เหนือกว่านั้นคืออาณาจักรนิรันดรในตำนานหลินตงผลักยานรบประจัญบานกาแล็กซีที่กำลังจะมาถึงกลับอย่างต่อเนื่อง“นายน้อยสอง ควรหยุดเขาไหม? "เฟิงจิ่วจงถาม“ไม่จำเป็น! หายากที่จะพบคนที่น่าสนใจเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากให้เรามาที่โลกและต้องการผลักเราให้ห่างออกไปเพื่อปกป้องความปลอดภัยของโลก ให้โอกาสเขาเถอะ! ฉันอยากจะดูว่ามนุษย์คนนี้จะเลือกต่อสู้จนตายหรือหลบหนีไปเองหลังจากรู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิง" เฟิงซิงเจี้ยนพูดพร้อมรอยยิ้มหลินตงรู้สึกสับสนว่าทำไมสมาชิกตระกูลเฟิงจึงไม่ตอบสนองแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสนใจเรื่องนี้ยานรบที่มาครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าล้ำหน้ากว่าที่เฟิงรั่วเฉินเอามาเมื่อครั้งก่อนยิ่งไกลจากโลกก็ยิ่งดีแม้ว่าโลกจะถูกโจมตีเขาก็ยังมีเวลาที่จะหยุดเพียงโลกเท่านั้นที่อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยอย่างแน่นอนหลินตงจึงสามารถสู้ได้อย่างสุดใจเขามีลางสังหรณ์เขารู้ว่าตระกูลเฟิงมาครั้งนี้ ไม่ได้มาดีแน่สิบนาทีต่อมาหลินตงหันกลับมาและมองไปที่โลกระยะห่างนี้ควรจะพอแล้วเขาหยุดเคลื่อนตัวไปข้างหน้าออกจากยานรบประจัญบานกาแล็กซีถอยกลับอย่างรวดเร็วขวางที่ด้านหน้าของยานรบประจัญบ
หลินตงหรี่ตามองยานรบขนาดใหญ่ของทางช้างเผือกที่อยู่ตรงหน้าเขาคำก็คนพื้นเมือง!อีกคำก็คนพื้นเมือง!เขาเกลียดการเรียกแบบนี้จริงๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ทุกคนที่มาจากใจกลางทางช้างเผือก ไม่ว่าจะมีความแข็งแกร่งแค่ไหน ถูกเรียกว่าคนพื้นเมืองดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับความรู้สึกที่เหนือกว่าโดยธรรมชาติ“แกเป็นสมาชิกตระกูลของเฟิงรั่วเฉินหรือเปล่า? "หลินตงถาม“ถูกต้อง! เราเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิกาแลกติก ตระกูลเฟิง ฉันเป็นปู่คนที่สองของเฟิงรั่วเฉิน แกอาจบรรลุพลังการต่อสู้ระดับดาวฤกษ์ และถ้ารั่วเฉินตายจากน้ำมือของแก มันก็ไม่ยุติธรรม" เฟิงซิงเจี้ยนตอบแต่แล้วเขาก็เปลี่ยนหัวข้อและตะโกนเสียงดัง: "แต่! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เฟิงรั่วเฉินก็เป็นนายน้อยของตระกูลเฟิงเช่นกัน แม้ว่าเขาจะทำผิดมหันต์ แต่ก็มีเพียงตระกูลเฟิงเท่านั้นที่จะจัดการได้ และไม่ใช่หน้าที่ของแกซึ่งเป็นคนพื้นเมือง ใครให้ความกล้าหาญกับแกถึงกล้าที่จะฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลเฟิง?”พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเฟิงรั่วเฉินตายไปแล้วหลินตงคิดด้วยความสับสนเฟิงรั่วเฉินไม่มีโอกาสส่งข้อความกลับไปดูเหมือนว่าตระกูลเฟิงจะมีวิธีลับในการสื่อสารร
ไม่กลัวโดนหัวเราะเยาะหรือไง?“แกก็มีเหตุผลของตัวเอง และฉันก็มีหลักการของฉัน และฉันก็ไม่คิดว่ามันจะตลกตรงไหน!” หลินตงฟังเสียงหัวเราะของสมาชิกตระกูลเฟิงหลายคนในยานรบประจัญบานกาแล็กซี และพูดขึ้นอีกครั้ง“คนพื้นเมืองคือคนพื้นเมือง! แม้ว่าแกจะมีพลังการต่อสู้ระดับดาวฤกษ์ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแก่นแท้ของคนพื้นเมืองของแกได้ แกนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ ในโลกนี้ที่ผู้ที่อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ที่แข็งแกร่งได้รับการเคารพ เราต้องบอกว่าแกเป็นคนประหลาดจริงๆ” เฟิงซิงเจี้ยนพูดอย่างประชดประชัน“ไม่ว่าแกจะเรียกฉันว่าประหลาดหรือไร้เดียงสา ฉันจะยืนหยัดตามความเชื่อและหลักการของฉันต่อไป แล้วความแข็งแกร่งล่ะ เฟิงรั่วเฉินเป็นนายน้อยของตระกูลเฟิง สถานะของเขาสูงพอแล้วเหรอ? เขามีชีวิตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าฉันฆ่าเขา เขาก็จะหายไปตลอดกาล! อะไรคือความแตกต่างระหว่างเขากับคนธรรมดา? ไม่ว่าตระกูลเฟิงของแกจะแข็งแกร่งและน่ากลัวเพียงใด แกสามารถชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้หรือเปล่า? “หลินตงก็ตอบอย่างประชดประชันตอนนี้ฉากก็เงียบลงทั้งนักรบที่แข็งแกร่งของโลกหรือสมาชิกตระกูลเฟิงที่อยู่ในยานรบประจัญบานกาแล็กซี
ปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กและปืนใหญ่เลเซอร์ต่างก็เป็นอาวุธที่ทรงพลังแต่อาวุธประเภทนี้ล้วนมีข้อบกพร่องซึ่งต้องใช้เวลาในการสะสมพลังงานไม่ใช่สิ่งที่สามารถปล่อยได้ในทันที เมื่อต้องการซ่งซือหมินและคนอื่นๆ มองไปที่หลินตงด้วยความกังวลหวังว่าเขาจะมีหนทางที่จะหยุดมันได้ไม่อย่างนั้น หากการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น เผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกจะต้องเสียหายอย่างหนักในตอนที่ปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กกำลังจะสะสมพลังงานได้สำเร็จหลินตงก็พูดขึ้น“แกต้องคิดให้ดีก่อน โลกได้กลายเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีและได้รับการปกป้องโดยอาณาจักรกาแล็กซี ด้วยการโจมตีครั้งนี้ ตระกูลเฟิงของแกจะสามารถต้านทานความโกรธเกรี้ยวของอาณาจักรกาแล็กซีได้หรือเปล่า อย่าเอาตระกูลเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้องเลย”อะไรนะ?คำพูดของหลินตง ทำให้ตระกูลเฟิงบนยานรบประจัญบานกาแล็กซีหวาดกลัวมือของผู้ควบคุมปืนใหญ่แม่เหล็กคนหนึ่งสั่น และเขาก็ยกเลิกการชาร์จของอาวุธโดยไม่ได้ตั้งใจดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีเหรอ?นี่คือสิทธิพิเศษสูงสุดที่อาณาจักรกาแล็กซีสามารถมอบให้ได้ใครก็ตามกล้าที่จะโจมตีดาวเคราะห์นี้หากไม่มีเหตุผ
อาณาจักรกาแล็กซีก็กลัวการเกิดขึ้นของกองกำลังที่อาจคุกคามพวกเขาเช่นกันดังนั้นการประทับเครื่องหมายทาสจึงเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาดหากถูกประทับไว้ดาวเคราะห์พื้นเมืองที่เพิ่งค้นพบ อาณาจักรกาแล็กซีก็อาจทำเป็นมองไม่เห็นแต่สำหรับดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูง ที่ได้ลงทะเบียนโดยอาณาจักรกาแล็กซีนี้ ถ้าถูกประทับเครื่องหมายทาสแน่นอนว่า คือการท้าทายอาณาจักรกาแล็กซีตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้นแม้ว่าจะมีกองกำลังสองฝ่ายเข้าสู่สงครามหากฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ อาณาจักรกาแล็กซีจะไม่ยอมให้ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะใช้เครื่องหมายทาสเฟิงซิ่งเจี้ยนคิดไม่ออกดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีอารยธรรมระดับ 0.7 ทำเรื่องแบบนั้นสำเร็จได้อย่างไร?ไม่ต้องพูดถึงการที่การเป็นพลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซี ที่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเวลามันจะประจวบเหมาะได้ยังไง!สามเดือนก่อน?ที่ไพ่ชะตาชีวิตของรั่วเฉินถูกทำลาย?“ลุงสอง เราควรทำยังไงต่อไปดี? "เฟิงจิ่วจงถามตอนนี้เขาก็โกรธมากเช่นกันเขากำลังจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าแต่ยังไม่ทันได้บินขึ้น!ก็ถูกฉุดลงมากถึงพื้นดินความผิดหวังครั้งใหญ่นี้ทำให้นายน้อยคนใหม่ของตระก
