เธอเป็นคนที่รู้จักบุญคุณอย่างแน่นอน แม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะเข้มงวดกับเธอมากตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็ยังคิดถึงครอบครัวหลังจากหาเงินได้ นอกจากประทังชีวิตของตัวเองแล้ว ทำงานมาหลายปีแทบจะไม่เก็บเงินแม้แต่บาทเดียวสำหรับหลินตง ความสามารถเป็นเรื่องรอง เพราะมันไม่สำคัญว่าเขาจะทำเงินได้หรือไม่ เนื่องจากเขามีเงินอยู่แล้วจนใช้ไม่หมดอยู่แล้วนิสัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้านิสัยไม่ดี ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถแค่ไหน หลินตงก็จะไม่ต้องการดังนั้นสิ่งที่เขาชอบในท้ายที่สุดก็คือนิสัยของจ้าวซวนสำหรับคนอย่างจ้าวซวน หลินตงรับประกันได้เลยว่าตราบใดที่ความโกรธของเธอเกือบจะหมดไปเธอก็จะช่วยเหลือครอบครัวของเธอต่อไป ส่วนวิธีการนั้นขึ้นอยู่กับเธอเมื่อเขาได้รับระบบครั้งแรก หลินตงแอบตัดสินใจว่าเขาจะไม่มีวันเปิดเผยกำลังอย่างเต็มที่ก่อนที่เขาจะคิดว่าจะปกป้องตัวเองได้ถ่อมตัวดีที่สุดนี่คืออาวุธวิเศษของเขาที่จะชนะอย่างไม่คาดคิดสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือพยายามสะสมแต้มศักดิ์สิทธิ์ และดูว่าระบบจะได้รับการอัพเกรดหรือไม่ความแข็งแกร่ง ร่างกาย และจิตวิญญาณถึงขีดจำกัด ยังไม่เพียงพออย่างแน่นอนหลังจากลงทุนสองพันล้านในโครงการใ
"ผู้อำนวยการโจว เนื่องจากผมมีเรื่องบางอย่างนอกมหาวิทยาลัย จึงอาจจะต้องลาหยุดตลอดเวลา ผมหวังว่าคุณจะให้สิทธิพิเศษนี้แก่ผม!" หลินตงกล่าว"โอ้? คุณต้องการสิทธิพิเศษในการลาเมื่อไรก็ได้เหรอ? คุณบอกผมได้ไหมว่าทำไม?" โจวลี่หมินถามด้วยรอยยิ้มเขาสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมหลินตงถึงกล้ามาหาเขาซึ่งเป็นผู้อำนวยการเพื่อขอแบบนั้น?และดูเหมือนว่าท่าทางที่ดูเขาตัวเองจะเห็นด้วยแน่นอน?"เพราะผมทำธุรกิจนอกมหาวิทยาลัย เลยอาจจะค่อนข้างยุ่ง!""ธุรกิจเหรอ? นักศึกษาหลินตง มหาวิทยาลัยของเราสนับสนุนนักศึกษาให้เริ่มต้นธุรกิจของตนเอง ตราบใดที่คุณส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับมหาวิทยาลัย และหลังจากผ่านการตรวจสอบของมหาวิทยาลัยแล้ว หากไม่มีปัญหา เราสามารถให้ไฟเขียวแก่คุณได้!""แต่ผมไม่ต้องการที่จะยื่นรายงาน ก็เลยมาหาคุณโดยตรง!" หลินตงกล่าว"โอ้? งั้นนักศึกษาหลินตง คุณคิดว่าผมจะเห็นด้วยไหม?""ผมเชื่อว่าคุณจะไม่ปฏิเสธผู้อำนวยการโจว!""เหตุผล!" โจวลี่หมินกล่าว"เพราะผมวางแผนที่จะบริจาคเงินร้อยล้านให้กับมหาวิทยาลัยเจียงหนาน โดยห้าสิบล้านจะนำไปใช้ในการจัดตั้งกองทุนรางวัลนักศึกษายากจน โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนยากจนที่มีผลก
