บทที่ 8 พูดไปก็เหนื่อยเปล่า
ในตอนแรกเฉาจื่อตั้งใจจะกลับบ้านในวันหยุด จู่ ๆ มีคำสั่งมาจากเบื้องบนว่าให้เขาหยุดได้ในวันนี้ถึงสามวัน เพราะวันหยุดที่จะมาถึงมีงานที่จะต้องทำ เขาจึงตัดสินใจกลับมาอย่างเร่งด่วน
เขามาถึงบ้านก็บ่ายแล้วกลับมาคิดว่าจะได้พบกับอ้ายเยว่และผู้หญิงที่เขาจำหน้าแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหน้าตาอย่างไร นี่มันก็ 5 ปีแล้วไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเขาเดินออกมายืนคอยที่หน้าประตูได้รู้ว่าจากคุณแม่ว่าวันนี้เธอพาอ้ายเยว่ออกไปข้างนอก คุณแม่บอกเธอมักจะออกไปทุกเช้ากลับมาอีกทีก็มืดค่ำ ปกติจะไม่เอาอ้ายเยว่ไปด้วย ทำให้เขาสงสัยเหลือเกินหรือว่าเธอจะมีคนที่เธอรักอยู่แล้ว และแล้วเขาได้ยินเสียงเด็กชายที่กำลังพูดคุยกับผู้หญิงอย่างสนุกสนานหัวเราะคิกคัก เฉาจื่อคิดในใจอ้ายเยว่ลูกชายของเขาคงมีความสุขมาก ๆ ที่แม่ผู้ที่ไม่เคยสนใจเลี้ยงดูพาออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก
ครั้นนั้นสองคนได้เดินเข้ามาสายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ ผู้หญิงที่เขาลืมไปแล้วว่าใบหน้าเป็นอย่างไร ไม่คิดว่าการพบกันครั้งนี้จะได้เห็นว่าเธอนั้นงดงามแค่ไหน เป็นผู้หญิงที่งดงามปราดเปรียววงหน้ารูปเมล็ดแตงจมูกดวงตาริมฝีปากรับไปทุกสัดส่วน ทำให้เขาตะลึงเล็กน้อยแต่เมื่อจ้องมองมายังชุดที่เธอสวมใส่ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก ราวกับว่าใส่ไปยั่วยวนใครมา จู่ ๆ คำพูดของคุณแม่ได้วาบผ่านเข้ามาในความคิด หรือว่าเธอจะแอบไปพบชายชู้มาจริง ๆ แต่ทว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ตอนนี้ไม่ได้เพราะเขามีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสียก่อน เด็กชายที่เขาเคยได้ยินเพียงแต่เสียงตอนนี้เติบโตมากขนาดนี้แล้วเหรอ ไม่ว่าจะมองไปส่วนใดของใบหน้าช่างเหมือนกับเขาไปทุกส่วนราวกับว่ารูปถ่าย เขาจึงยิ้มกว้างอ้าแขนอุ้มลูกชายพร้อมพูดคุยกับเขาเสียก่อน
หลังจากนั้นเขาได้ให้ลูกชายไปอาบน้ำ เขาจะได้มีเวลาพูดคุยกับเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนพูดเรื่องหย่าก่อนที่เขาจะได้พูดด้วยซ้ำ ทำให้เขาไม่พอใจดึงแขนของเธอตามมาที่ห้อง ยิ่งเห็นใบหน้าของเธออย่างใกล้ชิด ใจเขาเต้นแปลก ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเข้ามาในห้องเขาไม่เห็นของใช้ของเธอเขายิ่งไม่ชอบใจไปมากกว่าเดิม อย่างกับเขาถูกหักหน้าและโดนเธอสวมเขา ส่วนเธอก็เอาแต่พูดว่าจะหย่าอย่างเดียว ยิ่งทำให้เฉาจื่อโมโหมากกว่าเดิมแถมเธอยังมาใส่ร้ายแม่ของเขาอีกด้วย
"ฉันไม่หย่า"
"เฮอะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน ฉันได้ยินมาว่าคุณมาที่นี่เพื่อจะหย่าไม่ใช่หรือไง?ฉันเบื่อฉันไม่อยากทุกข์ทรมานอยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่อไป " ซูเม่ยปวดหัวมากกว่าเดิม คิดว่ารับมือกับแม่สามีว่ายากแล้ว รับมือกับเฉาจื่อนั้นยากยิ่งกว่า
"เธอไปได้ยินมาจากใครว่าฉันจะมาหย่า ใช่ตอนแรกฉันคิดอย่างนั้นแต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เธอไม่เห็นสีหน้าของอ้ายเยว่หรือไงหรือว่าเธอกลัวจะไม่ได้ไปมีความสุขกับชายชู้กัน อดทนมาได้ขนาดนี้ก็ช่วยอดทนต่อไปสิ ฉันมาอยู่ที่นี่สามวันอกเธอคงไม่แตกตายไปก่อนหรอกนะที่จะไม่ได้ออกไปข้างนอกนะ! อ้อ..เรื่องที่เธอบอกว่าคุณแม่ไม่ให้เธอใช้สักหยวนแล้วของในมือเธอมากมายนั้นคืออะไรกัน ฉันส่งเงินมาทุกเดือนแยกให้เธอกับคุณแม่เท่า ๆ กัน ฉันได้ยินมาจากคุณแม่ว่าเธอนำไปใช้จ่ายส่วนตัวหมดจนไม่เหลือให้อ้ายเยว่ได้ใช้ อืม..ก็คงจะจริงดูสิทั้งใบหน้าทั้งทรงผมไหนจะเล็บมือนั้นอีก " ซูเม่ยโกรธตัวสั่นเทาไม่ว่าจะพูดยังไงก็คงเอาชนะความดื้อรั้นเขาไม่ได้เธอสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบเขาพร้อมเดินออกจากห้องโดยไม่สนใจคำพูดของเขาอีก
"โอ้ยยย!ฉันไม่อยากจะคุยกับคนสมองกลวงอย่างคุณแล้วอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ อยากเชื่อแบบไหนก็แล้วแต่" เธอพูดจบได้เดินย่ำเท้าออกไปทันที
"อะไรกันฉันพูดแทงใจดำหน่อยทำเป็นรับไม่ได้" เฉาจื่อกอดอกแน่นมองเธอเดินออกไปจากห้องจนลับสายตา
"นี่ฉันทำอะไรอยู่นะ! ฉันมาเพื่อหย่ากับเธอไม่ใช่หรือไง แล้วเมื่อครู่มันความรู้สึกอะไรกัน ใจที่เต้นแปลก ๆ คงเป็นเพราะฉันเกลียดเธอสินะที่เธอไม่สนใจลูกแถมยังมีชู้นอกบ้านอีก ฮึ ฮึ ฉันไม่ยอมให้เธอออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหรอกนะ ฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายของฉันต้องมาเจ็บปวดเพราะไม่มีแม่ ฉันจะทำให้เธอทนอยู่ที่นี่จนอกแตกกันไปเลย " เฉาจื่อหันกลับเข้าห้องของตัวเองอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเพื่อไปกินอาหารเย็นร่วมกับคุณแม่ของเขา พร้อมคำสัญญากับอ้ายเยว่เอาไว้ว่าจะพูดคุยให้หายคิดถึง
ไม่นานเขาได้เดินออกมาจากห้องเห็นอ้ายเยว่ยืนคอยอยู่หน้าห้องดวงดวงตาเป็นประกาย เขารีบเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะใช้แขนอุ้มร่างเล็กขึ้นมาอย่างง่ายดาย
"มารอพ่อนานรึยังทำไมไม่เคาะประตูล่ะ ไม่คิดเลยว่าลูกจะตัวเล็กและเบาขนาดนี้แม่ของลูกไม่เคยสนใจเลยหรือไงกัน" อ้ายเยว่รีบแย้งคำพูดของพ่อ
"ไม่ใช่นะครับคุณแม่ดูแลอ้ายเยว่เป็นอย่างดี อีกอย่างอ้ายเยว่ตัวโตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเสียอีก คุณพ่อต่างหากที่ตัวใหญ่โตขึ้นอ้ายเยว่จะตัวโตอย่างคุณพ่อมั้ยครับ"
"ต้องเป็นอย่างนั้นสิดังนั้นลูกต้องกินเยอะ ๆ กินแต่ของมีประโยชน์เข้าใจมั้ย "
"อืม …อ้ายเยว่กินทุกอย่างที่มีประโยชน์คุณพ่อรู้มั้ยวันนี้เป็นวันที่อ้ายเยว่มีความสุขที่สุดเลย ตั้งแต่อ้ายเยว่จำความได้วันนี้เป็นวันแรกที่คุณแม่พาออกไปเที่ยว ไปซื้อเสื้อผ้าแถมยังได้กินอะไรอร่อย ๆ ด้วย วันนี้เป็นวันที่คุณแม่ยิ้มบ่อยที่สุดนะครับแถมวันนี้คุณแม่แต่งตัวสวยด้วย" เด็กน้อยดีใจจริง ๆ ที่เห็นแม่ของเขาในแบบที่ไม่เคยเห็นแต่คำพูดของเด็กชายกลับทำให้เฉาจื่อเข้าใจซูเม่ยผิดไปมากกว่าเดิม
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อยิ้มบาง ๆ ให้ลูกชายก่อนจะพาเขาเดินลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหารเย็น
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่