว่าน้ำน่าเสียดายที่หลินตงไม่ยอมเล่นตามน้ำเขารู้ดี ถ้าตัวเองไม่มีประโยชน์อีกต่อไป คนพวกนั้นคงไม่แม้แต่จะชายตามองไม่อย่างนั้นครอบครัวนี้ จะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนพวกเขาอาจไม่สามารถแม้แต่จะมองหลินตงด้วยสายตาเป็นมิตร นับประสาอะไรกับการเชิญเขาไปทานอาหารเย็นที่บ้านจางกุ้ยฟางต้องการเอาเงินของหลินตงไปใช้ชีวิตอย่างสบายใจและอวดความร่ำรวย หลินตงจะสนองความปรารถนาของเธอได้อย่างไรถึงจะเป็นสายเลือดเดียวกัน หลิน

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1348

    "นายท่านหลินมาพบพวกเราด้วยตัวเองจริงๆ เหรอ?""ฉันเพิ่งพบกับนายท่านหลินตัวเป็นๆ? นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม หยิกฉันหน่อยสิ""อะ... โอย! แรงเกินไปแล้ว! โอเค ฉันไม่ได้ฝัน นายท่านหลินอยู่ที่นี่จริงๆ!"สมาชิกทั้งทีมเหยี่ยวตื่นเต้นกันมากนี่คือนายท่านหลิน หลินตงเชียวนะ!บุคคลในตำนานระดับโลกตัวจริงแถมเคยเป็นสมาชิกของเหยี่ยวมาก่อนนี่คือสิ่งที่เหยี่ยวภูมิใจมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ ชื่อของเขาถูกจารึกไว้ในรายชื่อเกียรติยศประวัติของเหยี่ยวสมาชิกทุกคนในทีมเหยี่ยวต่างจดจำเขา"ไม่ต้องกังวล นายท่านหลิน! พวกเราจะทำงานหนักอย่างแน่นอนและไม่ทำให้คุณผิดหวัง" สมาชิกในทีมทุกคนตะโกนขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นการได้พบหลินตงสักครั้ง และได้รับคำพูดให้กำลังใจจากเขา ถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของพวกเขาเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะอวดและภูมิใจไปตลอดชีวิตในตอนนี้ หลินตงได้มาถึงค่ายลับของเหยี่ยวแล้วเขาพบสำนักงานของโจวเจิ้งหัวเข้าไปโดยตรงและพูดคุยกับโจวเจิ้งหัวเล็กน้อยทุกวันนี้ โจวเจิ้งหัวก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่จุดสูงสุดของระดับเทพเมื่อออกจากเหยี่ยวแล้ว หลินตงก็ไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษต้าเซี

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1349

    คุนหลุนกรุ๊ปตั้งอยู่ในถนนการค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในจิงตูขณะนี้ บนถนนการค้าหญิงวัยกลางคนสวยกำลังเดินเล่นอยู่เธอคือไป๋หลี่เหยียนหงหลังจากระงับความปรารถนาในร่างกายของเธอแล้ว ไป๋หลี่เหยียนหงรู้สึกว่าเธอไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ จึงออกมาเดินเล่นเธอเดินเล่นไปมาสองสามวันก่อนจะมาถึงที่นี่มองดูเสื้อผ้าผู้หญิงหลากสไตล์บนถนนการค้าที่พลุกพล่านไป๋หลี่เหยียนหงก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นกันไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบเสื้อผ้าสวยๆ และเธอก็เช่นกันช่วงนี้เธอยังซื้อของเยอะมากแม้ว่าไป๋หลี่เหยียนหงจะไม่มีเงินต้าเซี่ยไม่ว่าเธอจะหยิบอะไรออกมาขาย ก็มีมูลค่ามหาศาลแม้ว่าจะเดินฝ่าฝูงชนในย่านที่คึกคัก ทว่ากลับไม่มีใครมองเห็นใบหน้าของไป๋หลี่เยียนหงได้ชัดเจน และยิ่งแปลกกว่านั้น ไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนของเธอเลยนี่เป็นมาตรการป้องกัน ที่เธอทำเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจที่ไม่จำเป็นไม่อย่างนั้นเมื่อชายคนใดเห็นเธอ พวกเขาจะตกตะลึงจนตาค้าง แล้วเธอจะไปช้อปปิ้งได้อย่างไร"หืม???"ทันใดนั้นไป๋หลี่เหยียนหงก็ได้กลิ่นอายจาง ๆ ซึ่งทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้านเป็นไปได้ยังไง?ที่นี่มีกลิ่นอายแบบนี้ได้ยังไง

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1350

    "มู่หรงฉิงเกอ? ชื่อที่ยอดเยี่ยมมาก! ชื่อของฉันคือไป๋หลี่เหยียนหง คุณสามารถเรียกฉันว่าพี่หงได้แล้ว สำหรับตำแหน่งในอนาคตของเรา เราจะพูดถึงในภายหลัง"ไป๋หลี่เหยียนหงยื่นมือของเธอออกมาโดยสมัครใจหลังจากพูดมู่หรงฉิงเกอก็ยื่นมือของเธอออกมาเช่นกัน และทั้งสองฝ่ายก็จับมือกันสั้นๆ"พะ...พี่หง! คุณมาที่นี่ได้ยังไง คุณต้องการอะไรที่นี่?" มู่หรงฉิงเกอถาม"เข้ามาที่นี่มันง่ายจะตาย?! ส่วนที่มาหาคุณน่ะ ก็แน่นอนสิ จะเป็นอะไรไปได้นอกจากมาหาคุณ" ไป๋หลี่เหยียนหงตอบพร้อมรอยยิ้ม"มาหาฉัน? มาหาฉันทำไม? ฉันดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณนะ!""เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน! ตอนนี้เรายังไม่รู้จักกันเหรอ แล้วเราจะมีเวลามากมายที่จะใช้เวลาร่วมกันในอนาคต""พี่หง! ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร"“ขอพูดแบบนี้แล้วกัน คุณกับฉันเป็นประเภทเดียวกัน คุณต้องมาด้วยกันกับฉัน! ไม่อย่างนั้นถ้าหากคุณอยู่ที่นี่ ชะตากรรมของคุณคงจะย่ำแย่”มู่หรงฉิงเกอส่ายหัวแสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังไม่เข้าใจไป๋หลี่เหยียนหงต้องบอกข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับร่างเสน่ห์ให้เธอทราบสำนักงานถูกกั้นด้วยกำแพงของไป๋หลี่เหยียนหงแล้ว และจะไม่มีใครเข้ามารบ

Bab terbaru

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1415

    อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1414

    หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1413

    คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1412

    ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1411

    ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1410

    ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1409

    ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1408

    แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่

  • ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย   บทที่ 1407

    ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status