“หยุดเลยลูกคาท้องเมียแกอยู่แกจะไปไหน” สายทองเห็นทีจะปล่อยให้หลานของเธอทำตัวสบายใจแบบนี้ไมได้แล้วเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานหากมีข่าวเรื่องผู้หญิงของหลานชายของเธอออกมาตอนนี้มีหวังพิกุลคงไม่ยอมยกหลานสาวของเจ้าตัวให้พอดีนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะไม่ได้เลี้ยงเหลนเองด้วย
“โถ่คุณย่า” ภูผาถึงกับคอตกที่ย่าของเขายกเหตุผลนี้มาค้ำคอของเขาไม่ให้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก
“กลับเข้าบ้านมาเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่ฉันจะตัดบัตรแกอย่าคิดว่าแกเป็นผู้บริหารโรงแรมแล้วจะดื้อกับย่าได้นะ” สายทองจ้องหลานชายของเธอตาเขม็งดูซิจะกล้าแข็งคอกับเธออีกหรือเปล่า
“คุณย่าทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะครับเพราะเธอคนเดียวเลยผ้าแพร” ภูผาจำต้องเดินคอตกกลับขึ้นห้องของตัวเองไปแม้เขาจะเป็นผู้บริหารแล้วแต่ย่าของเขาก็มองเขาเป็นเด็กอยู่ทุกทีไปทั้งบ่นอู้อี้ถึงตัวต้นเหตุเบาๆ
“บ่นอะไร” สายทองส่ายหัวเบาๆที่หลานเธอนั้นบ่นถึงผ้าแพรทั้งที่เจ้าตัวนั่นที่เป็นตัวต้นเรื่อง
เชียงใหม่
“ฮัดชิ่ว” ในขณะที่ผ้าแพรกำลังปอกผลไม้ที่เห็บมาจากสวนใส่กล่องเอาไว้ทานเธอก็เกิดจามขึ้นมาเพราะรู้สึกคัดจมูกกะทันหัน
“หนูไม่สบายเหรอลูก” พิมพรรณมองหน้าหลานของเธอด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเธอไม่อยากให้หลานของเธอป่วยเพราะคนท้องจะทานยาอะไรลำบาก
“เปล่าค่ะน้าพิมหนูแค่คัดจมูกนิดหน่อยค่ะ” ผ้าแพรส่ายหัวเล็กน้อย
“จามปานมีคนนินทาเลยลูก” พิมพรรณเห็นดังนั้นค่อยยิ้มออกคงเป็นเพราะมีคนพูดถึงตามโบราณว่าเป็นแน่ถึงได้จามแบบนี้
“จามแบบนี้คือมีคนนินทาเหรอคะ” ผ้าแพรเลิกคิ้วถามน้าสาวของเธออย่างสงสัยเธอเคยได้ยินเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่ยักจะเชื่อเท่าไร
“ใช่น่ะสิโบราณว่าไว้” พิมพรรณย้ำคำทั้งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“อย่างหนูใครจะมาพูดถึงล่ะคะไม่ค่อยมีเพื่อนซะด้วย” ผ้าแพรนึกไม่ออกเลยว่าใครจะพูดถึงเธอเพราะเธอนั้นก็ค่อนข้างเพื่อนน้อยเสียด้วยหรืออีกคนที่เธอคิดอาจจะเป็นเพียงฟ้าที่บ่นถึงเธอก็เป็นได้
อาทิตย์ต่อมา
วันนี้ที่เรือนไทยหลังโตในสวนผู้คนคึกคักกันจนเต็มทั้งชาวบ้านที่พิกุลไปบอกให้มาร่วมงานรวมทั้งแขกผู้ใหญ่ของทางภูผารวมไปถึงนักข่าวหลายสำนักที่มาทำข่าวงานแต่งอันเรียบง่ายของนักธุรกิจหนุ่มที่แต่งงานกะทันหัน
“เธอสวยมากเลยรู้หรือเปล่าแพร” เพียงฟ้าดูแลความเรียบร้อยแต่งตัวให้เจ้าสาวอย่างผ้าแพรอยู่กับช่างแต่งหน้าแต่งตัวอีกสองสามคนวันนี้ผ้าแพรสวยเป็นพิเศษจากหน้าที่หวานอยู่แล้วได้รับการแต่งแต้มแต่พองามด้วยช่างฝีมือเธอก็ยิ่งดูสวยน่ารักเข้าไปอีกจนเพียงฟ้าอดชมไม่ได้ยิ่งชุดไทยสไบเฉียงสีทองที่ปักลายโดยช่างฝีมือประจำตัวของสายทองยิ่งขับผิวขาวของหญิงสาวให้ผุดผ่องงานนี้เธอคิดว่าภูผาพี่ชายของเธอคงมีตะลึงกันบ้างเพราะแม้ผ้าแพรจะไม่ได้สวยอย่างนางแบบดาราที่ภูผาเคยควงแต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบของเธอ
“ขอบคุณนะคะคุณฟ้า” ผ้าแพรมองดุตัวเองในกระจกก็ยิ้มอ่อนก้มหน้างุดเธอยอมรับในช่างฝีมือที่แต่งตัวให้เธอจริงๆอยากจะเก็บภาพตัวเองตอนนี้ไว้สักหลายร้อยภาพ
“รับรองพี่ภูเห็นต้องตะลึง” เพียงฟ้ายกสองมือเรียวจับใบหน้าเจ้าสาวทั้งมองด้วยรอยยิ้ม
“หน้าแพรเค้ายังไม่อยากจะมองเลยค่ะ” ผ้าแพรรู้ตัวดีว่าเธอทำอย่างไรภูผาก็คงไม่อยากจะมองเธอเพราะเอเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องมีบ่วงผูกมัดตัวเอาไว้
“เอาน่า” เพียงฟ้าบุ้ยปากส่ายหัวเล็กน้อยเธอไม่อยากให้ผ้าแพรด่วนคิดไปเองเพราะเธอรู้ว่าแม้ภูผาจะไม่พอใจวันหน้าอาจเปลี่ยนใจก็เป็นได้แม้พี่ชายเธอจะดูเจ้าชู้แต่ก็มีความรับผิดชอบเธอเชื่อว่าความใกล้ชิดในการดุแลกันและกันของทั้งสองจะทำให้ความรู้สึกของทั้งสองค่อยๆดีขึ้นต่อกันในทุกๆวัน
ครู่ต่อมา
“คุณย่าคะคุณน้า” เพียงฟ้าจัดการดุแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ผ้าแพรเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาหาขบวนแห่ของเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้ตั้งเพื่อส่งข่าวให้รู้ว่าเจ้าสาวนั้นเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้ทุกคนนั้นจัดตั้งขบวนขันหมากได้
“อ้าวหนูแพรมาพอดีเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังล่ะย่าจะได้ตั้งขบวนเลย” สายทองดูจะวุ่นกว่าคนอื่นเพราะเธอเป็นคนจัดแจงทุกอย่างรวมถึงสินสอดทองหรือเพชรนิลเงินสดทั้งหลายก็ของเธอทั้งนั้น
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เพียงฟ้าพยักหน้าเบาๆทั้งรีบไปช่วยถือพานสินสอดก่อนจะตั้งขบวน
“ทำหน้าให้มันดีหน่อยตาภู” โสพิศรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ชอบงานแบบนี้นักแต่ยังไงวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของเจ้าตัวเจ้าบ่าวจะมาหน้านิ่งบูดบึ้งเหมือนไม่อยากมาไม่ได้
“นั่นสิแต่งงานทั้งทียิ้มหน่อยสิคะพี่ภู” เพียงฟ้าเอ่ยเสริมอีกแรง
“ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษเลยนะเรา” ภูผาตวัดสายตามองเพียงฟ้าที่ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษราวกับเป็นงานตัวเอง
ทางด้านผ้าแพรที่มองขบวนขันหมากผ่านหน้าต่างของห้องนอนพร้อมกับน้าสาวของเธอในใจก็แอบกังวลไม่น้อยเพราะวันนี้เธอจะต้องแต่งงานอยู่กินกับภูผาแล้วไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะเข้ากันได้ดีหรือเปล่าเขาจะรังเกียจเธอจนไม่อยากจะเข้าใกล้เลยหรือไม่ตอนนี้เธอเป็นกังวลไปหมด
“หนูมาดูสิลูกขบวนแห่กำลังจะมาถึงแล้ววันนี้หลานน้าจะได้ออกเหย้าออกเรือนซะทีนะเวลาช่างผ่านไปไวเสียจริงเหมือนหนูยังเล็กๆอยู่ไม่กี่ปีเลย” พิมพรรณทำใจล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าหลานจะต้องออกจากอ้อมอกแต่เมื่อพอถึงวันจริงเธอก็อดใจหายไมได้พิมพรรณพูดไปน้ำตาของเธอก็คลอไปพยายามไม่อยากให้ร้องออกมาเพราะวันนี้เป็นวันมงคลของหลานสาวที่เธอรักมากที่สุด
“ยังไงหนูก็เป็นเด็กตัวเล็กของน้าพิมเสมอนะคะ” ผ้าแพรโอบกอดน้าของเธอใช่น้าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่ใจหายเธอเองก็ไม่ต่างกัน
“ฟ้ายังไมได้พูดถึงพ่อเลี้ยงเลยนะคะ...แล้วแพรกับเด็กๆล่ะคะ” สาวเจ้าก้มหน้างุดโบ้ยไปคุยเรื่องอื่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้ทันความคิดของเธอ“อยู่บ้านรอคุณพ่อน่ะถ้าคุณพ่อมาแล้วจะตามมา”“ฟ้าทำให้คุณพ่อเป็นกังวลอีกจนได้” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเธอก็ทำให้พ่อของเธอต้องมาเป็นห่วงอีกจนได้“ใครจะคิดว่ามันจะเกิดล่ะอย่าคิดมากเลย” ภูผาทำได้เพียงแค่ปลอบใจเรื่องแบบนี้มีใครอยากจะให้เกิดแกร๊กก“คุณอัส” เพียงฟ้าหันมองไปทางประตูเมื่อมันมีเสียงเปิดแล้วเธอก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นอัสนีเข้ามา“คุณภูสวัสดีครับตาวินกวนหรือเปล่าครับ” “ไม่เลยครับพอมีเพื่อนเข้าก็อารมณ์ดีเลยครับ” เรื่องธาวินภูผาให้อัสนีเบาใจได้เพราะรายนั้นพอเจอน้องชายก็เล่นด้วยกันจนน่าจะลืมความกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าไปแล้ว“ค่อยโล่งอก” อัสนียิ้มออกกะว่าเดี๋ยวช่วงเย็นก็จะไปรับธาวินกลับแล้วเพราะไม่อยากรบกวนผ้าแพรกับภูผานาน“คุณเป็นยังไงบ้าง” อัสนีเดินเข้ามานั่งที่ข้างเตียงของเพียงฟ้าตรงข้ามกับที่ภูผานั่ง“คนอย่างเพียงฟ้าเจ็บแค่นี้จิ้บๆ” สีหน้าของหญิงสาวดูจะเบิกบานกว่าตอนที่คุยกับคนเป็นพี่ชายมากจนภูผาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ทีเห็นเขาทำห
“ฉันมาได้ก็แล้วกันลูกฉันอยู่ไหนเอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าไม่ยอมบอกว่าเธอตามทุกคนมาได้อย่างไรเธอรีบแผดเสียงใส่มนัสกับลูกน้องอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วยความโมโห“เฮ้ยย” มนัสออกคำสั่งให้ลูกน้องจับตัวหญิงสาวเอาไว้“ลองมาจับฉันสิแม่จะยิงให้ไส้กระจุยเลย” ก่อนที่ลูกน้องสองสามคนของมนัสจะเข้ามาประชิดตัวของเธอหญิงสาวจึงรีบควักปืนออกจากกระเป๋าออกมาป้องกันตัวอย่างไม่เกรงกลัว“ลองยิงดูสิ” มนัสรีบเปิดประตูรถอีกคันที่มีธาวินอยู่ด้านในและจ่อปืนไปที่เจ้าก้อนกลมที่กำลังร้องเรียกหาคนเป็นแม่น้ำตาพรั่งพรู“แม่ๆ..แง้งๆๆๆ”“เอาลูกฉันมาเดี๋ยวนี้นะจำเอาไว้ว่าถ้าลูกฉันเป็นอะไรแกไม่ตายดีแน่” เพียงฟ้ามือไม้สั่นไม่คิดว่าพวกคนชั่วพวกนี้จะเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทั้งที่ธาวินนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“คุณฟ้า” อัสนีที่นั่งซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับคนินทร์เมื่อเห็นว่าเพียงฟ้ากำลังอยู่ในอันตรายเขาจึงจะรีบเขาไปช่วยแต่ก็ถูกคนินทร์นั้นรั้งเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งเข้าไป” คนินทร์มองเกมส์ออกว่าตอนนี้มนัสคงยังไม่ทำอะไรทั้งเพียงฟ้าและและธาวินแน่นอนแต่หากเพื่อนเขาออกไปแล้วก็ไม่แน่จึงอยากจะรอให้กำลังเสริมมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว
ครู่ต่อมา“เดี๋ยวนี้ทานข้าวเก่งจังเลยนะครับฝีมือแม่อร่อยใช่ม้า...” เพียงฟ้ายิ้มหน้าบานเมื่อธาวินนั้นถูกใจในฝีมือการทำข้าวบดของเธอจนตอนนี้กินจนหมดถ้วยแล้ว“หม่ำๆๆ..” เด็กชายจ้องมองไปที่ถ้วยในมือของคนเป็นแม่ว่าเมื่อไรจะป้อนอีกเพราะเจ้าตัวนั้นยังไม่อิ่ม“ยังไม่อิ่มอีกเหรอข้าวหมดแล้วด้วยสิรอแม่เดี๋ยวนะครับเดี๋ยวแม่เอาน้ำผักมาให้เข้าใจไหมครับ” “ฮับ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก“เก่งที่สุดเลย” สาวเจ้ารีบลุกออกจากระเบียงบ้านเข้าไปในครัวเพื่อไปเอาน้ำผักในตู้เย็นมาให้ธาวินกินแก้หิวในระหว่างที่เธอไปทำอาการให้เด็กชายใหม่สถานีตำรวจ“ไหนคุณว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วไงทำไมถึงมีหมายจับออกมาได้” ศรีน่านเข้ามาที่สถานีตำรวจตามหมายจับอย่างหัวเสียเพราะเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรที่จะต้องมาที่นี่แล้วเสียอีก“ผมบอกกับเสี่ยว่าไม่มีปัญหาตอนขนของไม่ได้รับปากนี่ครับว่าจะไม่มีหมายจับออกมา” คนินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน“แก..” ศรีน่านกัดฟันกรอดคิดในใจว่าเขาไม่น่าเสียรู้สารวัตรละอ่อนนี่เลย“การลงทุนครั้งนี้ถือว่าไม่สูญเปล่านะครับเสี่ย” อัสนีเข้ามาในห้องและหย่อนก้นนั่งลงข้างๆศรีน่านด้วยสีหน้าระรื่น“อัสนี” ศรีน่านขมวดคิ้วแปลก
“ผมไม่เคยพูดเล่น”“คุณอัส..เมื่อวานฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นเลยนะคะฉันก็เสียใจเหมือนกันในที่ตาวินต้องเจ็บเพราะฉัน”“ออกไปได้แล้ว” อัสนียังคงยืนยันเสียงแข็งสิ้นเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มดวงตากลมโตของหญิงสาวก็เหลือบมองเด็กชายที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ตาละห้อยหากตอนนี้เธอต้องไปจริงๆคงคิดถึงธาวินแย่แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมใจอ่อนให้เธอขนาดนี้อยู่ไปก็คงจะอึดอัดกันน่าดูจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินหันหลังออกไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว“แม่..แม่..” เด็กชายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่พร้อมมองตาแป๋วด้วยความไร้เดียงสา“ครับลูก” เพียงฟ้าแทบน้ำตาตกเมื่อได้ยินธาวินเรียกเธอเอาไว้“ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย” อัสนีกัดฟันกรอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันไปบอกกับหญิงสาวเสียงแข็ง“ฉันจะรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีค่ะ” ริมฝีปากบางที่กำลังบุ้ยอยู่คราแรกตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจรีบสัญญากับอีกฝ่ายว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ธาวินมีอันตรายอย่างครั้งก่อนแน่นอนหลายวันต่อมาเพียงฟ้าและอัสนีได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกเกือบเดือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆจนทั้งคู่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแต่ก็ยังไม่มีใครรู้คว
“ตาวินเป็นอะไรคะ” เพียงฟ้าได้ยินเสียงร้องของธาวินดังขึ้นจึงรีบวิ่งเข้ามาในบ้านหน้าตาตื่นอย่างรวดเร็ว“ลูกอมในโหลนี่ของคุณใช่หรือเปล่า” อัสนีมองต่ำไปที่พื้นทั้งพูดกับเพียงฟ้าเสียงแข็ง“อืมใช่..” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับว่าเจ้าโถลูกอมเป็นของเธอแต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำไมมาอยู่กับพื้นได้“คุณเกือบทำให้ตาวินตายแล้วรู้ตัวหรือเปล่าผมไม่น่าไว้ใจคุณเลย” “ฮือๆๆๆ”“ฉันทำอะไร” สองหนุ่มสาวสาดอารมณ์ใส่กันในขณะที่ธาวินยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด“ก็ไอ้นี่มันอยู่ในคอตาวินไงดีนะที่ลุงพันช่วยไว้ทัน” อัสนีหยิบลูกอมชิ้นที่ติดคอธาวินเมื่อครู่ชูให้เพียงฟ้าได้ดู“แต่โหลแก้วนี่ฉันจำได้ว่าเอาไว้บนโต๊ะนี่คะ” เพียงฟ้าค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้หยิบโถลูกอมลงมาเพราะเธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อธาวินนั่งเล่นอยู่กับพื้น“ยังจะแก้ตัวอีกแค่ยอมรับว่าตัวเองผิดมันยากนักหรือไง” อัสนีแผดเสียงฝาดจนเพียงฟ้าสะดุ้งตัวโยนพูดอะไรไม่ออก“ใจเย็นๆกันก่อนเถอะครับ” ประพันธ์เห็นท่าอัสนีจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จึงอาศัยความเป็นผู้ใหญ่ของตนปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาก็เข้าใจว่าเพียงฟ้าคงไมได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกันจี๊ดๆๆๆ“อีตา
“อ้าวคุณจันทร์มีเอกสารที่ต้องเซ็นเหรอครับ” อัสนีเห็นณจันทร์เขชาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานลายวันที่หญิงสาวมาที่นี่คงเป็นเรื่องเอกสารเป็นแน่“ค่ะ..”“สักครู่นะครับ..ฝากตาวินหน่อยคุณ”“อืม..ไปจัดการธุระของคุณเถอะ”ชายหนุ่มวางธาวินลงให้เพียงฟ้านั้นช่วยดูและเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อคุยธุระเรื่องงานกับณจันทร์เป็นการส่วนตัว“เธออยู่ที่นี่เหรอคะ” ในขณะที่อัสนีกำลังเซ็นเอกสารณจันทร์ก็ถือโอกาสถามเรื่องเพียงฟ้าด้วยเลยเพราะเธอรู้ว่าเพียงฟ้านั้นรับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินแต่ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่กับอัสนีด้วย“เห็นเธอว่าอย่างนั้นนะครับ” อัสนีเลยหน้าขึ้นมาให้คำตอบกับณจันทร์ครู่หนึ่งแล้วจึงก้มมองเอกสารต่อ“อ่อ..ค่ะ” ณจันทร์พยักหน้ารับเบาๆ“เรียบร้อยแล้วครับ...ช่วงนี้ผมคงไม่ค่อยได้เข้าไปที่สำนักงานคงต้องลำบากคุณจันทร์มาที่นี่บ่อยๆแล้วล่ะครับ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะจันทร์ยินดี” ณจันทร์ยิ้มอ่อนเธอไม่ได้ลำบากเลยที่จะมาที่นี่“ขอบคุณนะครับ” หลายวันต่อมา“รีสอร์ทฉันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคุณรั้วรอบขอบชิดก็มีแล้วตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้งคุณไม่ต้องลำบากส่งคนมาเฝ้าก็ได้”ว