(เจ้าชายราฟา) วันที่ส่งคนพบอลิส
ณ บ้านพักส่วนพระองค์ของรัชทายาทลำดับที่สอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้นแล้วเปิดออกทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้าของที่นี่อนุญาต
“ได้ข่าวว่าหลานชายส่งคนไปพบคู่หมั้นแล้วเหรอเนี่ย ฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะเอกลักษณ์ของปู่ดังขึ้นจากด้านหลัง แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะหันไปโต้ตอบอะไร เพราะสายตายังคงจับจ้องไปยังประกาศสำคัญทั่วประเทศ
“.....” ข่าวเรื่องการหมั้นถูกประกาศออกไปทันทีที่เลยวันเกิดมาได้เพียงวันเดียว
พึ่บ!
เสียงนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ และเป็นจังหวะที่เขาหันหลังกลับไปมอง
“เริ่มหรือยังล่ะการพบคู่หมั้นน่ะ”
“คุณปู่มาหาผมเพราะเรื่องแค่นี้เหรอครับ” ราฟาเดินมานั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกัน
“ใช่ ฉันก็อยากฟังเหมือนกันว่าเด็กที่ฉันเลือกจะเป็นยังไง” ปู่ของเขารู้ทันอีกแล้วสินะว่าจะต้องมีการบันทึกเสียง และดักฟังการสนทนาในครั้งนี้
“ก็ทั่วไปครับ คิดว่าจะพิเศษกว่าปกติเหรอ” ท่าทีมั่นใจของเขาทำให้ผู้เป็นปู่หลุดยิ้มออกมา
“ในระหว่างรอเรามาดูประวัติและหน้าของเธอดีมั้ย” พูดจบปู่ก็ส่งสัญญาณให้ผู้ดูแลของตัวเองจัดการกับสิ่งที่เตรียมมา
“ไม่ต้อง ไม่จำเป็นต้องเห็น มันรกสายตาเปล่าๆ” สิ่งที่กำลังจะฉายขึ้นบนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่หยุดชะงักทันที
“แต่ฉันอยากดูฆ่าเวลาระหว่างรอให้คนของแกไปเจอคู่หมั้น เปิด” สิ้นเสียงคำสั่งภาพของคู่หมั้นเขาก็ถูกฉายขึ้นบนจอ แต่เพราะนั่งหันหลังให้จึงไม่ใส่ใจปล่อยให้คนอยากเห็นดูไปตามความต้องการของตัวเอง
“ยู พวกนั้นไปถึงหรือยัง” เขาหันไปถามมือขวาของตัวเอง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยืนนิ่งไม่ขยับ สายตาจ้องมองเลยไปยังด้านหลังเขาอีกคน
“หันไปดูสิหลานชาย” เขาละสายตาจากมือขวาแล้วจ้องไปยังคุณปู่ รอยยิ้มของผู้ชนะที่เหมือนว่าครั้งนี้คุณปู่จะทำให้เขาทำตามความต้องการของตัวเองได้สำเร็จ
“ผมไม่ดูอะไรที่ทำให้ตัวเองเสียสายตาหรอก” พูดจบก็ส่งยิ้มแบบเดียวกันให้ปู่
เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า การหมั้นก็จะยุติแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในหัวจดจำใบหน้าของคนที่ไม่มีวันได้พบเพิ่มขึ้นให้รก ใครที่ไหนก็ต้องเลือกความสบายทั้งนั้น และเงินจำนวนมหาศาลที่เสนอไปเขามั่นใจว่าเธอจะอ้าแขนรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ
“ราฟา จำคำพูดแกเอาไว้ แล้วพยายามห้ามใจตัวเองไว้ด้วยล่ะถ้าอยู่กับเธอ” คำเตือนของปู่พูดขึ้นก่อนจะละสายตามองเลยไปยังด้านหลัง
หญิงสาวในชุดว่ายน้ำสีดำ ผิวขาวเนียน ใบหน้าสวยลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ผมยาวสลวยสีบลอนด์ธรรมชาติเปียกชุ่มน้ำยาวถึงกลางหลังสะโพกผาย เอวคอด สัดส่วนของหญิงสาวโตเต็มวัย เจ้าของคะแนนโหวตผู้หญิงที่มีหุ่นดีที่สุดประจำปีของประเทศไทย หน้าอกคัป D ที่ทำให้ผู้ดูแลในห้องนี้ไม่สามารถละสายตาจากภาพบนจอได้ ยกเว้นหลานชายของเขาที่ไม่หันไปมอง
“อย่าพูดเหมือนหลานตัวเองเป็นเด็กที่ไม่เคยผ่านผู้หญิงสิครับ”
“ฉันล่ะชอบรอยยิ้มแกจริงๆ สมกับเป็นหลานสุดที่รักของปู่ เหมือนฉันสมัยหนุ่มไม่มีผิด”
“ขอบคุณครับที่ชม” ไม่รู้ว่าชมจากใจมั้ย แต่ก็ยินดีที่จะรับเอาไว้ก่อน
“ขออนุญาตครับ” ยู มือขวาของเขาได้สติกลับมาแล้วจึงเข้ามากระซิบจากด้านหลัง
“....” สายตาคมจ้องมองไปที่คุณปู่ แต่หูก็ฟังในสิ่งที่ยูกำลังจะพูด
“คนของเราพบกับคุณอลิสแล้วครับ”
“คุณปู่จะอยู่ฟังด้วยใช่มั้ยครับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ปู่เอนหลังพิงพนักโซฟาหรู เอื้อมมือรับซิการ์จากผู้ดูแลของท่าน
อุปกรณ์รับเสียงสัญญาณจากอีกฟากของประเทศถูกวางลงบนโต๊ะ ซึ่งคนที่เขาส่งไปต่อรองกับคู่หมั้นติดเครื่องดักฟัง และบันทึกเสียงเอาไว้ด้วยมันถูกเชื่อมเข้ากับตัวขยายเสียงเพื่อให้ปู่ได้ยินคำปฏิเสธการหมั้นในครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน
(ด้านอลิส)
ณ ร้านอาหาร โซนห้องรับรอง VIP
“เรียกผมว่าเจ้าชายราฟาก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มตามที่แนะนำไปในตอนแรก”
“ค่ะ”
“การหมั้นของเรามันดูจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย ผมคิดว่าคุณอลิสจะไม่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ”
“ค่ะ”
“ผมอาจจะทำให้คุณผิดหวังที่ต้องมาชี้แจงว่าจะขอยกเลิกการหมั้นระหว่างเราทั้งคู่”
“....” ฉันนั่งฟังผู้ชายตรงหน้าที่พูดไม่หยุดตั้งแต่มา
ท่าทางแปลก ๆ ที่พอจะจับสังเกตได้ การพูดมาก และบางทีเขาก็หลุดคำแปลกออกมา ซึ่งส่วนตัวฉันคิดว่าคนระดับเขาไม่มีทางพลาด ภายในห้องก็มีผู้ติดตาม 4 คน 2 คน ยืนอยู่ด้านหลังของฉัน และด้านหลังเขาอีก 2 คน
“คุณสามารถเรียกร้องข้อเสนอ หรือสิ่งที่ต้องการได้มากกว่านี้”
“....” พูดมากจัง
“เรื่องเงินถ้าคุณอลิสอยากได้มาเท่าไรก็เสนอมาเลยครับ ผมมีมากพอที่จะจ่ายได้ตามความต้องการ”
“...ค่ะ” เอาเรื่องเงินมากดฉัน แต่พูดออกมาโจ่งแจ้งเลยเหรอ ไม่มีศิลปะในการพูดเอาซะเลย
“หรืออยากได้อะไรที่มากกว่าเงินก็ได้นะครับ ผมยินดี”
“....”
“จะว่าไปคุณก็เป็นคนที่สวยมากเลยนะครับ เสียดายที่ผมต้องปฏิเสธการหมั้น”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
ดวงตาคมลอบมองไปยังผู้ติดตามสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ทั้งคู่หันมองหน้ากันอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ดูแลเจ้าชายไม่ควรที่จะละสายตาออกจากเจ้านายแม้แต่วินาทีเดียว
“ผมมาที่ประเทศไทยบ่อยนะ เอาไว้เรามาเจอกันในสถานะอื่น เวลาอื่นเป็นการส่วนตัวก็ได้นะครับ” สายตากรุ้มกริ่มจ้องมองฉันไม่ละสายตา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันกลับทำให้รู้สึกขนลุกมากกว่าที่จะทำให้คิดว่าคนตรงหน้าอันตราย
“....”
“แต่คงไม่มีในฐานะของคู่หมั้น ผมต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณเสียดาย” เสียดายเหรอ...
ฉันจ้องมองไปยังผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่แล้วก็สังเกตเห็นแสงสะท้อนกระทบกับขอบแว่นกันแดดที่เขาสวมใส่อีกครั้ง แสงกะพริบสีแดงสะท้อนขึ้นเป็นระยะและเมื่อมันกะพริบ คนพูดมากตรงหน้าก็จะเงียบลงเหมือนตั้งใจฟังอะไรสักอย่าง
“(ยิ้ม)” ริมฝีปากบางยกยิ้มให้เขาในขณะที่อีกฝ่ายก็ลอบมองมาที่ฉันเช่นกัน
“สรุปว่าคุณอลิสจะ...” เขาดูอ้ำอึ้งต่างไปจากทีแรกนะ
“คะ?” ฉันถามกลับแล้วส่งยิ้มหวานให้
“ข้อเสนอของผมน่ะ คุณอลิสอยากได้เท่าไรครับเพื่อยุติการหมั้นในครั้งนี้”
“....” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้คนตรงหน้า
มือเล็กเอื้อมหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบอีกครั้ง สายตามองเลยไปยังผู้ติดตามทั้งสองข้างหลังของเขา พวกเขาแสดงสีหน้าเหมือนหวาดกลัวบางสิ่ง สายตาล่อกแล่กไม่อยู่กับตัว แล้วยังละสายตาจากบุคคลที่บอกว่าเป็นเจ้าชายมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“ว่ายังไงครับ เรารีบมาตกลงเรื่องนี้กันเถอะ ผมจะได้รีบออกไปจากที่นี่”
“ทำไม รีบร้อนจังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มประจำตัว ก่อนจะวางแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะ
ปึก!
“ผมเป็นเจ้าชายนะครับ ยังมีอะไรอีกมากที่ต้องไปทำ”
“ทราบค่ะ...ถ้างั้นช่วยฟังฉันก่อนนะคะ”
“รีบพูดเลยครับ” ผู้ชายตรงหน้าเริ่มแสดงออกแปลกขึ้น แสงไฟจากใต้เสื้อสะท้อนกับขอบแว่นเหมือนว่าอุปกรณ์นั่นกำลังถูกใช้งาน
“เจ้าชายราฟา...ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
เขาตอบกลับทันทีแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยที่ถูกเรียกแบบนั้น ท่าทางภูมิใจนั่นมันคืออะไร...มีแต่คนที่พึ่งเคยได้รับอะไรแบบนี้เท่านั้นแหละที่จะภูมิใจได้ขนาดนั้น คนที่เกิดมาพร้อมกับตำแหน่งไม่มาแสดงความรู้สึกอะไรแบบนี้แน่
“น่าแปลกใจจังนะที่คนปกปิดตัวตนจากสื่อแบบเจ้าชายจะเดินทางมาพบฉันด้วยตัวเอง”
“ผมให้เกียรติให้คุณไงครับ” ในจังหวะที่เขาพูดแสงสีแดงก็กะพริบขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณมากค่ะ”
“รีบพูดสิ่งที่ต้องการสักที ผมมีธุระต่อ” ธุระเหรอฉันว่าเขากำลังถูกกดดันจากบางสิ่งมากกว่า
“ค่ะ ขอพูดอะไรอีกนิด...เจ้าชายราฟาน่ะเป็นบุคคลที่แม้แต่ภาพวัยเด็กยังไม่มีให้เห็น และไม่มีทางที่คนประเภทชอบใช้เงินกดหัวคนอื่นแบบเจ้าชายจะให้เกียรติผู้หญิงสามัญชนแบบฉัน”
“....” ตอนนี้ไม่ใช่แค่คนตรงหน้าจะมองมาที่ฉัน แต่รวมไปถึงผู้ติดตามอีกสองคนด้านหลังนั่นด้วย
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอที่มอบให้นะคะ แต่ฉันคิดว่าถ้าหมั้นไปแล้วอยู่ในฐานะภรรยาของเจ้าชาย น่าจะได้มากกว่าที่ขอไปแน่นอน”
“...อึก!” กลืนน้ำลายงั้นเหรอ กำลังกลัวสินะ
“ไม่มาด้วยตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ไม่เห็นจะต้องส่งคนอื่นมาแล้วใช้ชื่อตัวเองเลยนี่ จริงมั้ยคะ” พูดจบก็ยกมือเท้าคาง จ้องมองไปยังผู้ชายฝั่งตรงกันข้ามที่ตอนนี้เขามีสีหน้าซีดลงเรื่อย ๆ
“ผมไม่ใช่คนอื่นนะครับ ผะ!” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉันก็ใช้นิ้วแตะปากตัวเองแล้วส่งเสียงให้เขาเงียบ
“ชู่ว! ช่วยเงียบด้วยค่ะ”
“ช่วยให้เกียรติผมในฐานะเจ้าชายแห่งจักรวรรดิด้วย”
“บอกให้เงียบยังไงล่ะคะ เงียบแล้วฟัง” รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป เหลือเพียงใบหน้าเรียบเฉย
“.....” ในที่สุดเขาก็ยอมเงียบ และรอฟังในสิ่งที่ฉันกำลังพูด
“ดีใจมากที่ถูกยื่นข้อเสนอด้วยวงเงินจำนวนมหาศาล ฉันมีค่าตัวที่แพงลิ่วขนาดนั้นเลยสินะ”
“.....” ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงฉันเท่านั้นที่ยังคงพูดต่อไม่หยุด
“ฉันยอมรับการหมั้นค่ะ”
ปึง! สิ้นเสียงของฉัน ผู้ชายตรงหน้าก็ลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง
“ผมสั่งให้คุณปฏิเสธการหมั้นครั้งนี้ไง!”
“ชู่ว! เบาเสียงลงด้วยค่ะคุณเจ้าชายตัวปลอม...แล้วทั้งหมดที่พูดไปตั้งแต่แรกฉันไม่ได้พูดกับคุณนะคะ”
ปึง!
มือเล็กค้ำลงบนโต๊ะแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ผู้ชายที่นั่งอยู่ สายตามองเลยไปยังด้านหลังผู้ติดตามยืนนิ่งอยู่กับที่ คงเพราะรู้แล้วว่าถูกฉันจับได้ ใบหน้าสวยขยับเข้าไปใกล้คอเสื้อในขณะที่อีกฝ่ายนั่งตัวแข็งทื่อ
“ฉันพูดกับคนที่ฟังอยู่หลังไมค์นี่ต่างหาก...ยินดีที่ได้หมั้นกันนะคะเจ้าชายราฟา”
เสียงหวานพูดใส่ไมค์ที่ซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อ ทุกคนในห้องเงียบไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงหรือขยับตัว หึ! เกมแรกฉันขึ้นนำ