ตุลฎาลืมตาขึ้นช้า ๆ เมื่อความรู้สึกซาบซ่านที่ได้รับจากชายหนุ่มมันหยุดลงเนิ่นนานเกินไป... หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เปิดเผยทั้งทางปากและดวงตาของเขาในระยะห่างกันแค่คืบ ปลายจมูกโด่งโน้มมาแตะกับปลายจมูกของเธอ
“จูบฉันหน่อยสิ”
เขาไม่ได้เรียกร้องเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่ก็ฟังนุ่มหูกว่าปกติมาก.. นี่เขากำลังเล่นบทอ้อนเธออยู่เหรอ เธอถามตัวเอง ดันร่างใหญ่โตของเขาให้ห่างไปเล็กน้อย แล้วมองหน้าเขาอย่างพิจารณา.. เขาหล่อเหลา คมเข้ม คิ้วเข้มดกดำ ตาคมดุดุจเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสัน ปากก็สวยได้รูป..น่าจูบจัง
มือเรียวที่ดันแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เปลี่ยนไปโน้มต้นคอเขาลงมาหาช้า ๆ แล้วมอบจูบที่เขาเรียกร้องอย่างเงอะงะ
ความอ่อนหัดของหญิงสาว ทำให้ธีรทัศน์รู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ ปล่อยให้เธอมอบจูบไร้เดียงสาแบบเด็กประถมให้สักพัก แล้วจึงเป็นคนเริ่มนำเธอไปสู่ระดับมัธยมและอุดมศึกษา คลอเคลียเรียวปากอวบอิ่มของเธอไม่รู้เบื่อ เมื่อพอใจแล้วจึงละไปที่แก้มนวล ประทับจูบไปทั่วใบหน้างาม เลียไล้เบา ๆ ที่ใบหูแล้วจึงลากปลายลิ้นไปที่ลำคอระหง
เสียงครางหลุดจากเรียวปาก
ธีรทัศน์วิ่งกลับไปหาภรรยา พรมจูบไปทั่วใบหน้างาม “พี่ดีใจที่สุดในโลกเลยจ้ะเมียจ๋า พี่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดีแล้วตอนนี้” พูดจบก็หอมแก้มเธอ แถมจูบดูดดื่มอีกหนึ่งที “ขอพี่คุยกับลูกหน่อยได้มั้ยเมียจ๋า” บอกกับภรรยาคนสวยแล้วจึงคุกเข่า จูบที่หน้าท้องแบนราบของเธอเบา ๆ แล้วจึงแนบหูลงไปพร้อมกับโอบเอวเธอไว้“สวัสดีลูกรัก นี่คือเสียงของพ่อเขื่อนของหนูนะครับ พ่ออยากจะบอกว่าพ่อดีใจมากที่สุด ที่รู้ว่าหนูจะมาเป็นลูกของพ่อกับแม่เกล พ่อกับแม่สัญญาว่าจะรักและเลี้ยงดูหนูอย่างดีที่สุด พอขอให้ลูกเกิดมาพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงนะครับ” เขาจูบที่หน้าท้องของภรรยาอีกครั้งเมื่อพูดกับลูกน้อยในครรภ์จบ “ขอบคุณนะเกล ที่มอบของขวัญที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตให้พี่อีกครั้ง” ครั้งแรกที่เขาได้จากเธอก็คือตัวเธอเอง ครั้งนี้ก็คือลูกน้อยที่เขาและเธอบรรจงสร้างกันขึ้นมา ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก“เกลก็ขอบคุณพี่เขื่อนเหมือนกันค่ะ” หญิงสาวโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของสามีเบา ๆ “ไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะพี่เขื่อน เกลอยากตรวจให้ชัวร์ ๆ อีกที”ใบหน
“ตั้งแต่รู้ว่าพี่ท้อง แม่สามีพี่ก็ขยันบำรุงน่าดู แถมมีการบังคับให้ได้หลานสาวด้วยนะ” หญิงสาวพูดติดตลก มองแม่สามีที่กำลังเดินขึ้นบันได“ป้าม่อมเขาอยากได้ลูกสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่คะพี่กิ๊ง แต่ถ้าได้หลานชายอีกป้าเขาก็ไม่เกี่ยงหรอก แค่พี่ต้องปั๊มหลานสาวให้ได้สักคนก็แล้วกัน”“ไม่มีปัญหาค่ะ พี่สู้สุดใจเพื่อแม่สามีอยู่แล้ว” ลลิตาทำท่าฮึดสู้ แล้วหันไปสวัสดีแม่สามีที่เดินมาถึงละม่อมส่งยิ้มให้ลูกสะใภ้และนายหญิงของฟาร์ม ที่ยังยกมือไหว้ทุกครั้งที่เจอกัน“กะแล้วเชียวว่าหนูเกลต้องอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อกี้ป้าสวนกับคุณท่านแต่ไม่เห็นหนูอยู่ด้วย”“ป้าม่อมเจอพี่เขื่อนที่ไหนคะ”“เห็นขี่ม้าขึ้นเนินไป น่าจะไปที่คอกม้านะ” ละม่อมตอบแล้วชะโงกมองหลานชายที่หลับตาพริ้ม แต่ปากยังดูดนมมารดาไม่หยุด “หลานย่าหลับนานแล้วรึ”“เพิ่งจะหลับค่ะแม่ แม่เอาอะไรมาให้หนูกินคะ”“ผัดผักสี่สหาย ไข่เจียวกุ้งสับ แกงเลียงน้ำเต้า น้ำพริกผักจิ้ม” ละม่อมบอกรายการอาหารให้ล
“ผัวไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะจ๊ะเมียจ๋า ผัวรักเมียมาก ผัวจะทำแบบนั้นได้ยังไง เนตรดาวเขาโทรมาบ่อยก็จริง แต่ผัวก็ไม่เคยรับสายเลยนะ เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนนี้”“ถ้าจับได้ว่าคุณเขื่อนนอกใจเมื่อไหร่ เกลจะให้พี่ขันกับพี่จิระจับคุณโยนบ่อไอ้เข้เลยคอยดู”“โหดจัง เมียใครเนี่ย”“เมียคุณเขื่อน ถึงยังไม่เป็นทางการแต่ก็หนีไม่พ้นแน่ ๆ จำเอาไว้ให้ขึ้นใจด้วยนะคะ” เธอทำท่ากระเง้ากระงอดประกาศออกไป“จ้ะ ๆ เมียจ๋า นายเขื่อนคนนี้รับทราบแล้วจ้ะ สัญญาว่าจะไม่นอกใจเมียจ๋าเด็ดขาด ถ้านายเขื่อนผิดคำพูดเมื่อไหร่..” เขาทำท่านึกอยู่ชั่วครู่ จับมือของเธอมาวางทาบลงบนของรักของหวงที่เคยเผด็จศึกสาว ๆ มาเป็นร้อยยก “นายเขื่อนยอมให้เมียจ๋าเอาส่วนนี้ให้ไอ้เข้กินเลยจ้ะ”“พูดแล้วก็จำให้ได้ด้วยนะคะ” เธอชักมือออกจากสิ่งนั้น เพราะมันทำให้เธอใจเต้นรัวทุกครั้งที่ได้สัมผัสเขาชูสามนิ้ว ทำตาปริบ ๆ ใส่เธอ “ผัวจะท่องก่อนนอนทุกคืนเลยจ้ะเมียจ๋า”ตุลฎายิ้มกว้างกับความทะเล้นของคนรัก มันดูขัดกับหน้
เรือนพญาตุลฎายื่นถ้วยชาให้คนรักที่กำลังนั่งตรวจบัญชีอยู่ที่โต๊ะทำงาน“อะไรจ๊ะเมียจ๋า”“ชาคาร์โมมายล์ค่ะ ดื่มแล้วจะได้หลับยาว ๆ” เธอเริ่มชินกับการเรียกขานของเขาขึ้นมากแล้ว และการได้เปิดใจต่อกัน ทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนจิตใจดีมาก ผิดกับปากราวฟ้ากับเหว แต่ปากร้าย ๆ ของเขานั้น ยามเมื่ออยู่กับเธอก็หวานเป็น ขี้อ้อนก็มาก เอาใจเก่งอีกต่างหาก“ใครจะไปหลับลง ในเมื่อมีเมียสวย ๆ คอยนอนขนาบข้างอยู่ทุกคืน” เขาดื่มชาอุ่น ๆ ที่เธอยกมาให้จนหมดถ้วย“แค่แฟนสาวเท่านั้นค่ะ”“แฟนอย่างเดียวไม่ได้เหรอ ทำไมต้องแฟนสาวด้วยล่ะ”“ก็เพราะคุณเขื่อนอายุมากกว่าเกลตั้งหนึ่งรอบไงคะ”“จะว่าพี่แก่งั้นสิ”“คุณพูดเองนะคะ เกลไม่ได้พูดซะหน่อย”“นี่ผัวนะ ไม่กลัวแล้วใช่ไหมหนูเกล” เห็นเธอกล้าต่อปากต่อคำไม่สะทกสะท้าน จึงแสร้งตีหน้าเครียดใส่“ไม่กลัวแล้วค่ะ ให้โหดกว่านี้อีกสิบเท่าก็ไม่กลัว”“ห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นฟังนะ เด
สองเดือนผ่านไป“อะไรนะ!” แขไขถามเสียงสูงด้วยความตกใจ “แกบอกว่าท้องงั้นเหรอ!” ถามย้ำกับหลานสาวอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิด“ค่ะคุณน้า” ลลิตาตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “กิ๊งก็เลยมาขออนุญาตคุณน้า เพื่อย้ายไปอยู่กับพี่ไกรที่บ้านพักคนงาน”“แกจะไปอยู่แบบนั้นได้ยังไง ห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ อย่างนั้น อีกหน่อยถ้าลูกแกเกิดมาจะอยู่กันยังไงหมด”“แต่ห้องของพี่ไกรเขาไม่เล็กนะคะ ใหญ่เท่ากับห้องอื่นสองห้องรวมกัน แล้วคุณเขื่อนก็อนุญาตให้ทุบผนังห้องของน้องเกล ให้รีโนเวตเป็นห้องเดียวกัน เพื่อให้เราได้ใช้เป็นห้องหอ”“ไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่ยอมให้แกไปลำบากอยู่ที่บ้านพักคนงานหรอก”“ทำไมล่ะคะน้าแข กิ๊งท้องโตขึ้นทุกวันนะคะ น้าแขพรากพ่อกับแม่เหลนแบบนี้ ไม่สงสารเหลนบ้างเหรอคะ”“แล้วที่ฉันเลี้ยงแกมา ฟูมฟักแกมา แกไม่สงสารฉันบ้างเหรอกิ๊ง” แขไขมองหลานสาวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจด้วยสายตาตัดพ้อ“แต่ลูกกิ๊งต้องมีพ่อนะคะน้าแข”“ถ้ามันรักแกกับ
“คุณเขื่อนพูดว่าเราจะแต่งงานกันเหรอคะ” ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะแต่งงานกับเธองั้นเหรอเห็นแววตาเป็นประกายสุกใสของเธอก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก “จ้ะ ทันทีที่พี่ชายของหนูเกลกลับมา ฉันจะสู่ขอหนูกับเขาอย่างเป็นทางการ และจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี ให้สมกับความสวยของเจ้าสาวเลยดีไหม”“..คุณเขื่อนไม่ได้หลอกเกลให้ดีใจเล่นใช่ไหมคะ” เธอถามเขาให้แน่ใจหลังจากนิ่งอึ้งไปสักพัก“ฉันรักหนูเกล ไอ้เขื่อนอยากแต่งงานกับหนูเกล รอพี่ชายหนูกลับมาแล้วเราแต่งงานกันนะ” เขาพูดในสิ่งที่คิดว่าเธออยากได้ยินได้ฟังมากที่สุด “แต่งงานกับฉันได้ไหมหนูเกล” เขาถามอีกครั้งเมื่อเธอเอาแต่นั่งยิ้ม ไม่ยอมตอบสักทีตุลฎารีบพยักหน้ารับหลายทีซ้อน “แต่งค่ะ เกลอยากแต่งงานกับคุณเขื่อน เพราะเกลก็เผลอรักคุณเขื่อนไปแล้วเหมือนกันค่ะ”ชายหนุ่มโอบกอดเรือนร่างนุ่มนิ่มที่โผเข้ามาซบอกไว้แนบแน่น จูบเบา ๆ ที่ต้นคอหอมกรุ่นของเธอ ความเย้ายวนของกลิ่นกายสาว บวกกับอารมณ์ที่ค้างคาก่อนหน้า ทำให้ความต้องการของเขาตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว