Share

บทที่ 3

“มันก็แค่เงิน แล้วใครบอกว่าผมหายืมไม่ได้กัน?” ฟิลิปจ้องฆวนอย่างรังเกียจ

ฆวนตกตะลึงจนพูดไม่ออก สีหน้าของเขาแข็งทื่อไป ด้วยเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นตรงหน้าเขา ฟิลิปโยนถุงพลาสติกในมือเขาลงตรงหน้าชายหนุ่มและวินน์

ถุงพลาสติกหล่นลงพื้นดังตุ๊ป ก่อนที่เงินเป็นฟ่อน ๆ จะปรากฏให้เห็นตรงหน้าพวกเขา

หางตาของฆวนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากสั่นเทิม มือของเขากำแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วินน์รู้สึกประหลาดใจ เธอจ้องไปที่เงินที่ฟิลิปโยนลงตรงหน้าพวกเขา รู้สึกสับสน แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาในแววตา

ฟิลิปไปเอาเงินนี่มาจากไหน? ถ้าเขามีเงินทำไมถึงไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาคอยนั่งคุยเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่นอยู่ได้! ไม่รู้รึยังไงว่ามันเหนื่อย?

”นี่เป็นเงินหนึ่งแสน ฉันจ่ายในคืนภายในครั้งเดียวรวมกับของเก่าที่เคยยืมไว้ด้วย! แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” ฟิลิปพูดขึ้น

ฆวนไม่ได้หยิบเงินขึ้นมา พูดตามจริง เงินจำนวนหนึ่งแสนนี่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามากนัก เขาแค่คิดเสียว่าเหมือนการบริจาคให้กับผู้คนยากไร้ก็เท่านั้นแหละ

“ทำได้ดีนี่ ฟิลิป นายหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้ในเวลาสั้น ๆ ขนาดนี้ แต่ฉันรู้สึกสงสัย ใครกันที่ให้นายยืมเงินจำนวนมากขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ” ฆวนถามขึ้นอย่างมีเลศนัย รู้สึกราวกับโดนดูถูก อุตส่าห์อยู่รอให้ฟิลิปกลับมาเพื่อที่จะได้เยาะเย้ยเขา อีกอย่างเขาก็อยากจะแสดงให้วินน์เห็นถึงความผิดพลาดของเธอที่ไปเลือกฟิลิป

แต่ในตอนนี้ คำพูดต่าง ๆ ที่ฆวนอยากจะพูดจุกอยู่ที่ลำคอ ความรู้สึกไม่สบายตัวและเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ที่ลำคอทำให้เขารู้สึกประหม่า

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” ฟิลิปตอบอย่างเฉยชา

วินน์ทนต่อไปไม่ไหวเธอลุกขึ้นยืนและตะโกนใส่เขา “พอได้แล้วฟิลิป พี่ฆวนช่วยเรามาตั้งหลายครั้งต่อหลายครั้ง คุณพูดกับเขาอย่างนั้นได้ยังไง?”

“ผมขอให้เขาช่วยอย่างนั้นเหรอ? คุณไม่รู้เลยงั้นเหรอว่าเขาทำทุกอย่างนี้ไปเพื่อใคร?” เขายอกย้อน ความโกรธของเขาแทบจะไม่ฉายออกมาทางแววตา

วินน์ตกตะลึงไป แน่นอนสิ เธอรู้ดีว่าทำไมฆวนถึงเป็นห่วงเป็นใยมิล่าขนาดนี้ แต่ถึงกระนั้นการที่ถูกสามีของเธอเปิดเผยความลับออกมาตรง ๆ เช่นนี้ ทำลายความหยิ่งทะนงของเธอ เธอกล่าวหาเขากลับ “คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

ฟิลิปสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็น เขาทะเลาะกับวินน์มามากพอแล้วช่วงนี้ “นายจะไม่กลับงั้นเหรอ?” เขาหันมาถามฆวน

ฆวนหัวเราะหึ ๆ ออกมา ก่อนจะหยิบเงินและออกไปโดยไม่พูดอะไร

วินน์ส่งสายตาพิฆาตไปทางฟิลิปก่อนที่จะไล่ตามควรไป “พี่ฆวนคะ เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง!”

ในที่สุดความเงียบสงบก็กลับคืนมา

ฟิลิปนั่งลงที่ข้างเตียงของมิล่า จ้องมองลูกสาวของเขาที่นอนหลับปุ๋ย เขารู้สึกละอายใจขึ้นมา

“มิล่า ลูกเหนื่อยไหมที่ต้องอยู่กับป๊า แต่ป๊าจะบอกให้นะ หลังจากวันนี้ลูกจะกลายเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ” ฟิลิปลูบหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรักเต็มเปี่ยมในดวงตา

แล้ววินน์ก็กลับมาที่ห้อง เธอถามขึ้นเสียงเย็น “คุณไปเอาเงินนั่นมาจากไหน?”

ฟิลิป ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ผมยืมมา”

“จากใคร?”

“ฮาววี่”

วินน์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอคิดว่าเขาไปยืมมาจากพวกเงินรายวันหน้าเลือด “ คุณยืมเค้ามาหลายครั้งแล้วคุณจะไปกวนเค้าไปบ่อยแบบนี้ไม่ได้ รีบรีบคืนเงินให้เขาโดยเร็วด้วยล่ะ ฉันได้ยินมาว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน”

“ผมรู้ ผมจะจ่ายคืนให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ฟิลิปเงยหน้ามองเธอในที่สุด

ผู้หญิงคนนี้เธอช่างสวยจริง ๆ แม้ว่าคิ้วของเธอจะขมวดปมแน่น แต่ก็ยังคงมีเสน่ห์ ช่างน่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าสามีที่ไม่ได้เรื่องของเธอ ที่ทำธุรกิจล้มตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มตอนนี้ได้กลายเป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไปแล้ว เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้นเขาก็สามารถหามาได้หมดแม้กระทั่งก้อนเมฆหรือหยาดฝน

สายตาของวินน์ค่อย ๆ เปลี่ยนสีเข้มขึ้น เธอจ้องมองไปยังลูกสาวของเธอที่นอนป่วยอยู่บนเตียงก่อนจะพูดขึ้น “ ฟิลิปครั้งนี้คุณสามารถยืมเงินมาได้แต่แล้วคราวหน้าล่ะ คุณจะคอยเที่ยวยืมเงินคนอื่นไปทุกครั้งที่มิล่าต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้เหรอ?”

ฟิลิปคนก่อนเคยเป็นคนที่ทะเยอทะยานและมีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตกหลุมรักเขา แต่หลังจากที่เขาล้มไม่เป็นท่าตอนทำธุรกิจ ฟิลิปก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกเขากลายเป็นคนที่น่าเวทนาลงเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ

ฟิลิปรู้สึกรำคาญเล็กน้อย “ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”

วินน์เงียบไปสักพักใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมา “ฟิลิป ถึงแม้มันจะไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองแต่ก็คิดซะว่าทำเพื่อมิล่า ไปกับฉันที่งานวันเกิดของคุณพ่อวันในหยุดสุดสัปดาห์นี้ และไปขอโทษพ่อแม่ของฉัน”

ฟิลิปนิ่งเงียบไป เขากำมือแน่นเมื่อเห็นว่าเค้าไม่พยายามจะพูดอะไรก็ยิ่งเพิ่มความรำคาญใจให้แก่วินน์มากขึ้น เธอกระทืบเท้าหยิบกระเป๋าและตำหนิเขา “ถ้าอย่างนั้นก็จงเป็นคนที่น่าเวทนาต่อไปอย่างนี้ตลอดชีวิตของคุณเลยก็แล้วกัน”

เมื่อเห็นวินน์เดินออกจากห้องไปด้วยความโกรธ ฟิลิปถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนในที่สุดชีวิตที่ปราศจากเงินและไร้ซึ่งศักดิ์ศรีนี่มันแย่จริง ๆ พ่อตาของเขาจะยอมรับเขาบ้างไหมนะ?

ในช่วงบ่าย ฟิลิปมีงานด่วนที่ต้องทำ เขาจึงให้พยาบาลมาดูแลมิล่า วินน์มีงานยุ่ง เธอจึงกลับไปที่ที่ทำงานแล้ว

ฟิลิปขึ้นสกู๊ตเตอร์ของเค้าไป แล้วเปิดรายการส่งของขึ้นมาใหม่เพื่อเริ่มงานอีกครั้ง เขาได้รับงานส่งของไปที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล คนที่สามารถพักที่นี่ได้ส่วนมากล้วนแต่เป็นพวกคนรวย

เมื่อมาถึงที่ห้องสูทของโรงแรมหมายเลข 8808 ฟิลิปเคาะประตู “สวัสดีครับของที่คุณสั่งมาถึงแล้วครับ”

หลังจากเสียงกลอนประตูดังคลิก ประตูก็ถูกเปิดออก หญิงสาวรูปร่างดีโผล่ออกมาให้เห็น เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยและกางเกงขาสั้นสีดำเผยให้เห็นรอยสักรูปกุหลาบบนต้นขาของเธอ ผมของเธอยุ่งเหยิง ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างงดงาม

“สวัสดีครับ ของที่คุณ…” ฟิลิปยื่นของให้ด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนจะชะงักการอากาศ “รูบี้...รูบี้ ฟอร์ด?”

“ฟิลิป?”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือแฟนสาวของโฮเวิร์ด รูบี้ ฟอร์ด เธอจ้องฟิลิปด้วยความประหลาดใจก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นงุนงงและโกรธเคือง

รูบี้จ้องฟิลิป เธอดึงสิ่งของที่สั่งและปิดประตูห้องไป

ฟิลิปยืนตกตะลึง อยู่ด้านนอกประตูเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะได้สติกลับมาอีกครั้ง

บ้าจริง! ทำไมรูบี้มาอยู่ที่นี่? แล้วเธอก็อยู่ในห้องกับผู้ชายคนอื่น! ฉันควรบอกฮาววี่ดีไหมนะ?

30 นาทีหลังจากนั้นฟิลิปได้เจอกับรูบี้ที่ห้องรับรองด้านล่าง อีกฝ่ายสวมเสื้อโค้ทสีดำและรองเท้าส้นสูงวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เธอหยิบเงินสามร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าตังค์และวางลงบนโต๊ะกาแฟ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “นี่สำหรับนาย”

ฟิลิป มองเงิน 300 ดอลลาร์ก่อนจะหัวเราะออกมา “นี่ค่าปิดปากผมงั้นเหรอ?”

รูบี้ขมวดคิ้ว ก่อนจะหยิบออกมาอีก 200 โยนลงบนโต๊ะ “ 500 ดอลลาร์นี่พอหรือยัง? นี่มันเท่ากับเงินเดือนของนายสองวันเชียวนะ”

ช่างคำนวณได้เร็วเสียจริงนะ!

ฟิลลิปยืนขึ้น ท่าทางโกรธจัดแล้วพูดลอดไรฟัน “รูบี้ คุณทำอย่างนี้กับฮาววี่ได้ยังไง? เขาทำงานอย่างหนักเพื่อคุณและคุณสองคงก็จะแต่งงานกันแล้วสิ้นปีนี้”

“แล้วยังไงล่ะ? ใครบอกว่าฉันจะแต่งงานกับเขา?” รูบี้ขำออกมาก่อนจะ จุดบุหรี่สูบ พูดขึ้นอย่างไม่สนใจไยดีอะไร” ฟิลิปทำไมนายไมสนใจแต่เรื่องของตัวเองไปล่ะ?”

“นายเป็นผู้ชาย ไม่ละอายใจหน่อยเหรอ? มิน่าล่ะภรรยาของนายถึงอยากจะหย่ากับนาย นายนี่มันไร้ค่าจริง ๆ!” รูบี้ ยืนขึ้นพร้อมกับกอดอกจ้องมองไปที่ฟิลิปอย่างถือดี “อย่าเปิดปากพูดเกี่ยวกับเรื่องวันนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะให้ใครบางคนไปหักขานายซะ!” หลังจากนั้น รูบี้ก็เดินไปหาชายร่างท้วมวัยกลางคนที่ยืนรออยู่ด้านข้าง และเขาทั้งคู่ก็ควงแขนกันออกจากโรงแรมไป

ฟิลิปกำมือแน่น เขาหยิบเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ ออกจากโรงแรมไปและตั้งใจว่าจะบอกฮาววี่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แน่นอน

ขณะเดินอยู่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น จ้องไปที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นผู้จัดการของเขา วิลสัน ยัง นั่นเองที่โทรเข้ามา

เมื่อเขารับสาย น้ำเสียงเกรี้ยวกราดก็ดังลอดออกมา “ฟิลิป แกทำบ้าอะไรของแกอยู่? ฉันได้รับสายตำหนิกว่า 10 สายแล้วนะ! นี่แกไปส่งของถึงดาวอังคารหรือยังไง? กลับมาที่นี่หลังจากส่งของเสร็จแล้วทันที มาเก็บของของแกแล้วก็ไสหัวไปซะ!”

วิลสันกำลังจะเป็นบ้า เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเขาได้รับสายต่อว่าและตำหนิฟิลิปกว่าสิบสาย มันทำให้เขาปวดประสาท! เจ้าคนไร้น้ำยานี่ทำงานอยู่จริง ๆ ใช่ไหม?

“คุณยัง คุณหยุดด่าผมสักที เพราะผมลาออกโว้ย! ผมไล่คุณออก!”

“นายว่าอะไรนะ? ฟิลิป คลา…”

ฟิลิปกดตัดสายไป

เขาเองก็โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และตอนนี้ผู้จัดการก็ยังมาตำหนิเพิ่มอีก ช่วงชีวิตที่ผ่านมามันบังคับให้เขาต้องอดทนแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาถูกสร้างมาเพื่อให้สืบทอดมรดกของตระกูล และตอนนี้เขาก็เป็นทายาทของกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วทำไมเขาต้องปล่อยให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาก่นด่าเขาง่าย ๆ

ฟิลิปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกหาจอร์จ “จอร์จ ผมอยากจะซื้อบริษัทของฉันกลับคืนมา ผมจะสามารถทำได้ไหม?”

จอร์จตอบกลับ “นายน้อย บริษัทนั้นคุณเป็นคนก่อตั้งขึ้นมาแต่คุณแค่ขายออกไปก็เพราะคุณล้มละลาย หากคุณอยากจะซื้อมันกลับมาก็แค่บอกผมเท่านั้น”

ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น “ดีมาก ภายใน 10 นาที ผมต้องการกลับเป็นเจ้าของบริษัทนั้นอีกครั้ง!”

2 นาทีผ่านไป จอร์จส่งข้อความสั้น ๆ มาหาฟิลิป “นายน้อยทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้คุณได้เป็นเจ้าของ โกเฟอร์ การบริการการขนส่ง ตามที่คุณต้องการแล้ว”

ฟิลิปพยักหน้า จอร์จทำงานได้รวดเร็วดีเสียจริง

ฟิลิปก้าวขึ้นรถสกูตเตอร์ของเขาและมุ่งตรงไปยังบริษัทวินสัน ยัง รอป๋าคนนี้ก่อนเถอะ! คอยดูนะฉันจะฉีกนายเป็นชิ้น ๆ เลย!

โกเฟอร์ การบริการการขนส่ง เป็นบริษัทที่ฟิลิปเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ไม่ดีทำให้เขาล้มละลายและต้องขายบริษัทออกไป เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ฟิลิปเปลี่ยนจากเจ้าของบริษัทเป็นพนักงานขนส่งชั้นล่าง เขาสูญเสียอำนาจบารมี เหลือไว้เพียงคำเยาะเย้ยถากถางที่ได้รับกลับมาเท่านั้น

ณ บริษัท โกเฟอร์ การบริการการขนส่งจำกัด วิลสัน ยัง ยังคงนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของเขาอยู่ที่ห้องรับรอง เหวี่ยงกำปั้นออกไปด้วยความโกรธ

“บ้าเอ๊ย! ไอ้เจ้าฟิลิป นี่อยากมีเรื่องสินะ! แค่เพราะฉันไล่แกออกไม่ได้ แกก็กล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ?”

เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างพากันกลัวหัวหด ไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

ขณะนั้นเอง ประตูทางเข้าบริษัทก็ถูกผลักออก ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นชายคนนั้น วิลสันลุกขึ้นในทันทีก่อนจะยิ้มประจบ “เจ้านาย ทำไมคุณไม่บอกพวกเราว่าคุณจะเข้ามา? ผมจะได้ออกไปต้อนรับคุณ”

เขาคือเจ้าของบริษัท เควิน แทงค์

มิสเตอร์ แทงค์ จ้องมองหน้าเขาก่อนจะพูดขึ้น “ทุกคนเตรียมตัวต้อนรับเจ้าของบริษัทคนใหม่”

วิลสัน ตกตะลึง “เจ้าของคนใหม่?”

มิสเตอร์ แทงค์ พูดขึ้น “ใครบางคนได้จ่ายเงินสิบล้านเพื่อซื้อบริษัทนี้”

วิลสัน ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ใครกันที่เป็นเจ้าของคนใหม่? เราควรจะเตรียมการอะไรรึเปล่า?”

มิสเตอร์แทงค์ขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “ผมไม่รู้สึกคุ้นกับเจ้าของคนใหม่เลย ดังนั้นทุกคนเตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”

หลังจากนั้น เหล่าพนักงานก็เดินตามมิสเตอร์แทงค์ไปที่ประตูทางเข้าบริษัทเพื่อเตรียมต้อนรับ วิลสัน ทำตัวออกหน้าออกตาด้วยการพูดขึ้นว่า “ทุก ๆ คน เตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม! เจ้าของคนใหม่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ ถ้าพวกนายทำงานได้ดี ก็อาจจะได้เพิ่มเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่ง! นี่เป็นเรื่องอนาคตและปากท้องของพวกนาย!”

“ช่างเป็นคนที่น่าขยะแขยงเสียจริง ทำเป็นแค่เลียเจ้านายสินะ!”

“เขาต้องหมายถึง ‘นี่เป็นเรื่องของตัวเขาเอง’ แน่นอน ประจบสอพลอเก่งจริง ๆ!”

พนักงานสองสามคนซุบซิบนินทากัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาดูแคลนวิลสัน ยัง แต่ก่อนเขาก็เป็นเพียงแค่พนักงานส่งของธรรมดาเหมือนกันกับพวกเขา แต่เขาเป็นคนน่าไม่อายที่ช่างประจบสอพลอ เขาได้ตำแหน่งผู้จัดการนี้มาด้วยการเลียแข้งเลียขาผู้จัดการระดับสูงกว่า

และในตอนนั้นเอง รถเบนท์ลีย์สีดำก็มาจอดที่หน้าทางเข้าบริษัท คิดอยู่ชั่วครู่ จอร์จก็ตัดสินใจมาดูที่บริษัทด้วยตัวเขาเอง บางทีเขาอาจจะช่วยอะไรนายน้อยได้บ้าง ถ้ามันทำให้นายน้อยพึงพอใจ ชายหนุ่มอาจจะยอมกลับไปอยู่ที่บ้าน

วิลสันยืนอยู่ด้านหลัง มิสเตอร์แทงค์ ถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น “เขามาถึงแล้ว! เขามาแล้ว” เขารู้ว่าการมาถึงของเจ้าของบริษัทคนใหม่หมายถึงโอกาสที่เขาจะได้แสดงความสามารถของเขาด้วยเช่นกัน!

ขณะเดียวกัน ฟิลิปก็มาถึงเช่นกัน เขาจอดรถสกู๊ตเตอร์ของเขาด้านหน้ารถเบนท์ลีย์

เมื่อเขาเห็นฟิลิป วิลสันก็ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธ เขาชี้หน้าฟิลิป และตะโกนขึ้นมา “ฟิลิป คลาร์ค แกมาทำอะไรที่นี่? รีบขยับออกจากทางเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status