พวกเขาแต่งงานมาจวนจะครบปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเวลาอันดีที่พี่สินจะกลับมางอแงขอไปเที่ยวฮันนีมูนอีกครั้ง แน่นอนว่าคราวนี้เขาอนุญาต อย่างไรเสียก็ไม่มีเรื่องมากวนใจ และการเที่ยวปีละครั้งสองครั้งก็ถือเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม
ทว่าต่อให้นั่นจะเป็นโองการอันแน่วแน่ของคุณสามี แต่ด้วยภาระหน้าที่พ่อครูตำหนักหิรัญที่มารัดตัวพอดีกับช่วงวางแผน วันเวลาจึงถูกเลื่อนออกจากปลายฤดูร้อนมาเป็นกลางฤดูหนาวแทน
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเข้มเป็นเหลืองหม่นแห้งกรอบราวกระดาษเก่า หล่นกระทบพื้นดินทีละใบอย่างเชื่องช้า แสงแดดยามเช้าอาบทุ่งนาเป็นสีทองนวลหากแต่ไม่แผดเผาเช่นแต่ก่อน ละอองน้ำค้างจับตามยอดหญ้าระยิบระยับเมื่อสะท้อนแสง
พวกเขาเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานดอกไม้แทนการไปสถานพักตากอากาศชายทะเลซึ่งพี่สินดูจะหัวเสียมากเพราะไม่ค่อยมีอะไรเป็นไปตามแผนสักเท่าไรนัก กลับกันเขามองว่ากว่าจะไปถึงทะเลมันใช้เวลาเดินทางนาน ไหนจะต้องขึ้นเครื่องบินต่อรถอีก ไปถึงที่คงได้เหนื่อยอ่อนก่อนเป็นแน่ สู้พากันขับรถเที่ยวจังหวัดรอบ ๆ แบบนี้ดีกว่า
“ฉันพึ่งรู้ว่าพี่ขับรถเป็นด้วย”
“นา
วาณิช × เอมสิ้นปีนี้แลที่ไอ้วาณิชจะได้มีเมียเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที หลังจมอยู่กับธุรกิจขนส่งมานานกว่าจะรู้ตัวก็ปาไปเกือบสามสิบแล้ว คิดว่าถ้ามีเงินมีความมั่นคงจะมีคนมารุมล้อมให้เลือกแต่กลับกันเลย คนพวกนั้นหาความจริงใจไม่ได้เลยสักนิด! ท้ายที่สุดเมื่อเขาไม่สามารถพึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองได้ จึงเลือกมาพึ่งพาพ่อครูที่เขาว่ามีของดีของเด็ด ที่ว่าทำนายแม่นมากที่สุดในแดนเหนือของประเทศ“ถ้าเรื่องเมีย ไม่เจอสิ้นปีนี้ก็เลื่อนไปอีกสิบปีเลยนะ”“อะไรนะครับ!!”นักธุรกิจสายพันธุ์ม้าศึกตะโกนลั่นด้วยความตกตะลึง ในขณะที่พ่อครูสินธุว่าแล้วก็เอนกายใช้แขนยันหมอนขิดง่วงเหงาหาวนอน ไอ้พ่อค้าคนนี้มาทีไรก็เอาแต่ถามเรื่องเมีย ต่อให้เขาจะรู้ไปยันชื่อว่าเมียมันมีรากเหง้าศักราชมาจากไหน แต่ด้วยนิสัยมุทะลุแบบมันแล้ว เมื่อได้ชื่อได้ลักษณะคงไปตามหาสุดหล้าฟ้าเขียวไม่เป็นอันทำงาน ซึ่งนั่นนอกจากจะไม่ทำให้มันได้เมียมานอนกกแล้ว ยังนำพาให้ธุรกิจที่ทำมาล่มจมอีกต่างหาก สู้ไม่บอกแล้วให้มันตั้งใจทำงานแบบนี้ไปจะส่งผลดีกับ
ช่วงสายของวันนี้กุมภีล์มีนัดสำคัญกับเพื่อนร่วมนามสกุล ว่าจะพากันไปเดินห้างเสื้อผ้าห้างญี่ปุ่น ก่อนจะไปทานมื้อเที่ยงที่ห้างธนเลิศซึ่งเป็นการตระเวนเที่ยวแบบที่กุมภีล์ไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแขกพิเศษมาร่วมก๊วนด้วยอีกสองคนคือคุณม่วง อดีตเลขานุการของคุณภูวธรรศ และคุณชาติ น้องสะใภ้ของเขาซึ่งแต่งเข้าตระกูลมาเมื่อปลายปีก่อนทว่าหากนับตามอายุแล้วคุณชาติเป็นสะใภ้ที่อาวุโสที่สุด เพราะปัจจุบันอายุย่างเข้าเลขสี่แล้ว ทว่าอีกฝ่ายเคยทำงานแสดงมาก่อนจึงรักษาเนื้อรักษาตัวดี พอมายืนข้างกันเหมือนคุณชาติเป็นพี่เขาปีสองปีเอง“มองแบบนี้พี่ก็เขินแย่สิ”สะใภ้สามสายพันธุ์จิ้งจอกร่างสูงกล่าวด้วยความเขินอาย พลางยกมือเรียวปิดหน้าปิดตาบังหน้าแก้มขึ้นสี อดีตตัวเขาทำงานอยู่ในย่านเริงรมย์ โดนจ้องมองนั้นถือเป็นเรื่องสามัญ ทว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็ก ๆ เหล่านี้จะเข้ามาถามวิธีคงความเยาว์วัยด้วยดวงตาใสแป๋ว สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะเป็นหนูเปลววัวน้อย หนูกุมภ์จระเข้คนสวย หรือจะหนูม่วงตัวจิ๋วต่างน่ารักน่าหยิกกันอยู่แล้ว จะมาถามอะไรกับคนวัยผู้ใหญ่ระยะสุดท้ายอย่างเขา
“คนไข้ ได้เวลาถอดสายน้ำเกลือแล้วครับ”“แป๊บหนึ่งนะหลาน ลุงขออ่านหน้านี้ให้จบก่อน”กุมภ์ยืนมองคนไข้สูงอายุที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์อย่างขะมักเขม้น พร้อมด้วยเหล่าคนไข้คนอื่นซึ่งดูจะสนอกสนใจข่าวหน้าหนึ่งนั้นเป็นพิเศษ แต่เพราะผู้สูงอายุแถบนี้อ่านหนังสือไม่คล่องนัก จึงกำลังรอคุณตาบนเตียงที่เรียนจบเป็นอาจารย์เล่าให้ฟังอยู่“เสร็จแล้วจ้ะหลาน นี่มือจ้ะ”“ขอบคุณครับ”หากเป็นเขาเมื่อก่อนคงหยิบหนังสือพิมพ์ออกไปจากมือทันทีเพราะมองว่าเสียเวลารอ แต่ไม่รู้ทำไมที่ผ่านมาถึงรู้สึกว่าตัวเองใจเย็นลง เพราะมีสามีชื่อสินธุ เหมบำรุงหรือเปล่านะระหว่างกำลังวุ่นวายกับหลังมือของอาจารย์ท่านนั้น กุมภ์ก็พลอยได้ฟังเรื่องราวจากหน้าหนังสือพิมพ์ไปด้วย เห็นแวบ ๆ ตอนเข้ามาว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชายวัยรุ่นสักยันต์เต็มตัวกำลังโดนตำรวจจับกุม เพราะภาพมีขนาดใหญ่สะดุดตา‘ในข่าวนะ เขาเขียนว่ามีเด็กแสร้งทำตัวเป็นหมอผี รับทำอาคมคุณไสยแต่จริง ๆ แล้วล่อลวงหญิงสาวมาทำอนาจาร...’กุมภ์พอฟังจบก็หูผึ่ง องค์ประกอบในเนื้อข่าวม
มีการถกเถียงระหว่างสามีภรรยาเล็กน้อยเมื่อถึงคราวลูกสาวคนโตอายุถึงเกณฑ์ คุณพ่อเสือต้องการให้ลูกสาวเข้าเรียนประถมหนึ่งทีเดียว ทว่าคุณแม่จระเข้กลับอยากให้ลูกได้เรียนรู้สังคมตั้งแต่ยังเล็กจึงเสนอศูนย์อนุบาล ซึ่งเดี๋ยวนี้มีของเล่นสื่อการสอนครบครันให้ลูกสาวได้เสริมพัฒนาการท้ายที่สุดคุณแม่พยาบาลก็เป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นน้ำมนต์และเมธัสเสือน้อยคนรองจึงได้เข้าเรียนอนุบาลตามลำดับเพราะเป็นพิโดรเหมือนกันตอนคลอดคนที่สองปลายปีนั้นไม่วุ่นวายเท่าคนแรก เพราะคุณพ่อพกสติไปโรงพยาบาลด้วย ทุกอย่างจึงผ่านไปได้อย่างราบรื่นกว่าเดิมสองเท่า ยิ่งไปกว่านั้นสามีเขายังรับรองให้เขาออกไปทำงานพิเศษเป็นพยาบาลยังโรงอนามัยเปิดใหม่ใกล้บ้านเพื่อหารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังสามีได้พ่อบ้านสูงวัยมาดูแลตำหนักซึ่งเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของตระกูลดังนั้นเช้าวันจันทร์อันสดใสของคุณแม่ลูกสองจึงเริ่มต้นด้วยการปลุกเด็ก ๆ ขึ้นจากนิทรา ก่อนจะพากันลงไปอาบน้ำด้วยกันต่อจากคุณพ่อที่เดี๋ยวนี้มักจะตื่นขึ้นมาสวดมนตร์ก่อนเป็นประจำ“วันนี้มีอะไรกินเหรอจ๊ะแม่”“ลุงเย็น
สินนั่งขาสั่นหงึกมือประสานด้วยความเคร่งเครียดอยู่หน้าห้องคลอด ต่อให้ตัวเองจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่น้องกุมภ์จะได้รับการดูแลจากคณะแพทย์อย่างดีที่สุด ตั้งแต่ย้ายตัวภรรยาท้องแก่มาอยู่ยังห้องพักเดี่ยวช่วงใกล้คลอด จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้เอาไว้ครบครัน รู้เวลาอันเหมาะสมที่ลูกน้อยจะออกมาลืมตาดูโลกจากการจับยาม รวมไปถึงรู้ด้วยว่ามีมนตร์คาถาใดบ้างที่จะทำให้เมียตัวน้อยไม่เจ็บจนเกินไป กระนั้นในฐานะผัวและว่าที่พ่อคนอย่างเขายังกังวลอยู่วันยังค่ำ ทั้งที่ภรรยาคนสวยเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนแท้ ๆโดยมนตร์คาถาที่ว่าคล้ายกับเมื่อตอนน้องกุมภ์ท้องอ่อน ทว่าคราวนี้เป็นแบ่งความเจ็บปวดมาแทน-“โอ๊ย!!”สินนั่ง ๆ อยู่ก็สะดุ้งเฮือกเมื่อหน้าท้องรู้สึกเหมือนมีอะไรมากรีดเป็นทางยาว ก่อนจะตามมาด้วยความระทมทรมานอีกมากมายยังบริเวณเดียวกัน ความรู้สึกของแรงดึงบางอย่าง ดึงเนื้อลึกเข้าไปทีละชั้น สะท้อนลงไปถึงท้องน้อย ลึกเข้าไปถึงกระดูกสันหลัง ทำเอาสินที่ต้องเก็บอาการกัดฟันนั่งเกร็งจนเส้นเลือดขึ้นแขนขึ้นหน้าจนเจ้าพนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ต่างคิดว่าคุณพ่อคนนี้แสดงความเป็นห่วงต
“พี่กุมภ์...”“ว่าอะไรนะจ๊ะ?”เจ้าของชื่อเอียงคอมองสามีด้วยความสงสัยพลางลูบครรภ์ระยะ ๗ เดือนไปพลาง ในตอนนี้พวกเขากำลังขับรถเดินทางไปยังร้านอาหารร้านโปรดสมัยคบหาดูใจ ทว่าจู่ ๆ คุณชายสินธุที่จับพวงมาลัยรอรถติดก็พูดสรรพนามแปร่งหูขึ้นมา“แบบนี้ไม่ใช่ว่าเราแก่กว่าพี่หรอกเหรอ?”“เพราะว่าฉันโดนทำของใส่เหรอจ๊ะ?”“ใช่”กุมภ์ใช้เวลานี้กลับมาคิดไตร่ตรอง หากรวมปีทั้งหมดเข้าด้วยกันนับตั้งแต่ชาติแรก เขาเสียตอนอายุพอ ๆ กับชาตินี้ หากบวกสองชาติที่เหลือ อายุเขาตอนนี้คงอายุมากกว่าสามีราวปีสองปีได้กระมัง ว่าแต่เพราะเหตุใดสามีถึงได้นึกขึ้นได้เอาป่านนี้“อย่างไรชีวิตจริงฉันก็อายุน้อยกว่าพี่นี่จ๊ะ”“แต่นี่เคยชินกับการตีความจากอายุวิญญาณน่ะสิ เลยสับสนนิดหน่อย”เพราะก่อนหน้านั้นเจอแต่เรื่องเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อนจึงไม่มีใจมองเรื่องละเอียดลออสักเท่าไรนัก เผลอ ๆ บางตำราที่พ่อสอนยังให้เขาตีความอายุวิญญาณเป็นสองเท่าเทียบกับอายุสังขารเสียด้วยซ้ำ หากเป็นเช่นนั้นตอนนี้อายุวิญญาณของเมียเขาคงสี่สิบกว่าแล้วน่ะสิ ประกอบกับนิสั