"เอาล่ะ ผู้อำนวยการโจว นั่นคือสิ่งที่เราตกลงกัน แต่ผมหวังว่าผมจะบริจาคโดยไม่เปิดเผยตัวตน ผมไม่อยากให้ตัวเองถูกมองเหมือนลิงทุกที่ในโรงเรียน!""ไม่มีปัญหา!"ด้วยวิธีนี้ หลินตงจึงถูกผู้อำนวยการโจวลี่หมินพาไปที่แผนกการเงินของมหาวิทยาลัย และเรียกพนักงานระดับสูงของมหาวิทยาลัยเจียงหนานเข้ามาจนกว่าการบริจาคจะเสร็จสิ้นและได้รับร้อยล้าน พนักงานระดับสูงของมหาวิทยาลัยเจียงหนานยังคงรู้สึกเหมือนเป็นความฝันเมื่อก่อนการบริจาคเงินหลายล้านต้องมีการประโคมข่าวคราว ประกาศหน่อยว่าตอนนี้การบริจาคหนึ่งล้านทำเสร็จง่าย ๆ แบบนี้แล้วชื่อของหลินตงก็อยู่ในพนักงานระดับสูงของมหาวิทยาลัยด้วย เขาเป็นเศรษฐีแน่นอน พยายามอย่าทำให้เขาขุ่นเคืองถ้าเป็นไปได้"นักศึกษาหลินตง ขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมในการสร้างมหาวิทยาลัยเจียงหนาน ในนามของอาจารย์และนักเรียนทุกคนของมหาวิทยาลัย ผมขอขอบคุณอย่างจริงใจ!" ผู้อำนวยการโจวลี่หมินกล่าวพร้อมกับจับมือของหลินตงไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างร้อยล้านถือเป็นความก้าวหน้าในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน หลินตงยังเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียงและถูกจับตามองเมื่อสำเร็จการศึ
วันรุ่งขึ้นหลินตงพาเว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงไปที่บ้านของหลินกั๋วปังลุงคนที่สองของเขา!จากความเข้าใจของหลินตงเกี่ยวกับหลินกั๋วปังลุงคนที่สองของเขา และป้าคนที่สองของเขาจางกุ้ยฟาง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมอบค่าชดเชยอย่างเชื่อฟังเมื่อคืนหลินตงได้ติดต่อทนายความที่ดีที่สุดของเจียงเฉิง และส่งข้อตกลงไปยังอีกฝ่ายเนื่องจากข้อตกลงในมือ อีกฝ่ายจึงกล่าวว่าคดีนี้แทบจะไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยตอนนี้ทนายความน่าจะเดินทางมาชูเฉิงแล้วและเขาได้ติดต่อบุคคลในศาลผ่านความสัมพันธ์บางอย่าง อีกฝ่ายกล่าวว่าตราบใดที่หลักฐานชัดเจนก็จะจัดการด้วยความรวดเร็วที่สุดที่อยู่อาศัยของลุงคนที่สองหลินกั๋วปังตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของชูเฉิง เป็นบ้านที่สร้างขึ้นเอง มีสามชั้น ซึ่งสร้างขึ้นโดยพ่อของหลินตงและลุงคนที่สองหลินกั๋วปังร่วมกันในปีนั้นกล่าวอีกนัยหนึ่งบ้านหลังนี้มีครึ่งหนึ่งเป็นของหลินตง แต่หลังจากสิทธิในการเลี้ยงดูของหลินตงให้กับหลินกั๋วปังแล้ว บ้านก็เป็นของหลินกั๋วปังโดยธรรมชาติหลินตงและพรรคพวกของเขามาถึงบ้านของหลินกั๋วปังเมื่อเข้าไปในสนามหญ้า ป้าคนที่สองจางกุ้ยฟางกำลังรดน้ำดอกไม้ในสวน เมื่อเธอเห็นหลินตงกำ
