Share

บทที่ 146

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
หลินซวงเอ๋อร์วิ่งร้องไห้กลับไปที่ห้องเล็กๆ

เมื่อตงเหมยเห็นหลินซวงเอ๋อร์วิ่งเข้าไปในห้อง นางก็รีบก้าวไปข้างหน้า: "ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ท่านอ๋องยอมรับถุงเงินของเจ้าแล้วหรือยัง?"

ทันทีที่พูดจบ ตงเหมยก็เห็นหลินซวงเอ๋อร์ซุกหัวเข้าไปในผ้าห่ม

นางจึงเดินไป เปิดผ้าห่มขึ้น ก็เห็นใบหน้าที่รัองไห้ฟูมฟายของหลินซวงเอ๋อร์

ตงเหมยชะงักไปครู่หนึ่ง: "เกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องไม่รับถุงเงินของเจ้าหรือ?"

หลินซวงเอ๋อร์เม้มริมฝีปากแล้วส่ายหัว น้ำตายังคงไหลลงมาไม่ขาดสาย

เมื่อตงเหมยเห็นว่านางยิ่งร้องไห้ยิ่งเศร้าใจ ก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่บนตัวออกมาแล้วช่วยนางเช็ดน้ำตา แล้วพูดปลอบใจอย่างต่อเนื่องว่า: "ซวงเอ๋อร์ผู้แสนดีของข้า เหตุใดถึงได้ร้องไห้แบบนี้ล่ะ?แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่รับถุงเงินของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียใจขนาดนี้นี่นา?"

หลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้อธิบายอะไร ได้แต่ร้องไห้ต่อไป จะห้ามน้ำตาอย่างไรก็ห้ามไม่ได้

ตงเหมยโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนสักพักแล้วปลอบใจว่า: "ซวงเอ๋อร์ผู้แสนดีของข้า ไม่ร้องไม่ร้องนะ เดี๋ยวพี่จะเป็นคนทะนุถนอมเจ้าเองดีไหม? ดูเจ้าสิ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว"

“ซวงเอ๋อร์ของพ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 147

    งานเลี้ยงพระราชวังจัดขึ้นที่ตำหนักเทียนหลวน ทุกคนเข้าไปในงานเลี้ยงพระราชวังกันไม่ขาดสาย และทยอยนั่งลงทีละคนเยี่ยเป่ยเฉิงเดินเข้ามา ฉีหมิงเป็นคนแรกที่เห็นเขา จึงเดินเข้ามาต้อนรับจากระยะไกลเยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าที่ดูสงบนิ่ง พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็หาที่นั่งหนึ่งแล้วนั่งลงฉีหมิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางดูเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรเยี่ยเป่ยเฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ยกริมฝีปาก แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า: "อย่าวิตกกังวลจนเกินไป การบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ เจ้ามีความดีความชอบมาก ข้าได้ทูลขอคำเชิญจากองค์จักรพรรดิแล้ว ให้ตำแหน่งขุนนางเจ้าอย่างเป็นทางการ หากข้าทายไม่ผิดล่ะก็ อีกสักพักองค์จักรพรรดิจะกล่าวถึงเรื่องนี้ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง และจะให้รางวัลแก่เจ้าอย่างแน่นอน "พูดจบ เยี่ยเป่ยเฉิงก็หมุนแก้วเหล้า แล้วจิบเหล้าไปหนึ่งอึกกลิ่นหอมของเหล้าโชยไปทั่วทุกสารทิศ เมื่อเข้าปากก็มีรสหวาน เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกเบิกบานใจ เหลือบมองฉีหมิงเบาๆ แล้วเขาก็พูดว่า "เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถ ที่หาได้ยากมาก เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าโดนตัดขา ในอนาคตถ้าเจ้าทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพระราชส

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 148

    องค์จักรพรรดิเดินเข้ามา สวมชุดมังกรทอง และมงกุฎประดับลูกปัด รูปร่างของบุตรแห่งสวรรค์ มีความน่าเกรงขามเป็นอย่างมากทุกคนในตำหนักก็เริ่มคุกเข่าทำความเคารพ จนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหวหลังจากที่องค์จักรพรรดิโบกไม้โบกมือให้ทุกคนลุกขึ้นแล้ว ก็เลิกชุดมังกรขึ้นแล้วนั่งบนเก้าอี้มังกรจะเห็นได้ว่า วันนี้องค์จักรพรรดิอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก พระองค์กวาดสายตามองไปทั่วทั้งงานเลี้ยง ก็เห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว จึงพยักหน้า และส่งสัญญาณให้เริ่มงานเลี้ยงได้ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ในตำหนักก็เต็มไปด้วยการร้องเล่นเต้นรำ ผู้คนต่างก็ดื่มเฉลิมฉลอง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผลัดเปลี่ยนกันดื่ม บรรยากาศก็ดูคึกคักเป็นอย่างมากเมื่องานเลี้ยงเฉลิมฉลองไปได้ครึ่งทาง ก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถงอย่างสง่างามนางแต่งกายด้วยชุดสีแดงเข้ม ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ทุกการเคลื่อนไหวเผยความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวออกมาทุกคนสังเกตเห็นร่างในชุดสีแดงเข้มอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้หญิงคนนั้นเข้ามาใกล้ ถึงได้รู้ว่า สตรีผู้นี้มิใช่คนอื่นไกล แต่เป็นองค์หญิงฮุ่ยอี๋องค์หญิงฮุ่ยอี๋เป็นพระธิดาของพระสนมเอกเซียว ระสนมเอกเซียวเป็นที่โปรดปรา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 149

    ทุกคนต่างก็รอดูว่าฉีหมิงจะเลือกอย่างไร แต่กลับเห็นว่าเขามีสีหน้าที่เคร่งขรึม และไม่มีความยินดีเลยแม้แต่น้อยหลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยอง แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นว่า: "กระหม่อมต้องการรางวัลจริงๆ แต่สิ่งที่องค์จักรพรรดิมอบให้ไม่ใช่สิ่งที่กระหม่อมต้องการ"ทันทีที่พูดนี้คำเหล่านี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึงเขายังเด็กเกินไปจริงๆ แม้แต่คำพูดขององค์จักรพรรดิก็กล้าปฏิเสธ แถมยังปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ทำให้องค์จักรพรรดิเสียพระพักตร์ต่อหน้าเหล่าขุนนาง!ทุกคนต่างก็พากันรอดูความอัปยศของเขา บรรยากาศในงานเลี้ยงของพระราชวังก็ผิดแปลกไปทันทีใบหน้าขององค์หญิงฮุ่ยอี๋เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวและสีแดงเขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?หรือว่า องค์หญิงผู้สง่างามอย่างนางจะไม่คู่ควรกับเขา?ถ้าข่าวแพร่สะพัดออกไป นางจะเอาหน้าไปไว้ไปไหน?เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ สีหน้าขององค์หญิงฮุ่ยอี๋ก็บูดบึ้งมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ดึงแขนเสื้อขององค์จักรพรรดิ และทำท่าทางเหมือนว่ากำลังจะร้องไห้เยี่ยเป่ยเฉิงยังคงเฝ้าดูจากฝั่งตรงข้าม โดยที่ไม่พูดอะไรเลยจักรพรรดิชะงักไปเล

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 150

    หลินซวงเอ๋อร์รออยู่ในจวนโหวเป็นเวลานาน จนกระทั่งตีหนึ่ง เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยังไม่ได้กลับมานางถามตงเหมย ว่า: "เหตุใดท่านอ๋องยังไม่กลับมาอีก?"วันนี้ผิดปกติไปเล็กน้อยจริงๆ ตามปกติแล้ว ในเวลานี้เขาน่าจะกลับมาตั้งนานแล้วนางคิดอย่างรอบคอบแล้วว่า นางไม่อยากเป็นสาวใช้ส่วนตัวของเยี่ยเป่ยเฉิงอีกต่อไปแล้ว เขาเคยสัญญากับนางว่า ถ้าหาสาวใช้ที่พึงพอใจได้ก็จะเปลี่ยนตัวนางทันทีแต่เขามักจะไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้แก่นาง ท่านป้าจ้าวบอกว่า ท่านอ๋องไม่ได้เลือกสาวใช้เลย!ในเวลานี้นางแทบจะรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เมื่อนึกถึงวันนั้น วันที่เยี่ยเป่ยเฉิงมอบนางให้กับขันทีคนนั้น นางก็รู้สึกหวาดกลัว และคิดว่าถ้าอยู่ข้างกายเขาต่อไปก็คงจะปรนนิบัติได้ไม่ดีนัก สู้จากไปเองไม่ได้ตงเหมยกล่าวว่า: "ท่านอ๋องไปร่วมงานเลี้ยง คงจะล่าช้าเพราะเรื่องอะไรบางอย่าง บางครั้งงานราชการยุ่งมาก ไม่กลับจวนสองสามวันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ"หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจ: "เคยเกิดขึ้นหรือ?"ตงเหมยกล่าวว่า "แต่ก่อนเคยเกิดขึ้น แต่ว่า ตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มรับใช้ท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็กลับจวนทุกวัน และไม่เคยค้างคืนอยู่ข้างนอกเลย"หลินซวงเอ๋อร์นั่งบ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 151

    เยี่ยเป่ยเฉิงในยามราตรี ใรใบหน้าที่คมเข้ม ในนัยน์ตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนรุนแรง จากนั้นดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องมาที่นางเมื่อถูกนัยน์ตาที่ดุร้ายราวกับพยัคฆ์หมาป่าคู่หนึ่งจับจ้อง หลินซวงเอ๋อร์ก็หายใจไม่เป็นจังหวะทันทีนางต้องการหลบหนี แต่เขาถูกเขาคุมตัวเอาไว้แน่น จากนั้นก็กดไหล่ของนางไว้เหมือนไม่ได้ออกแรง แต่กลับเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งนางคิดที่จะดิ้นรน แต่พอนางเหลือบไปเห็นมือที่เพิ่งจะพันแผลเสร็จ เริ่มเปียกโชกไปด้วยเลือดเล็กน้อยก็กลัวว่าจะไปสัมผัสมือที่ได้รับบาดเจ็บของเขา หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่กล้าขยับอีกต่อไป จึงทำได้แค่มองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างขี้ขลาดด้วยดวงตาใสซื่อไร้เดียงสา ราวกับว่ากวางน้อยที่ตื่นตระหนก และตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขาเยี่ยเป่ยเฉิงระงับไฟชั่วร้ายที่อยู่ในใจ นัยน์ตาคู่นั้นจ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนอยู่ครู่หนึ่งใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์จมอยู่ในแสงไฟอันสลัว ราวกับว่าเป็นหยกงามที่โปร่งแสง และนัยน์ตาที่เหมือนน้ำในสารทฤดูในเวลานี้เพ่งมองมาที่ตน ทำให้มีเสน่ห์เย้ายวนมากดวงตาของเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเลื่อนลงมาที่คอเสื้ออันงดงามของนาง ภายใต้ปกเสื้อที่กว้างของนาง เขาก็เหลือบไปเห็น

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 152

    คำพูดของเยี่ยเป่ยเฉิง เหมือนกับการเปิดสวิตช์ความทรงจำ ทำให้เศษฝันร้ายที่กระจัดกระจายในคืนนั้นกลับมารวมกันต่อหน้านางอีกครั้งคราวนี้ เขาอยากจะลงโทษนางแบบนี้อีกหรือ?อยากจะมอบนางให้แก่ขันทีผู้นั้นอีก หรือว่าจะทำเหมือนคืนนั้น ที่ข่มเหงนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า?ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร หลินซวงเอ๋อร์ไม่อยากสัมผัสมันอีกต่อไปแล้วเพราะว่ามันเจ็บเหลือเกิน เจ็บมากเกินไปแล้ว...“ไม่นะ อย่า...ได้โปรด...”รอบๆร่างกายเขาถูกปกคลุมไปด้วยอากาศเย็น ความกดดันที่เกิดจากตัวเขากระจายไปทั่วทุกมุมห้องหลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวจริงๆ และยอมรับผิดครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา“ซวงเอ๋อร์ผิดไปแล้ว ซวงเอ๋อร์จะเชื่อฟังท่าน ท่านอ๋องได้โปรดอย่าลงโทษข้าเลย…”“ข้าจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะไม่ทำให้ท่านอ๋องโกรธอีกต่อไปแล้ว…”นางร้องไห้ขอความเมตตา ยอมรับผิด อะไรก็ได้ทั้งนั้น ก็แค่ให้ความโกรธของเขาทุเลาลงไปได้ท่านแม่เคยสอนนางว่า ถ้าทำอะไรผิดจะต้องยอมรับผิดก่อน ถ้ายอมรับผิด ก็จะทุกข์น้อยลงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิดกันแน่ เยี่ยเป่ยเฉิงถึงได้เกรี้ยวโกรธนางขนาดนี้แต่...แต่นางคิดว่า การที่ตนยอมรับผิดด้วย

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 153

    หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปากเอาไว้แน่น อารมณ์ของนางมาถึงจุดที่ใกล้จะแตกสลายแล้ว ราวกับว่าเป็นเชือกที่รัดแน่น เพราะพร้อมที่ขาดได้ทุกเมื่อเมื่อเห็นว่านางยังคงลังเล เยี่ยเป่ยเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: "พูดมา! เจ้ากำลังลังเลเรื่องอะไรอยู่? ความอดทนของข้าถึงขีดจำกัดแล้วนะ!"“ตึ๊ง~”ในที่สุดเชือกเส้นนั้นก็ขาดน้ำตาไหลทะลักออกมาจากนัยน์ตาของหลินซวงเอ๋อร์ นางพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า: "ท่านอ๋องได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด"ใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้า โกรธมากยิ่งขึ้น มือที่บีบคางของนางก็ขยับไปที่ลำคอของนาง นัยน์ตาสีดำของเขาเย็นชาลง นิ้วมือของเขาก็เริ่มออกแรง และความรู้สึกที่หายใจไม่ออกก็ล้อมรอบนางทันที"ปล่อยเจ้าไป?"จะไปหาฉีหมิงหรือ? คนรักในวัยเด็กที่เป็นเพื่อนเล่นกันโดยไม่ได้คิดอะไร ที่ผูกสมัครรักใครกันคนนั้น?ความรู้สึกหายใจไม่คลืบคลานเข้ามาทีละน้อย หลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆหายใจไม่ออก และเลือดบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆจางลง...เมื่อเห็นใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ที่อยู่ใต้ฝ่ามือของเขาค่อยๆซีดลงทีละน้อย เยี่ยเป่ยเฉิงก็ขมวดคิ้วลึก ความรู้สึกแปลกๆในใจทะลักขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับว

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 154

    หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยความสับสน ความใคร่ที่เขาปลุกเร้าในนยัน์ตาของนางเห็นได้ชัดว่ายังไม่หายไปแต่จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ถอยห่างจากตัวนางเมื่อแสงสาดส่อง ใบหน้าที่ประณีตงดงามของเขาไม่มีใครเทียบได้ โครงหน้าเหมือนถูกแกะสลักเอาไว้อย่างประณีต ในความเย็นชาเผยความสูงศักดิ์ที่ทำให้คนไม่อาจเมินเฉยได้เพียงแต่ว่า ในขณะนี้คิ้วของเขาขมวดกัน สีหน้าเย็นชาราวกับว่าเป็นน้ำแข็ง และมีร่องรอยแห่งความโกรธในดวงตาอันลึกล้ำของเขาหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกงุนงง เมื่อกี้เขาหลงใหลในตัวนางมาก เหตุใดถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในชั่วพริบตาเดียวสติของนางค่อยๆฟื้นคืนมา หลินซวงเอ๋อร์ก็พบว่าเสื้อผ้าของนางถูกเขาถอดออกไปหมดแล้วใบหน้าของนางแดงระเรื่อ และรีบจัดเสื้อผ้าที่กระเซอะกระเซิงของตนเองเยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าของนาง ในมือถือบีบถุงเงินเอาไว้แน่น เลิกตาขึ้นเล็กน้อยแล้วมองพินิจดูมัน เมื่อเห็นลวดลายบนถุงเงินได้อย่างชัดเจน เขาหัวเราะด้วยความโกรธเขาเห็นบนถุงเงินปักมังกรนกฟีนิกซ์คู่หนึ่งอยู่ ใต้ลวดลายปักคำว่า "เยี่ย" เอาไว้“นี่เจ้าทำให้ข้าหรือ?”ริมฝีปากที่เรียวบางของเขาแยกออกจากกันเล็กน้อย แต่สีหน้าท่าทางของเขาเย็นชา

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status