มะเฟืองถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวเบือนหน้าหนีสายตาดุ เธอเพิ่งรู้ว่าสองคนนั้นหนีตามกันไปเมื่อเย็นวันนี้ รู้หลังจากที่กลับมาจากรดน้ำพรวนดินในสวนผัก พี่ชายสายเลือดเดียวกันที่มีอายุมากกว่าเธอ8ปี บอกให้เธอรู้ด้วยการเขียนข้อความสั้นๆวางไว้บนโต๊ะกินข้าว ทั้งที่เธอเคยเตือนพี่ชายแล้วว่ากรุณาหรือตัวจิ๋วนั้นอยู่สูงเกินเอื้อม พี่ชายเธอไม่ต่างจากหมามองเครื่องบิน ไม่มีวันจะได้ครองคู่กับเพื่อนสาวเธอแน่ๆ เธอบอกให้พี่ชายตัดใจ เธอเตือนกรุณาว่าไม่ให้ไปหาเธอที่บ้านอีก เพราะเกรงจะถูกครหา แต่ใครเลยจะรู้ว่าคนสองคนที่แอบคบหากันมาตั้งห้าปีโคตรใจเด็ด กล้าหนีตามกันไปโดยไม่เกรงกลัวอำนาจและความบ้าระห่ำของเสี่ยเจ๋ง
“มะเฟือง!” การุณย์ตวาดเสียงดังลั่น ยังผลให้คนที่คิดไว้แล้วว่าเธออาจจะต้องรับมือกับความเกรี้ยวกราดของคนหวงลูกอย่างเขาหันหน้ากลับมาสบสายตาดุอีกครั้ง มะเฟืองพยักพเยิดยื่นหน้าใส่เขา แล้วส่งเสียงอู้อี้บอกให้รู้ว่า หากเขาต้องการคำตอบช่วยกรุณาแกะผ้าออกจากปากเธอด้วย
การุณย์คำรามในลำคอด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยื่นเมื่อออกไปแกะผ้าออกจากปากให้หญิงสาว ก่อนจะถอยออกมายืนกอดอกจ้องหน้ามะเฟืองเขม็ง
“เธอร่วมมือกับพี่ชายวางแผนลักพาตัวลูกสาวฉัน” คนหวงลูกกล่าวหาพร้อมกับชี้หน้าหญิงสาว
“พี่ไฟไม่ได้ลักพาตัวลูกสาวเสี่ยไปสักหน่อย สองคนนั้นเต็มใจไปด้วยกันต่างหาก” มะเฟืองไม่ยอมให้พี่ชายถูกกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว เพราะพี่ไฟของเธอไม่ได้ลักพาตัวกรุณาไป ทั้งสองเต็มใจหนีตามกันไปต่างหาก แล้วเรื่องอะไรตาแก่นี่ถึงจะมาโบ้ยว่าเป็นความผิดของพี่ชายเธอคนเดียว
“ตัวจิ๋วยังเด็กเพิ่งจะอายุ21 แต่ไอ้มะไฟมันอายุตั้ง29แล้ว มันแก่กว่าลูกสาวฉัน มันต้องล่อลวงลูกสาวฉันไปแน่ๆ พี่ชายเธอลักพาตัวลูกสาวฉันไป”
“อายุ21เนี่ยไม่เด็กแล้วนะเสี่ย บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย มีสิทธิ์ตัดสินใจทุกเรื่องได้เองแล้ว” การุณย์หรี่ตามองหญิงสาวที่เงยหน้าเถียงเขาฉอดๆอย่างประเมิน
“อ้อ! เธอนี่เองที่เสี้ยมลูกสาวฉัน ให้หนีตามพี่ชายเธอไป”
“ไม่ใช่! สองคนนั้นรักกัน เสี่ยไม่เข้าใจความรักหรือไง” มะเฟืองฉุนกึกเมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
“ความรักงั้นเหรอ หึ! รักระหว่างหญิงชายมันก็แค่รักจอมปลอม!” การุณย์ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด จนมะเฟืองรู้สึกกลัว หญิงสาวจึงก้มหน้านิ่ง ไม่กล้ามองใบหน้าดุดันและแดงก่ำด้วยความโกรธของเขา
“เธอจะต้องเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ จนกว่าฉันจะได้ตัวลูกสาวของฉันคืนมา” การุณย์บอกเสียงเข้ม คืนนี้เขาเหนื่อยมามากแล้ว ทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคนเดียว เขาควรพักผ่อนเพื่อจะได้ออกตามหากรุณาตั้งแต่เช้ามืดในวันพรุ่งนี้ หนุ่มใหญ่หันหลังเดินหนีไปทันทีที่พูดจบ มะเฟืองเงยหน้าขึ้นมองตามแผ่นหลังกว้างความตระหนก
“ไม่ได้นะเสี่ย จะมาจับฉันไว้แบบนี้ไม่ได้นะ ฉันจะกลับบ้าน ปล่อยนะ เสี่ย! เสี่ยเจ๋ง! ไอ้เสี่ยบ้า!” มะเฟืองตะโกนเรียกตามหลังคนที่จับตัวเธอมาด้วยความโมโห หากแต่เสียงเรียกและคำด่าทอของเธอไม่สามารถทำให้การุณย์หันกลับมาสนใจเธอได้ และเมื่อเขาเดินออกไปจากโกดัง ประตูบานใหญ่สองบานก็ถูกเลื่อนปิดทันที
มะเฟืองลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หญิงสาวรู้สึกเจ็บระบมตรงข้อมือที่ถูกมัดไพล่หลังไว้ ไหล่สองข้างก็ปวดร้าวเพราะอยู่ท่าเดิมมาทั้งคืน เธอนอนหลับไปทั้งที่ถูกจับมัดนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางโกดัง
แสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาพร้อมกับประตูบานใหญ่เลื่อนออก ทำให้มะเฟืองต้องหลับตาลงแล้วลืมขึ้นช้าๆเพื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงของวันใหม่ หญิงสาวมองเห็นร่างท้วมของผู้หญิงคนหนึ่งเดินถือจานอาหารและขวดน้ำเข้ามาหาเธอ
“ป้าประไพ” มะเฟืองรู้จักคนงานของบ้านเสี่ยเจ๋ง เพราะเธอมาหากรุณาที่นี่ค่อนข้างบ่อย หากแต่ก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับใคร รู้จักกันเพียงแค่ชื่อและหน้าตาเท่านั้น
“เสี่ยให้เอาข้าวมาให้หนู จะกินเลยไหม ป้าจะป้อน” ป้าประไพก้มลงวางจานข้าวและขวดน้ำลงใกล้เท้าของหญิงสาว ก่อนขยับออกไปยืนมองอยู่ไม่ไกล มะเฟืองก้มลงมองอาหารตรงหน้าแล้วถอนหายใจ
“ป้าเอากลับไปเถอะ ฉันไม่หิว” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว แล้วหันไปมองหน้าคนที่ทำหน้าที่นำข้าวน้ำมาให้เธอ
“เสี่ยบอกว่าต้องกินให้หมด” ป้าประไพพูดด้วยน้ำเสียงสงสาร ตัวเล็กนิดเดียวถูกจับมัดไว้ทั้งคืนคงจะเมื่อยน่าดู
“ป้าก็เอาไปเทให้หมากิน แล้วไปบอกเสี่ยเจ๋งว่าฉันกินแล้วสิจ๊ะ”
“อย่าดื้อไปเลยมะเฟืองเอ๊ย! กินซะเถอะจะได้มีแรง”
“มีแรงมากแค่ไหน ก็สู้เสี่ยเจ๋งของป้าไม่ได้หรอก หึ!” มะเฟืองเม้มปากแน่น ดวงตาวาววับด้วยความไม่พอใจ
“ไม่กินก็ช่าง เอาไปเทให้หมากินให้หมด!” การุณย์ตะโกนเสียงดังมาจากประตูทางเข้าโกดัง ก่อนที่เขาจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามะเฟือง
“เอากับข้าวออกไป!” การุณย์จ้องหน้ามะเฟืองขณะที่ออกคำสั่งเสียงเฉียบขาด ป้าประไพรีบเดินมาหยิบจานข้าวและขวดน้ำออกไปจากโกดังทันที
“เก่งนักเหรอ ฉันจะคอยดูว่าเธอจะทนได้สักกี่น้ำ หายใจไว้นะ จนกว่าฉันจะจับตัวพี่ชายเธอกลับมาได้ เธอจะได้เห็นบทลงโทษที่สาสมกับความไม่เจียมตัวของมัน”
“เสี่ยจะทำอะไรพี่ไฟ บ้านเมืองมีขื่อมีแป ระวังจะโดนจับเข้าคุก” มะเฟืองตะโกนโต้ตอบด้วยความโมโห เขาคิดว่าตัวเองใหญ่โตร่ำรวยที่สุดในอำเภอแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้