หลินตงนั่งบนเก้าอี้และหลับตาเพลิดเพลินกับการนวดของจ้าวซวน รอการมาถึงของหลิวหม่างส่วนหลี่ปินจะมาหรือไม่นั้น เขาก็ไม่สนใจแม้ว่าจะไม่มีความช่วยเหลือของหลี่ปิน เขาก็ไม่ได้กลัวหลิวหม่างเลยตอนนี้เขาไม่ใช่หลินตงที่เพิ่งได้รับระบบอีกต่อไป ตอนนั้นเขาไม่มีอะไรเลย ทําอะไรก็ต้องระมัดระวัง กลัวจะถูกกองกําลังใหญ่บางคนสังเกตเห็นและตอนนี้เขาประสบความสําเร็จในการเข้าร่วมสององค์กรที่สุดยอดมากที่สุดในประเทศ มีพวกเขาเป็นผู้สนับสนุน ตราบใดที่เขาไม่ละเมิดกฎและข้อบังคับขององค์กร เขาก็ไม่กลัวหลิวหม่างเหล่านี้เลย แม้แต่ผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังหลิวหม่าง หลินตงก็ไม่กลัวเลยแม้ว่าหลิวหม่างจะเป็นหนึ่งในสี่วีรบุรุษของหมอตู และเป็นคนเก่าแก่ของเอสซีซี แต่เมื่อเทียบกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษและสมาชิกเหยี่ยวแล้ว เขายังห่างไกลมาก ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ระดับเดียวกันเลยไม่นานหลังจากนั้น ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้งคนแรกที่เข้ามาในครั้งนี้คือชายร่างสูงหน้าอวบอ้วนตามมาด้วยคนสองสามคนที่ดูเหมือนเป็นยอดฝีมือตั้งแต่แรกเห็นผู้นำแน่นอนว่าคือหลิวหม่าง นานน้อยคนโตของตระกูลหลิวแห่งหมอตู หนึ่งในสี่วีรบุรุษหมอ
หลายคนที่อยู่ข้างหลังหลิวหม่างพร้อมที่จะลงมือตลอดเวลา ตราบใดที่หลินตงออกคําสั่ง พวกเขาจะจัดการพวกหลินตงทันทีเว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงก็เดินจากด้านหลังไปข้างหน้าหลินตงด้วยสีหน้าจริงจัง ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามไม่อ่อนแอ และอาจมีการต่อสู้ที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้าแต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องดูแลความปลอดภัยให้หลินตง ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเขาในฐานะบอดี้การ์ดตอนอยู่ต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของนายจ้าง พวกเขาอยู่ในดงกระสุน แม้แต่ชีวิตก็ไม่คิด นับประสาอะไรกับฉากเล็ก ๆ แบบนี้หลิวหม่างยืนขึ้นและจ้องมองไปที่หลินตง ในตอนแรกเขายังลังเลเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เตรียมที่จะโค่นหลินตงลงก่อนค่อยว่ากันแม้ว่าหลินตงจะมีจูเก่อชางโฉงอยู่เบื้องหลัง แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผู้สนับสนุนก่อนอื่นต้องเอาหน้าตระกูลหลิวกลับมาก่อน ไม่งั้นปล่อยหลินตงไปวันนี้ วันหลังอยากจะเอาคืนก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วหลินตงต่อสู้กับฉินเจิง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ สุดท้ายก็สามารถยืนอยู่ที่นี่ได้โดยไม่บุบสลาย ก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดามีเพียงหลินตงเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าสงบ เขาอยากเห็นว่าหลิวหม่างจะทำอะไ
คนเหล่านี้ไม่มีใครธรรมดาแต่หลี่ปินไม่มีทางเลือก นายใหญ่เพิ่งบอกเขาให้หยุดคนสองคนนี้ อย่าให้พวกเขาลงมือตอนนี้เด็ดขาดเขาไม่มีทางเลือกนอกจากห้ามหลี่ปินยังตระหนักถึงข้อกังวลของนายใหญ่อีกด้วยตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่นายใหญ่จะทำสัญญาสิบปีกับมู่หรงฉิงเกอและจ้าวซือเต้า นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเขาแม้แต่ช่วงนี้เขาก็มุ่งความสนใจไปที่เรื่องนี้หากหลินตงและหลิวหม่างปะทะกันในเวลานี้ จะทําให้เกิดปฏิกิริยาหลายอย่างอย่างแน่นอนหลินตงคือบุคคลที่เขาเสนอชื่อให้เข้าร่วมสมาชิกหลักของเอสซีซี และเขายังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของข้อตกลงสิบปีของเขา เขาจะไม่นิ่งดูดายแน่นอนสิ่งนี้จะสร้างความโกรธเคืองให้กับคนที่อยู่เบื้องหลังหลิวหม่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดของเอสซีซีเพื่อจัดการกับแก๊งอันธพาลและจ้าวซือเต้าในช่วงเวลาวิกฤตินี้ นายใหญ่ไม่ต้องการสร้างปัญหาและปล่อยให้สนามหลังบ้านของเขาลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน"หลี่ปิน นายก็ได้ยินแล้ว เขาไม่เพียงแต่แตะต้องคนของตระกูลหลิวของฉัน ยังไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาอีก นายคิดว่าเรื่องวันนี้นายจะห้ามได้เหรอ?" หลิวหม่างกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธตอนนี้เขาใ
หลินตงมองดูการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย ใบหน้าของเขาค่อย ๆ มืดลง!เว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงเริ่มหมดแรง แม้ว่ารูปแบบการต่อเอาเป็นเอาตายของพวกเขาจะทำให้อีกฝ่ายวุ่นวายเล็กน้อยแต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นสี่คน และความแข็งแกร่งก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขามากนัก ดังคำกล่าวที่ว่า สองหมัดจะเอาชนะคนสี่คนได้ยาก หากเป็นเช่นนี้อีกไม่นานคู่ต่อสู้ก็จะเอาชนะพวกเขาได้เอื้อมมือออกไปและตบมือจ้าวซวนบนไหล่ของตัวเองแล้วพูดว่า "พี่ซวน ถอยหลังไปหน่อย!"จ้าวซวนเข้าใจ หยุดการนวด ถอยกลับไปสองสามก้าว และมองหลินตงอย่างประหม่า"หลินตง ฉันเคยบอกแล้วนี่คือหมอตู ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาเพ่นพ่านได้ คำนับขอโทษฉันซะดี ๆ ฉันจะเอาแค่มือนายสองข้าง ไม่เอาชีวิตนาย!" หลิวหม่างกล่าวด้วยรอยยิ้มราวกับว่าชัยชนะนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วหลินตงมองไปที่หลิวหม่างที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าและพูดว่า "ฉันหวังว่านายอีกเดี๋ยวจะยังคงยิ้มได้!"ทันทีที่พูดจบ ออร่าของเขาก็ระเบิดออกมา เขาก้าวไปบนโต๊ะข้างหน้า และคว้าหลิวหม่างด้วยมือเดียวหลิวหม่างยังไม่ทันตั้งท่า ก็เผชิญหน้ากับออร่าที่เหมือนภูเขาของหลินตง แค่รู้สึกว่าแน่นหน้าอกและไม่สบายอย่างอธิบายไม่ถู
แต่ชายชราผู้อยู่ยงคงกระพันในใจของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหมัดหลินตงมันจะทำให้เขารับได้ยังไง?หลี่ปินก็ตกใจมากเช่นกันแม้ว่าจะมีข่าวลือว่าหลินตงมีพลังมากจนแม้แต่ฉินเจิงก็ถูกขับออกจากเจียงเฉิง แต่ข่าวลือก็เป็นเพียงข่าวลือ เขายังคงไม่เชื่อถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองขนาดนายใหญ่จูเก่อชางโฉงขอให้เขาไปที่เจียงเฉิงเพื่อพบกับหลินตงด้วยตนเอง และตอนที่กล่อมหลินตง เขาก็ยังรู้สึกว่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอย่างจูเก่อชางโฉงตราบใดที่เขาพูดมา หลินตงก็ต้องไปพบเขาอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของหลินตงอย่างแท้จริงแล้ว ก็เปลี่ยนความคิดของตัวเองอย่างสิ้นเชิงสมแล้วที่เป็นนายใหญ่ มีวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร!ลุงเฉินเขาก็รู้จักนี่คือผู้พิทักษ์ที่ตระกูลหลิวส่งมาปกป้องหลิวหม่างซึ่งเป็นทายาทลำดับแรกทุกครอบครัวที่มีฐานะดีจะมอบผู้พิทักษ์ให้กับทายาทลำดับแรกเพื่อปกป้องคุ้มครองการเติบโตของเขาเขาไม่มีผู้พิทักษ์เพราะเขาไม่ใช่ทายาทลำดับแรกของตระกูลหลี่แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ส่วนที่เขาสามารถเข้าเอสซีซีเป็นสมาชิกหลักได้นั้น เป็นเพราะติดตามจูเก่อชางโฉงทั้ง
