อยากให้เธอเรียนแบบทีวีโมเสสวอล์คเกอร์รออยู่ครู่หนึ่งและเห็นจ้าวซวนยังคงไม่มอง เขาพูดอย่างโกรธเคืองว่า "คุณจ้าวหมายความว่าไงกันแน่? คุณอยากทำให้ผมโกรธเหรอ? ทำให้ความพยายามของคุณในวันนี้สูญเปล่าเหรอ? สาวบริสุทธิ์อย่างคุณถ้าไม่เรียนรู้ ไม่มีทางทำให้ผมพอใจได้ คุณต้องคิดให้ดี!"จ้าวซวนกำลังเตรียมหันไปดูทีวีอย่างจนใจมีเสียงที่เย็นชาทะลุกระดูกดังขึ้นในห้อง"นายอยากสบายแบบไหน? ฉันทำงานแทนได้!!!"จ้าวซวนได้ยินเสียงนี้ จู่ ๆ ตัวของเธอก็เหมือนถูกอะไรบางอย่างกระแทก ค่อย ๆ หันไปมองชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างเทเหล้าอยู่บนเก้าอี้ในขณะนี้สุดท้ายเธอก็กลั้นไว้ไม่ได้ น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนเขื่อนแตกเธออยากร้องไห้ออกมาดัง ๆแต่รู้สึกว่าไม่ใช่เวลา จึงรีบเอามือปิดปากตัวเอง พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา"นายเป็นใคร?" โมเสสก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเองแล้วถามไอ้หมอนี่มานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?เมื่อกี้เขาไม่สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อยจะเป็นไปได้ยังไง???เขาคือใคร?หนึ่งในห้ากองกำลังหลักของโลก ทายาทอันดับที่สองของตระกูลโมเสสการดำรงอยู่ของร
ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันนี้ย่อมเป็นหลินตงแน่นอนหลังจากที่เขาพบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับจ้าวซวนเมื่อคืนนี้ เขาไม่ได้จากไป แต่พักค้างคืนอยู่ฝั่งตรงข้ามชั้นเดียวกันกับจ้าวซวนตอนนั้นเขาซื้อบ้านสองหลังที่อยู่ติดกันในหมู่บ้านนั้น จ้าวซวนพักหลังหนึ่งและเขาพักหลังหนึ่งแน่นอนว่าแม้ว่าจะไม่มีบ้านที่นั่น เขาก็ไม่สามารถจากไปได้สถานการณ์ของจ้าวซวนค่อนข้างร้ายแรงอย่างเห็นได้ชัดเขาไม่วางใจที่จะจากไปแบบนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำอย่างไร?สถานะของผู้หญิงคนนี้ในหัวใจของเขาไม่ได้ต่ำกว่ายุนซีมากนักถึงขนาดที่ทั้งคู่อยู่ในใจของเขามีความรู้สึกที่เท่าเทียมกันด้วยดังนั้นเขาจึงใช้พลังจิตวิญญาณสังเกตความเคลื่อนไหวของจ้าวซวนตลอดทั้งคืนในเมื่อจ้าวซวนไม่พูด เขาก็บังคับถามได้ยาก ได้แต่ใช้วิธีนี้เท่านั้นจนกระทั่งตอนเช้าหลินตงพบว่าจ้าวซวนออกไปข้างนอก จึงรีบตามไปตลอดทางแต่ตอนที่เขาออกจากหมู่บ้าน เขาไปขับรถ แต่จ้าวซวนนั่งแท็กซี่ออกไปหลินตงก็ไม่รู้ว่าจ้าวซวนไปทางไหน ได้แต่ขอความช่วยเหลือจากหน่วยข่าวกรองเท่านั้นหน่วยข่าวกรองได้ระดมการเฝ้าระวังจำนวนมากเพื่อหาทิศทางของยานพาหนะที่จ้าวซวนน
หยุดร้องไห้มือสองข้างปล่อยหลินตง เงยหน้ามองเขาหลินตงก้มหัวลงตอบสนองจ้าวซวนด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น"หลิน... หลินตง ไม่... ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด วอล์คเกอร์ไม่ได้บังคับฉัน! ฉัน... ฉันทำด้วยความเต็มใจ" จ้าวซวนพูดติดอ่างเล็กน้อยในเวลานี้เธอยังคงไม่ต้องการให้หลินตงเป็นศัตรูกับตระกูลโมเสสแม้ว่าเธอจะไม่รู้ภูมิหลังของหลินตงแต่ในมุมมองของเธอ ไม่ว่าภูมิหลังของหลินตงจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถเป็นคู่แข่งของตระกูลโมเสสได้หลินตงยิ้มและส่ายหัวเช็ดน้ำตาที่เหลืออยู่บนใบหน้าจ้าวซวนออกเบา ๆหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจได้อย่างคร่าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ชายคนนี้ที่ชื่อวอล์คเกอร์น่าจะเป็นคนที่มีภูมิหลังที่ทรงพลังมากเขาชอบจ้าวซวนแต่จ้าวซวนปฏิเสธเป็นผลให้เขาใช้ตัวตนของตัวเองกดดันจ้าวซวน ต้องการได้ตัวเธอแม้ว่าจ้าวซวนจะกลับมาที่ต้าเซี่ย เขาก็ยังไม่ปล่อยและตามมาบางทีตัวตนของวอล์คเกอร์อาจทรงพลังเกินไป จึงทำให้จ้าวซวนคิดว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวอล์คเกอร์เลยไม่เคยบอกตัวเองเลือกที่จะแบกรับทั้งหมดนี้อย่างเงียบ ๆต้องการเสียสละร่างกายของเธอเพื่อปกป้องทุกอย่างจึงทำให้เกิดเหตุการณ์บ
หลินตงใช้มือทั้งสองข้างจับหัวที่ส่ายไปมาของจ้าวซวนเบา ๆ เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอให้แห้ง แล้วก้มตัวจูบบนหน้าผากของเธอเบา ๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "พี่ซวน ไม่ต้องกลัว!!! เชื่อผมนะ! มีผมอยู่ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถบังคับให้คุณทำสิ่งที่คุณไม่ชอบได้ ไม่มีใครทำได้!!!"จ้าวซวนตกตะลึง!นี่เป็นครั้งแรกที่หลินตงริเริ่มที่จะจูบเธอเธอรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากในขณะนี้และคำพูดของหลินตงก็เหมือนมีเวทย์มนตร์ ค่อย ๆ สงบจิตใจที่วิตกกังวลของเธอลงอย่างช้า ๆเดิมทีมีหลายพันคำ แต่สุดท้ายก็พูดได้เพียงประโยคเดียว"อืม!!! ฉันเชื่อคุณ!!!"หลินตงปล่อยจ้าวซวน ยืนตัวตรงแล้วหันไปมองพวกโมเสสวอล์คเกอร์สามคนโมเสสวอล์คเกอร์รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวทันทีความรู้สึกของการเผชิญหน้ากับความตายแบบเมื่อกี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งแม้แต่สองระดับครึ่งเทพที่อยู่ข้างหลังเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตอนนี้หลินตงยังไม่ได้ปล่อยพลังสิ่งที่แผ่ออกมาเป็นเพียงเจตนาฆ่าของตัวเองแค่นี้ก็ทำให้ทั้งสามคนเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งแล้วชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่?ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!!!"พูดมา!!! พวกนายอยากตายแบบ
เขาก็อยู่ในจุดสูงสุดของระดับเทพไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรยังไงเขาโมเสสวอล์คเกอร์ก็ต้องฆ่าพอดีเขายังไม่เคยต่อสู้กับจุดสูงสุดของระดับเทพเลยอย่างมากก็สู้กันสักครั้งทดสอบขีดจำกัดพลังการต่อสู้ของตัวเองพอดี"นาย... นายเป็นใครกันแน่???" โมเสสวอล์คเกอร์ถามอย่างสั่นเทาคาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าพูดแบบนี้หลังจากรู้ตัวตนของเขา?สถานะการณ์เกินความคาดหมายเล็กน้อยหลินตงไม่เพียงแต่รู้จักตระกูลโมเสสเท่านั้นยังรู้ด้วยว่ามีห้ากองกำลังหลักในโลกที่มีจุดสูงสุดระดับเทพเห็นได้ชัดว่าตัวตนก็ไม่ได้ต่ำ!!!หรือว่าเป็นลูกหลานของผู้บริหารระดับสูงของต้าเซี่ย?ทำยังไงดี? ? ?โมเสสวอล์คเกอร์กำลังคิดหาวิธีหนีเขาสาบานว่าตราบใดที่สามารถรอดชีวิตกลับไปได้ต่อไปจะไม่ก้าวออกจากขอบเขตอิทธิพลของตระกูลโมเสสอย่างเด็ดขาดแม้ว่าจะต้องออกมาก็จะต้องพาผู้พิทักษ์ระดับเทพมาด้วย"ฉันเป็นใครนายไม่ต้องสนใจ! นายแค่ต้องรู้ว่าการทำให้พี่ซวนของฉันขุ่นเคือง แม้ว่านายจะหนีกลับไปที่ตระกูลโมเสส ฉันก็จะต้องฆ่านายให้ได้""งั้น... งั้นนายกล้าปล่อยฉันไปไหม? พอฉันกลับไปที่ตระกูล นายค่อยมาฆ่าฉัน ตราบใดที่นายกล้ามา ฉันจะไม่หนี
หลินตงอุ้มจ้าวซวนไว้แล้วยกเท้าขวาขึ้นก้าวออกไปทีละก้าว"บูม!!!"เสียงดังสนั่นทั้งห้องราวกับว่าถูกระเบิดลูกหนึ่งโยนใส่"แปะแปะแปะแปะแปะ!!!!"ทีวี เตียง เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า หน้าต่าง ทุกอย่างแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีพวกโมเสสวอล์คเกอร์สามคนถูกเสียงดังสนั่นทำให้มึนงงพวกเขายังไม่ทันตั้งตัว ร่างกายถูกกระแทกอย่างแรง จนกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง"ฟู่!!!"