บทที่ 7 ฉันไม่หย่า
"อาหารที่สั่งมาแล้วครับ " เสียงพนักงานบอกกล่าวว่าตอนนี้อาหารที่ซูเม่ยสั่งได้จัดเตรียมยกมาเสิร์ฟแล้ว อ้ายเยว่วางมือจากของเล่นเหลียวมองอาหารอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นปูนึ่งที่ซูเม่ยสั่งมาให้ เธอไม่ได้สนใจโต๊ะข้าง ๆ อีก หันกลับมาสนใจลูกชายตัวน้อยแทน
หลังจากที่ทั้งสองเพลิดเพลินกับการกินอาหารจนอิ่มหนำสำราญซูเม่ยจัดการจ่ายเงินและพาอ้ายเยว่กลับบ้าน ตอนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ผู้คนพากันเดินทางกลับจากการทำงาน วันนี้เธอพาอ้ายเยว่ออกมาเที่ยวเล่นทั้งวันจริง ๆ ทั้งสองเดินมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจที่เห็นรถยนต์ที่ไม่คุ้นเคยจอดนิ่งอยู่ที่โรงจอดรถ
"แม่ครับนั่นรถใครกัน"
"นั่นสิแม่เองก็ไม่รู้หรือว่าจะมีแขกมาที่บ้านกัน " ซูเม่ยคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยแต่ไม่ทันให้ได้ได้คาดเดาก็เห็นเจ้าของรถกำลังยืนหน้าบูดบึ้งอยู่หน้าประตูเสียแล้ว ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดทหารร่างกายบึกบึนหน้าอกกว้างสง่าผ่าเผย ใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งเป็นสันดวงตาเฉียบแหลม ซูเม่ยเดาได้ทันทีเพราะใบหน้าเขาคล้ายอ้ายเยว่ไม่มีผิด นั่นคือจิ่นเฉาจื่อสามีของซูเม่ย
'ว๊าวว หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้รูปร่างก็สูงโปร่งบึกบึนดีไม่แปลกเลยที่พวกผู้หญิงพวกนั้นพูดถึงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ อย่างกับพระเอกละครเลย นี่หรือสามีฉัน!! ไม่ ไม่ เขากลับมาเพื่อหย่านี่น่า ใช่แล้วเรื่องหย่าคือเรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้ ' ซูเม่ยคิดในใจก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูของอ้ายเยว่
"อ้ายเยว่แม่รู้แล้วว่ารถยนต์เป็นของใคร นั่นคือรถยนต์ของคุณพ่อนะ นั่นไงเขายืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าบ้าน " เด็กชายดวงตาเบิกโพลงเป็นประกายรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าด้วยความดีใจ รีบวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อทันที
"คุณพ่อ คุณพ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ อ้ายเยว่ดีใจที่สุดเลย ในที่สุดอ้ายเยว่ก็ได้พบกับพ่อจริง ๆ สักที" เด็กน้อยวิ่งกรู่เข้าไปสวมกอดพ่อ เขาเองก็ดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นหน้าลูกชาย อ้าแขนกว้างให้อ้ายเยว่เข้าสู่อ้อมกอดอุ้มอ้ายเยว่ขึ้นสูงพร้อมหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
"นี่หรืออ้ายเยว่ลูกชายของท่านนายพลใหญ่ อื้ม...ใบหน้าเหมือนพ่อจริง ๆ ด้วย พ่อก็ดีใจที่ได้กลับมาหาลูกในครั้งนี้ ดูสิทำไมตัวถึงได้เล็กอย่างนี้หรือว่าแม่ดูแลไม่ดี วันนี้ลูกชายพ่อต้องกินข้าวเยอะ ๆ นะรู้มั้ย"
"ไม่ใช่นะครับคุณแม่ดูแลอ้ายเยว่ดีมากวันนี้พาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยวแถมยังซื้อของเล่นซื้อปูแสนอร่อยให้กินด้วย ผมมีเรื่องจะเล่าให้คุณพ่อฟังมากมายเลยครับ"
"อย่างนั้นหรือ?งั้นเราต้องไปอาบน้ำเสียก่อนแล้วคืนนี้พ่อจะไปฟังเรื่องเล่าของอ้ายเยว่ทั้งคืนเลยแต่ว่าตอนนี้พ่อขอเวลาคุยกับคุณแม่ก่อนนะ "
"ได้ครับ อย่างนั้นผมจะไปอาบน้ำรอนะครับ" อ้ายเยว่ดีใจใหญ่ที่พ่อของเขาจะได้อยู่กับเขาทั้งคืนและตอนนี้คุณพ่อขอเวลาอยู่กับคุณแม่เขาหวังว่าทั้งสองจะพูดกันด้วยดี
จิ่นเฉาจื่อวางร่างเล็กลงอ้ายเยว่เดินเข้าบ้านไปอาบน้ำปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันรอยยิ้มของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นสายตาเย็นชาจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก ยิ่งเห็นเธอแต่งหน้าแต่งตาซื้อของพะรุงพะรังเขายิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่คุณแม่พูดมาเป็นความจริง
"ฮึ ฮึ เป็นอย่างที่คุณแม่พูดไม่มีผิด แต่งตัวอย่างนี้ไปหาชายชู้มาหรือไง " ซูเม่ยได้ยินถึงกับตกใจไม่คิดว่าคำพูดแรกของสามีจะทักทายเธออย่างนี้ อีกอย่างสิ่งที่เขาพูดออกมาไม่เป็นความจริงสักอย่าง นี่คงเป็นเพราะแม่สามีโทรเลขบอกเขาเสมอมาสินะ ไม่ชอบเธอจนต้องโกหกลูกชายไม่ชอบเธออีกคนอย่างนั้นหรือ?
'คงเป็นแม่สามีสร้างเรื่องโกหกลูกชายสินะ! ได้เลยในเมื่ออยากให้เป็นอย่างนี้ฉันเองก็ไม่อยากจะทนนักหรอก' ซูเม่ยคิดในใจก่อนจะตอบกลับจิ่นเฉาจื่อ
"ฉันมีชายชู้ก็คงไม่แปลกหรอกในเมื่อมาอยู่ในบ้านหลังนี้แต่ไม่มีสามีคอยเคียงข้าง สามีไม่เคยสนใจใยดีไม่รู้ว่าภรรยาของตัวเองอยู่กินอย่างไรกลับมาครั้งนี้ก็ดีแล้วฉันเองก็มีเรื่องอยากจะพูดกับคุณให้มันจบลงวันนี้ เราหย่ากันเถอะฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกต่อไป "
เฉาจื่อชะงักเล็กน้อยที่จู่ ๆ ได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาเมื่อครู่ เขาคิดมาโดยตลอดว่าจะพูดอย่างไรให้เธอยอมหย่าแต่ไม่คิดเลยว่าการกลับมาครั้งนี้เธอจะเป็นคนขอเขาหย่าเอง
"เฮอะ! คิดจะไปอยู่กับชายชู้อย่างสุขสบายสินะ ไม่มีทางเธออย่าลืมสิว่าตอนนี้เธอเป็นใคร มานี่กับฉันเดี๋ยวนี้" เฉาจื่อคว้ามือของเธอให้เดินตามตนไปที่ห้องของเขา ทุกสายตาให้บ้านต่างพากันจับจ้องไม่เว้นแม้แต่ชิงเถา เธอเห็นสีหน้าของทั้งสองคิดว่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นแน่ ๆ เธอแสยะยิ้มพรางนึกในใจ
"ช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะจริง ๆ ที่เฉาจื่อกลับมาในวันนี้ได้เห็นว่านางซูเม่ยนั้นเป็นอย่างไร โชคดีที่วันนี้ฉันใจอ่อนยอมให้เงินเธอไปใช้จ่ายไม่อย่างนั้นจะเป็นฉันเองที่ต้องหาคำตอบให้เฉาจื่อ วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ "
"นี่ปล่อยฉันนะ! จะพาฉันไปไหน นี่ไม่ได้ยินหรือไง" ซูเม่ยพยายามดิ้นรนให้แขนเล็กของเธอออกจากมือของเขาที่จับเธอลากอยู่ตอนนี้แต่ทว่าแรงของเขานั้นมีมากเหลือเกินไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถสะบัดออกได้เลย
"เดินตามมาดี ๆ หรือจะให้ฉันใช้แรงอุ้มเธอขึ้นไป " ซูเม่ยชักสีหน้าไม่พอใจ
"ก็ได้ฉันจะเดินตามไปดี ๆ คุณปล่อยมือฉันก่อนสิ ตอนนี้แขนฉันแดงหมดแล้ว" เขายอมปล่อยเธอแต่โดยดีหากเธอคิดหนีไม่มีทางที่เขาจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ
ไม่นานทั้งสองได้เดินขึ้นมาถึงห้องนอนของเฉาจื่อ เมื่อเขาเข้ามาก็ต้องแปลกใจในห้องเหมือนเดิมทุกอย่าง ของใช้ยังอยู่ที่เดิมทุกชิ้นแล้วของใช้ของเธอไปอยู่ที่ไหนกัน
"นี่มันอะไร! ทำไมห้องถึงว่างเปล่าแบบนี้หรือว่าเธอเริ่มเก็บข้าวของเพื่อเตรียมจะหย่าแล้ว เฮอะ! รีบร้อนกลัวไม่ได้ไปอยู่กับชายที่รักหรือไง " ซูเม่ยคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย หรือว่าเขาไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยมาอยู่ในห้องนี้เลย
"ความคิดคุณคงคิดได้แค่ฉันมีชายชู้สินะ! ฉันไม่คิดเลยว่าท่านนายพลผู้ยิ่งใหญ่ควบคุมทหารหลายร้อยนายจะไม่มีสมองขนาดนี้!!! ฉันจะบอกให้หายโง่เอามั้ย ฉันไม่เคยมาอยู่ในห้องนี้ด้วยซ้ำที่ผ่านมาแม่ของคุณปฏิบัติกับฉันอย่างคนรับใช้ เงินสักหยวนไม่เคยจะหยิบยื่นให้ ห้องที่ฉันนอนคือห้องด้านล่างนั่นต่างหาก "
"ฮึ ฮึ คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดเธอหรือไง ดูสิเสื้อผ้าหน้าผม ร่างกายของเธอไม่เห็นจะทุกข์ยากตรงไหน อยากหย่ากับฉันมากเสียจนใส่ร้ายคุณแม่อย่างนั้นหรือ ฮึ! ร้ายกาจจริง" ซูเม่ยได้ยินคำพูดของเขายิ่งโมโหมากกว่าเดิมเขาไม่เพียงไม่รักเธอแต่ดูถูกเธอทุกอย่าง ไหนเรื่องที่เธอได้ยินมาว่าเขาจะหย่าทำไมตอนนี้เขาถึงเป็นอย่างนี้ไปได้
"ก็ได้ฉันมันเป็นคนร้ายกาจ อย่างนั้นคุณไม่อยากให้ตระกูลของคุณเสียชื่อเสียงก็หย่าให้ฉันสิ ฉันได้ยินมาว่าที่คุณกลับมาครั้งนี้เพราะจะมาหย่าไม่ใช่หรือไง จะยื้อเวลาไปถึงเมื่อไหร่ต่อให้ฉันพูดความจริงยังไงคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี เราทั้งสองต่างไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรกฉันทนอยู่ที่นี่มาห้าปี ต่อจากนี้ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก หย่าให้ฉันซ่ะ" เธอเหนื่อยมาทั้งวันไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเขาอีกไม่ว่าจะพูดอย่างไรเขาก็เชื่อคนเป็นแม่อยู่ดี เธอเลยพูดเข้าประเด็นจะดีกว่า
"ไม่! ฉันไม่หย่า "
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่