เมื่อฟิลิปป์นักธุรกิจชื่อดังที่เงียบขรึม(เบื้องหลังอันดำมืด)ต้องมาเจอกับนักศึกษาที่แสนจะกวนประสาทอย่างนิวตัลเขาจะทำเช่นไร
Lihat lebih banyakบทนำ
ในวันที่ฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วมีเด็กชายร่างเล็กวัย10ขวบยืนร้องไห้อยู่หน้ารูปคู่ชายหญิงผู้ที่ซึ่งเป็นบิดามารดาของเขา แทนที่วันนี้จะเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดกลับกลายมาเป็นวันที่เขาโศกเศร้าเสียใจที่สุด นิวตัล หรือ ปรินทร์ ณ อนพัช เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างกับเด็กผู้หญิงได้ยืนถือเค้กร้องไห้แบบไม่มีเสียงอยู่ในงานศพผู้เป็นพ่อและแม่ของเขา
"จำไว้ปรินทร์จงจำเอาไว้ในวันเกิดของแกคือวันที่พ่อแม่ของแกได้จากไป จงจำวันนี้เอาไว้ให้ดี"
คำพูดนี้ได้หลุดออกมาจากปากของเด็ก10ขวบทำให้นาธาร หรือ ธนาธร ณ อนพัช ที่เปรียบเสมือนพี่ของปรินทร์หันไปมองดูนิวตันด้วยแววตาเศร้า ๆ เพราะเขาก็ถูกนายท่านและนายหญิงรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กเขาจึงรักท่านทั้งสองเสมือนพ่อแม่แท้ ๆ และก็รักปรินทร์เหมือนน้องชายของเขาเช่นกัน นาธารเดินเข้าไปหานิวตันก่อนจะนั่งคุกเข่าลงแล้วกล่าวขึ้นอย่างเบา ๆ
"นายน้อยต่อไปนี้ผมจะดูแลและปกป้องนายน้อยไม่ให้ใครมาทำร้ายนายน้อยได้เด็ดขาด"นาธารพูดจบก็ดึงนิวตัลเขามากอด ก่อนที่ตัวเขาจะแข็งทื่อเมื่อนิวตัลเอ่ยบางอย่างขึ้นจนทำให้เขาตกใจ
"พี่นาธารต่อไปนี้พี่จะต้องขึ้นอยู่ในฐานะนายน้อยแทนผม"
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเหมือนเดิมในทุก ๆ เช้าเป็นสัญญาณบอกให้ผมต้องแหกขี้ตาตื่น เพื่อที่จะต้องลากสังขารตัวเองไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันและแต่งตัวไปมหาวิทลัยอันแสนที่ผมจะรัก
รักบ้ารักบออะไรละ ขี้เกียจจะตายห่า
"เหี้ยเอ๊ยยยยยยกูละอยากจะนอนต่อฉิบหายฮื่ออออไม่น่าแดกเหล้าเยอะเลยกู..."
ผมสบถออกมาเบา ๆ เพราะกลัวคนที่อยู่หน้าประตูห้องนอนผมจะได้ยิน อะ!จริงสิ ผมลืมแนะนำตัว ทุกคนคงจะสงสัยซินะว่าผมนั้นเป็นใคร ผมชื่อนิวตัลหนุ่มหน้าหล่อไม่ใช่สิหนุ่มน้อยที่โคตรจะหล่อวัย22ปีต่างหาก ตอนนี้ผมกำลังนั่งกุมขมับบ่นกับตัวเองที่เมื่อคืนดันดื่มเหล้าเยอะเกินไปจนทำให้สภาพตัวเองเหมือนหมาเน่าแบบนี้ไง
ปัง! ปัง! ปัง!
จากเสียงเคาะกลายเป็นเสียงทุบประตูบ่งบอกว่าบุคคลที่อยู่หน้าประตูห้องนั้นเริ่มที่จะไม่พอใจที่คนในห้องไม่มีเสียงขานรับสักที
"นายน้อยนี่ท่านตื่นหรือยังครับ!"เสียงเข้มเอ่ยถามออกมาอย่างคนที่เริ่มจะโมโห เมื่อรับรู้ว่าเมื่อคืนนายน้อยของตัวเองได้ออกไปดื่มเหล้าสังสรรค์จนเมามายถึงกับเพื่อนได้แบกมาส่งถึงบ้าน
"ตะ..ตื่นแล้วววว โห่พี่นาธารจะทำเสียงเข้มทำไมเนี่ยย"คนตัวเล็กได้เอ่ยตอบออกมาอย่างทีเล่นทีจริง
"ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวจะไปเรียนสาย...อ๋อ!แล้ววันนี้ห้ามขับรถไปเองนะครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง!!"นาธารบอกคนตัวเล็ก ก่อนที่จะไม่ลืมคิดบัญชีที่นิวตัลนั้นแอบไปดื่มโดยไม่บอกตน
นั้นก็คือยึดรถทำโทษ
ตึก ตึก ตึก
พรึบ!!
เสียงเท้าของคนคนร่างบางที่รีบวิ่งลงมาจากเตียงตรงมาเปิดประตูแล้วร้องโอดครวญกับพี่ชายตนเมื่อรับรู้ว่าพี่ชายจะยึดรถของตัวเอง
"ฮื่อออ...ไม่เอาน๊าาาาพี่นาธารอย่าใจร้ายกับน้องชายตัวน้อยคนนี้สิครับ"คนตัวเล็กพูดพร้อมกับเอาหน้าไปถูแขนนาธารอย่างอ้อน ๆ ซึ่งนาธารก็ก้มลงมองไปยังสายตาออดอ้อนดวงนั้นก่อนจะตอบกลับ
"ตามที่ผมพูด....ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว จะได้ลงไปทานอาหารเช้า"พูดจบนาธารก็หันหลังเดินออกไปปล่อยให้คนตัวเล็กยืนมองตามแผ่นหลังตาละห้อยพร้อมกับเอ่ยบ่นออกมาเสียงแผ่วเบา
"ลูกอ้อนกูใช้กับพี่นาธารไม่เคยจะได้เลยเหรอว่ะ"คนตัวเล็กบ่นพึมพำออกมาอย่างสงสัยเพราะปกติตนนั้นใช้กับเพื่อนได้ผลตลอดโดยหารู้ไม่ว่าพี่นาธารของเขานั้นเดินจากไปด้วยใบหูแดง ๆ
"เฮ่อ....เกือบแพ้ลูกอ้อนของนายน้อยซะแล้ว เราต้องแข็งเข้าไว้นาธาร"
ณ มหาลัยx
นิวตัลที่ก้าวขาลงจากรถสปอร์ตคันหรูที่มีนาธารเป็นคนขับมาส่งก็เป็นที่จับตามองของใครหลายคน เป็นเพราะหน้าตาที่น่ารักบวกกับเป็นคนตัวเล็กผิวขาวและด้วยเพราะปกติคนตัวเล็กจะขับรถคู่ใจมาทุกวัน แต่วันนี้กับมีคนมาส่งยิ่งเลยทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นหันมามองอย่างสนใจว่าใครนั้นเป็นคนมาส่งหนุ่มน้อยน่ารักของมหาวิทยาลัยของพวกเขา
"พี่ธาร นิวจะได้น้องครามคืนเมื่อไหร่อ่ะ"นิวตันเอ่ยถามขึ้นหลังลงจากรถ
"ก็ต่อเมื่อเราทำตัวดี ๆ งั้นพี่ไปทำงานแล้วนะครับ ตั้งใจเรียนนะ"นาธารตอบ ก่อนที่จะลาคนตัวเล็กแล้วขับรถออกไปทันที ด้านนิวตัลเมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้นก็ได้แต่เดินคอตกไปยังโต๊ะตัวประจำที่มีชายหนุ่มสองคนนั่งรออยู่ก่อน
"เป็นอะไรเดินหน้าบูดเป็นตูดลิงมาเชียว"ตะวันหรือเตตะวันเพื่อนสนิทของนิวตัลเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นเพื่อนตัวดีเดินหน้าบูดมาเรียนตั้งแต่เช้า
"จะอะไรซะอีกละ ก็คงโดนพี่นาธารยึดไอ้ครามอะดิ"กร หรือ กรธิกาเพื่อนสนิทอีกคนตอบแทนนิวตัลอย่างรู้ทัน
"น้องครามครับน้องคราม ไอ้เชี่ยกรมึงเลิกเรียกลูกกูว่าไอ้เลยนะน้องครามโว้ยยย"นิวตัลหันมาโวยใส่เพื่อนอย่างกร เมื่อกรนั่นเรียกรถบิ๊กไบค์z1000ลูกรักของตนว่าไอ้
"ครับบบบๆน้องครามมมม"กรเอ่ยออกมาอย่างเอือม ๆ ก่อนที่จะหันกลับมาเล่นมือถือของตัวเองต่อ
"แล้วนี่ที่โดนพี่นาธารยึดรถเป็นเพราะที่ไปแดกเมื่อคืน?"ตะวันหันมาเอ่ยถาม หลังจากที่เพื่อนตัวเล็กนั่งลงข้างกายตัวเอง
"ก็เออนะดิ"นิวตัลตอบอย่างเซ็ง ๆ ก่อนที่จะก้าวเดินมานั่งลงข้างตะวันแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
"เออ...ไอ้ตัล!!"กรที่เหมือนคิดอะไรบางอย่างออกก็เรียกนิวตัลขึ้นเสียงดัง จนทำให้นิวตัลนั้นตื่นตกใจ
"อะไร!!จะเสียงดังทำห่าอะไรเนี่ยยยเกิดกูหัวใจวายตายไปจะทำไง"นิวตัลดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยพูดออกมาอย่างตกใจ
"หัวใจวายตายไปเลยนะไอ้สัตว์กูพึ่งนึกบางอย่างได้ เมื่อวานนี้มึงไปก่อเรื่องอะไรไว้มึงจำได้ไหม"กรเอ่ยว่านิวตัลพลางถามขึ้นว่าคนตัวเล็กจำเรื่องราวเมื่อวานที่ตนเองนั้นได้สร้างปัญหาเอาไว้ได้ไหม
"เออๆใช่ ๆ มึงจำได้มั้ย"ตะวันเสริม
"กูทำเหี้ยอะไร?"คนตัวเล็กถามกลับไปอย่างงง ๆ เพราะตัวเองนั้นจำอะไรไม่ได้เลยภาพล่าสุดที่จำได้คือนั่งกินกับเพื่อนทั้งสองแล้วภาพก็ตัดไป
"เชี่ยยยย เรื่องใหญ่ขนาดนี้มึงจำไม่ได้?"ตะวันหันไปถามตาโต ส่วนนิวตัลก็ได้แต่นั่งแสดงสีหน้างงงวย เพราะเขานั้นจำอะไรไม่ได้จริง ๆ
"เออ!!!...ก็กูจำไม่ได้ แล้วกูทำอะไร"นิวตัลตอบแล้วหันไปถามเพื่อนทั้งสองอย่างสงสัย
"ไอ้ตัล ครั้งนี้มึงสร้างเรื่องใหญ่จริง ๆ "กรหันมาพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา
แล้วกูทำอะไรวะ?
"มามี้ ๆ ชุดนลินเป็นไงบ้างฮะ"เด็กน้อยตัวขาวหน้าตาน่ารักในวัยห้าขวบวิ่งเตาะแตะมาหาผู้ที่เป็นมารดาที่ตอนนี้นั่งให้ช่างแต่งหน้าแต่งแต้มใบหน้าที่งดงามให้ตนอยู่"ไหนครับมาให้มามี้ดูหน่อย ว่านลินใส่ชุดแล้วหล่อแค่ไหน"นิวตัลหันไปตามเสียงเรียกของลูกชายตัวน้อยของตน ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นพร้อมยิ้มรับลูกชายตัวน้อยสุดที่รัก"เป็นไงฮะ นลินหล่อไหม"เสียงใส่เอ่ยถามมารดาขึ้นอย่างเจื้อยแจ้วพร้อมหมุนตัวให้ผู้เป็นมารดาดูว่าตัวเองในชุดสูทสีขาวและกางเกงโจงกระเบนสีฟ้าลายไทยนั้นหล่อมากน้อยแค่ไหน"ลูกชายใครเนี่ยยย ทำไมหล่ออย่างนี้นะ"นิวตัลเอ่ยชมลูกชายตัวน้อยด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ พร้อมเอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับแก้มกลม ๆ ของนลินอย่างมันเขี้ยว"งื้ออออมามี้บีบแก้มนลินอีกแล้วนลินจะไปฟ้องแด๊ดดี้"นลินที่โดนมารดาบีบแก้มก็ร้องท้วงขึ้น ก่อนจะทำหน้างอใส่มารดาแล้ววิ่งหนีออกไปเพื่อจะไปฟ้องผู้เป็นบิดา ส่วนนิวตัลไ
"ใครบอกให้พี่เอาแขนลง กางแขนออกเดี๋ยวนี้"คนตัวเล็กกอดอกตะเบ็งเสียงขึ้นสั่งคนตัวสูงที่พึ่งจะเอาแขนลงให้กางขึ้นดังเดิม"นิวพี่ขอโทษเลิกโมโหนะครับ พี่ผิดไปแล้วแล้วนี่พี่ก็ยืนขาเดียวกางแขนมาเป็นชั่วโมงแล้วให้พี่เข้าบ้านเถอะนะ"ฟิลิปป์เอ่ยขอโทษคนตัวเล็กที่ยืนกอดอกอยู่หน้าประตูบ้าน"บอกให้เอาแขนขึ้นไง แล้วใครบอกให้ลดขาลง"นิวตัลเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่สนใจคำขอโทษของฟิลิปป์"เอ่อ...นิวตัลพี่ว่านิวตัลเลิกลงโทษเจ้านายพี่เถอะนะ ตอนนี้ลูกน้องมองเต็มเลยสงสารเจ้านายพี่เถอะไม่เหลือคาบของบอสผู้เยือกเย็นแล้ว"ลุคที่ยืนดูสถานการณ์ตั้งแต่แรกได้เอ่ยขอร้องนิวตัลขึ้นอีกคน ส่วนนิวตัลที่ได้ยินลุคขอร้องก็หันไปมองหน้าลุคก่อนที่จะหันกลับมามองคนตัวสูงที่ส่งสายตาวิงวอนขอความเห็นใจจากเขา"เพิ่มอีกสามสิบนาที"ฟิลิปป์และลุคที่ได้ยินสิ่งที่คนตัวเล็กพูดก็หันมามองหน้ากันทันที"ไอ้ลุคเพราะมึงเลยจากเหลือแ
"นี่พี่ฟิลิปป์เลิกบีบพุงลูกสักทีไปชงนมให้ลูกได้แล้ว เดี๋ยวนลินหิวก็งอแงอีก"นิวตัลเอ่ยว่าฟิลิปป์เสียงนิ่งก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาดุ ๆ ให้ฟิลิปป์"นิวอะทำไมต้องทำเสียงดุใส่พี่ด้วย นลินดูมามี้เราสิว่าแด๊ดดี้อีกแล้วแด๊ดดี้เสียใจ"ฟิลิปป์เอ่ยพูดขึ้นพลางลงที่พื้นข้างโซฟาแล้วพูดเสียงอ้อน ๆ พร้อมกับทำสีหน้าหงอ ยๆ ส่งไปให้เด็กน้อยผิวขาวตัวอวบอ้วนวัย6เดือนที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนนิวตัล"พูดดีด้วยไม่ชอบใช่ไหมลุง ต้องให้โดนสักป๊าบใช่ไหมถึงจะไป"นิวตัลที่เห็นฟิลิปป์ไม่ยอมลุกไปชงนมสักทีเอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งแล้วฟาดฝ่ามือลงที่ไหล่กว้างของฟิลิปป์แรง ๆ"โอ๊ยยยยยย ไปแล้ว ๆ "ฟิลิปป์ที่โดนฝ่ามือเล็ก ๆ ของนิวตัลก็รีบลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งเข้าครัวไปชงนมผงมาให้ลูกน้อยทันที และก็ไม่ต้องพากันสงสัยนะครับว่าทำไมได้ชงนมผงก็ง่าย ๆ เลยนิวตัลเป็นผู้ชายที่มีลูกได้แต่ไม่มีน้ำนมครับ"นิวนมได้แล้ว"ผ่านไปสักพักฟิลิปป์ที่ชงนมเสร็จก็ถือขวดนมออกมาจากค
สี่เดือนต่อมา"จะเอายังไงต่อยกันเลยไหมลุง"นิวตัลยืนเท้าสะเอวเอ่ยถามฟิลิปป์ขึ้นพลางนัยน์ตาสวยก็จ้องหน้าฟิลิปป์ตาเขม็ง"นิวไม่เอาไม่โกรธนะครับ พี่ขอโทษ"ฟิลิปป์เอ่ยขอโทษขึ้นเสียงอ่อนก่อนจะเอื้อมมือไปลูบที่ต้นแขนเล็กไปมาสองสามทีเพื่อห้ามไม่ให้คนตัวเล็กโมโห"ไม่ต้องมาลูบกันเลย เมื่อกี้พูดว่าอะไร"นิวตัลเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งอีกครั้งพลางเบี่ยงตัวหลบจากมือหนา"พี่ไม่ได้ตั้งใจจะบ่นให้นิวได้ยิน อย่าโกรธพี่เลยนะเดี๋ยวลูกตกใจ"ฟิลิปป์เอ่ยพูดพลางทำหน้าหงอย ๆ"ไม่ต้องมาทำหน้าหงอยเป็นหมาใส่ผมเลย เมื่อกี้พี่ว่าผมขี้บ่นใช่ไหม คิดว่าพูดเบา ๆ แล้วผมจะไม่ได้ยินหรือไงผมไม่ได้หูหนวกนะ"นิวตัลหันไปพูดกับฟิลิปป์เสียงเข้มพลางจ้องหน้าคนตัวสูงด้วยสายตาดุ ๆ"ไม่เอาไม่โกรธนะครับที่รัก เดี๋ยวลูกงอแงนะครับ"ฟิลิปป์เดินเข้าไปประชิดนิวตัลพลางยกมือทั้งสองขึ้นประคองใบห
"เลิกร้องไห้นะครับเด็กดี ถ้าไม่อยากให้พี่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้"ฟิลิปป์พูดปลอบคนตัวเล็กพลางวางมือลงบนหน้าท้องที่เริ่มนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับลูบเบา ๆ แล้วเอ่ยพูดต่อ"เด็กดีเราบอกแม่ของเราให้เลิกร้องไห้หน่อย พ่อทนเห็นน้ำตาแม่ของเราไม่ได้""อึก! อึก!" ยิ่งฟิลิปป์เอ่ยพูดน้ำตาของนิวตัลยิ่งไหลลงมามากกว่าเดิม ฟิลิปป์ที่เห็นนิวตัลไม่ยอมหยุดร้องไห้สักที่ก็รั้งนิวติลให้นั่งลงบนเตียงด้วยกัน ก่อนที่จะเอ่ยแซวขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"นิวตัลคนเดิมที่ก๋ากั่นของพี่หายไปไหนนะ ทำไมเหลือแต่นิวตัลที่ขี้แยละเนี่ยยย""อีตาลุงบ้า ว่าใครขี้แยห๊ะ! "นิวตัลที่โดนฟิลิปปแซวว่าตัวเองขี้แยก็ยกมือปาดน้ำตาบนแก้ม ก่อนที่จะเงยหน้าแล้วเอ่ยถามอย่างเคือง ๆ"ใครที่ร้องไห้ขี้แยอยู่ละครับ"ฟิลิปป์พูดขึ้นอีกครั้งพลางนำนิ้วชี้จิ้มไปที่แก้มนุ่ม ๆ ของนิวตัล มืออีกข้างที่วางอยู่บนเอวเล็กก็เลื่อนเข้าไปในเสื้อของคนตัวเล็กแล้วกรีดนิ้วตามกระดูกสันหลังของร่าง
ฟิลิปป์นั่งซึมหมุนควงแก้วเหล้าราคาแพงในมืออยู่ในห้องทำงานในหัวก็พลางคิดถึงคำพูดของนาธารซ้ำไปซ้ำ หลังจากที่นาธารพูดประโยคนั้นจบเขาก็หันหลังเดินออกไป ปล่อยให้เขายืนงงกับประโยคที่ว่าเขานั้นไปปลุกความเจ็บปวดในใจของคนตัวเล็ก เขายืนนิ่งคิดถึงคำพูดนั้นของนาธารเกือบชั่วโมง มาได้สติก็ตอนที่ลุคถามผมว่าจะเอายังไงต่อ เขาจึงหันไปสั่งให้ลุคไปสืบว่าเมื่อก่อนมันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ทำไมคนตัวเล็กถึงฝังใจในวันเกิดตัวเองขนาดนี้ไม่นานลุคก็ไปสืบมาได้ว่าในวันนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น ตอนที่นิวตัลอายุได้เพียงสิบขวบพอดีเป็นวันที่พ่อกับแม่ของนิวตัลนั้นได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุฆาตกรรมของนิวตัลหลังจากที่ผมรู้เรื่องที่ลุคไปสืบมาผมก็ตัดสินใจโทรหานาธารเพื่อที่จะถามว่าจริง ๆ แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ทำไมคนตัวเล็กถึงฝังใจกับวันเกิดตัวเองขนาดนี้พอผมโทรคุยกับนาธารเสร็จแล้วได้ฟังเรื่องราวจากปากของนาธาร ผมแทบทรุดลงกับพื้นผมไม่คิดมาก่อนเลยว่านิวตัลในวัยสิบขวบนั้นจะเจอเรื่องราวที่ทรมานแสนสาหัสขนาดนี้และพอได
Komen