แต่ตั้งแต่ติดตามเจ้านายมา เขาก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายบางครั้งความรุนแรงก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาและในฐานะผู้เหนือกว่า การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาถือเป็นพฤติกรรมที่ต่ำที่สุดโดยสิ้นเชิงตอนนี้เขาชอบที่จะใช้ตัวตน ภูมิหลัง และความแข็งแกร่งของเขาเพื่อปราบปรามคู่ต่อสู้ เช่นเดียวกับคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า เมื่อได้ยินชื่อเขา ก็โค้งคำนับขอโทษ"พวกนายก็มานี่ด้วย!" หลี่หู่พูดกับคนอื่น ๆหลายคนเดินเข้ามาอย่างสั่นเทา คุกเข่าเป็นแถวกับฉวีว่านลี่ แล้วก็เริ่มตบหน้าตัวเองฉวีว่านลี่ไม่กล้าแม้แต่จะท้าทายลูกพี่หู่คนนี้ นับประสาอะไรกับพวกเขาไม่กี่นาทีต่อมา ใบหน้าของหลายคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นบวมจากการตบ และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของพวกเขา แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะหยุดถ้าลูกพี่หู่คนนี้ลงมือเอง มันคงไม่แค่การตบหน้าง่าย ๆ"เอาล่ะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน!" หลี่หู่กล่าว"ขอบคุณลูกพี่หู่ ขอบคุณลูกพี่หู่!" หลายคนโล่งใจหลินตงมาถึงในเวลานี้ทันทีที่เข้าไปก็เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยี่สิบหรือสามสิบคนยืนอยู่ในห้องส่วนตัวพร้อมกระบองไฟฟ้าในมือ และหลายคนคุกเข่าอยู่ตรงกลาง ใบหน้าของพวกเขาบวมและมุมปากมีเลือดออก
หลินตงพาหวังลี่และเพื่อนร่วมห้องสามคนของเธอออกจากคาราโอเกะจึงพบว่ารถสปอร์ตคันนี้นั่งได้แค่สองคน แต่ยังมีอีกสามคน ทำไงดี?สุดท้ายหลินตงก็ต้องพาคนสองสามคนไปที่โรงแรมใกล้เคียงเดิมทีเขาว่าจะเปิดห้องให้คนละห้อง แต่พวกเธอต้องการอยู่ด้วยกัน สุดท้ายหลินตงก็เปิดห้องสวีทสองห้อง ตัวเขาเองหนึ่งห้อง อีกสี่คนหนึ่งห้องหลังจากจัดคนสองสามคนเสร็จแล้ว หลินตงก็กลับไปที่ห้องและอาบน้ำนอนอยู่บนเตียงคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ยังรู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อยโชคดีที่น้องสาวไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตหากวันนี้ไม่ได้เข้าร่วมเอสซีซีและได้เจอกับวางเฉียง คาดว่าเรื่องจะค่อนข้างยากดังนั้นเขาก็คิดได้ยังไงตัวเองก็เงินเยอะใช้ไม่หมด และต้องการแต้มศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงใช้เงินเยอะ ๆ เพื่อหาเพื่อนเพื่อนหลายคนหลายทางเลือก ไม่แน่ว่าอาจต้องการความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายเหมือนวันนี้หลังจากที่หลินตงคิดได้ เขาก็โทรหาวางเฉียง"น้องหลิน! ลูกพี่ลูกน้องของคุณไม่เป็นใช่ไหม?" วางเฉียงถามทางโทรศัพท์"เธอไม่เป็นอะไร เรื่องวันนี้ต้องขอบคุณพี่วางมาก ต่อไปมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยบอกได้เลย""น้องหลิน ไม่เป็น