หลังจากคำพูดของหลินตงออกมา สีหน้าที่ยิ้มแย้มก็เริ่มจริงจังขึ้น ทำให้ครอบครัวของหลินกั๋วปังรู้สึกกดดันอย่างมากในทันที พวกเขาทั้งหมดมองหลินตงด้วยความตกใจเล็กน้อยแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอหลินตงมานานแล้ว แต่หลินตงก็เป็นขี้ขลาดในสายตาของพวกเขาเมื่อเจอหลินกั๋วปังสองผัวเมียก็เหมือนหนูเจอแมว แม้แต่เจอหลินเฟยหลินฉวนก็จะระมัดระวังอย่างมากเป็นการทารุณกรรมหลินตงของพวกเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเงามืดทางจิตใจให้หลินตงหลินตงคนก่อนไม่กล้าหักล้างคําพูดของหลินกั๋วปังสองผัวเมียเลย ตราบใดที่เขากล้าพูดกลับก็เป็นการทุบตีอย่างรุนแรงเมื่อพวกเขาพบกับหลินตงในวันนี้ พวกเขาก็คิดว่าเขาเป็นเมื่อก่อนโดยธรรมชาติแม้ว่าหลินตงจะพาคนสองคนไปด้วย แต่พวกเขาก็ไม่เห็นในสายตาเลย พวกเขาไม่เชื่อว่าคนขี้ขลาดอย่างหลินตงจะกล้าทำอะไรกับพวกเขา!แต่ตอนนี้หลินตงไม่เพียงแต่กล้าโต้แย้งเท่านั้น แต่ยังพูดจาเยาะเย้ยอีกด้วย ซึ่งทําให้หลินกั๋วปังไม่สามารถยอมรับความแตกต่างที่รุนแรงนี้ได้ และยิ่งไม่สามารถไว้หน้าได้เลยดังนั้นเขาจึงตบโต๊ะกาแฟตรงหน้าอย่างแรงแล้วยืนขึ้นชี้ไปที่หลินตงแล้วพูดว่า "หลินตงอย่าคิดว่าตอนนี้ปีกของนายแข
เว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงก็ปลดปล่อยบรรยากาศนองเลือดที่พัฒนาในสนามรบอย่างเหมาะสมในเวลานี้ทำให้ครอบครัวหลินกั๋วปังสี่คนรู้สึกหนาวสั่นทันที สายตาที่มองทั้งสองเต็มไปด้วยความกลัวสมาชิกทั้งสี่คนในครอบครัวหลินกั๋วปังเป็นคนธรรมดา โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่สามารถต้านทานรัศมีที่ปล่อยออกมาจากยอดฝีมืออย่างเว่ยโหย่งหลี่กั๋วปิงที่ได้รับบัพติศมาในสนามรบได้หลินกั๋วปังนั่งลงอย่างหดหู่และพูดว่า "หลินตง นายต้องการอะไรกันแน่?""ฉันแค่อยากเอาของที่เป็นของฉันคืนและเอาเงินชดเชยของพ่อแม่ฉันออกมา ส่วนบ้านหลังนี้คิดว่าอยู่ในบ้านนายหลายปีแล้ว พวกนายไม่ได้ทําให้ฉันตายก็ต้องขอบคุณแล้ว! ไม่งั้นถ้าพวกนายลงมือโหดหน่อยในปีนั้น อาจจะไม่มีหลินตงในปัจจุบันก็ได้!" หลินตงพูดเสียดสี"ต้องการเงินไม่มี! เอาชีวิตมี ฉันไม่เชื่อว่านายจะกล้าทำอะไรเรา!" จางกุ้ยฟางตะโกนเงินนี้เตรียมซื้อบ้านให้ลูกชายของเธอหลินฉวนเพื่อแต่งงานกับลูกสะใภ้ ถ้านี่ให้หลินตงแล้ว หลินฉวนยังไม่มีงานทํา เขาจะทําอย่างไรในอนาคต?อีกทั้งค่าชดเชยนี้ก็มีดอกเบี้ยมากมายทุกปี หากไม่มีเงินนี้ ชีวิตครอบครัวก็จะลำบากดังนั้นจะต้องไม่มอบเงินให้กับหลินตงหลินกั๋ว
ห้องรับแขกเงียบไปครู่หนึ่งหลินตงไม่ได้เร่ง ยังคงนั่งสบาย ๆ บนเก้าอี้ ดูเหมือนกำลังรอให้อีกฝ่ายตัดสินใจ"หลินตง ต้องการเงินไม่มี? นายสามารถไปฟ้องได้ทุกที่ที่นายต้องการ! แม้ว่าเราจะได้คำตัดสิน เราก็ไม่มีเงินเลย! ไม่งั้นนายตีเราให้ตาย"สุดท้ายเป็นจางกุ้ยฟางที่ตัดสินใจการพูดแบบนี้โดยพื้นฐานแล้วเทียบเท่ากับการเลือกเงินและสละอนาคตของลูกสาวหลินเฟยหลินกั๋วปังถอนหายใจด้วยความโล่งอก เนื่องจากจางกุ้ยฟางได้เลือกแล้ว ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น!"แม่! แม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง!" หลินเฟยมองจางกุ้ยฟางทั้งน้ำตาและตะโกนอย่างไรก็ตาม จางกุ้ยฟางไม่ตอบสนองต่อเธอเพราะลูกสาวก็คือลูกสาวและจะต้องแต่งงานออกไปในอนาคตอย่างแน่นอน ลูกชายคือคนที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ไปจนตายดังนั้นต้องเลือกเงินแน่นอน!"ในเมื่อพวกคุณตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้เงินนี้ งั้นรอหมายศาลจากศาลเอฟในตอนบ่ายเถอะ ฉันก็ขี้เกียจเกินไปที่จะพูดกับคุณแล้ว" หลินตงพูดอย่างไม่ใส่ใจการตัดสินใจของหลินกั๋วปังและภรรยาของเขานั้นจริง ๆ แล้วอยู่ในความคาดหมายของหลินตง ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเขาคาดหวังไว้แล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาจึงติดต่อทนายความก่อนและขอให้เ
สมาชิกทั้งสี่คนในครอบครัวหลินกั๋วปังตัวสั่นด้วยความกลัว"ฉัน...ฉันไม่ได้ตีเธอ ฉันแค่...แค่ผลักเธอเบา ๆ...ผลักเธอสองครั้ง!" หลินฉวนกล่าวอย่างสั่นเทาตอนนี้เขากลัวจริง ๆ ดูเหมือนว่าหลินตงจะเปลี่ยนไปหลังจากไม่ได้เจอเขามาสองสามปีมันดูน่ากลัวและน่าตกใจเล็กน้อยสำหรับเขา"แค่ผลักเบา ๆ สองครั้งแล้วทำไมเธอถึงเจ็บเอวและลุกจากเตียงไม่ได้เป็นเวลาครึ่งเดือน?" หลินตงมองหลินฉวนด้วยแสงเย็นเฉียบในดวงตาของเขาแล้วถาม"ฉัน...ฉัน...ก็ไม่รู้เหมือนกัน!""ไม่รู้?" หลินตงเอื้อมมือไปบีบคางของหลินฉวน"ฉันไม่รู้จริง ๆ...ไม่รู้! หลินตง ฉัน... ฉันผิดไปแล้ว! นาย... ปล่อยฉันไปเถอะ!" หลินฉวนร้องไห้หลินฉวนร้องขอความเมตตา เขาไม่มีทางเลือกจริง ๆ! ตอนนี้หลินตงกดดันเขามากเกินไปหลินตงยิ้มและปล่อยหลินฉวนหลี่กั๋วปิงก็ปล่อยเขาไปเช่นกันทันใดนั้นหลินฉวนก็นั่งลงบนโซฟาและหายใจแรงหลินตงหันไปมองหลินกั๋วปังแล้วพูดว่า "หลินกั๋วปัง พูดตามตรง จริง ๆ แล้วสําหรับฉัน เงินขนาดนี้ฉันไม่อยากได้จริง ๆ ตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจจะเอาแล้ว แต่หลินฉวนกลับกล้าทําร้ายป้าของฉัน ดังนั้นพวกนายต้องโทษเขาเถอะ! จำไว้ว่าโอนเงินเร็ว ถ้านายทําได
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน