Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-09-25 16:14:48

“ทำไมครับ”

            “พวกมันคงหวังจะเป็นใหญ่ทางการค้า เรื่องราวมันซับซ้อนแต่ตอนนี้พ่อไม่อาจทำให้ลูกเข้าใจได้ แค่จำไว้อย่างเดียวว่าพวกอัคราบริรักษ์เป็นศัตรูกับเรา เข้าใจมั้ยโจวหมิง”

            เด็กชายหยางโจวหมิงมองเห็นความเจ็บปวดที่สะท้อนอยู่ในแววตาของบิดา แม้เขาจะไม่เข้าใจความหมายที่พ่อพูดสักเท่าไหร่ แต่ภาพแม่ในอ้อมแขนของพ่อก็วาดลึกอยู่ในจิตใจ มันคงจะดีหากไม่มีปืนจ่อไปที่แม่ ดวงตาสีสนิมเหมือนคนเป็นพ่อหลุบลง ก่อนใบหน้าเล็กจะพยักหงึกหงัก

            “ครับพ่อ ผมจะจำไว้”

           

            6 เดือนต่อมา

            นางทิพวรรณให้กำเนิดลูกชายคนแรกของตระกูลอัคราบริรักษ์ ความทรงจำในช่วงที่เธอยังไม่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ตั้งแต่ 3 เดือนแรก ยังคงเป็นภาพหลอน จนกระทั่งในเวลาที่เธอถูกเข็นเข้าห้องคลอด ภาพของหยางเสี่ยวผิงก็ปรากฏทุกครั้งที่หลับตา ความผิดที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อ และเพราะอะไรนั้นทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในบ่วงกรรม

            “อุแว๊ๆ” เสียงทารกร้องจ้าเรียกให้คนเป็นแม่ต้องสะดุ้ง

            “โอ๋...ธัชชัยลูกแม่ ลูกน้อยของแม่ อย่าร้องนะคนดี”

            เธอปลอบเสียงอ่อนโยน ก่อนป้อนนมลูกจากทรวงอกอิ่มของตัวเอง

            “ตู๊ด...ตู๊ด”

            เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อึดใจต่อมาร่างอวบท้วมของสรวงสุดาก็วิ่งกระหืดกระหอบพร้อมกับโทรศัพท์ไร้สายในมือ

            “โทรศัพท์ของคุณค่ะ”

            “ขอบใจจ้ะ” ทิพวรรณรับไว้ เอียงหน้าแล้วพูดใส่กระบอกโทรศัพท์ “ทิพวรรณพูดค่ะ”

            “ฉันเอง หยางเฟ่ยหลง”

            “พี่เฟ่ยหลง!!”

            เสียงสั่นเกือบจะเป็นเสียงครางดังพอสมควร ทำให้ใบหูของคนที่อยู่บริเวณนั้นถึงกับกระดิกแล้วเงี่ยหูฟังการสนทนานั้นอย่างตั้งใจ

            “ตอนนี้ฉันอยู่กรุงเทพฯ และฉันต้องการพบเธอ”

            “มีอะไรกับทิพหรือคะ”

            “ฉันมีเรื่องบางเรื่องที่ต้องพูดกับเธอ...วันนี้”

            “...” ทิพวรรณนิ่งคิดไปนาน เธอต้องการรู้ว่าหยางเฟ่ยหลงมีเรื่องอะไรจะพูดกับเธอ แต่...มันจะเป็นการดีหรือ ถ้าเธอจะต้องเดินทางไปพบคนที่เกลียดอัคราบริรักษ์ตามลำพัง หยางเฟ่ยหลงอันตรายแค่ไหนใครๆ ก็รู้ ความโกรธของมาเฟียใหญ่ไม่มีทางดับลงง่ายๆ เขาจะมีแผนการอะไรอยู่ในหัว นั่นคือสิ่งที่ต้องค้นหาพอๆ กับเป็นสิ่งที่ควรหวาดกลัว

            “อย่าคิดนานนักทิพวรรณ เพราะฉันไม่ใจเย็นมากพอจะรอเธอได้ ถ้าเธอไม่ออกมาพบฉันวันนี้ ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเธอที่นั่นเอง และ...ฉันจะไม่ไว้ชีวิตอัครบริรักษ์แม้สักคนเดียว”

            “พี่เฟ่ยหลง”

            “ฉันไม่ใช่พี่ของเธอ! ตระกูลหยางและอัคราบริรักษ์ไม่ใช่พี่น้องกันอีกต่อไป!!”