พ่นเลือดออกมาทั้งสามคนรู้สึกเหมือนร่างกายพังทลายลงออกแรงไม่ได้เลยสักนิดจ้าวซวนหลับตาแน่นและเอนตัวพิงหน้าอกของหลินตง เธอได้ยินเสียง แต่ก็ยังไม่ลืมตาเพราะเมื่อกี้หลินตงบอกกับเธอว่า ไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็อย่าลืมตาเด็ดขาดหลินตงอุ้มจ้าวซวนเดินไปที่โมเสสวอล์คเกอร์อย่างช้า ๆในเวลานี้พวกเขาสามคนนอนอยู่บนพื้นและพูดอะไรไม่ออกแล้วทั่วร่างกายกระดูกหักหลายแห่ง อวัยวะภายในถูกกระแทกเสียหาย และบาดเจ็บภายนอกนับไม่ถ้วนความเจ็บปวดแพร่ไปทั่วร่างกายของพวกเขาแต่กลับสลบไม่ได้ทำได้แค่ส่งเสียงครวญครางเบา ๆ"รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ฆ่าพวกนายทันที? ไม่ใช่เพราะฉันกลัวตระกูลโมเสสที่อยู่เบื้องหลังนาย แต่การตายแบบนี้มันง่ายเกินไปสำหรับพวกนาย ฉันจะเชิญพว
ถ้าไม่ใช่แขกที่สำคัญมากคนหนึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ เขาคงไม่อยากหาเรื่องนี้"คุณไม่เคยได้ยินเพราะนายไม่มีคุณสมบัติพอ! โทรไปถามเจ้านายคุณ ดูว่าเขากล้าพูดกลับทีมวินัยแบบนี้ไหม!"ในเวลานี้ผู้จัดการก็ไม่กล้าอวดดีรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเจ้าของโรงแรม"หวังจวี มีเรื่องอะไร?" เสียงของชายวัยกลางคนดังมาจากโทรศัพท์"สวัสดีครับ! ประธานหยวน ผมมีเรื่องจะรายงานท่านครับ" หวังจวีกล่าวด้วยความเคารพ"พูด!!!""เมื่อกี้มีเสียงดังในพื้นที่วีไอพีของโรงแรม ผมกำลังจะพาคนไปตรวจสอบ แต่ถูกขวางไว้ข้างนอก!" หวังจวีกล่าว"โอ้??? ใครกล้าดีขนาดนี้? กล้าดียังไงมาเบ่งในโรงแรมแกรนด์สตาร์ของฉัน!!!" ประธานหยวนเริ่มสนใจ"พวกเขาบอกว่ามาจากทีมวินัยต้าเซี่ย ให้ผมอย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่งั้นจะถูกจัดการอย่างรุนแรง" หวังจวีกล่าว"อะไรนะ!!!!" ประธานหยวนตะโกนด้วยความตกใจ"นาย... นายพูดอีกทีสิ! พวกเขาเป็นใครนะ?""ทีมวินัยต้าเซี่ย!!!" หวังจวีย้ำอีกครั้งอย่างระมัดระวัง"แน่ใจนะ???" ประธานหยวนถามอีกครั้ง"แน่ใจ!!!" หวังจวีตอบอย่างยืนยัน"ไม่ต้องสนใจพวกเขา! ไม่ถูก พวกเขาต้องการอะไรให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ฉั
ออกมาจากบ้านซ่งซือหมินหลินตงนึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลโมเสสที่ได้เรียนรู้จากซ่งซือหมินตระกูลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่และทรงพลังมากนอกจากจุดสูงสุดของระดับเทพแล้ว ยังมีผู้แข็งแกร่งในช่วงปลายของระดับเทพสามคนไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังควบคุมประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมากทุกปีมีทรัพยากรที่ส่งมาจากทั่วโลกไปยังตระกูลโมเสสอย่างต่อเนื่องกลุ่มบริษัทในเครือโมเสสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก มีทรัพย์สินมากมายนับไม่ถ้วนแม้ว่าตระกูลโมเสสจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาห้ากองกำลังหลักของโลก แต่ก็น่ากลัวพอหลินตงวัดความแตกต่างระหว่างตัวเองกับตระกูลโมเสสนอกจากทั้งสองฝ่ายจะมีกำลังรบที่อยู่ในจุดสูงสุดของระดับเทพแล้วเรื่องอื่นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวทำยังไงดี???หลินตงกำลังคิดอยู่ครั้งนี้เขาได้โค่นทายาทลำดับที่สองของตระกูลโมเสส ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลโมเสส จะต้องไม่มีวันปล่อยไปง่าย ๆ แน่ไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจะไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แต่ตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยตระกูลโมเสสไปง่าย ๆ เหมือนกันไม่ช้าก็เร็วทั้งสองฝ่ายก็จะต้องปะทะกันตัวเองต้องเตรียมตัวให้พร้อมหลินตงกลับไปยังบ้านที่จ้าวซว
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน