เพื่อแลกกับชีวิตของพี่ชาย มะเฟืองจำยอมทำหน้าที่อีตัวบนเตียงของเสี่ยเจ๋งจนกว่าเขาจะพอใจ
View More1 ชีวิตแลกด้วยชีวิต
“เจอไหม” เสียงห้าวทรงพลังตะคอกถามด้วยความโกรธที่อัดแน่นอยู่เต็มอก ใบหน้าหล่อคมเข้มถมึงทึงกว่าครั้งไหน ดวงตาคู่คมฉาบฉายไปด้วยประกายอาฆาตแค้น แนวกรามแกร่งขบกันจนเป็นสันนูน สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วมือปูดโปนบ่งบอกถึงโทสะที่กักกั้นไว้
“ไม่เจอครับเสี่ย”
คำตอบที่ได้ยินจากปากลูกน้องทำให้การุณย์หรือเสี่ยเจ๋ง หนุ่มใหญ่วัย42ปีสบถดังลั่น เขามองฝ่าสายฝนท่ามกลางความมืดไปยังเบื้องหน้า ถนนที่ทอดยาวหายเข้าไปในป่าเต็มไปด้วยโคลนตมและหลุมลึกมีน้ำขังอยู่เต็ม สุดวิสัยที่รถคันไหนๆจะแล่นเข้าไปได้ แสงจากสายฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่เบื้องบนทำให้มองเห็นรอบกายชัดเจนในบางครั้ง แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ
การุณย์รู้ดีว่า หนทางเส้นนี้ที่จะใช้เดินทางเพื่อขึ้นไปยังหมู่บ้านในเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ในบนเขานั้นยากลำบากเพียงใด ยิ่งในเวลาฝนตกหนักแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบจะเรียกได้ว่าหมู่บ้านนั้นตัดขาดจากโลกภายนอกเลยก็ว่าได้ เพราะเส้นทางเดียวที่ใช้สัญจรนั้นเต็มไปด้วยโคลนตม และหากฝืนเดินทางขึ้นไปตอนนี้ อาจจะเจอกับน้ำป่าไหลหลากพัดพาเอาชีวิตให้สูญหายไปกับสายน้ำก็เป็นได้
“กลับ!” การุณย์สั่งเสียงเข้ม ก่อนจะหันหลังให้กับเส้นทางอันตราย เป็นสัญญาณบอกให้ลูกน้องต้องเดินตาม ถึงแม้จะห่วงลูกสาวสักเพียงใด แต่ชีวิตลูกน้องก็สำคัญ เพราะต่างคนต่างมีภาระและครอบครัวต้องรับผิดชอบ เขาเป็นเจ้านายก็จริง แต่ไม่มีสิทธิ์สั่งเป็นสั่งตายใครได้ ทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน เขารักลูกสาวดั่งแก้วตาดวงใจ คนพวกนี้ก็มีคนที่พวกเขารักและรักเขาเหมือนกัน ดังนั้นเขาจะไม่ให้ใครต้องมาเสี่ยงตายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ...หนึ่งชีวิตแลกกับหนึ่งชีวิตมันจึงจะสาสม
“ไปจับตัวน้องสาวมันมา” การุณย์สั่งเสียงเหี้ยม ขณะที่นั่งกอดอกนิ่งอยู่เบาะหลังรถกระบะสี่ประตูคันใหญ่
“ครับเสี่ย” ลูกน้องรับคำหนักแน่น เพราะต่างรู้ดีว่าตอนนี้เจ้านายของตนนั้นแค้นจนแทบกระอักเลือด เมื่อลูกสาวคนเดียวหนีตามผู้ชายสิ้นไร้ไม้ตอก และชาตินี้ทั้งชาติมันก็คงไม่มีวันจะเลี้ยงดูลูกสาวของเขาให้อยู่ดีมีสุขเหมือนที่เขาเลี้ยงดูมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีที่ผ่านมาได้แน่นอน
“กรี๊ด! ปล่อยนะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” มะเฟืองหญิงสาววัย21ปีกรีดร้องเสียงหลง เมื่อถูกจับตัวจากออกมาจากบ้านหลังเล็กกลางดึกในคืนฝนตกหนักลมกระโชกแรง หากแต่ชายฉกรรจ์ทั้งสองที่หิ้วปีกเธอออกมาไม่สนใจเสียงแว้ดๆของเธอสักนิด อีกทั้งเรี่ยวแรงเท่ามดตัวน้อยที่เธอกำลังทุ่มเทให้กับการดิ้นรน เพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของชายทั้งสอง กลับไม่ส่งผลดีใดๆเลย เธอถูกผลักขึ้นไปนอนเค้เก้บนหลังรถกระบะ พวกมันรวบแขนเรียวสองข้างไพล่หลัง แล้วมัดมือมัดเท้าอย่างแน่นหนา
“ไอ้พวกชั่ว ไอ้พวกเลว หมาหมู่ รังแกคนไม่มีทางสู้ อื้อๆ” เมื่อปากเล็กจิ้มลิ้มถูกปิดทับด้วยผ้าผืนใหญ่ เสียงแว้ดๆจึงดังอยู่แค่ในลำคอ ร่างบางที่นอนตะแคงกายอยู่ดิ้นขยุกขยิก พยายามจะทรงตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ทำไม่ได้ เธอจึงจำใจนอนตะแคงมองผู้ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนที่นั่งอยู่หลังกระบะด้วยกันอย่างระแวดระวัง
มะเฟืองเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เมื่อรับรู้ว่ารถกระบะเริ่มเคลื่อนที่ออกห่างจากบ้านของเธอ ปลายทางที่รถคันนี้จะพาเธอไปถึงคือที่ไหนกัน ความหวาดกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อย ร่างสาวสั่นสะท้านเพราะสายฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ลืมหูลืมตา หนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ หญิงสาวประหวั่นพรั่นพรึงกับเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองในค่ำคืนนี้
“อื้อๆ...” มะเฟืองเพ่งมองคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ด้วยความตกใจ แสงสว่างจากไฟนีออนหลายดวงที่ติดอยู่บนเพดานสูง ทำให้มะเฟืองมองเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามเดินนำหน้าคนอื่นเข้ามาได้อย่างชัดเจน เขาคือเสียเจ๋ง...เธอรู้จักเขาดี และคนทั่วทั้งอำเภอนี้ต่างก็รู้จักเขาดีเช่นกัน
“อื้อๆ” หลังจากที่พวกมันพาเธอมาถึงโกดังหลังใหญ่ที่ไหนสักแห่ง มะเฟืองถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ไม้มีพนักพิง มือยังถูกมัดไพล่หลังไว้เหมือนเดิม สองเท้ายังคงถูกมัดแน่นหนา ปากของเธอยังถูกปิดทับด้วยผ้าผืนเดิม แต่กระนั้นคนตัวเล็กพริกขี้หนูก็ยังคงดิ้นรนไม่ยอมสงบลงง่ายๆ
“ออกไปให้หมด กูจะคุยกับมันตามลำพัง” การุณย์จ้องมองคนที่เอาแต่ดิ้นดุ๊กดิ๊กไม่อยู่นิ่งด้วยสายตาดุ
“ครับเสี่ย”
แม้จะกลัวกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ดวงตาคู่หวานก็ไม่มีแววหวาดหวั่น อย่างมากก็แค่ตาย
การุณย์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา เนื้อตัวสาวเปียกปอน ผมเผ้าเปียกลู่ลงมาบนแก้มเนียน ด้วยสถานการณ์ที่เป็นรองขนาดนี้ เธอควรจะแตกตื่นหวาดกลัว และควรร้องไห้อย่างที่ผู้หญิงส่วนมากทำกัน แต่ผู้หญิงคนนี้กลับจ้องหน้าเขานิ่ง เธอไม่หลบตา ราวกับว่าไม่อินังขังขอบกับสิ่งที่เผชิญอยู่
“พี่ชายเธอแสบมาก กล้าดียังไงมาลักพาตัวลูกสาวฉันไป” การุณย์หยุดยืนกอดอกอยู่ห่างจากหญิงสาวแค่ก้าวเดียว เขาก้มมองเธอด้วยสายตาคาดโทษ เขารู้จักมะเฟืองในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาว และรู้จักมะไฟคนที่รนหาที่ตายด้วยการพาลูกสาวเขาหนีไปในฐานะที่มันเป็นพี่ชายของเธอ
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้
การุณย์ให้มะไฟเรียนรู้งานทุกอย่างที่ควรรู้ เพื่อจะได้นำไปใช้งานจริงในวันที่เขาจะเปิดร้านใหม่ให้ที่ต่างอำเภอ ตามที่เคยตกลงกันไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็ขยันขันแข็งทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ “ทำไมมะเฟืองไม่ท้องบ้างนะ” คนอยากมีลูกอีกคนหันไปถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ คิ้วเข้มขมวดมุ่นสงสัย “เฮียทำไม่เป็นมั้ง” มะเฟืองว่ายิ้มๆ คนถูกสบประมาทแทบสำลักน้ำที่ยกขึ้นจิบ การุณย์หันมาสบตาแม่ตัวดีอย่างคาดโทษ มะเฟืองมองเมินสายตาของสามี เธอหันไปพูดกับพี่ชายต่อโดยไม่สนใจเขาอีก “พี่ไฟไปทำงานเถอะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนตัวจิ๋วให้เอง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ” “ตัวจิ๋วอยู่กับมะเฟืองก็ได้ ตัวจิ๋วแพ้แค
“ตรงนี้ก็หอม” การุณย์เลื่อนใบหน้าลงไปจนถึงกลุ่มไหมเหนือเนินสาว เขาสูดดมเสียงดังฟอด มะเฟืองบิดตัวหนี ทุบตีบ่าบึกบึนไปหลายที ทว่าคนอยากมอบกายถวายตัวให้เมียไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย“อื้อ! เฮีย! ยังไม่ได้ล้าง” เพราะมันผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา น้ำสวาททั้งของเขาและเธอปนเปกันอยู่ตรงนั้น มะเฟืองจึงรีบเอ่ยห้ามอย่างตกใจ“ไม่ล้างก็หอม กระดองเต่าน้อย” การุณย์การันตีความหอมด้วยการสูดดมเสียงดังฟอดอีกครั้ง มะเฟืองอ่อนอกอ่อนใจที่จะห้ามปราม หญิงสาวประชดเขาด้วยการกางขาออกสุด การุณย์หัวเราะพอใจ ประชดแบบนี้เขาชอบ“หอมอีกสิ” อายซะที่ไหน ก็ในเมื่อเตือนไม่ฟัง เธอก็ทำประชดเสียเลยดวงตาคู่คมจับจ้องดอกไม้บานฉ่ำในระยะประชิด มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สวย น่าหลงใหล และเขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น และตอนนี้ก็ไม่คิดจะโงหัวขึ้นด้วยการุณย์ฝังใบหน้าลงบนผืนเนื้อสาว มันเปียกโชก ชุ่มฉ่ำ แต่เนื้ออ่อนสาวก็หวานละมุนลิ้น กลิ่นสาบสาวก็ยวนใจ ปาดเ
“อ้วกออกมาก็ได้” มะเฟืองทำท่าจะล้วงคออ้วกจริงๆ การุณย์ดึงมือเธอไว้แทบไม่ทัน“หนูกินไปแล้ว” การุณย์ย้ำอีกครั้ง มะเฟืองมองหน้าคนขี้งกด้วยสายตาดุ“คิดไว้ก่อนแล้วใช่ไหม” มะเฟืองมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เขาเป็นพ่อค้าที่ไม่ยอมขาดทุนอะไรเลยจริงๆ“อย่ามาใส่ร้ายเฮีย” การุณย์พูดยิ้มๆ“กินไปกี่คำน้า” คนขี้งกทำท่าคิดคำนวณ ใบหน้าหล่อเหลากวนไม้กวนมือเหลือเกิน“ไม่รู้ ไม่ได้นับ” มะเฟืองดึงมือกลับมา ขยับตัวห่างจากเขา หญิงสาวสะบัดหน้าหนีงอนๆ การุณย์ขยับตาม โน้มใบหน้ากระซิบชิดใบหูขาว คำกระซิบบอกของเขา เล่นงานหัวใจสาวให้เต้นโครมคราม ใบหน้าร้อนผะผ่าว และยิ้มหวานเอียงอายน่ารัก การุณย์กระซิบบอกเสียงทุ้มสะกดใจสาวว่า“เฮียคิดราคาเหมาแล้วกัน ราคาเท่าหัวใจของมะเฟือง จ่ายมาซะดีๆ”บทจะหวานก็หวานปานน้ำตาลจะหยด มะเฟืองผู้ไม่ประสาตามไม่ทันคารมหนุ่มใหญ่ หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งเขินอาย ใบ
Comments