            “อะ...เอ่อ...คุณหยางมีอะไรจะพูดกับฉันหรือคะ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป คุยกันทางโทรศัพท์ได้...”

            “เธอคิดว่าฉันดั้นด้นมาเมืองไทย เพื่อจะมาคุยโทรศัพท์ในประเทศกับเธองั้นเรอะ อีก 3 ชั่วโมง ถ้าเธอไม่ออกมาพบฉันล่ะก็ เตรียมพร้อมรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เลย”

            “ตกลงค่ะ แต่ฉันขอพาคนของฉันไปด้วยได้รึเปล่า คือ...ว่าฉัน...”

            “ขี้ขลาด! แต่ก็เอาเถอะ ฉันเห็นว่าเธอเป็นแม่ลูกอ่อน จะยอมให้เธอสักข้อก็ได้ แล้วพบกันที่...ถ้า 3 ชั่วโมง ฉันไม่เห็นเธอล่ะก็ เตรียมฟังข่าวร้ายได้เลย”

            หยางเฟ่ยหลงวางสายไปแล้ว แต่มือที่ถือหูโทรศัพท์ของทิพวรรณก็ยังสั่น เธอจะยอมให้เกิดเรื่องเศร้ากับครอบครัวอัคราบริรักษ์ไม่ได้ เธอยังมีลูกน้อยและเขาจะต้องเติบใหญ่ ฉะนั้นเธอจะขอเสี่ยงกับอะไรก็ตามที่กำลังรอเธออยู่ข้างหน้า

            “สรวงสุดา” เธอตะโกนเรียกคนที่เป็นทั้งคนรับใช้ และพี่เลี้ยงลูกของเธอ

            “ขา”

            ทิพวรรณมองสาวร่างท้วมอย่างเป็นกังวล ไม่ใช่กังวลว่าสรวงสุดาจะเลี้ยงธัชชัยไม่ได้ หากแต่ความรู้สึกบางอย่างพุ่งวาบเข้าหัวใจ มันบอกว่าบางทีเธออาจไม่ได้กลับมาพบหน้าลูกอีก ใจหนึ่งสั่งให้เธอบอกเรื่องนี้แก่อรรถวัฒน์แต่อีกใจก็คัดค้านเพราะมันเสี่ยงเกินไป แน่นอนว่าสามีของเธอจะไม่ยอมให้เธอออกไปพบหยางเฟ่ยหลง แต่ถ้าเธอไม่ไปพบ ทุกคนในอัคราบริรักษ์อาจจะถึงจุดจบ

            เธอไม่รู้ว่าหยางเฟ่ยหลงจะทำอย่างที่ขู่หรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจนักก็คือ ความร้ายกาจของตระกูลหยาง มังกรใหญ่แห่งเกาะฮ่องกงร้ายกว่ามาเฟียทุกแก๊งบนเกาะฮ่องกง

            “ดูแลตาหนูธัชชัยให้ดีๆ นะ ฉันฝากแกไว้กับเธอด้วย”

            “คุณจะไปไหนคะ”

            “ฉันมีธุระสำคัญจะต้องทำ”

            “ได้ค่ะ ดิฉันจะดูแลคุณหนูให้เป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงนะคะ”

            ทิพวรรณพยักหน้าแล้วตบบ่าหนาของสรวงสุดา ก่อนจะหันไปอุ้มทารกน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน จุมพิตแผ่วเบาเหนือหน้าผากเล็กและไต่ลงยังพวงแก้มสีแดงนุ่มของลูกรัก

            “เป็นเด็กดีนะลูก...ธัชชัย”

            นั่นเป็นประโยคเดียวและประโยคสุดท้ายที่เธอได้พูดกับลูกน้อย ไม่มีน้ำตาให้เห็นแม้หัวใจจะสั่นเทาเหมือนคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว เธอถามตัวเองว่าจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องทำตามคำสั่งของมาเฟียใหญ่ บ้านเมืองมีขื่อมีแปรจะต้องกลัวอะไรกับคำข่มขู่ของเขา และคำตอบที่ได้รับซึ่งเปล่งเสียงออกมาให้ได้ยินเพียงลำพัง ก็คือคำว่าอดีตที่เธอเคยเฝ้าถวิลหาแต่หยางเฟ่ยหลง

            ผู้ชายคนนั้นคืออดีตคนที่เธอเคยรัก และเธอก็ยังคงความรู้สึกดีๆ ไว้ให้เขาอีกมากมาย

            “ไปตามนายอุทิศให้ฉันที ฉันจะให้เขาขับรถให้”

            “ค่ะ”

           

            ร่างสูงใหญ่ของหยางเฟ่ยหลงไม่ได้อยู่ในสถานที่นัดพบ แต่อยู่ด้านหน้าและอิงสะโพกหมิ่นๆ กับกระโปรงรถ มีผู้ชายใส่สูทหลายคนยืนอยู่ใกล้ๆ พวกนั้นเป็นบอดี้การ์ดของเขา ท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจหากแต่ความจริงทุกคนกำลังพุ่งความสนใจไปยังทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเจ้านายใหญ่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 86

    “โอวววว” พร้อมกับครางเสียงแหลมเล็ก“ฉันไม่เคยคิดจะมีคนอื่นหรือหาเศษหาเลยนอกบ้านเลยนะตันหยง เธอกับลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน รอยลิปสติคก็แค่จากเด็กสาวหน้าโง่คนหนึ่งที่อยากอ่อยให้ท่าฉัน แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะที่รัก ฉันจะออกไปกินข้าวข้างนอกทำไมในเมื่อกับข้าวที่บ้านอร่อยเด็ดกว่าเยอะ”“จริงเหรอคะ อ๊ะ” อารมณ์คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ สรัญรัตน์ก็สะบัดกระทั้นกระแทกสะโพกสวมครอบท่อนลึงค์เต็มอารมณ์อ่อนไหว“จริงที่สุดทูนหัว สายตาของฉันไม่เคยมีเงาใครในนั้นนอกจากเธอกับลูก หัวใจก็เช่นกัน มีลูกให้ฉันอีกหลายๆ คนนะที่รัก นานแล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องกินนมจากเต้าของเธอ ฉันอยากเห็นอีก อยากได้ยินอีกหลายๆ ครั้ง นะที่รัก”“คุณไม่ได้คิดจะขังฉันไว้ที่บ้าน เพื่อออกไปเสวยสุขข้างนอกหรอกนะคะ”“สาบานได้” เขายกมือขึ้น“ไม่ค่ะ อย่าพูดคำนั้น แค่คุณบอก ตันหยงก็เชื่อค่ะ แต่ที่งอนเพราะคุณแยกลูกไปจากฉัน”สรัญรัตน์กระทั้นกายขย่มลำสามีอย่างบ้าคลั่งอย่างไร้ซึ่งความอับอาย เวลานี้เธออยากมอบความสุขให้เขา อยากให้เขารู้สึกว่าข้างนอกไม่มีอะไรดีไปกว่าคนในบ้าน สรัญรัตน์เชื่อใจเขาแต่ไม่ไว้ใจคนอื่น ทว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่ใช่ปัญหามากกว่าเร

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 85

    “อ๊ะ!” สรัญรัตน์สะดุ้งเฮือก“คุณนายหยางตกใจอะไรหรือครับ” อี้ผิงเห็นสีหน้าของสรัญรัตน์แล้วครุ่นคิด หรือเขาจะทำให้เธอตกใจ จะด้วยสาเหตุอะไร สีหน้าของคุณนายหยางจึงแดงๆ ซีดๆ สลับกันเช่นนี้“เปล่า เปล่าจ้ะ มีอะไรอีกหรือเปล่า” เธออยากให้อี้ผิงไปไกลๆ เพราะไม่อาจหยุดการกระทำของสามีจอมหื่นได้“ไม่...”“นายแกะซองให้ทีสิอี้ผิง มือฉันไม่ว่าง”เธออยากกรี๊ดใส่หูทวนลมของเขานัก เอาให้แก้วหูแตกกันไปเลย ยอมหามสามีเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคบ้าๆ ก็ยังดีกว่าต้องอับอายให้คนเอาไปนินทาเล่นสนุกปากอี้ผิงแกะซองสีน้ำตาลส่งกระดาษสีขาวให้เจ้านาย แต่หยางโจวหมิงไม่ยอมรับ แถมยังให้อี้ผิงอ่านรายละเอียดต่างๆ ให้ฟังเสียเอง“เอ่อ...” อี้ผิงตะขิดตะขวงใจ เพราะเหมือนคุณนายกับเจ้านายของเขากำลังมีปัญหากัน แต่เขาเป็นแค่ลูกน้องเจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำอี้ผิงอ่านรายงานอย่างละเอียดตามคำสั่งสรัญรัตน์ไม่มีกระจิตกระใจฟัง เวลานี้กลีบเนื้อของเธอถูกปลายนิ้วใหญ่รุกเร้า นิ้วใหญ่ที่แทรกอยู่กลางร่องหลืบถูไถไปมา เธอเสียวกระสันทั้งที่พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ด้วยความขุ่นข้องหมองใจในเรื่องเมื่อวาน รอยลิปสติคบนอกเสื้อของสามี แม้เขาจะออกตัวตั้