"พี่รู้ว่าตอนนี้มีคำถามมากมาย ไป พี่จะพาคุณไปหาที่เงียบ ๆ และคุยกันดี ๆ"หลินตงพาหวังลี่กลับไปที่ลานจอดรถตรงทางเข้าคาราโอเกะรุ่งเรือง"ขึ้นรถ!" หลินตงหยิบกุญแจรถออกมาและปลดล็อคบูกาติมังกรบินแล้วพูดกับหวังลี่หวังลี่มองดูรถสปอร์ตสุดเท่ที่อยู่ตรงหน้าเธอ และสมองก็ไม่สามารถกลับมามีสติได้พักหนึ่ง"พี่ นี่…นี่คือรถของพี่เหรอ?" หวังลี่ถามอย่างตะกุกตะกัก"เป็นของพี่! ขึ้นรถก่อน!" หลินตงพูดแล้วขึ้นที่นั่งคนขับไปก่อน"อ้อ! ได้...ได้เลย!" หวังลี่เข้าไปในรถด้วยความงุนงงหลินตงพาหวังลี่ ไปที่ชายหาดอัตราการหันหลังกับมามองเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดเส้นทางมีคนให้ความสนใจพวกเขามากขับรถบนถนน รถทั่วไปอยู่ห่างจากเขาสิบกว่าเมตร ถึงไฟแดงก็ไม่มีข้อยกเว้นมองแวบเดียวก็ยั่วยุไม่ได้ทั้งสองได้หาที่สงบริมทะเล และพิงกับราวบันได โดยมีลมทะเลพัดผ่านมา"น้องหวัง พี่รู้ว่าเธอมีคำถามมากมาย! อยากถามอะไรก็ถามมา!" หลินตงพูดพร้อมมองดูทะเลในระยะไกล"พี่ รถคันนั้นเป็นของพี่เหรอ?" หวังลี่ถาม"ใช่ เพิ่งซื้อเมื่อวาน ที่หูเฉิง พี่มาครั้งนี้ หนึ่งคือมาหาเธอ สองคือมาซื้อรถคันนี้""รถคันนี้ราคาเท่าไหร่?""แปดสิบล้
หลินตงและหวังลี่มาถึงใจกลางทะเลสาบหลังจากลงจากเรือยอชท์แล้ว พนักงานก็พาขึ้นไปที่ชั้นสองของอาคาร"เชิญค่ะ!"พนักงานเปิดประตูห้องโถงชั้นสองยื่นมือออกไปแล้วพูดกับทั้งสองคนหลินตงและหวังลี่เข้าไปในห้องโถงบนชั้นสองรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่อีกโลกหนึ่งทันที ห้องโถงทั้งหมดมีขนาดอย่างน้อยห้าพันตารางเมตร พร้อมด้วยการตกแต่งที่หรูหราและแสงไฟอันงดงาม มีคนหลายร้อยคนอยู่ข้างใน มีคนจับกลุ่มคุยกันสองสามคนพนักงานหน้าตาดีรูปร่างสูงหลายสิบคนเดินไปมาในห้องโถงพร้อมเครื่องดื่มและอาหารหวังลี่มาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ดึงเสื้อของหลินตงเบา ๆ"ไม่ต้องกลัว! ผ่อนคลายหน่อย อยากกินอะไรก็หยิบเอง" หลินตงตบบ่าหวังลี่ปลอบใจจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน เดิมทีก็ตื่นเต้นนิดหน่อยแต่คิดดูแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ใครตื่นเต้นก็ไม่ควรเป็นฉันตื่นเต้นทั้งสองเดินเข้าไปในห้องโถงด้วยกันเมื่อหลินตงเดินผ่านพนักงานก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชิมไปคำเดียวก็ไม่เลวหวังลี่สงวนท่าทีมากขึ้น"น้องหลิน! คุณมาแล้ว!" วางเฉียงเดินมาพร้อมกับแก้วเหล้าในมือ"พี่วาง ให้คุณรอนานเลย! แนะ
ของหวานที่นี่ทุกอย่างดูน่าอร่อย"อืม อันนี้หวานมาก!""อันนี้กรอบมาก!""อันนี้หอมมาก!""อันนี้นุ่มมาก!"หวังลี่ชิมอาหารทีละอย่าง และนำสิ่งที่ตัวเองชอบใส่จาน"เอ๊ะ!"หวังลี่พบคนคนหนึ่งและวิ่งไปอย่างรวดเร็ว"คุณคือเหยาเสวี่ยใช่ไหม?"เหยาเสวี่ยกำลังพูดคุยกับผู้อาวุโสในวงการภาพยนตร์ ก็มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะเธอเหยาเสวี่ยมองไปและเห็นเด็กสาววัยยี่สิบปีคนหนึ่ง"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเหยาเสวี่ย!""ว้าว! คุณคือเหยาเสวี่ยจริง ๆ ฉันชอบหนังที่คุณเล่นมาก ขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหม? เพื่อนสาวทุกคนในหอพักของเราชอบคุณมาก" หวังลี่กล่าวด้วยความดีใจ"ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน! ฉันจะเล่นหนังดี ๆ ออกมาอีกแน่นอน!"เหยาเสวี่ยจากไปหลังจากที่ทั้งสองถ่ายรูปคู่หวังลี่โพสต์รูปลงโมเมนต์พร้อมกับข้อความว่า ทุกคนทายสิว่านี่คือใคร?จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์และเริ่มมองหาเป้าหมายใหม่"เอ๊ะ นี่ดาราชายยอดนิยมหวังข่ายสวนไม่ใช่เหรอ?""เอ๊ะ นี่ราชินีเหลิ่งชิงชิวไม่ใช่เหรอ?"จู่ ๆ ก็มีคนหนึ่งปรากฏตัวในห้องโถงพร้อมของว่างในมือข้างหนึ่งและอีกมือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายรูปกับคนดังโดยพื้นฐานแล้วคนดังทุกคนจะถ่ายรูปกับ
แฟน?หวังลี่ตกตะลึงจบแล้ว พูดผิดไป!เหตุผลหลักก็คือหวังหมิ่นจวินทำตัวเหมือนคนรวยในมหาลัยมาโดยตลอดโดยปกติจะมีกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแบรนด์เนม และรถยนต์หรูหราสำหรับรับส่งใครจะคิดว่าเธอหาแฟนแบบนี้? น่าขยะแขยงมาก!แต่ผิดแล้วก็ผิดไปเถอะ!ใครบอกให้เธอพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับพี่ชายฉัน!"ฉันไม่ขอโทษหรอก! ฮึ่ม!" หวังลี่พูดจบก็เตรียมหันหลังจากไปไม่คิดว่ากลับถูกหวังหมิ่นจวินดึงมือไหวหวังหมิ่นจวินดึงหวังลี่และเริ่มตะโกนเสียงดัง"เจ้าภาพจัดงานอยู่ไหน? เจ้าภาพจัดงานอยู่ไหน? คนนี้แอบเข้ามากินดื่ม แถมหาดารามาถ่ายรูปทุกที่ ยังเอาออกไปอวดอีก ไม่มีใครสนใจเลยเหรอ?""ฉันไม่ได้ทำ! เธออย่าดึงฉัน!"หวังลี่กำลังพยายามดิ้นให้หลุดการโต้เถียงระหว่างทั้งสองดึงดูดความสนใจของบางคนมีคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆถึงอย่างไรคนที่กล้าก่อเรื่องในสถานที่แบบนี้ก็มีน้อยมาก ทุกคนก็รู้สึกแปลกใหม่มากในเวลานี้เจ้าภาพจัดงานก็มาด้วย"เกิดอะไรขึ้น?" เจ้าหน้าที่ถามหวังหมิ่นจวินชี้ไปที่หวังลี่แล้วพูดว่า "เธอ แอบเข้ามากินดื่ม แถมหาดารามาถ่ายรูปทุกที่""คุณผู้หญิงโปรดแสดงบัตรเชิญของคุณ!" พนักงานพูดกับหวังลี่เพราะวันน
