หลินตงยืนอยู่ในอากาศหลังจากปะทะกันสั้นๆ สองครั้งก่อนหน้านี้ก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้จริงๆบรรพบุรุษของตระกูลคริส พลังยังไม่ฟื้นตัวถึงจุดสูงสุดบำเพ็ญเพียรไปหลายร้อยปีร่างกายยังต้องการพลังงานอีกมากไม่มีทางที่จะรักษาความแข็งแกร่งในจุดสูงสุดก่อนที่จะบำเพ็ญเพียรได้ยิ่งกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเขาแล้ว ก็แก่มากแม้กระทั่งก่อนที่เขาจะหลับไหลแน่นอนว่าถ้าหลินตงยังไม่ก้าวไปถึงระดับครึ่งซุปเปอร์เทพขั้นสูงสุด ก็จะไม่สามารถยืนหยัดต่อกรกับเขาได้อย่างแน่นอนแต่เนื่องจากก้าวผ่านมาแล้ว จึงไม่เหมือนเดิมแม้ว่าอีกฝ่ายจะถึงจุดสูงสุดแล้ว เขาก็ไม่ได้กลัว แถมยังไม่ฟื้นตัวอีกด้วย“ฉันไม่คาดคิดว่า ต้าเซี่ยจะมีตัวตนระดับครึ่งซุปเปอร์เทพขั้นสูงสุด นั่นเป็นความประมาทของตระกูลคริสของฉันเอง ฉันขอโทษนายตรงนี้ แต่ชายสวมกากเงิน เรื่องนี้ไม่สามารถโทษฉันได้ทั้งหมด หากนายแสดงความแข็งแกร่งเช่นนั้นตั้งแต่เนิ่นๆ สิ่งต่างๆ ก็คงไม่บานปลายมาถึงจุดนี้” คริส - บอร์นพูดเขาไม่อยากสู้กับหลินตงอีกต่อไปแต่ในฐานะเทพระดับครึ่งซุปเปอร์เทพ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถต่อกรกับหลินตงได้ เขาก็ไม่สามารถดูอ่อนแอเก
ให้เหล่าผู้ชมเบิกตากว้างผู้ชมการถ่ายทอดสดหลายพันล้านค นต่างจ้องมองหน้าจออย่างไม่กระพริบตานี่ดีกว่าละครหรือภาพยนตร์เรื่องใดๆ มากไม่มีการใส่สเปเชี่ยลเอฟเฟกต์เป็นเพียงการต่อสู้ที่แท้จริง จากเลือดและเนื้อ“ตู้ม!!!”เป็นการปะทะกันที่รุนแรงอีกครั้งหลินตงยังคงได้เปรียบอีกครั้งหลินตงซัดคริส - บอร์นถอยกลับไปหลายร้อยเมตร“ฮ่าๆ!!! ไอ้แก่ แกแก่เกินแกงแล้ว ตอนนี้มันเป็นโลกของคนหนุ่มสาวของเราแล้ว ยอมรับความจริงซะเถอะ! จงเป็นวิญญาณภายใต้กำปั้นของฉันอย่างเชื่อฟังซะ และจำไว้ในชีวิตหน้าว่าฉัน ต้าเซี่ย ไม่สามารถถูกทำให้ขายหน้าได้ " หลินตงหัวเราะและพูดเขาไม่ใช่คนที่ปล่อยให้คู่ต่อสู้หนีไปได้ง่ายๆทันทีที่อีกฝ่ายหยุดถอย เขาก็พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้งเมื่อเห็นหน้ากากพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง คริส - บอร์นถอนหายใจเงียบๆ ในใจไม่คาดคิดว่าจะเจอคู่ต่อสู้เช่นนี้หลังจากตื่นจากการบำเพ็ญเพียรหากเขารู้ เขาคงรอนานกว่านี้ รอจนกว่าเขาจะฟื้นตัวเต็มที่เขาประมาทเกินไปเพราะคิดว่า ตัวเองเป็นระดับครึ่งซุปเปอร์เทพคนเดียวบนโลกเชื่อว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการไม่คาดคิดว่าจะมีอีกคนหนึ่งซ่อนอยู่ไ
หลินตงแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพลัง ยิ่งเขาต่อสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นเท่านั้นคริส - บอร์นอายุเกือบสองร้อยปีแล้ว ก่อนที่เขาจะบำเพ็ญเพียรไปอย่างยาวนาน ซึ่งร่างกายของเขาเกือบจะเสื่อมสลาย และตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่จนถึงจุดสูงสุดยิ่งการต่อสู้กินเวลาไปนานเท่าไรเขาก็ยิ่งได้รับอันตรายมากขึ้นเท่านั้นแม้ว่าการต่อสู้ของพวกเขาจะดูสูสีกันแต่ตาชั่งแห่งชัยชนะค่อยๆ เอียงไปในทิศทางของหลินตงคริส - บอร์นคงอยู่ต้านได้อีกไม่นานนักตอนนี้เขากำลังดิ้นรนเพื่อลงจากหลังเสือเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเพราะหลินตงจะไม่เปิดโอกาสเขาการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง ไม่สามารถมองได้ด้วยจากตาเปล่าไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่กำลังรับชมสดในสถานที่แห่งนี้ หรือผู้ที่รับชมถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอพวกเขาได้ยินเพียงเสียงของการปะทะกันอย่างรุนแรงเท่านั้นตรงไหนก็ตามที่บางสิ่งถูกทำลาย พวกเขาทั้งหมดก็จะมองไปที่นั่นกล้องความละเอียดสูงหลายร้อยตัวที่ถ่ายจากทุกมุมโดยไม่มีจุดบอด แต่ก็ยังไม่สามารถจับภาพนักสู้ทั้งสองได้บางครั้ง กล้องบางตัวก็ถูกทำลายด้วยคลื่นกระแทกจากการต่อสู้“ตู้ม!!!”หลินตงพบช่องเปิดและปล่อยหมั