"ไป? เรื่องยังไม่จบเลย! จะไปที่ไหน?" หลินตงนั่งบนเก้าอี้ไขว่ห้างแล้วพูด!"หลินตง นายต้องการอะไร?" หลิวหม่างข่มความโกรธแล้วถามเขาก็ไม่คิดว่าหลินตงจะเก่งขนาดนี้เนื่องจากลุงเฉินถูกหลินตงต่อยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นคนที่เขาพามารวมกันก็ไม่พอหลินตงคนเดียวตีการอยู่ที่นี่จะไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากการถูกหลินตงเหยียดหยามดังนั้นเขาอยากจะจากไปตอนนี้รอระดมพลก่อนค่อยมาโจมตีหลินตงทีเดียวยิ่งไปกว่านั้นอาการบาดเจ็บของลุงเฉินยังสาหัสมาก ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด"เมื่อกี้นายเพิ่งอยากหักมือทั้งสองข้างของฉันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ฉันอยากเอาคืน! ไม่มากเกินไปใช่ไหม?""น้องหลิน! ได้โปรด…" หลี่ปินถูกหลินตงขัดจังหวะก่อนจะพูดจบ"พี่หลี่ พี่อย่าเพิ่งพูดอะไร!" หลินตงพูดอย่างไม่แสดงอารมณ์หลี่ปินได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้!ตอนนี้หลินตงทำให้เขารู้สึกกดดันมากไม่คิดว่าหลินตงจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้หลังจากการพบกันครั้งล่าสุดไม่นานอาจไม่ใช่ว่าเขาเปลี่ยนไปมาก แต่เขาซ่อนมันไว้อย่างดีเพียงแต่เจอกันครั้งที่แล้วตนดูไม่ออกเลยหลินตงมีความแข็งแกร่งที่จะต่อสู้กับบอสทั้งสามคนได้แล้ว และทิ้งพวกเขา
งั้นก็ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่แต้มศักดิ์สิทธิ์เป็นหลักประกันให้เขาพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาต่อไปหลังจากเหตุการณ์นี้ เขาต้องการให้บริษัทของเขาดำเนินงานอย่างไม่มีอุปสรรคในหมอตู ไม่ว่าเขาจะใช้เงินไปเท่าไร ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งใช่ ทำแบบนี้เลย!หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว หลินตงก็หันศีรษะและมองไปที่หลี่ปินแล้วถามว่า "พี่หลี่ พี่น้องตระกูลหลิวนี้เป็นคนยังไงในหมอตู?"หลี่ปินตกตะลึงและไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ หลินตงจึงถามคำถามนี้ เขาลังเลและตอบว่า "ไม่...ไม่เลวนะ!""พี่หลี่! ผมหวังว่าพี่จะตอบตามความเป็นจริง! วันนี้ผมจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!" หลินตงจ้องไปที่หลี่ปินและพูดทีละคำหลี่ปินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกหลินตงจ้องมอง เขาไม่รู้ว่าหลินตงหมายถึงอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่และเกี่ยวข้องกับนิสัยของพี่น้องตระกูลหลิวอย่างไรแต่ในเมื่อหลินตงให้เขาบอกความจริง หลังจากคิดแล้ว เขาจึงตัดสินใจบอกความจริงหลินตงแข็งแกร่งมากและมีศักยภาพมหาศาล เขาก็มีแผนของตัวเองด้วยเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่เนื่องจากเขาติดตามจูเก่อชางโฉง เขาก็ต้องการใช้พลังของจูเก่อชางโฉงเพื่อแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งของตระกูลหลี่หากเขาสามารถม
"ทุกคนได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม? พี่น้องตระกูลหลิวชั่วร้ายมาก ตอนนี้ผมเป็นตัวแทนของความยุติธรรมในการกําจัดพวกนาย!" หลินตงยืนขึ้นและพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง"หลินตง อย่าก่อความวุ่นวายนะ! นายลงทุนในหมอตูไปมากมายขนาดนี้แล้ว หรือว่านายพร้อมที่จะยอมทิ้งจริง ๆ? นายแตะต้องฉันจริง ๆ ตระกูลหลิวจะไม่ปล่อยนายไป และในฐานะสมาชิกหลักของเอสซีซี ฉันมีนายใหญ่อีกคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหลัง" หลิวหม่างรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบพูดออกมาแต่เนื่องจากหลินตงได้ตัดสินใจแล้ว เขาจะเปลี่ยนใจเพราะคำพูดของหลิวหม่างได้ยังไงเพียงเพื่อให้เขาพัฒนาได้ดีขึ้นในหมอตูในอนาคต ในครั้งนี้เขาต้องการใช้ประโยชน์จากพี่น้องหลิวและตระกูลหลิวนอกจากนี้คนสองคนนี้ยังเป็นอาชญากรและคนชั่วร้ายอีกด้วยและเขาเพิ่งเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อรักษาความมั่นคงทางสังคมงั้นก็โทษเขาไม่ได้"หลิวหม่าง นายเป็นใคร ข้างหลังมีใครยืนอยู่ ไม่เกี่ยวกับฉัน ในเมื่อพวกนายทําสิ่งเลวร้ายมามากมาย ฉันก็มีสิทธิ์ลงโทษพวกนาย!" หลินตงพูดอย่างจริงจังตอนนี้เขาพูดในฐานะสมาชิกสำรองของหน่วยปฏิบัติการพิเศษกลุ่มเอ แน่นอนว่าคนอื่นไม่รู้เท่านั้นทันทีที่หลินต
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