“เป็นอย่างไรบ้าง? ตรวจสอบได้ผลยัง! โลกได้กลายเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซีและได้รับการปกป้องโดยอาณาจักรกาแล็กซี พวกแกกล้าละเมิดกฎของจักรวรรดิและโจมตีพวกเราเหรอ? "หลินตงพูดอย่างใจเย็น“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าแกทำได้ยังไง? อย่างแรก มันแทบไม่มีเวลาเลย อย่างที่สอง แกได้เงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นมาจากไหน? การทำให้ดาวเคราะห์พื้นเมืองเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงต้องใช่เงินจำนวนมหาศาล "เฟิงซิงเจี้ยนระงับความโกรธของเขาและพูดขึ้นเขาต้องการทราบเรื่องราวของสถานการณ์นี้แม้ว่าเขาจะไม่สามารถประทับเครื่องหมายทาสได้ อย่างน้อยเราก็ต้องกอบกู้บางสิ่งบางอย่างให้กับตระกูลของเขาที่สูญเสียไปไม่อย่างนั้น การเดินทางครั้งนี้จะเปล่าประโยชน์“วิธีการไม่สำคัญใช่ไหม สิ่งสำคัญคือผลลัพธ์ต่างหาก ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเฟิง มีทายาทสายตรงมากมาย ทำไมยังเสี่ยงที่จะแหกกฎระเบียบของอาณาจักรกาแล็กซี เพื่อการตายของเฟิงรั่วเฉิน? นอกจากนี้ พวกแกทุกคนดูเหมือนว่า ช่วงนี้พวกแกก็กำลังลำบากเหมือนกันสินะ!” หลินตงพูดด้วยท่าทางสนุกสนานดวงตาของเฟิงซิงเจี้ยนหรี่ลง“แล้วแกไปได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน?”“แกไม่ต้อ
เมื่อการชาร์จเสร็จสิ้นพวกเขาจะไม่สามารถหยุดมันได้อีกต่อไปความหวังเดียวคือ ต้องจัดการตั้งแต่ตอนนี้ทำลายปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กระดับแรก ก่อนที่มันจะชาร์จเต็มไม่อย่างนั้น ทำได้แค่เฝ้าดูโลกถูกทำลายต่อหน้าต่อตา โดยไม่ทำอะไรนักรบระดับซุปเปอร์เทพหลายคนหนึ่งคนรับผิดชอบปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กหนึ่งกระบอกระดับครึ่งซุปเปอร์เทพอย่างหวงฝู่ซีเยว่สองคนหรือสามคนรับผิดชอบหนึ่งกระบอกห้องควบคุมยานรบประจัญบานกาแล็กซีเฟิงซิ่งเจี้ยนเฝ้าดูขณะที่มนุษย์โลกพุ่งเข้าหากระบอกปืนขั้วแม่เหล็กด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา เขาพูดสองคำออกมาเบาๆ“พวกโง่!!!”ปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กไม่สามารถเทียบได้กับปืนใหญ่เลเซอร์แม้ในระหว่างการชาร์จ ก็ไม่สามารถถูกขัดจังหวะได้ชาวโลกเหล่านี้ เป็นเพียงขยะเปียกที่ยังไม่ถึงระดับดาวเทียมด้วยซ้ำยังคงเพ้อฝันถึงการขัดขวางการเก็บพลังงานของปืนใหญ่ขั้วแม่เหล็กระดับแรกช่างโง่มากจริงๆแต่เนื่องจากคนเหล่านี้ต้องการที่จะตายก็ทำตามที่ต้องการเถอะซ่งซือหมินและคนอื่นๆ กำลังจะเข้าใกล้ยานรบประจัญบานกาแล็กซีทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหน้าขวางทางระหว่างพวกเขากับยานรบประจัญบานกาแล็
ห้องควบคุมยานรบประจัญบานกาแล็กซีเฟิงซิงโจวจ้องมองไปที่หลินตงจากที่ห่างไกลหลายสิบกิโลเมตรรู้สึกประหลาดใจพลังการต่อสู้ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อกี้นี้ แม้ว่ามันจะไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของยานรบประจัญบานกาแล็กซีได้ แต่มันก็สามารถเตะยานรบประจัญบานกาแล็กซีออกไปได้เป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตรพลังการต่อสู้ได้ไปถึงจุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์อย่างแน่นอนจากช่วงแรกของระดับดาวฤกษ์ ขึ้นสู่จุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์โดยตรงชาวพื้นเมืองนี้ทำได้อย่างไร?เขาเก็บซ่อนความแข็งแกร่งมาตลอดหรือเปล่า?โชคดีที่เป็นพี่ใหญ่ ส่งเขามาที่นี่ในครั้งนี้ไม่อย่างนั้น หากส่งคนระดับดาวฤกษ์สองคนมาการเผชิญหน้ากับชาวโลกที่อยู่จุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์ถึงแม้จะมียานรบประจัญบานกาแล็กซี ก็อาจจะพ่ายแพ้ได้คนอื่นๆ ในตระกูลเฟิงก็เฝ้าดูชาวโลกที่อยู่ห่างไกลด้วยความตกตะลึงใบหน้าอ่อนเยาว์ความแข็งแกร่งที่น่ากลัวความจริงพวกนี้ ทำให้พวกเขาเข้าใจคนพื้นเมืองมากขึ้นในมุมมองของพวกเขาคนพื้นเมืองล้วนแต่โง่เขลาและเป็นขยะระดับต่ำแต่คนพื้นเมืองของโลกที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคนนี้แม้อายุน้อย แต่ก็ไปถึงจุดสูงสุดของระดับดาวฤกษ์แล
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