หวงฝู่ห้าวหรานหันหลังกลับและออกจากห้องของหวงฝู่เจิ้งสงแม้ว่าในใจจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามคำถามเหล่านี้และถึงแม้จะถาม ลุงสามก็จะไม่บอกเขาแน่นอนตอนนี้เขาต้องกลับไปปรับสภาพจิตใจ พรุ่งนี้ต้องข่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยทุกคน คว้าชื่ออันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ย ทำภารกิจที่ปู่สั่งให้สำเร็จด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาสามารถเข้าถึงความลับหลักของตระกูลหวงฝู่ได้ในห้องเหลือเพียงหวงฝู่เจิ้งสงและหวงฝู่ซีเยว่สองพ่อลูก"พ่อ! สิ่งที่พ่อพูดเป็นความจริงเหรอ? สิ่งที่หน้ากากเงินเพิ่งแสดงให้เห็นไม่ใช่ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา? ยังซ่อนความแข็งแกร่งไว้อีก?" หวงฝู่ซีเยว่ถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเสียงของเธอคมชัดและเต็มไปด้วยเสน่ห์ ไพเราะมาก ทำให้คนรู้สึกสบายมาก"ใครจะไปรู้ล่ะ? สิ่งที่ฉันพูดก็แค่อาจเป็นไปได้! แต่ฉันรู้สึกว่าความเป็นไปได้นี้สูงมาก!" หวงฝู่เจิ้งสงกล่าว"หน้ากากเงินคนนี้คือใครกันแน่? ช่วงกลางของระดับเทพ ทั่วโลกมีไม่มากใช่ไหม? ในเมื่อสวมหน้ากาก ไม่กล้าแสดงใบหน้าที่แท้จริงให้คนอื่นเห็น ก็ต้องกลัวคนจะจำได้ อย่างไรเสียที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของมุมมืดก็ยังพิเศษมาก"
ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้ตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ตระกูลหวงฝู่จะต้องออกหน้าและส่งเสริมการแต่งงานครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามส่วนอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย???พวกเขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้เลย!ประการแรกคือชื่อเสียงของตระกูลหวงฝู่ก็เห็นกันอยู่ ตั้งตระหง่านเป็นเวลาหลายพันปีโดยไม่เคยล้ม แข็งแกร่งและกดดันตระกูลซ่อนเร้นนับไม่ถ้วน ใครไม่อยากมีความสัมพันธ์กับตระกูลหวงฝู่?ประการที่สองย่อมเป็นผู้หญิงหวงฝู่ซีเยว่คนนี้หวงฝู่ซีเยว่ได้รับการฝึกฝนอย่างพิถีพิถันจากตระกูลตั้งแต่อายุยังน้อยเชี่ยวชาญงานฝีมือแต่งบทกวีทุกด้านบวกกับรูปลักษณ์อันน่าทึ่ง รูปร่างสมส่วน บุคลิกที่อ่อนโยน และเสียงที่ไพเราะ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธผู้หญิงเช่นนี้ได้"อีกฝ่ายคือใคร?" หวงฝู่ซีเยว่ถามอีกครั้งน้ำเสียงอ่อนโยนและสงบ ไม่มีความรู้สึกโกรธเลยที่โดนจับแต่งงานเพราะนิสัยของเธอไม่มีอารมณ์โกรธความคิดที่เธอถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กก็คือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ไม่ควรมีอารมณ์โกรธที่ทำให้หักคะแนน"ตอนนี้ยังไม่รู้!!! เพราะแผนครั้งนี้ เธอเป็นเพียงแผนสำรอง ถ้าห้าวหรานประสบความสำเ
แม้ว่าตอนนี้หลินตงจะอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเทพก็ตามแต่เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรคือบุตรแห่งโชคชะตาหรืออะไรคือภัยพิบัติไม่มีใครเคยบอกเขาเรื่องพวกนี้ถ้าหลินตงรู้จะต้องตกใจมากอย่างแน่นอนบุตรแห่งโชคชะตารับมือกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เหรอ?ตัวเองก็คือบุตรแห่งโชคชะตาไม่ใช่เหรอ?ระบบเดียวในโลกที่เพิ่มเข้ามาในตัว ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ตัวเองก็ได้แซงหน้าคนที่ขยันมาตลอดทั้งชีวิตจะมีใครโชคดีกว่าตัวเองอีก?โชคดีก็ไม่ใช่บุตรแห่งโชคชะตาเหรอ?พวกคุณยังจะสู้กันทำอะไร!!!รีบกลับบ้านไปทำสิ่งที่ควรทำเถอะกลับไปที่ปราสาทของกองทหารรับจ้างเปลวไฟ ในตอนบ่าย หลินตงได้รับโทรศัพท์จากจูเก่อชางโฉงถามว่าเขามาถึงแล้วหรือยัง!พรุ่งนี้เป็นงานพันธสัญญาสิบปีแล้วถ้าวันนี้ยังไม่ถึงมุมมืดมาถึงพรุ่งนี้ก็จะไม่ทันแล้วเพราะจากมุมมืดยังต้องไปอีกสิบกว่ากิโลเมตรและต้องนั่งเรือสำราญถึงจะไปถึงขณะที่ผู้คนมารวมตัวกันในมุมมืดมากขึ้นเรื่อย ๆ จูเก่อชางโฉงก็รู้สึกกดดันมากทายาทของตระกูลและนิกายซ่อนเร้นเหล่านี้ต่างก็มีพลังแข็งแกร่งมากเขาต้องรวบรวมกำลังทั้งหมดถึงจะได้ความคิดของจูเก่อชางโฉงในขณะนี้เปลี่ยนไป เขาสามารถแพ้
"คุณลั่ว! ไม่ได้เจอกันนานเลยครับ!" หลินตงตอบอย่างสุภาพเช่นกันสำหรับเฟิงซิวและชายหนุ่มอีกคน กลับไม่สนใจหลินตงเลยหลินตงก็ย่อมไม่ใส่ใจ แค่เด็กสองคนเท่านั้นเอง"น้องหลินเชิญนั่ง!" จูเก่อชางโฉงกล่าวลั่วหงอวี๋หาที่นั่งให้ทันที"หลินตง! มานั่งนี่สิ!"หลินตงไม่กล้าไม่ไว้หน้าลั่วหงอวี๋ เนื่องจากอีกฝ่ายก็สุภาพกับเขามากจึงเดินไปนั่งข้างลั่วหงอวี๋"น้องหลิน! ขอแนะนำให้คุณรู้จัก คนนี้คือจวงปี้ฝาน ผู้สืบทอดของตระกูลซ่อนเร้นตระกูลจวง ตระกูลจวงก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมมือของตระกูลจูเก่อของผม" จูเก่อชางโฉงชี้ไปที่ชายหนุ่มที่หลินตงไม่รู้จักแล้วแนะนำจวงปี้ฝาน?หลินตงตะลึง!จวงปีฟ่าน (นักโทษจอมอวด) ?ชื่อนี้ตั้งได้สุดยอดจริง ๆดูเหมือนว่าตระกูลจวงจะเป็นคนมีการศึกษา"พี่จวง! คนนี้คือหลินตงเพื่อนสนิทของผม! ครั้งนี้ก็มาช่วยผมรับมือกับพันธสัญญาสิบปีนี้ด้วย" จูเก่อชางโฉงแนะนำหลินตงให้จวงปี้ฝานอีกครั้ง"สวัสดีครับ! พี่จวง!" หลินตงยื่นมือออกมาทักทาย"สวัสดี! น้องหลิน!" จวงปี้ฝานยื่นมือออกไปจับมือกับหลินตงแล้วพูดคนที่สามารถถูกจูเก่อชางโฉงเชิญมาช่วยได้นั้น ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนจวงปี้ฝานก็ไม่กล้า
หลินตงออกจากห้องจูเก่อชางโฉง ตอนนี้เกือบจะเย็นแล้ว เขาเตรียมกลับห้องไปพักผ่อนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจ ห้องที่หลินตงจองไว้อยู่ตรงกลางและไม่ถือว่าเป็นห้องที่ดีที่สุดตอนที่หลินตงกำลังจะเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก็เห็นคนสองคนเดินมาชายหนึ่งหญิงหนึ่ง หนึ่งในนั้นหลินตงรู้จักลั่วเชียนโหรว!!!เพื่อนสนิทของจ้าวซวนหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งเอสซีซีชื่อลั่วหงอวี๋ ทั้งคู่แซ่ลั่ว เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่หมอตูดูเหมือนจะมีตระกูลลั่วเพียงตระกูลเดียวนะ?สองคนนี้น่าจะมาจากตระกูลเดียวกันไม่นานทั้งสามคนก็เผชิญหน้ากัน!ลั่วเชียนโหรวก็ย่อมเห็นหลินตงด้วยแน่นอนสำหรับเจ้านายของเพื่อนสนิทคนนี้ ลั่วเชียนโหรวก็สนใจมากเช่นกันเธอก็แอบตรวจสอบข้อมูลของหลินตง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลยยิ่งลึกลับยิ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น"คุณลั่ว สวัสดีครับ!" หลินตงทักทายก่อน"หลินตง! คุณก็มาเข้าร่วมพันธสัญญาสิบปีด้วยเหรอ?" ลั่วเชียนโหรวถามอย่างแปลกใจ"ไม่ใช่ผมเข้าร่วม! ผมแค่ถูกคนอื่นขอให้มา มาช่วยเขาเสริมทัพ!""จูเก่อชางโฉงขอให้คุณมาเหรอ?""ใช่ครับ!!!""งั้นคุณก็เก่งนะ! คาดไม่ถึงว่า
สำหรับน้องคนนี้เขาก็ปวดหัวเหมือนกัน ยี่สิบห้ายี่สิบหกแล้วยังไม่หาแฟน คลุกคลีกับแก๊งผู้หญิงทุกวัน ใช่เรื่องที่ไหน"ใช่แล้ว! พี่ลั่ว! เมื่อกี้ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อลั่วหงอวี๋ในห้องพี่จูเก่อ พวกคุณน่าจะรู้จักใช่ไหม?" หลินตงรีบเปลี่ยนเรื่องลั่วตงหลีสองพี่น้องได้ยินชื่อนี้ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัดหลินตงรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนนี้ทันทีหลังจากนั้นไม่นาน ลั่วตงหลีก็พูดว่า "เธอเป็นคุณหนูของตระกูลลั่วเรา! เป็นลูกสาวของลุงผม เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมสองพี่น้อง"หลินตงรู้สึกแปลกเล็กน้อยตามหลักแล้วเป็นคนตระกูลเดียวกันไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่อาจเอาชนะได้แต่รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาน่าจะมีความขัดแย้งกันเขายังไม่เข้าใจถึงความโหดร้ายของการแข่งขันระหว่างตระกูลใหญ่ในสมัยโบราณยังมีเก้ามังกรแข่งขันกันเพื่อชิงบัลลังก์ทุกวันนี้ในตระกูลใหญ่เหล่านี้ ตราบใดที่ไม่มีทายาทที่ได้รับการยืนยัน การแข่งขันก็โหดร้ายมากแม้จะได้รับการยืนยันก็อาจมีคนทำอะไรลับหลังเว้นเสียแต่ว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ แซงหน้าจนทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง ทำให้คนอื่นเสียความมั่นใจในการแข่งขัน"หลินตง คุณสนิทกับลั่วหงอวี๋มากเห
หลังจากหลินตงแยกจากพี่น้องตระกูลลั่วแล้ว ก็กลับไปที่ห้องของตัวเองโดยตรง แล้วก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีกเลยในอีกห้องหนึ่งของโรงแรมแบล็คแซนด์ จ้าวซือเต้ากำลังคุยกับหลายคนเกี่ยวกับพันธสัญญาสิบปีในวันพรุ่งนี้มู่หรงฉิงเกอไม่ได้เปิดเผยการจัดการใด ๆ ของพันธสัญญาสิบปีสองตัวเอกบอกว่าไม่ตื่นเต้นคงเป็นไปไม่ได้ที่โดยเฉพาะเรื่องมาถึงขั้นปัจุจบัน เป็นจุดโฟกัสของทั้งต้าเซี่ยถ้าแพ้ไม่ใช่แค่ทำลายความมั่นใจของตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อตระกูลย่างมากอีกด้วยทั้งคู่แพ้ไม่ได้!!!และไม่อาจแพ้ได้เหมือนกัน!!!ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ พรุ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแบบไหนก็ต้องสามารถรับมือได้คืนนี้มีหลายคนนอนไม่หลับจ้าวซือเต้า จูเก่อชางโฉง และมู่หรงฉิงเกอ สามคนต่างนอนไม่หลับอัจฉริยะอีกหลายคนที่รู้สึกว่าตนมีความแข็งแกร่งที่จะแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยต่างก็นอนไม่หลับหวงฝู่ซีเยว่ก็นอนไม่หลับเช่นกัน!!!พรุ่งนี้เธออาจจะได้รู้ว่าอีกครึ่งชีวิตของตัวเองคือใครในขณะนี้เธอรู้สึกกังวลและมีความหวังในใจ!!!มีเพียงหลินตงเท่านั้นที่นอนหลับสบาย!!
อัจฉริยะคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยเกือบทั้งหมดอยู่ที่นี่ แถมในนี้ยังมีแม้กระทั่งระดับครึ่งเทพมากมายแต่แล้วไงล่ะ?ก็ไม่ใช่ต้องฟังคำสั่งของตัวเองเหรอสั่งระดับครึ่งเทพเข้าแถว!นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของพวกเขาอย่างแน่นอน สามารถอวดไปได้ตลอดชีวิตข่าวที่หน้ากากเงินข่มขวัญเมื่อวานนี้ยังไม่ได้แพร่กระจายออกไปถ้าแพร่กระจายออกไป ย่อมสร้างความฮือฮาอย่างมากแน่นอนผู้พิทักษ์ระดับเทพอีกคนหนึ่งปรากฏตัวโดยไม่มีเหตุผลนี่เป็นเรื่องใหญ่!!!มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในอนาคตคนที่ขึ้นเรือล้วนเป็นผู้สืบทอดของกองกำลังใหญ่ ๆ และผู้แข็งแกร่งที่ถูกส่งมาปกป้องพวกเขาส่วนผู้ติดตามคนอื่น ๆ พวกเขาทำได้เพียงอยู่ที่มุมมืด รอให้นายน้อยหรือคุณหนูเดินทางกลับมาเท่านั้นคนที่อยู่คือคนส่วนใหญ่!คาดว่ามีไม่ถึงหนึ่งในห้าเท่านั้นที่ขึ้นเรือในไม่ช้าหลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือ เรือสำราญก็เคลื่อนตัวและเริ่มแล่นไปยังเกาะร้างซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตรไม่นานหลังจากที่เรือสำราญออกเดินทาง ทุกคนก็เห็นเกาะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งระยะทางกว่าสิบกิโลเมตรก็ถึงอย่างรวดเร็วด้วยการแล่นอย่างรวดเร็วของเรือส
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