ยุนซีจับมือหวงฝู่ซีเยว่ น้ำตาคลอเบ้า และเธอก็เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความกังวลซ่งเจียก็กรี๊ดออกมาเช่นกัน จากนั้นก็ปิดปากแน่นและจ้องไปที่หน้าจอ น้ำตาหยดลงบนโต๊ะยอดฝีมือบางคนที่เฝ้าดูในสถานที่นั้นต่างก็ไม่เข้าใจเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าหลินตงเป็นฝ่ายได้เปรียบโจมตีคริส - บอร์นที่ยอดเขามุมมืดจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปและโจมตีปิดฉากแล้วทำไมคริส - บอร์นถึงเป็นคนแรกที่ออกมาตอนนี้หรือแก่หนังเหนียวคริส - บอร์นมีชีวิตอยู่มาเกือบสองร้อยปีแล้วแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้อายุของชายสวมหน้ากากเงิน แต่เขาก็ไม่แก่ขนาดนั้นอย่างแน่นอนทุกคนต่างคาดเดาว่าชายสวมหน้ากากเงิน ถูกคริส - บอร์นฆ่าตายหรือไม่“ซวบ!!!”มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ยืนอยู่ตรงข้ามกับคริส - บอร์นในขณะนี้ เสื้อผ้าของหลินตงก็ขาดรุ่งริ่งเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับคริส - บอร์นแล้ว เขาอยู่ในสภาพที่ดีกว่ามากหน้ากากของเขาถูกฉีกออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลินตงทุกคนตะลึงเมื่อมองดูใบหน้าที่อ่อนเยาว์และหล่อเหลาของเขาเพราะใบหน้านี้ดูเด็กอย่างน่าตกใจเขาดูอายุไม่เกินยี่สิบปี!คนธรรมดาหลายพันล้านคนที่รับชมการถ่าย
มู่หรงฉิงเกอใจสลายและหายใจไม่ออกทุกคนที่เข้าร่วมงานใหญ่อย่างการแข่งขันอัจฉริยะ ต่างก็ตกตะลึงและพูดไม่ออกเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยและอ่อนเยาว์คนรุ่นใหม่ของกองกำลังต่างๆ เหล่านี้ไม่สามารถเข้าใจได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลินตงอายุเพียงยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเป็นไปได้อย่างไรที่จะบรรลุถึงระดับนี้?ความสำเร็จในปัจจุบันของหลินตงไม่ใช่แค่สิ่งที่พวกเขาต้องเคารพเท่านั้นแม้แต่ผู้อาวุโสและบรรพบุรุษเองก็ต้องได้รับการเคารพและคนในวัยเดียวกันพวกเขาส่วนใหญ่มีอายุมากกว่าหลินตงด้วยซ้ำ แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเขากับเขานั้นกว้างใหญ่ราวกับฟ้ากับเหวผู้ที่ได้พบปะพูดคุยกับหลินตงและสร้างความสัมพันธ์อันเป็นมิตรกับเขาต่างก็ดีใจกันอย่างลับๆผู้คนอย่างลู่เฉิน จูเก่อชางโฉงและพี่น้องตระกูลลั่วทั้งสาม ลั่วหงอวี้และพี่ชายของเธอ ต่างก็ตื่นเต้นกันมากจนแทบจะพูดจาไม่เป็นคำหลังจากวันนี้ด้วยความแข็งแกร่งและสถานะของหลินตงแค่คำพูดเพียงคำเดียว ก็จะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขาได้ และทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ไปชั่วชีวิตแน่นอนว่าผู้คนอย่างเฟิงซิวที่เคยมีปัญหากับหลินตงต่างก็รู้สึกเสียใจและหวังว่าจะได้ซ่
ในที่สุดก็เป็นคริส - บอร์นที่ออกมาเป็นคนแรกเพราะเขาฉวยโอกาสที่หลินตงลดพละกำลังลง จึงถูกคริส - บอร์นโจมตีหลินตงยืนกลางอากาศและหายใจอย่างมั่นคง แต่ก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดที่เขาเคยเผชิญมาแม้แต่ระหว่างการต่อสู้กับโมเสส มาโลนเขาไม่เคยเสียหายครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อนหรือบางทีตัวเองอาจจะประมาทไปถ้าระมัดระวังมากกว่านี้ในตอนนั้น อาจจะหลีกเลี่ยงสถานการ์ณนี้ได้อย่างสมบูรณ์แถมยังไม่ต้องใช้พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของตัวเองอีกด้วยความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ก็เป็นเหมือนการปลุกให้หลินตงมีสติมากขึ้นในระหว่างการต่อสู้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ตราบใดที่ศัตรูยังไม่ตาย ก็ไม่ควรลดการป้องกันตัวแม้ว่าคนๆ หนึ่งจะตาย ก็จำเป็นต้องยืนยันว่าพวกเขาตายจริงหรือไม่มิฉะนั้น ก็เป็นไปได้ที่ตัวเองจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต้องใส่ใจเรื่องนี้ในอนาคตหลินตงตัดสินใจในใจอย่างลับๆคริส - บอร์นมองใบหน้าเด็กของหลินตงและไม่สามารถรู้สึกตัวได้เป็นเวลานานเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตกว่าเขาจะก้าวข้ามไปสู่ระดับครึ่งซุปเปอร์เทพ ก็อายุเกือบร้อยปีแล้ว!แต่ใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งมีอา
หลินตงไม่คิดว่าคริส - บอร์นจะยอมแพ้เร็วขนาดนี้เขาเพิ่งถูกชายชราหลอกและยังไม่ได้แก้แค้นเลย!เขาจะยอมแพ้ได้ยังไงกัน?“ตาแก่ การยอมแพ้หมายความว่ายังไง? เรายังไม่ได้ตัดสินผู้ชนะเลย! นอกจากนี้ ถ้าหากแกต้องการทำลายต้าเซี่ย แกก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกทำลาย เอาล่ะ มาสู้กันอีก 300 รอบกันเถอะ!”จากนั้นหลินตงก็พุ่งเข้าหาคริส - บอร์นอีกครั้ง จากนั้นรัวหมัดเข้าที่คริส - บอร์นเต็มๆคริส - บอร์นไม่ได้ป้องกันตัวเองด้วยซ้ำและกระเด็นตกลงไปกระแทกเนินเขาใกล้ๆไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ยืนตรงข้ามกับหลิน ตงอีกครั้ง“ไอ้หน้ากากเงิน ถ้านายยังระบายความโกรธไม่พอ ก็เข้ามาเลย ฉันจะไม่สู้กลับ แม้ว่านายจะฆ่าฉัน ฉันก็ไม่มีอะไรจะตัดพ้อ แต่ฉันยังคงหวังว่าคุณจะพิจารณาภาพรวม เพราะภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังมาถึง และมนุษยชาติบนโลกกำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เราควรสามัคคีกันเพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติครั้งนี้” คริส - บอร์นพูดด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความชอบธรรมภัยพิบัติ?ภัยพิบัติอใหญ่อะไร?นี่เป็นครั้งที่สองที่คริส - บอร์นพูดถึง “ภัยพิบัติครั้งใหญ่” นี้ภัยพิบัติที่อาจคุกคามเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติ!ผู้คนหลายพันล้านคนที่ร
ทำได้เพียงต้องหาทางรอดจากด้านอื่นเท่านั้นด้วยการพูดประเด็นของภัยพิบัติครั้งใหญ่ทิ้งไป และบอกให้คนทั้งโลกได้รับรู้จากนั้นก็อธิบายเหตุผลเบื้องหลังความพยายามของเขาที่จะรวมกองกำลังทั่วโลกเข้าด้วยกันคริส – บอร์นเชื่อว่า จะมีคนธรรมดาจำนวนมากที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ แล้วจะเข้าข้างเขาท้ายที่สุดแล้ว มันเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของมนุษยชาติไม่ว่าชายสวมหน้ากากเงินจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็จะไม่ต่อสู้กับคนธรรมดาหลายพันล้านคนทั่วโลกดังนั้นคริส - บอร์นจึงมั่นใจว่าเขาจะไม่ถูกฆ่าเพราะตัวเองกำลังทำเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติทั้งหมดและตอนนี้ ดูเหมือนว่าแผนของเขาจะได้ผล“ไอ้แก่ แกเก่งมาก แกรู้จักใช้วิธีความชอบธรรมของมนุษยชาติเพื่อกดดันฉัน ขอบอกเลยว่าแกทำสำเร็จ ฉันจะไม่ฆ่าแกวันนี้ แต่ถ้าวันหนึ่งฉันรู้ว่าแกกำลังวางแผนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือพยายามครองโลกอีกครั้ง ฉันจะเอาชีวิตแก” หลินตงกล่าวด้วยอารมณ์ที่หดหู่ตอนนี้เขากำลังรู้สึกหดหู่มากเขามีโอกาสที่จะกำจัดศัตรูได้แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันต้องปล่อยศัตรูคนนั้นไปด้วยเหตุผลบางประการนั่นทำให้หลินตงรู้สึกไม่สบายใจมากไม่มีอะไรที่เขาทำได้เขา
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน