ความตื่นเต้นนั้นเกินบรรยายทันใดนั้น จุดแสงสว่างจากโลกก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องควบคุมนั่นคืออะไร?ขณะที่ทุกคนสงสัย จุดแสงสว่างก็วูบวาบและหายไปเข้าใกล้และชนกับยานรบประจัญบานกาแล็กซีโดยตรง“ปัง!!!”เสียงการชนกันดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าเหนือโลกเฟิงซิงเจี้ยนและคนอื่นๆ รู้สึกว่าเรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงยานรบประจัญบานกาแล็กซีหยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหันในทันทีแม้ว่ายานรบประจัญบานกาแล็กซีจะช้าลง แต่ก็ยังเร็วมากจู่ๆ ก็ถูกโจมตีและหยุดลงแบบนี้เนื่องมาจากผลของแรงเฉื่อยสิ่งของภายในเรือรบทั้งหมดเอียงไปข้างหน้าแต่สิ่งนี้ไม่มีผลกระทบต่อเฟิงซิงเจี้ยนและคนอื่นๆความแข็งแกร่งของพวกเขาทำให้จัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างง่ายดายถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปอาจะถูกบดขยี้ออกเป็นชิ้นๆแสงที่ปะทะกับยานรบประจัญบานกาแล็กซี ก็คือหลินตงที่บินออกจากโลกด้วยความเร็วสูงเขาเฝ้าดูความว่างเปล่าเหนือโลกเพียง ไม่อยากให้ตระกูลเฟิงลงมายังโลกเพื่อสกัดกั้นศัตรู เขาจึงชนกับยานรบประจัญบานกาแล็กซีโดยตรงยานรบประจัญบานกาแล็กซีเป็นอาวุธยุทธภัณฑ์ที่สำคัญอย่างแท้จริงของจักรวรรดิกาแลกติกแม้ว่าหลิน
เกิดอะไรขึ้น?สมาชิกตระกูลเฟิงทั้งหมดในห้องควบคุมของยานรบประจัญบานกาแล็กซีต่างก็ตกตะลึงหลังจากเกิดการสั่นสะเทือน ยานรบก็เริ่มถอยกลับ?ความกะทันหันของเหตุการณ์ทำให้พวกเขาทั้งหมดไม่ทันระวังเฟิงซิงเจี้ยนเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นแสงสว่างจ้านั้น“เกิดอะไรขึ้น? "เฟิงซิงเจี้ยนถามด้วยเสียงทุ้มลึก“นายน้อยสอง เรากำลังหาสาเหตุอยู่ครับ" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบ“งั้นรีบไปเถอะ!”“ขอรับ!”เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา“เจอแล้ว! เจอแล้ว!” เจ้าหน้าที่อีกคนตะโกนเสียงดังทันทีหลังจากนั้น ในห้องควบคุมของยานรบประจัญบานกาแล็กซี ฉากที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทั้งหมดชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ใต้ด้านหน้าของยานรบ โดยผลักมันไปด้านหลังจะเป็นไปได้อย่างไร?เฟิงซิงเจี้ยนและคนอื่น ๆ จ้องไปที่ชายหนุ่มบนหน้าจอคนที่สามารถหยุดยานรบประจัญบานกาแล็กซีได้ โดยบินด้วยความเร็วสูงขนาดนั้น และยังสามารถต้านทานพลังของยานรบประจัญบานกาแล็กซี พร้อมผลักเรือขนาดใหญ่ให้ถอยหลังได้อีกด้วยนี่เป็นสิ่งที่คนที่อยู่บนดาวเคราะห์พื้นเมืองสามารถทำได้งั้นเหรอ?อย่าพูดถึงคนอื่นในห้องควบคุมแม้แต่เฟิงซิ่งเจี้ยน ซึ่งเป็นพลังในช่วงกลางของระดับ
เหนือกว่านั้นคืออาณาจักรนิรันดรในตำนานหลินตงผลักยานรบประจัญบานกาแล็กซีที่กำลังจะมาถึงกลับอย่างต่อเนื่อง“นายน้อยสอง ควรหยุดเขาไหม? "เฟิงจิ่วจงถาม“ไม่จำเป็น! หายากที่จะพบคนที่น่าสนใจเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากให้เรามาที่โลกและต้องการผลักเราให้ห่างออกไปเพื่อปกป้องความปลอดภัยของโลก ให้โอกาสเขาเถอะ! ฉันอยากจะดูว่ามนุษย์คนนี้จะเลือกต่อสู้จนตายหรือหลบหนีไปเองหลังจากรู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิง" เฟิงซิงเจี้ยนพูดพร้อมรอยยิ้มหลินตงรู้สึกสับสนว่าทำไมสมาชิกตระกูลเฟิงจึงไม่ตอบสนองแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสนใจเรื่องนี้ยานรบที่มาครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าล้ำหน้ากว่าที่เฟิงรั่วเฉินเอามาเมื่อครั้งก่อนยิ่งไกลจากโลกก็ยิ่งดีแม้ว่าโลกจะถูกโจมตีเขาก็ยังมีเวลาที่จะหยุดเพียงโลกเท่านั้นที่อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยอย่างแน่นอนหลินตงจึงสามารถสู้ได้อย่างสุดใจเขามีลางสังหรณ์เขารู้ว่าตระกูลเฟิงมาครั้งนี้ ไม่ได้มาดีแน่สิบนาทีต่อมาหลินตงหันกลับมาและมองไปที่โลกระยะห่างนี้ควรจะพอแล้วเขาหยุดเคลื่อนตัวไปข้างหน้าออกจากยานรบประจัญบานกาแล็กซีถอยกลับอย่างรวดเร็วขวางที่ด้านหน้าของยานรบประจัญบ
หลินตงหรี่ตามองยานรบขนาดใหญ่ของทางช้างเผือกที่อยู่ตรงหน้าเขาคำก็คนพื้นเมือง!อีกคำก็คนพื้นเมือง!เขาเกลียดการเรียกแบบนี้จริงๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ทุกคนที่มาจากใจกลางทางช้างเผือก ไม่ว่าจะมีความแข็งแกร่งแค่ไหน ถูกเรียกว่าคนพื้นเมืองดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับความรู้สึกที่เหนือกว่าโดยธรรมชาติ“แกเป็นสมาชิกตระกูลของเฟิงรั่วเฉินหรือเปล่า? "หลินตงถาม“ถูกต้อง! เราเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิกาแลกติก ตระกูลเฟิง ฉันเป็นปู่คนที่สองของเฟิงรั่วเฉิน แกอาจบรรลุพลังการต่อสู้ระดับดาวฤกษ์ และถ้ารั่วเฉินตายจากน้ำมือของแก มันก็ไม่ยุติธรรม" เฟิงซิงเจี้ยนตอบแต่แล้วเขาก็เปลี่ยนหัวข้อและตะโกนเสียงดัง: "แต่! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เฟิงรั่วเฉินก็เป็นนายน้อยของตระกูลเฟิงเช่นกัน แม้ว่าเขาจะทำผิดมหันต์ แต่ก็มีเพียงตระกูลเฟิงเท่านั้นที่จะจัดการได้ และไม่ใช่หน้าที่ของแกซึ่งเป็นคนพื้นเมือง ใครให้ความกล้าหาญกับแกถึงกล้าที่จะฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลเฟิง?”พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเฟิงรั่วเฉินตายไปแล้วหลินตงคิดด้วยความสับสนเฟิงรั่วเฉินไม่มีโอกาสส่งข้อความกลับไปดูเหมือนว่าตระกูลเฟิงจะมีวิธีลับในการสื่อสารร
ไม่กลัวโดนหัวเราะเยาะหรือไง?“แกก็มีเหตุผลของตัวเอง และฉันก็มีหลักการของฉัน และฉันก็ไม่คิดว่ามันจะตลกตรงไหน!” หลินตงฟังเสียงหัวเราะของสมาชิกตระกูลเฟิงหลายคนในยานรบประจัญบานกาแล็กซี และพูดขึ้นอีกครั้ง“คนพื้นเมืองคือคนพื้นเมือง! แม้ว่าแกจะมีพลังการต่อสู้ระดับดาวฤกษ์ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแก่นแท้ของคนพื้นเมืองของแกได้ แกนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ ในโลกนี้ที่ผู้ที่อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ที่แข็งแกร่งได้รับการเคารพ เราต้องบอกว่าแกเป็นคนประหลาดจริงๆ” เฟิงซิงเจี้ยนพูดอย่างประชดประชัน“ไม่ว่าแกจะเรียกฉันว่าประหลาดหรือไร้เดียงสา ฉันจะยืนหยัดตามความเชื่อและหลักการของฉันต่อไป แล้วความแข็งแกร่งล่ะ เฟิงรั่วเฉินเป็นนายน้อยของตระกูลเฟิง สถานะของเขาสูงพอแล้วเหรอ? เขามีชีวิตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าฉันฆ่าเขา เขาก็จะหายไปตลอดกาล! อะไรคือความแตกต่างระหว่างเขากับคนธรรมดา? ไม่ว่าตระกูลเฟิงของแกจะแข็งแกร่งและน่ากลัวเพียงใด แกสามารถชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้หรือเปล่า? “หลินตงก็ตอบอย่างประชดประชันตอนนี้ฉากก็เงียบลงทั้งนักรบที่แข็งแกร่งของโลกหรือสมาชิกตระกูลเฟิงที่อยู่ในยานรบประจัญบานกาแล็กซี
ปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กและปืนใหญ่เลเซอร์ต่างก็เป็นอาวุธที่ทรงพลังแต่อาวุธประเภทนี้ล้วนมีข้อบกพร่องซึ่งต้องใช้เวลาในการสะสมพลังงานไม่ใช่สิ่งที่สามารถปล่อยได้ในทันที เมื่อต้องการซ่งซือหมินและคนอื่นๆ มองไปที่หลินตงด้วยความกังวลหวังว่าเขาจะมีหนทางที่จะหยุดมันได้ไม่อย่างนั้น หากการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น เผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกจะต้องเสียหายอย่างหนักในตอนที่ปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กกำลังจะสะสมพลังงานได้สำเร็จหลินตงก็พูดขึ้น“แกต้องคิดให้ดีก่อน โลกได้กลายเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีและได้รับการปกป้องโดยอาณาจักรกาแล็กซี ด้วยการโจมตีครั้งนี้ ตระกูลเฟิงของแกจะสามารถต้านทานความโกรธเกรี้ยวของอาณาจักรกาแล็กซีได้หรือเปล่า อย่าเอาตระกูลเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้องเลย”อะไรนะ?คำพูดของหลินตง ทำให้ตระกูลเฟิงบนยานรบประจัญบานกาแล็กซีหวาดกลัวมือของผู้ควบคุมปืนใหญ่แม่เหล็กคนหนึ่งสั่น และเขาก็ยกเลิกการชาร์จของอาวุธโดยไม่ได้ตั้งใจดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีเหรอ?นี่คือสิทธิพิเศษสูงสุดที่อาณาจักรกาแล็กซีสามารถมอบให้ได้ใครก็ตามกล้าที่จะโจมตีดาวเคราะห์นี้หากไม่มีเหตุผ
อาณาจักรกาแล็กซีก็กลัวการเกิดขึ้นของกองกำลังที่อาจคุกคามพวกเขาเช่นกันดังนั้นการประทับเครื่องหมายทาสจึงเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาดหากถูกประทับไว้ดาวเคราะห์พื้นเมืองที่เพิ่งค้นพบ อาณาจักรกาแล็กซีก็อาจทำเป็นมองไม่เห็นแต่สำหรับดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูง ที่ได้ลงทะเบียนโดยอาณาจักรกาแล็กซีนี้ ถ้าถูกประทับเครื่องหมายทาสแน่นอนว่า คือการท้าทายอาณาจักรกาแล็กซีตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้นแม้ว่าจะมีกองกำลังสองฝ่ายเข้าสู่สงครามหากฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ อาณาจักรกาแล็กซีจะไม่ยอมให้ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะใช้เครื่องหมายทาสเฟิงซิ่งเจี้ยนคิดไม่ออกดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีอารยธรรมระดับ 0.7 ทำเรื่องแบบนั้นสำเร็จได้อย่างไร?ไม่ต้องพูดถึงการที่การเป็นพลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซี ที่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเวลามันจะประจวบเหมาะได้ยังไง!สามเดือนก่อน?ที่ไพ่ชะตาชีวิตของรั่วเฉินถูกทำลาย?“ลุงสอง เราควรทำยังไงต่อไปดี? "เฟิงจิ่วจงถามตอนนี้เขาก็โกรธมากเช่นกันเขากำลังจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าแต่ยังไม่ทันได้บินขึ้น!ก็ถูกฉุดลงมากถึงพื้นดินความผิดหวังครั้งใหญ่นี้ทำให้นายน้อยคนใหม่ของตระก
“เป็นอย่างไรบ้าง? ตรวจสอบได้ผลยัง! โลกได้กลายเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีและได้รับการปกป้องโดยอาณาจักรกาแล็กซี พวกแกกล้าละเมิดกฎของจักรวรรดิและโจมตีพวกเราเหรอ? "หลินตงพูดอย่างใจเย็น“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าแกทำได้ยังไง? อย่างแรก มันแทบไม่มีเวลาเลย อย่างที่สอง แกได้เงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นมาจากไหน? การทำให้ดาวเคราะห์พื้นเมืองเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงต้องใช่เงินจำนวนมหาศาล "เฟิงซิงเจี้ยนระงับความโกรธของเขาและพูดขึ้นเขาต้องการทราบเรื่องราวของสถานการณ์นี้แม้ว่าเขาจะไม่สามารถประทับเครื่องหมายทาสได้ อย่างน้อยเราก็ต้องกอบกู้บางสิ่งบางอย่างให้กับตระกูลของเขาที่สูญเสียไปไม่อย่างนั้น การเดินทางครั้งนี้จะเปล่าประโยชน์“วิธีการไม่สำคัญใช่ไหม สิ่งสำคัญคือผลลัพธ์ต่างหาก ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเฟิง มีทายาทสายตรงมากมาย ทำไมยังเสี่ยงที่จะแหกกฎระเบียบของอาณาจักรกาแล็กซี เพื่อการตายของเฟิงรั่วเฉิน? นอกจากนี้ พวกแกทุกคนดูเหมือนว่า ช่วงนี้พวกแกก็กำลังลำบากเหมือนกันสินะ!” หลินตงพูดด้วยท่าทางสนุกสนานดวงตาของเฟิงซิงเจี้ยนหรี่ลง“แล้วแกไปได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน?”“แกไม่ต้อ
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน