แชร์

บทที่ 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-25 16:14:07

ณ โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

            นายอรรถวัฒน์เดินวนอยู่หน้าห้องไอซียู โดยมีนางทิพวรรณและคุณชายน้อยหยางโจวหมิงนั่งตัวสั่นอยู่เคียงข้างกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครคิดว่าวันเกิดที่เกือบจะควบสามจะกลายเป็นวันเสียน้ำตา และไม่อาจลืมเลือนได้

            “คุณพ่อ คุณแม่ของผมจะเป็นอะไรมั้ยฮะ” คุณชายน้อยหยางโจวหมิงเงยหน้าตาแดงช้ำมองไปทางห้องไอซียู ทิพวรรณกอดร่างน้อยแน่นจนรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่ซึมผ่านเสื้อเนื้อดีของเธอ

            “คุณหยางจะต้องไม่เป็นอะไร เชื้อน้านะจ๊ะ”

            แต่ไม่ว่าเธอจะปลอบใจเด็กน้อยยังไง ร่างเล็กก็ยังสั่นเป็นเจ้าเข้าไม่หาย เธอรู้ดีว่าการปลอบโยนคงไม่เป็นผล แต่เธอไม่มีหนทางจะทำอะไรอีกแล้ว

            “คุณหมอ อาการคนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับ” นายอรรถวัฒน์ละล่ำละลักถามหมอและรอฟังคำตอบจนใจสั่นระรัว

            “เด็กปลอดภัยครับ เป็นผู้หญิง แต่...แม่ของเด็ก หมอพยายามจนสุดความสามารถแล้ว เสียใจด้วยครับ”

            “แล้วหยางเฟ่ยหลงล่ะหมอ บอกผมว่าหยางเฟ่ยหลงเป็นยังไงบ้าง”

            “คุณหยางเฟ่ยหลงยังไม่ได้สติครับ เราต้องรอให้ฟื้นก่อนถึงจะตอบได้ว่าปลอดภัยหรือไม่”

            “คุณหมอต้องช่วยหยางเฟ่ยหลงให้ได้ ไม่ว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ ผมก็ยอม”

            คุณหมอถอนใจอย่างหนักอก แต่ก็ยอมพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องไอซียูอีกครั้ง

            เวลาผ่านไป 3 วัน หยางเฟ่ยหลงก็ลืมตาขึ้นมา สร้างความอลหม่านไปทั่วโรงพยาบาล เมื่อมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกงต้องการให้หมอยื้อชีวิตของเมียรัก

            “คุณหยางเสี่ยวผิงเสียชีวิตไป 3 วันแล้วนะครับ”

            “ผมไม่สน แต่หมอจะต้องทำให้เธอหายใจให้ได้”

            ไม่พูดเปล่า แต่ปืนในซองที่เหน็บข้างเอวของลูกสมุนถูกดึงไปจ่อหน้าหมอ ริมฝีปากบางเฉียบแสยะยิ้มให้รู้ว่าไม่มีอะไรจะเสีย นอกจากต้องการขอชีวิตของเมียรักคืน

            “พี่เฟ่ยหลงอย่า!” นายอรรถวัฒน์เข้ามาห้ามแล้วแย่งปืนไปจากมือหนา แต่หยางเฟ่ยหลงสติแตกซัดกำปั้นเข้าใส่ใบหน้าของเพื่อนรักเต็มแรง

            “แกน่ะ พวกแกทุกคนจะต้องชดใช้” เขาบอกเสียงลอดไรฟัน ชี้หน้านายอรรถวัฒน์อย่างโกรธแค้น ดวงตาบนใบหน้าแตกยับแดงก่ำและวาวโรจน์ ร่างใหญ่ยังอยู่ในชุดคนไข้ใต้ผืนผ้านั้นมีบาดแผลหลายจุด แต่เวลานี้ความเจ็บปวดทางใจมันมากกว่าความเจ็บปวดทางกายจนวัดค่าไม่ได้

            “พี่เฟ่ยหลง มันเป็นอุบัติเหตุนะคะ” ทิพวรรณร้องบอก เข้าไปประคองสามีที่ทรุดเพราะหมัดลุ่นๆ

            “ใครว่า ไอ้เอกรัตน์มันตั้งใจจะฆ่าพวกฉันให้ตายไปพร้อมมัน ไอ้ชั่วนั่นมันต้องถูกใครสั่งให้ทำแน่ๆ พวกแกใช่มั้ย พวกอัคราบริรักษ์สั่งให้ฆ่าพวกฉันใช่มั้ย ทำไม!!!”

            แล้วบุรุษพยาบาลก็แห่กันเข้ามาจับร่างหยางเฟ่ยหลง แล้วฉีดยาระงับประสาทให้จนร่างใหญ่อ่อนระทวยลง นั่นแหละความอลหม่านถึงได้หมด หากแต่ร่างเล็กที่ซุกเงียบอยู่เบื้องหลังลูกน้องคนหนึ่งของหยางเฟ่ยหลง มองดูเหตุการณ์นั้นและจดจำทุกคำพูดของพ่อฝังใจ

            นายอรรถวัฒน์และนางทิพวรรณติดตามเรื่องนี้กับตำรวจอย่างเหนียวแน่น และได้ความว่าทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วเกินไป ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำและเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นดังกล่าว

            เมื่อประมุขแห่งตระกูลหยางรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกพันธนาการด้วยเชือกที่มัดข้อมือไว้กับเตียงคนไข้ เขาดิ้นรนเยื้อยุดและตะโกนเสียงดัง จนคุณชายน้อยอย่างหยางโจวหมิงต้องเดินเข้ามาหา เป็นผลให้บิดาสงบสติอารมณ์ได้ไม่ยาก

            “โจวหมิงลูกพ่อ”

            “คุณพ่ออย่าดิ้นนะครับ เดี๋ยวคุณพ่อจะเจ็บอีก” เด็กน้อยพยายามเกลี้ยกล่อมด้วยความเป็นเด็กอ่อนใสต่อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกกลมๆ ใบนี้ ทำให้ดวงตาของบิดาเอ่อด้วยน้ำตา

            “พ่อไม่เจ็บลูก แต่...แม่ของลูกเจ็บจนตาย เพราะมัน เป็นเพราะพวกมันทั้งหมด โจวหมิง เข้ามาใกล้ๆ พ่อหน่อยสิลูก”

            ร่างเล็กเดินเข้าไปใกล้ ศีรษะของเด็กน้อยสูงถึงขอบเตียงคนไข้ที่บิดานอนอยู่

            “ถ้าพ่อเป็นอะไรไป จำเอาไว้นะโจวหมิง พวกอัคราบริรักษ์ไม่ใช่คนดี พวกมันไม่ใช่พวกเราอีกต่อไป”

            “แต่...อาอรรถกับน้าทิพ บอกผมว่าไม่รู้เรื่อง เอก...”

            “อย่าไปเชื่อ ไอ้เอกรัตน์เป็นคนของพวกมัน ถ้าไม่ได้รับคำสั่งแล้วมันจะกล้าปลิดชีวิตตัวเอง เพื่อฆ่าพ่อกับแม่รึ”

            คุณชายน้อยตระกูลหยางสบตาบิดาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ใจสะอาดของเด็กน้อยยังไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี อากับน้าชาวไทยก็เป็นคนดีมาตลอด แต่นี่ก็พ่อจะไม่เชื่อก็กระไรอยู่

            “นี่ยังดีที่ลูกกับน้องรอดมาได้ ต่อไปโจวหมิงจะต้องเป็นพญามังกร ลูกจะต้องเข้มแข็งและห้ามใจอ่อนเด็ดขาด ศัตรูมันจะใช้ความใจอ่อนเป็นช่องทางทิ่มแทงเรา ต่อไปนี้ระหว่างตระกูลหยางและอัคราบริรักษ์ จะไม่มีคำว่าเพื่อน พวกมันคือศัตรูของเรา จำไว้นะโจวหมิง”

            ริมฝีปากบางเล็กสั่นระริกราวกับกำลังชั่งใจว่าควรจะพูดอะไรออกไป

            “จำไว้นะโจวหมิง! บอกพ่อสิว่าจะจำไว้” บิดาถามเสียงห้วนห้าวอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เล่นเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกลัว หยางเฟ่ยหลงต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะลดระดับเสียงให้เบาลง “ลูกพ่อ สิ่งที่พ่อสั่งเป็นสิ่งที่เจ้าควรจะทำตามที่สุด พวกอัคราบริรักษ์มันฆ่าแม่ของลูก ถึงมันจะไม่ได้ลงมือเอง แต่มันก็สั่งให้คนของมันทำ พ่ออยู่ในรถคันนั้น กอดแม่กับน้องในท้องและมีเสียงร้องคร่ำครวญของแม่ ซึ่งแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของความหวาดกลัวหรือเสียงของการเจ็บท้อง ไอ้เอกรัตน์มันจ่อปืนมาตรงหน้า นั่นคือสิ่งที่ทำให้แม่หวาดกลัว พ่อ...แน่ใจว่าเป็นอย่างนั้น มันอุทิศตนสิ้นทั้งชีวิตเพื่อฆ่าเรา เพื่ออัคราบริรักษ์”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 86

    “โอวววว” พร้อมกับครางเสียงแหลมเล็ก“ฉันไม่เคยคิดจะมีคนอื่นหรือหาเศษหาเลยนอกบ้านเลยนะตันหยง เธอกับลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน รอยลิปสติคก็แค่จากเด็กสาวหน้าโง่คนหนึ่งที่อยากอ่อยให้ท่าฉัน แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะที่รัก ฉันจะออกไปกินข้าวข้างนอกทำไมในเมื่อกับข้าวที่บ้านอร่อยเด็ดกว่าเยอะ”“จริงเหรอคะ อ๊ะ” อารมณ์คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ สรัญรัตน์ก็สะบัดกระทั้นกระแทกสะโพกสวมครอบท่อนลึงค์เต็มอารมณ์อ่อนไหว“จริงที่สุดทูนหัว สายตาของฉันไม่เคยมีเงาใครในนั้นนอกจากเธอกับลูก หัวใจก็เช่นกัน มีลูกให้ฉันอีกหลายๆ คนนะที่รัก นานแล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องกินนมจากเต้าของเธอ ฉันอยากเห็นอีก อยากได้ยินอีกหลายๆ ครั้ง นะที่รัก”“คุณไม่ได้คิดจะขังฉันไว้ที่บ้าน เพื่อออกไปเสวยสุขข้างนอกหรอกนะคะ”“สาบานได้” เขายกมือขึ้น“ไม่ค่ะ อย่าพูดคำนั้น แค่คุณบอก ตันหยงก็เชื่อค่ะ แต่ที่งอนเพราะคุณแยกลูกไปจากฉัน”สรัญรัตน์กระทั้นกายขย่มลำสามีอย่างบ้าคลั่งอย่างไร้ซึ่งความอับอาย เวลานี้เธออยากมอบความสุขให้เขา อยากให้เขารู้สึกว่าข้างนอกไม่มีอะไรดีไปกว่าคนในบ้าน สรัญรัตน์เชื่อใจเขาแต่ไม่ไว้ใจคนอื่น ทว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่ใช่ปัญหามากกว่าเร

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 85

    “อ๊ะ!” สรัญรัตน์สะดุ้งเฮือก“คุณนายหยางตกใจอะไรหรือครับ” อี้ผิงเห็นสีหน้าของสรัญรัตน์แล้วครุ่นคิด หรือเขาจะทำให้เธอตกใจ จะด้วยสาเหตุอะไร สีหน้าของคุณนายหยางจึงแดงๆ ซีดๆ สลับกันเช่นนี้“เปล่า เปล่าจ้ะ มีอะไรอีกหรือเปล่า” เธออยากให้อี้ผิงไปไกลๆ เพราะไม่อาจหยุดการกระทำของสามีจอมหื่นได้“ไม่...”“นายแกะซองให้ทีสิอี้ผิง มือฉันไม่ว่าง”เธออยากกรี๊ดใส่หูทวนลมของเขานัก เอาให้แก้วหูแตกกันไปเลย ยอมหามสามีเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคบ้าๆ ก็ยังดีกว่าต้องอับอายให้คนเอาไปนินทาเล่นสนุกปากอี้ผิงแกะซองสีน้ำตาลส่งกระดาษสีขาวให้เจ้านาย แต่หยางโจวหมิงไม่ยอมรับ แถมยังให้อี้ผิงอ่านรายละเอียดต่างๆ ให้ฟังเสียเอง“เอ่อ...” อี้ผิงตะขิดตะขวงใจ เพราะเหมือนคุณนายกับเจ้านายของเขากำลังมีปัญหากัน แต่เขาเป็นแค่ลูกน้องเจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำอี้ผิงอ่านรายงานอย่างละเอียดตามคำสั่งสรัญรัตน์ไม่มีกระจิตกระใจฟัง เวลานี้กลีบเนื้อของเธอถูกปลายนิ้วใหญ่รุกเร้า นิ้วใหญ่ที่แทรกอยู่กลางร่องหลืบถูไถไปมา เธอเสียวกระสันทั้งที่พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ด้วยความขุ่นข้องหมองใจในเรื่องเมื่อวาน รอยลิปสติคบนอกเสื้อของสามี แม้เขาจะออกตัวตั้

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 84

    สรวงสุดามองเงินจำนวนมากตรงหน้าด้วยใจที่ระทึก เกิดมาเธอไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน มือสั่นๆ ยื่นออกไปหยิบขึ้นมาปึกหนึ่ง แล้วยกขึ้นจรดจมูกสูดดมกลิ่นธนบัตรสีเทาเข้าปอด“นี่เป็นสินสอดของผม ขอมอบให้คุณผู้เป็นแม่ของตันหยง”“โอย...เงินทองตั้งมากมาย ขอบคุณนะคะคุณหยาง”“เงินและทองจำนวนนี้ มันจะงอกเงยขึ้น ถ้าคุณแม่เลิกเล่นการพนันแล้วหันมาเลี้ยงหลานแทน แต่ถ้าคุณยังมีข้อกังขาที่ว่า ผมเองก็เป็นนายบ่อน คุณแม่จะเข้าไปเล่นที่บ่อนผมก็ได้นะ แต่เงินจำนวนนี้ หมดแล้วหมดเลย”สรัญรัตน์ในชุดกี่เพ้าสีแดง ตามธรรมเนียมประเพณีของคนที่มีเชื้อสายจีน นั่งเคียงข้างกับเจ้าบ่าวที่สวมชุดสีเดียวกัน ทำจากผ้าไหมจีนปักลายมังกร และมีช่อบูเก้คาดเฉียงบนหน้าอก วันนี้เป็นวันแต่งงานที่ถือเอาฤกษ์งามยามดีเป็นฤกษ์สะดวก ด้วยเจ้าสาวกลัวจะสวมชุดแต่งงานไม่ได้ เนื่องจากครรภ์ที่เริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน จะเลื่อนงานออกไปหลังคลอด เจ้าบ่าวก็ยืนยันหนักแน่นว่ารอไม่ไหว ดังนั้นหลังจากการขอแต่งงานผ่านไปได้เพียง 1 สัปดาห์ งานแต่งงานตามธรรมเนียมก็ถูกจัดขึ้น“คุณหมายความว่า ฉันจะได้มากกว่านี้งั้นเหรอ”“คุณแม่ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ ถือว่าผมขอ มีสิ่งแลกเปล

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 83

    ร่างสูงพาตัวเองมายืนห่างจากร่างอวบอัดของคนท้องแค่ 1 ช่วงแขน ดวงตาสีสนิมกวาดมองไปทั่วร่างงามเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้จับจ้องอยู่ที่หน้าท้องนูนเด่น ที่ตั้งของลูกในท้อง เขาจะดีใจไหมนะที่พ่อมาหา“ลูกของฉัน เอ่อ...” อยากจะลดตัวลงจูบหน้าท้องนูนๆ แต่ก็กลัวช่อดอกไม้จะถูกแกะแย่งไป ทำไมเขาถึงทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน ไม่รู้ว่าจะพูดกับเธอยังไง ทุกอย่างมันดูติดขัดไปหมด ไม่เรียบลื่นเหมือนที่เคยเลยสักนิด“นี่...ช่อดอกไม้ของเธอ รับไว้สิตันหยง”สรัญรัตน์มองอาการเงอะงะติดๆ ขัดๆ ไม่สมกับเป็นมาเฟียใหญ่อย่างพญามังกรดำเลยสักนิด แต่ก็น่าเอ็นดูใช่หยอกเสียเมื่อไหร่ เธอยิ้มทั้งน้ำตายื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้จากเขา“ขอบคุณค่ะ”“ฉัน...มีเรื่องจะพูดคุยกับเธอหลายอย่าง แต่...ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี”“ก็แค่พูดความจริงไงคะ ความจริงที่คุณกำลังรู้สึกอยู่”“ฉัน...อยากขอเธอแต่งงาน เธอจะรังเกียจฉันมั้ย”หญิงสาวเกือบจะยิ้มออกมากว้างๆ ถ้าใจไม่สั่งให้เธอค้นหาคำตอบที่พอใจเสียก่อน การจะขอแต่งงานเกิดขึ้นกับเธอบ่อยครั้ง และทุกครั้งทุกคนก็ถูกเธอปฏิเสธจนหมด คราวนี้ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนเดียวที่เ

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 82

    “...” สถานการณ์ก็ยังเงียบอยู่เช่นเดิม คราวนี้สรัญรัตน์ตัดสินใจจะเปิดประตูรถ เธอไม่คิดจะกระโดด แต่แค่ขู่เผื่อเขาจะนึกสงสารลูกในท้องของเธอบ้าง แต่ประตูรถถูกล็อกจากคนขับเสียนี่“นายเป็นใคร ฉันบอกให้จอดรถนะ นายต้องการอะไร”“...” ความเงียบกำลังทำให้หญิงสาวสติแตก เขาจะจับตัวเธอมาเรียกค่าไถ่หรือเปล่า แล้วเฉวงรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ คำถามวนเวียนอยู่ในหัวจนรู้สึกมึนไปหมด“นี่นาย! ถ้านายต้องการเงินจากฉันล่ะก็ ฉันมีให้ไม่มากหรอกนะ แต่...ถ้านายร่วมมือกับลุงเหวงจะจับฉันไปเรียกค่าไถ่ นาย...นายน่าจะสงสารเด็กที่อยู่ในท้องฉันบ้างนะ เอ่อ...จับคนท้องไปเรียกค่าไถ่ไม่สนุกหรอกนะ ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ส่งฉันกลับไปหาคุณพ่อสิ แล้วฉันจะบอกให้ท่านเอาเงินมาให้นาย”“...”“นี่นายฟังที่ฉันพูดบ้างหรือเปล่าน่ะ”เขาไม่ตอบ ไม่พูด ไม่ถามอะไรทั้งสิ้น แถมยังเปิดเพลงหวานให้เธอฟังเป็นการตอบแทน“หรือว่า...นายเป็นใบ้ นายพูดไม่ได้ใช่มั้ย คนเป็นใบ้ต้องหูหนวกด้วยนี่ ฉันเคยได้ยินมาอย่างนั้น แล้ว...แล้วฉันจะสื่อสารกับนายได้ยังไง”ในขณะที่สรัญรัตน์กำลังว้าวุ่น คนขับรถก็แอบอมยิ้มอยู่เพียงลำพัง“นาย” เธอเรียกหลังจากนิ่งคิดสัก

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 81

    หญิงสาวเดินลงไปยังรถซึ่งเฉวงคนขับรถได้เปิดประตูรออยู่ เขายิ้มให้คุณหนูตันหยง นึกชื่นชมว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสวยสู้คุณหนูของเขาได้ วันนี้เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่ที่ไม่อาจจะพูดหรือบอกใครได้ โดยเฉพาะคุณหนูตันหยง“ตันหยง” นางสรวงสุดาเดินลงมาทันก่อนบุตรสาวจะก้าวขึ้นรถ เธอเรียกเอาไว้เพราะมีเรื่องบางอย่างต้องการพูดด้วย“คุณแม่ มีอะไรกับตันหยงหรือเปล่าคะ”“แต่งตัวซะสวย มีนัดกับใครที่ไหนล่ะ” มารดาไม่ตอบ แต่ถามกลับแทน“ตันหยงมีนัดกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่มีอะไรคะ”“เอ่อ...มีเงินให้ฉันยืมสัก...แสนนึงมั้ย”“คุณแม่!! ตันหยงจะเอาที่ไหนมาให้คุณแม่คะ ตันหยงไม่ได้ทำงาน ที่มีกินมีใช้ก็เพราะคุณพ่อให้ทั้งนั้น แต่ตันหยงไม่มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณแม่จะเอาไปทำอะไรคะ”“ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ย” มารดาเกิดอาการฉุนเฉียว แต่บุตรสาวก็เดาได้ไม่ยากว่ามารดาจะเอาเงินไปทำอะไร“คุณแม่จะเอาเงินไปเข้าบ่อนหรือคะ ตันหยงขอได้มั้ยคะ คุณแม่อย่าเล่นอีกเลย” หญิงสาวพยายามอ้อนวอน หวังว่าคำขอของเธอจะทำให้แม่กลับตัวกลับใจ“ฉัน...ก็พยายามอยู่ แต่ว่า...เมื่อวานนี้ฉันเสียไปมาก ก็กู้เงินเขามากะว่าจะถ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status