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 84

    สรวงสุดามองเงินจำนวนมากตรงหน้าด้วยใจที่ระทึก เกิดมาเธอไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน มือสั่นๆ ยื่นออกไปหยิบขึ้นมาปึกหนึ่ง แล้วยกขึ้นจรดจมูกสูดดมกลิ่นธนบัตรสีเทาเข้าปอด“นี่เป็นสินสอดของผม ขอมอบให้คุณผู้เป็นแม่ของตันหยง”“โอย...เงินทองตั้งมากมาย ขอบคุณนะคะคุณหยาง”“เงินและทองจำนวนนี้ มันจะงอกเงยขึ้น ถ้าคุณแม่เลิกเล่นการพนันแล้วหันมาเลี้ยงหลานแทน แต่ถ้าคุณยังมีข้อกังขาที่ว่า ผมเองก็เป็นนายบ่อน คุณแม่จะเข้าไปเล่นที่บ่อนผมก็ได้นะ แต่เงินจำนวนนี้ หมดแล้วหมดเลย”สรัญรัตน์ในชุดกี่เพ้าสีแดง ตามธรรมเนียมประเพณีของคนที่มีเชื้อสายจีน นั่งเคียงข้างกับเจ้าบ่าวที่สวมชุดสีเดียวกัน ทำจากผ้าไหมจีนปักลายมังกร และมีช่อบูเก้คาดเฉียงบนหน้าอก วันนี้เป็นวันแต่งงานที่ถือเอาฤกษ์งามยามดีเป็นฤกษ์สะดวก ด้วยเจ้าสาวกลัวจะสวมชุดแต่งงานไม่ได้ เนื่องจากครรภ์ที่เริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน จะเลื่อนงานออกไปหลังคลอด เจ้าบ่าวก็ยืนยันหนักแน่นว่ารอไม่ไหว ดังนั้นหลังจากการขอแต่งงานผ่านไปได้เพียง 1 สัปดาห์ งานแต่งงานตามธรรมเนียมก็ถูกจัดขึ้น“คุณหมายความว่า ฉันจะได้มากกว่านี้งั้นเหรอ”“คุณแม่ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ ถือว่าผมขอ มีสิ่งแลกเปล

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 83

    ร่างสูงพาตัวเองมายืนห่างจากร่างอวบอัดของคนท้องแค่ 1 ช่วงแขน ดวงตาสีสนิมกวาดมองไปทั่วร่างงามเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้จับจ้องอยู่ที่หน้าท้องนูนเด่น ที่ตั้งของลูกในท้อง เขาจะดีใจไหมนะที่พ่อมาหา“ลูกของฉัน เอ่อ...” อยากจะลดตัวลงจูบหน้าท้องนูนๆ แต่ก็กลัวช่อดอกไม้จะถูกแกะแย่งไป ทำไมเขาถึงทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน ไม่รู้ว่าจะพูดกับเธอยังไง ทุกอย่างมันดูติดขัดไปหมด ไม่เรียบลื่นเหมือนที่เคยเลยสักนิด“นี่...ช่อดอกไม้ของเธอ รับไว้สิตันหยง”สรัญรัตน์มองอาการเงอะงะติดๆ ขัดๆ ไม่สมกับเป็นมาเฟียใหญ่อย่างพญามังกรดำเลยสักนิด แต่ก็น่าเอ็นดูใช่หยอกเสียเมื่อไหร่ เธอยิ้มทั้งน้ำตายื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้จากเขา“ขอบคุณค่ะ”“ฉัน...มีเรื่องจะพูดคุยกับเธอหลายอย่าง แต่...ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี”“ก็แค่พูดความจริงไงคะ ความจริงที่คุณกำลังรู้สึกอยู่”“ฉัน...อยากขอเธอแต่งงาน เธอจะรังเกียจฉันมั้ย”หญิงสาวเกือบจะยิ้มออกมากว้างๆ ถ้าใจไม่สั่งให้เธอค้นหาคำตอบที่พอใจเสียก่อน การจะขอแต่งงานเกิดขึ้นกับเธอบ่อยครั้ง และทุกครั้งทุกคนก็ถูกเธอปฏิเสธจนหมด คราวนี้ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนเดียวที่เ

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 82

    “...” สถานการณ์ก็ยังเงียบอยู่เช่นเดิม คราวนี้สรัญรัตน์ตัดสินใจจะเปิดประตูรถ เธอไม่คิดจะกระโดด แต่แค่ขู่เผื่อเขาจะนึกสงสารลูกในท้องของเธอบ้าง แต่ประตูรถถูกล็อกจากคนขับเสียนี่“นายเป็นใคร ฉันบอกให้จอดรถนะ นายต้องการอะไร”“...” ความเงียบกำลังทำให้หญิงสาวสติแตก เขาจะจับตัวเธอมาเรียกค่าไถ่หรือเปล่า แล้วเฉวงรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ คำถามวนเวียนอยู่ในหัวจนรู้สึกมึนไปหมด“นี่นาย! ถ้านายต้องการเงินจากฉันล่ะก็ ฉันมีให้ไม่มากหรอกนะ แต่...ถ้านายร่วมมือกับลุงเหวงจะจับฉันไปเรียกค่าไถ่ นาย...นายน่าจะสงสารเด็กที่อยู่ในท้องฉันบ้างนะ เอ่อ...จับคนท้องไปเรียกค่าไถ่ไม่สนุกหรอกนะ ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ส่งฉันกลับไปหาคุณพ่อสิ แล้วฉันจะบอกให้ท่านเอาเงินมาให้นาย”“...”“นี่นายฟังที่ฉันพูดบ้างหรือเปล่าน่ะ”เขาไม่ตอบ ไม่พูด ไม่ถามอะไรทั้งสิ้น แถมยังเปิดเพลงหวานให้เธอฟังเป็นการตอบแทน“หรือว่า...นายเป็นใบ้ นายพูดไม่ได้ใช่มั้ย คนเป็นใบ้ต้องหูหนวกด้วยนี่ ฉันเคยได้ยินมาอย่างนั้น แล้ว...แล้วฉันจะสื่อสารกับนายได้ยังไง”ในขณะที่สรัญรัตน์กำลังว้าวุ่น คนขับรถก็แอบอมยิ้มอยู่เพียงลำพัง“นาย” เธอเรียกหลังจากนิ่งคิดสัก

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 81

    หญิงสาวเดินลงไปยังรถซึ่งเฉวงคนขับรถได้เปิดประตูรออยู่ เขายิ้มให้คุณหนูตันหยง นึกชื่นชมว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสวยสู้คุณหนูของเขาได้ วันนี้เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่ที่ไม่อาจจะพูดหรือบอกใครได้ โดยเฉพาะคุณหนูตันหยง“ตันหยง” นางสรวงสุดาเดินลงมาทันก่อนบุตรสาวจะก้าวขึ้นรถ เธอเรียกเอาไว้เพราะมีเรื่องบางอย่างต้องการพูดด้วย“คุณแม่ มีอะไรกับตันหยงหรือเปล่าคะ”“แต่งตัวซะสวย มีนัดกับใครที่ไหนล่ะ” มารดาไม่ตอบ แต่ถามกลับแทน“ตันหยงมีนัดกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่มีอะไรคะ”“เอ่อ...มีเงินให้ฉันยืมสัก...แสนนึงมั้ย”“คุณแม่!! ตันหยงจะเอาที่ไหนมาให้คุณแม่คะ ตันหยงไม่ได้ทำงาน ที่มีกินมีใช้ก็เพราะคุณพ่อให้ทั้งนั้น แต่ตันหยงไม่มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณแม่จะเอาไปทำอะไรคะ”“ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ย” มารดาเกิดอาการฉุนเฉียว แต่บุตรสาวก็เดาได้ไม่ยากว่ามารดาจะเอาเงินไปทำอะไร“คุณแม่จะเอาเงินไปเข้าบ่อนหรือคะ ตันหยงขอได้มั้ยคะ คุณแม่อย่าเล่นอีกเลย” หญิงสาวพยายามอ้อนวอน หวังว่าคำขอของเธอจะทำให้แม่กลับตัวกลับใจ“ฉัน...ก็พยายามอยู่ แต่ว่า...เมื่อวานนี้ฉันเสียไปมาก ก็กู้เงินเขามากะว่าจะถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status