แชร์

บทที่ 16 ซูเจินเป็นอิสระ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-18 21:50:24

บทที่ 16 ซูเจินเป็นอิสระ

“ค่าอะไร ค่าเลี้ยงดูพี่สาวพี่ชายรึไง พ่อแม่ตายหมดแล้ว มีที่ไหนจะต้องไปดูแลบ้านเดิม” ซีผ่าเจียเริ่มมีน้ำโหอีกครั้ง รู้สึกว่าที่พูดย้ำกันมาซ้ำๆ ว่าแม่ของเขาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรในบ้านอันอีกนั้นไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน

“บ้านอันทำกันมาอย่างนี้ คนนอกอย่าสอดปาก” อันส่งจื่อตวาด

“เหลือจะเชื่อ เอาเปรียบกันเกินไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นส่งมาเดือนละสามสิบป้าก็จะเอาสามสิบ หน้าด้านเกินไปไหม ซวยจริงๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ คุณหนูว่านอย่างฉันตกต่ำแล้วจริงๆ บัดซบที่สุด” 

       เฟยเฟิ่งกลั้นน้ำตาที่ไม่ใช่ของตนเองไว้ไม่ไหวอีกแล้ว จึงปล่อยโฮออกมา โดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกถ้อยคำนี้ได้สร้างความโกรธเคืองและน้อยเนื้อต่ำใจให้แก่คนผู้หนึ่งเข้าเสียแล้ว

“ป้าพูดอะไรบ้าง เอาแต่เงียบ นี่มันปัญหาที่ฉันต้องมารับหรือไงกัน” ว่านเฟยเฟิ่งสุดจะทนกับซูเจินที่ไม่ยอมพูดมัวแต่ยืนเหม่อลอยเสมือนไม่ใช่เรื่องของตนเอง

“ฉัน…” ซูเจินอ้ำอึ้ง

“ถ้าฉันจะให้ร่างสัญญาจบเรื่องทุกอย่าง คนบ้านอันจะไม่มายุ่งวุ่นวาย ไม่มาเอาอะไรจากบ้านซีอีกได้ไหมคะหัวหน้าหมู่บ้าน นี่มันออกจะเกินไปแล้ว” 

“ได้สิ ถ้าเธอยอมจ่ายสามร้อยหยวน ห้ามผ่อนจ่าย คนบ้านอันจะไม่มายุ่งด้วยอีกเลย” อันส่งจื่อกล่าว

“ฉันมีแค่หกสิบหยวนเท่านั้น หมดแล้ว จะเอาก็เอา ไม่เอาก็คอยทะเลาะกันไปแบบนี้ทุกเดือน โดยที่ฉันจะไม่ให้อะไรเลย ค่ารักษาก็จะไม่จ่าย เพราะถือว่าเตือนแล้ว”

       ว่านเฟยเฟิ่งเจ็บใจนักที่จะต้องเสียเงินก้อนนี้ไป แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะมีเงินติดตัวมามากมายจนหนีไปตั้งตัวใหม่ได้สิบรอบก็ยังเพียงพอ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องมายอมจ่ายค่าตัดขาด ให้กับคนที่มันต้องขาดกันไปแต่แรกแล้วแบบนี้

“หกสิบก็ได้ แต่เอาข้าวมาด้วย” อันเหยียนเค่อตัดสินใจออกไป

“เอาข้าวไปแล้วฉันจะทำมาหากินยังไง อย่าทุเรศเกินไปนัก” เฟยเฟิ่งง้างอีโต้เล่มใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง

“จะบ้ารึไง ปกติได้เดือนละอย่างน้อยก็ยี่สิบหยวน จะมายอมกับหกสิบแล้วจบเรื่องได้ยังไงกัน!” อันผิงเจินโวยวายก่อนจะมุ่งตรงเข้ามายังน้องสาวของตนที่ยังคงยืนพิงประตู อันผิงเจินผลักและตบตีซูเจินที่ร่างกายอ่อนแอไปหลายครั้ง ก่อนที่จะมีใครขยับตัว

“แม่!” เสียงทุ้มของชายเต็มวัยเรียกซูเจินว่าแม่ดังขึ้น แต่เฟยเฟิ่งไม่ได้สนใจ ทั้งยังต้องเบี่ยงหลบซีผ่าเจียที่วิ่งมาดูแม่ตน

       เธอรีบเข้าไปคว้าตัวผิงเจินขึ้นมา โดยมีผีหนุ่มตนเดิมที่เคยช่วยเหลือไม่ให้เฟยเฟิ่งต้องเป็นฆาตกรติดคุกหัวโตเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ผีตนนี้จับมือเฟยเฟิ่งออกหมัดด้วยความชำนาญ แต่เพราะเฟยเฟิ่งไม่เคยต่อสู้มาก่อน จึงทำให้ต่อยออกไปแล้วต้องมาร้องโอดโอยด้วยความเจ็บมือ

“โอ๊ยๆๆๆ ทำไมการต่อยคนมันเจ็บขนาดนั้น” เฟยเฟิ่งทั้งบีบทั้งสะบัดมือตัวเองไล่ความเจ็บ จนหลงลืมว่าที่ลูกขึ้นมาออกลายบู๊เพราะกำลังช่วยว่าที่แม่สามี

“ย่า คุณย่าฮือๆๆ เลือดเยอะไปหมด” 

       เสียงของซูลี่ดังขึ้นเรียกให้เฟยเฟิ่งหันไปมอง แต่เพราะความไม่ระวังทำให้อันผิงเจินที่หายมึนแล้วตบเธอคืนมาฉาดใหญ่ จนเฟยเฟิ่งล้มลงกระแทกขอบโต๊ะที่ใช้วางของตั้งขายหน้าบ้าน

ปัก!

“เหมยหลันเฝ้าบ้านให้ฉันด้วย อย่าให้ใครขโมยของ” เฟยเฟิ่งฝากฝังบ้านไว้กับเพื่อนเพียงคนเดียวในที่แห่งนี้แล้วตาก็ปิดลง

“น้าเฟิ่ง! ฮือๆๆ น้าเฟิ่งหัวแตกยังไม่ทันจะหายเลย” ซูลี่กรีดร้องขึ้นมาอีกหน

“ผู้เฒ่าซี ช่วยจัดการทำเอกสารให้ผมด้วยครับ” ซีจื่อหานผู้เป็นบุตรชายอีกคนของซูเจินกล่าว

“เดี๋ยวสิเงินยังไม่จ่าย คนจ่ายสลบไปแบบนั้น ไม่ลงชื่อให้หรอกนะ” อันส่งจื่อประกาศกร้าว

       ซีจื่อหานโยนเงินในจำนวนนั้นลงพื้น ทั้งที่ตอนแรกเพียงแค่ดูอยู่ห่างๆ เพราะอยากจะรู้นิสัยที่ไม่ปรุงแต่งของผู้หญิงที่ถูกจ้างให้แต่งงานด้วย แต่สุดท้ายต้องยอมเปิดโปงตนเอง เพราะป้าแท้ๆ ของเขาที่ต่อให้พูดจาไม่ดี ชอบเอาเปรียบ แต่ก็ไม่เคยตีผู้ใหญ่ด้วยกันเอง ดันลุกขึ้นมาตีแม่ของเขาจนล้มเสียได้

       สองพี่น้องสกุลซีคนหนึ่งหามแม่ คนหนึ่งหามเมียไปยังบ้านที่มีรถลาก เพื่อนำสองสตรีไปหาหมอเท้าเปล่าที่อยู่หมู่บ้านติดกัน ส่วนเรื่องที่บ้านซีก็มีผู้เฒ่าซีเป็นธุระจัดการ โดยมีหัวหน้าหมู่บ้านร่างสัญญาให้ทั้งสองฝ่ายรับทราบข้อตกลง

.

.

.

       อาการของว่านเฟยเฟิ่ง แม้ดูภายนอกไม่หนักหนา แต่เมื่อหมอเท้าเปล่าเห็นว่าให้ยาดมไปกี่แบบสตรีที่มีผิวพรรณผุดผ่องผิดกับทุกคนในหมู่บ้านผู้นี้ก็ยังไม่ฟื้น จึงบอกให้ซีจื่อหานพาไปที่โรงพยาบาลในเมืองจะดีกว่า

       ซีจื่อหานแม้จะขุ่นใจที่ผู้หญิงคนนี้ด่าว่าการแต่งงานมากับตนทำให้ตกต่ำ  แต่เพราะมีปมกับการแต่งงานถึงสามครั้ง ก็รู้สึกว่าจะให้ภรรยาคนใดตายไปหรือหนีไปไม่ได้อีกแล้ว จึงนำเฟยเฟิ่งไปใส่รถลากแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดทันที

       ด้านซูเจินเมื่อทำแผลภายนอก และได้ยาต้มที่ช่วยเรื่องข้อกระดูกต่างๆ แล้วก็สามารถกลับไปพักที่บ้านได้ทันที 

“ซูเจิน ไม่มีบ้านอันก็มีคนบ้านซี เธอน่ะเป็นสะใภ้ที่ดี เธอคือลูกสาวของเรา” ผู้เฒ่าซีที่ยามนี้นั่งรออยู่ในบ้านกล่าวพร้อมทั้งยื่นกระดาษข้อตกลงให้แก่อันซูเจิน

“แม่เป็นอิสระจากคนพวกนั้นแล้วนะ” ซีผ่าเจียลูบหลังมารดาของตนที่มองกระดาษแผ่นนั้นนิ่ง

“ฉันไม่เคยกล้าทำอะไรเลย ต้องให้สะใภ้ที่อายุแค่นั้นมาออกหน้า ถ้าเด็กคนนี้เป็นอะไรไป แม่ แม่จะทำยังไงผ่าเจีย” ซูเจินที่หายจากความรู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์วันนี้แล้วก็เริ่มกังวลขึ้นมา

“ฉันทำผิดต่อพี่สาว แต่สะใภ้ฉันผิดอะไรกันถึงต้องตีจนสลบแบบนั้น”

“แม่คิดได้แบบนี้ก็ดี ตั้งแต่เล็กแม่ยอมคนบ้านนั้น เห็นหรือยังว่าเขาไม่ได้ซาบซึ้งมาตีแม่ ตีสะใภ้แม่” ผ่าเจียย้ำด้วยกลัวมารดาจะกลับไปใจดีให้เงินให้ของบ้านอันอีก

“ตัดขาดเสีย แม่ไม่ทนแล้ว ผ่าเจียแกไปดูน้องชายกับน้องสะใภ้ด้วย แม่จะเฝ้าหลานที่นี่เอง” 

         สิ้นคำของอันซูเจินบุตรชายคนโตก็ออกไปทันที ส่วนคนจากบ้านเก่าซีก็ประคองผู้เฒ่าออกไปด้วย ยามนี้ในบ้านซีจึงมีเพียงเหมยหลัน และลูกสาวที่อยู่รอฟังข่าว แต่แม้เด็กๆ จะอยู่ในบ้านกันถึงสามคนก็ไม่มีใครคิดจะวิ่งเล่น เด็กน้อยเพียงนั่งกันนิ่งเงียบพยายามไม่ร้องไห้เท่านั้น โดยมีหลันลี่คอยกอดปลอบซูลี่ไว้แน่น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามี

    บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามีสองสัปดาห์ผ่านไปแปลงผักในพื้นที่หลังบ้านเริ่มที่จะเข้าที่แล้ว ช่วงแรกแม้จะทดลองปลูกกันไปแล้ว แต่การจัดสรรพื้นที่ยังไม่ลงตัวจึงทำให้ต้องลดปริมาณผักที่เก็บไปส่งให้ป้าจูด้วย แต่เมื่อตกลงกันกับเด็กๆ เรียบร้อยแล้ว เฟยเฟิ่งก็ให้เด็กทั้งสองเดินหน้าเต็มกำลังหลังบ้านซีไม่มีพื้นที่ส่วนใดที่ไร้ประโยชน์ พื้นที่จุดที่ได้รับเฉพาะแดดเช้าลงผักที่ไม่ต้องการแดดมาก ในโรงเรือนมีเห็ดหลากชนิดให้หมุนเวียนตัดไปกินและขาย เหนือพื้นดินด้านนอกมีราวไม้สำหรับแขวนกระถางปลูกผักเพิ่ม อีกแถวไว้ปลูกกล้วยไม้สวยงามจากในมิติที่เฟยเฟิ่งอ้างว่าพบเจอบนภูเขา หากขยายพันธุ์ให้ดีก็สามารถทำเงินได้ ด้วยผู้คนยังนิยมให้กันเป็นของขวัญนอกจากนั้นแล้วยังมีไก่ที่ซีจื่อซวาน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้าน

    บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้านว่านเฟยเฟิ่งทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้สามีกังวลใจ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งให้เป็นทุกข์นาน หยิบเห็ดหลินจือที่ทดลองเพาะอย่างลับๆ ออกมาให้จื่อหานดู พร้อมกับถุงใส่สปอร์เห็ดที่เก็บสำเร็จมาแล้วรอบหนึ่งออกมาไว้ข้างกัน“น่ะนี่มัน…?”“เห็ดหลินจือน่ะสิคะ” เฟยเฟิ่งที่เข้าไปปลูกในมิติเมื่อรู้ว่าทำได้ก็คิดจะเอามาขยายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่เธอเองก็รู้ตัวว่าคงทำเองไม่ไหว จึงคิดจะสอนจื่อหานแล้วยกให้เขาลงแรงไปเสีย“คุณไปเอามาจากไหน”“มีเทพเอามาให้ค่ะ ล้อเล่นค่ะ ก็เก็บมาสิคุณ ฉันตัดใจไม่ขายเพราะจะเอามาทดลองปลูกเลยนะว่าเราเพาะได้ไหม และคำตอบก็คือได้ แต่ว่าฉัน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน

    บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน“อาเฟิ่งคิดอะไรแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกครั้งที่มีคนหายไปเป็นช่วงที่อาเล็กไปทำงานในเมืองทั้งนั้น อีกอย่างผู้หญิงจะหายไปแค่ช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ทุกคนยังปลอดภัยค่ะ”“หายแค่ฤดูหนาวเท่านั้นเหรอ”เฟยเฟิ่งพึมพำกับตัวเองไม่ได้ฟังพวกผู้ชายถกเถียงกันเรื่องนี้อีก นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เฟยเฟิ่งรู้มานั้นไม่ถูกต้อง ฆาตกรคนนั้นเริ่มลงมือแล้ว แต่เมื่อพ้นฤดูหนาวมาแล้วแปลว่าเธอยังคงปลอดภัย นั่นย่อมหมายความว่าก่อนที่ฤดูหนาวถัดไปจะมาถึง เธอจำเป็นจะต้องซื้อบ้านในเมืองให้ได้เพื่อความอยู่รอด!...&nbs

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!

    บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!ทุกฤดูเพาะปลูกหมู่บ้านจะจัดการประชุมใหญ่ขึ้น เพราะต้องการสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกครัวเรือน ยิ่งปีนี้ปรับมาทำนาแบบบ้านใครบ้านมันแล้ว ยิ่งต้องคุยให้ชัดเจน แม้จะแจ้งและแบ่งที่ไว้แล้วก็ต้องย้ำอีกครั้งว่านเฟยเฟิ่งไม่ว่าจะเป็นดวงจิตเดิมหรือดวงจิตใหม่ต่างก็ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ประชุมหมู่บ้านจึงรู้สึกตื่นเต้น ทั้งยังพิถีพิถันเลือกชุดเสมือนว่าจะไปประกวดนางงาม เด็กน้อยทั้งสองก็ถูกเธอจับขัดตัวทำผมให้ดูเหมือนลูกคนมีเงิน จะติดก็แต่เสื้อผ้าที่ดูซีดไปเสียหน่อย“น้าละเลยเรื่องเสื้อผ้าพวกเธอเกินไปแล้วจริงๆ หน้าตาก็ดูดีมีสกุล แต่สีเสื้อซีดยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ได้การ”“เอาไว้จะย้อมสีให้ใหม่ ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 35 ทำไมต้องแกล้งน้าเฟิ่ง

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status