"พี่ชายของฉันชื่อหลินตง!" หวังลี่กระซิบอย่างน้อยใจเล็กน้อย"หลินตง? มีใครชื่อหลินตงบ้างไหม?" เจ้าหน้าที่ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนมองหน้ากันแล้วพูดว่า "ไม่มี!"เหยาเสวี่ยตกใจเมื่อได้ยินหวังลี่พูดว่าพี่ชายของเธอชื่อหลินตงเป็นหลินตงที่ช่วยฉันเมื่อวานนี้หรือเปล่า?เมื่อเธอกำลังจะพูด หวังลี่ก็พูดอีกครั้ง"พี่ชายของฉันเพิ่งถูกพี่ชายชื่อวางเฉียงพาตัวไป! เขาบอกว่าเขาจะหารือเรื่องธุรกิจ ดูเหมือนจะไปที่ชั้นสามแล้ว"วางเฉียง?ผู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนต่างตกตะลึงคนที่ชื่อวางเฉียงในหูเฉิงดูเหมือนจะมีแค่นายน้อยตระกูลวางเท่านั้น?นี่คือบุคคลระดับสูงที่สุดในหูเฉิงพี่ชายของเธอสามารถคุยธุรกิจกับวางเฉียงได้ จะแย่ไปได้ยังไง?พนักงานและเจิงชู่ชิงก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันนายน้อยวางไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถหาเรื่องได้นายน้อยวางมีชื่อเสียงในหูเฉิงถ้าเขาคิดว่าคุณเป็นเพื่อน เขาจะปฏิบัติต่อคุณอย่างสุดใจหากเขาคิดว่าคุณเป็นศัตรู เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกำจัดคุณอย่างแน่นอนมีธุรกิจขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนในหูเฉิงที่ถูกทำลายโดยเขาด้วยวิธีต่าง ๆด
"ฉันไม่อยากพูดเป็นครั้งที่สอง!" วางเฉียงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เดิมทีเจิงชู่ชิงหัวใจได้แตกสลายอยู่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหูของทุกคน"วางเฉียง นายมารังแกคนที่นี่อีกแล้วเหรอ?"เย่หงเดินเข้ามา"คุณเย่ ช่วยผมด้วย! เราเคยร่วมงานกันมาก่อน! ผมชื่อเจิงชู่ชิงจากอสังหาริมทรัพย์เสียงหยุน!"เจิงชู่ชิงเหมือนจับฟางช่วยชีวิตได้ถ้ายังมีใครช่วยเขาในหูเฉิงได้ เย่หงก็เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอนในฐานะที่เป็นลูกคนที่สองของตระกูลเย่ เดิมทีเป็นเพียงผู้สืบทอดลำดับที่สองเท่านั้นแต่จู่ ๆ เขาก็พลิกสถานการณ์และก็ทัดเทียมกับพี่ชายของเขา ผู้อาวุโสในครอบครัวก็ไม่แน่ใจเล็กน้อยว่าจะเลือกใครสืบทอดตระกูลเย่ในที่สุดก็ให้เงินก้อนหนึ่งแก่พวกเขาและปล่อยให้พวกเขาพัฒนาอิสระข้างนอกเป็นเวลาสิบปี สิบปีต่อมาใครเก่งกว่าก็เลือกใครเป็นผู้สืบทอดตอนนี้ผ่านไปห้าปีแล้ว ว่ากันว่าเย่หงมีข้อได้เปรียบอย่างมั่นคงแล้ว"เย่หง! ฉันไม่ได้รังแกใครเลย เขารังแกลูกพี่ลูกน้องของน้องหลิน นายคิดว่าเราควรทำยังไง?" วางเฉียงชี้ไปที่หลินตงแล้วพูดแน่นอนว่าเย่หงเห็นหลินตงกำลังกอดหญิงสาวคนหนึ่ง"อ้อ? รังแกลูกพี่ลูกน้องของน้องหล
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