บทที่ 6 เหลี่ยมมาเหลี่ยมกลับ
“นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!! เธอจะขูดเลือดฉันไปถึงเมื่อไหร่”
“อะไรนะคะ ฉันขูดเลือดจากคุณแม่เมื่อไหร่กันตั้งแต่จำความได้คุณแม่ไม่เคยให้เงินฉันใช้สักหยวน อย่างนี้ใครกันแน่ที่เสียเปรียบหากคุณแม่ไม่อยากให้ฉันก็ไม่มีทางเลือกไปกันเถอะอ้ายเยว่วันนี้เราคงจะต้องไปที่อำเภอเรียกร้องความไม่ยุติธรรมในครั้งนี้เสียหน่อย” ชิงเถาทั้งโมโหทั้งโกรธที่ไม่สามารถเอาชนะซูเม่ยได้เลย
“ก็ได้!! ฉันจะให้เธอเพิ่มอีกสักหน่อยเพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเธอจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ให้ฉันรำคาญใจแล้ว” ชิงเถาล้วงเงินออกมาเพิ่มอีก 30 หยวนทั้งหมดเป็น 40 หยวนยื่นให้แก่ซูเม่ยรอบนี้เธอรีบรับทันทีพร้อมคิดตามคำพูดของแม่สามี
“อย่างนี้ค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย ว่าแต่เมื่อครู่คุณแม่พูดว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วอย่างนั้นหรือ?ดีเหมือนกันฉันเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอกช่วยโทรเลขบอกท่านนายพลกลับมาหย่าเร็ว ๆ นะคะฉันเองก็เบื่อเต็มทน” อ้ายเยว่ใบหน้าเศร้าสลดอีกครั้งเมื่อได้ยินผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเขาไม่อยากให้แม่ไปอยู่ที่อื่นเลย
ซูเม่ยอุ้มอ้ายเยว่เดินมาที่ห้องกินข้าวก่อนจะวางตัวของอ้ายเยว่ให้นั้งที่เก้าอี้ เธอสังเกตตั้งแต่เมื่อครู่เห็นสีหน้าของอ้ายเยว่เปลี่ยนไป เด็กตัวเท่านี้ต้องมาเจอเรื่องปวดสมองของคนโตคงต้องมีปมแน่นอน
“อ้ายเยว่ทำไมลูกถึงมีสีหน้าอย่างนั้นล่ะ หรือว่าเรื่องที่แม่ทะเลาะกับคุณย่าเมื่อครู่”
“แม่ครับ...เรื่องที่แม่กับคุณย่ากันเมื่อครู่หมายถึงอะไรที่แม่จะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแม่จะทิ้งอ้ายเยว่ไปหรือครับ แม่ไม่รักอ้ายเยว่ไม่ต้องการอ้ายเยว่แล้วหรือครับ” เด็กชายเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาเริ่มคลอแดงจับมือของซูเม่ยแน่นอย่างคาดหวังคำตอบ เธอจ้องมองเด็กน้อยอย่างน่าสงสารก่อนจะใช้มืออีกข้างลูบหัวของเด็กชายเบา ๆ
“เรื่องที่แม่กับย่าคุยกันเมื่อครู่น่าจะหมายถึงเรื่องการหย่า แม่จะหย่ากับพ่อของลูกแต่ไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่รักอ้ายเยว่นะ และแม่จะเอาอ้ายเยว่ไปอยู่กับแม่ด้วยแม่ไม่มีวันทิ้งอ้ายเยว่แน่นอน แม่สัญญา” อ้ายเยว่ซึ้งใจคำพูดของคนเป็นแม่น้ำตาไหลรินออกมาอย่างกลั่นไม่อยู่ คิดว่าแม่จะไม่ต้องการเขาเสียแล้ว เธอรีบเช็ดน้ำตาให้เด็กชายด้วยความตื้นตันใจ เธอเองเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานที่รับเลี้ยงเด็กรู้ดีว่าความรู้สึกขาดความอบอุ่น ความว้าเหว่เป็นอย่างไรในเมื่อตอนนี้เธอทะลุมิติมาเป็นแม่ของเด็กชายคนนี้เธอไม่มีทางทำให้เด็กชายต้องมาเจอแบบเดียวกับเธอ เธอจะมอบความรักความอบอุ่นให้เขาไม่ขาดเลย
“ผมรักแม่นะครับ”
“แม่ก็รักอ้ายเยว่เหมือนกันจ้ะ แม้ว่าวันข้างหน้าจะลำบากลูกไม่กลัวใช่มั้ย?”
“ครับไม่ว่าแม่จะพาอ้ายเยว่ลำบากแค่ไหนอ้ายเยว่ไม่กลัว "ทั้งสองโอบกอดกันแน่นก่อนจะพากันกินอาหารเช้าและเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปทำอย่างที่เธออยากทำ ซูเม่ยพาอ้ายเยว่เลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ พาเด็กชายเที่ยวเล่นกินอาหารนอนบ้านอย่างสนุกสนานและไม่ลืมที่จะเข้าร้านเสริมสวยที่มีให้เลือกเพียงไม่กี่ร้าน ซูเม่ยเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ทั้งทำสีผมทั้งทาเล็บมือดูต่างจากซูเม่ยคนก่อนอย่างมากมาย อ้ายเยว่ได้ของเล่นใหม่จึงไม่รบกวนไม่งอแงระหว่างรอเธอทำความสวย
เมื่อซูเม่ยทำเสร็จแล้วก่อนจะกลับเวลาได้ล่วงเลยมาบ่ายคล้อยเธอจึงพาอ้ายเยว่กินข้าวนอกบ้านเลย เธอเดินเข้ามาที่ภัตตาคารหรูย่านที่เธอเสริมสวย จึงเลือกเข้าไปกินข้าวที่ร้านนั้น
“อ้ายเยว่วันนี้เรากินข้าวจากด้านนอกเข้าไปกันเถอะลูกอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะวันนี้มีแต่เราสองคนแม่ตามใจลูกเต็มที่”
“อ้ายเยว่เลือกได้หรือครับ?ดีใจจังเลยแม่ใจดีที่สุดอย่างนั้นวันนี้ผมขอกินปูได้มั้ย”
“ได้สิ” ซูเม่ยคิดว่าเขาอยากกินอะไรเป็นพิเศษเสียอีกแค่เพียงปูทำไมเธอจะซื้อให้กินไม่ได้อีกอย่างตอนนี้ยังเหลือเงินอยู่อีกมาก ทั้งสองเดินเข้ามาที่โต๊ะมีพนักงานเดินเข้ามาต้อนรับ พาทั้งสองไปที่โต๊ะยังว่างก่อนยื่นหนังสือให้เลือกอาหาร ซูเม่ยเธอไม่ค่อยรู้จักอาหารในยุคนี้เท่าไหร่นัก โชคดีที่มีรูปภาพให้เธอได้ดูจึงตัดสินใจเลือกไม่ยาก และไม่ลืมที่จะสั่งเมนูปูมาให้อ้ายเยว่
ระหว่างนั่งรออาหารอ้ายเยว่นั่งเล่นของเล่นที่แม่ซื้อให้อย่างเพลิดเพลินซูเม่ยกวาดตามองสำรวจภัตตาคารแห่งนี้ จัดตกแต่งได้อย่างสวยงามตามยุคสมัยเลย แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงบทสนทนาของโต๊ะข้าง ๆ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหัวเราะคิกคัก
“นี่ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ทำไมคนสวย ๆ อย่างเธอต้องรอท่านนายพลนั่นด้วย ทำไมไม่เลือกหาคนหล่อ ๆ รวย ๆ นักลงทุนดูล่ะเธอเองก็มีการศึกษาที่ดี ฉันจำได้ว่านายพลจิ่นเฉาจื่อมีภรรยาและลูกแล้วไม่ใช่หรือไง” เสียงเล็กแหลมได้พูดขึ้น หูของซูเม่ยผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อของนายพลจิ่นเฉาจื่น นั่นไม่ใช่สามีเธอหรอกหรือ?แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้รอด้วย
“แหม ๆ เธอไม่เคยเห็นท่านนายพลสินะถ้าเป็นฉันฉันก็รอ ใบหน้าคมเข้มริมฝีปากอมชมพูไม่เหมือนทหารนั้นอีก ร่างกายก็บึกบึนเพียงแค่เห็นภายนอกฉันยังใจสั่นหวิว ถ้าได้เห็นเขาเปลื่อยกายจะเป็นอย่างไรกันนะ ยูร์เหยาฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ เลย เมื่อไหร่ที่เธอสมหวังเข้าห้องหอกับท่านนายพลอย่าลืมมาเล่าให้ฉันฟังด้วยล่ะว่าข้างล่างแข็งแกร่งเหมือนร่างกายหรือเปล่า” อีกคนพูดขึ้นทั้งหัวเราะคิกคัก
“พวกเธอพูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันเป็นผู้หญิงนะอีกอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่เฉาจื่อจะหย่ากับภรรยาของเขา แต่ว่าเมื่อเช้านี้ฉันได้รับโทรเลขจากคุณป้าว่าพี่เฉาจื่อจะกลับมาในเร็ว ๆ แถมคุณป้าบอกว่าเขาจะกลับมาหย่าด้วยล่ะ ฉันยังจะพอมีหวังมั้ยนะ” เสียงนุ่มนวลอ่อนหวานของหญิงสาวที่ชื่อว่ายูร์เหยาได้พูดออกมาอย่างนอบน้อมถ่อมตน
“นี่เธอจะไปคิดมากอะไร แม่สามีชอบใจขนาดนี้อย่างไรเธอจะต้องได้เป็นภรรยาท่านนายพลแน่นอน ฉันได้ยินมาว่าเขากับภรรยาไม่ได้รักกันไม่ใช่เหรอ?ผู้หญิงคนนั้นช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจอ่อยจนท่านนายพลหลงลากเธอเข้าห้องและทำเป็นว่าตัวเองเป็นคนโดนกระทำเรียกร้องให้นายพลจิ่นเฉาจื่อรับผิดชอบไม่ใช่หรือ เด็กนั่นก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกแท้ ๆ ของท่านนายพลหรือเปล่า”
“นี่อย่าพูดดังสิ!! คนอื่นมาได้ยินเข้าจะทำอย่างไง” ยูร์เหยารีบห้ามปรามเพื่อนไม่ให้พูดเสียงดัง แต่ทว่าในใจเธอกลับชอบใจที่คนอื่นเข้าใจตัวตนของภรรยาของพี่เฉาจื่อผิด ๆ
“ก็ฉันเห็นใจนายพลนี่น่า” บทสนทนาทั้งหมดถูกคนอีกโต๊ะได้ยินเข้า เธอถอนหายใจยื่นมือลูบหัวของอ้ายเยว่อย่างน่าสงสาร ทำไมต้องถูกคนอื่นพูดถึงอย่างนี้ด้วย เธออยากจะลุกขึ้นไปด่าให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่อยากมีเรื่องต่อหน้าอ้ายเยว่อีกอย่างที่เธอได้ยินเมื่อครู่คือนายพลหรือสามีของซูเม่ยกำลังกลับมาเพื่อหย่า นี่คงเป็นโอกาสของเธอแล้วที่จะได้ออกจากบ้านหลังนี้ เป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเองและเธอจะไม่ยอมยกลูกชายให้เขา เธอจะทำทุกวิถีทางที่จะได้เด็กชายคนนี้ออกไปกับเธอด้วย
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่