“หนูยังไม่ได้บอกเลยนะคะว่ามาทำงานให้คุณเขื่อน หนูแค่ตอบว่ามาทำงาน แล้วคุณก็ไม่ฟังคำอธิบายจากหนูสักคำ แต่คุณมาปรักปรำว่าหนูเป็นขโมยเลย” ตุลฎาเถียงด้วยเสียงสั่นเครือและเบา รู้สึกคับแค้นใจในโชคชะตาของตนเองยิ่งนักที่อยู่ดี ๆ ก็โดนตบอย่างไร้เหตุผล แต่ก็รู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้
“เก็บความหวังดีของคุณไว้เถอะนะ นี่มันอาณาจักรของฉัน ที่นี่มีเวรยามคอยดูแลตลอดเวลา อย่าว่าแต่ ‘คน’ เลยนะ แม้แต่ ‘หมา’ ยังไม่สามารถรอดสายตาของฉันไปได้”
แขไขเสียวสันหลังวาบ เมื่อเห็นสายตาเรืองรองของเขา หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเธอแล้ว.. ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ ถ้าเขารู้เขาต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว ไม่ปล่อยไว้แบบนี้หรอก เธอปลอบใจตัวเอง
“คุณน่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนอารมณ์ร้ายขนาดไหน ถ้าไม่อยากให้ฉันโกรธมากกว่านี้ ก็ขอโทษหนูเกลเธอซะ”
“คุณเขื่อน!” เขากล้าฉีกหน้าเธอต่อหน้าเด็กสาวคนนี้เลยเหรอ
“ทำไม? หรือว่าเธออยากให้หนูเกลตบเธอคืนล่ะ”
“..ขอโทษ” แขไขจำใจต้องพูดออกไ
ธีรทัศน์วิ่งกลับไปหาภรรยา พรมจูบไปทั่วใบหน้างาม “พี่ดีใจที่สุดในโลกเลยจ้ะเมียจ๋า พี่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดีแล้วตอนนี้” พูดจบก็หอมแก้มเธอ แถมจูบดูดดื่มอีกหนึ่งที “ขอพี่คุยกับลูกหน่อยได้มั้ยเมียจ๋า” บอกกับภรรยาคนสวยแล้วจึงคุกเข่า จูบที่หน้าท้องแบนราบของเธอเบา ๆ แล้วจึงแนบหูลงไปพร้อมกับโอบเอวเธอไว้“สวัสดีลูกรัก นี่คือเสียงของพ่อเขื่อนของหนูนะครับ พ่ออยากจะบอกว่าพ่อดีใจมากที่สุด ที่รู้ว่าหนูจะมาเป็นลูกของพ่อกับแม่เกล พ่อกับแม่สัญญาว่าจะรักและเลี้ยงดูหนูอย่างดีที่สุด พอขอให้ลูกเกิดมาพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงนะครับ” เขาจูบที่หน้าท้องของภรรยาอีกครั้งเมื่อพูดกับลูกน้อยในครรภ์จบ “ขอบคุณนะเกล ที่มอบของขวัญที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตให้พี่อีกครั้ง” ครั้งแรกที่เขาได้จากเธอก็คือตัวเธอเอง ครั้งนี้ก็คือลูกน้อยที่เขาและเธอบรรจงสร้างกันขึ้นมา ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก“เกลก็ขอบคุณพี่เขื่อนเหมือนกันค่ะ” หญิงสาวโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของสามีเบา ๆ “ไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะพี่เขื่อน เกลอยากตรวจให้ชัวร์ ๆ อีกที”ใบหน
“ตั้งแต่รู้ว่าพี่ท้อง แม่สามีพี่ก็ขยันบำรุงน่าดู แถมมีการบังคับให้ได้หลานสาวด้วยนะ” หญิงสาวพูดติดตลก มองแม่สามีที่กำลังเดินขึ้นบันได“ป้าม่อมเขาอยากได้ลูกสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่คะพี่กิ๊ง แต่ถ้าได้หลานชายอีกป้าเขาก็ไม่เกี่ยงหรอก แค่พี่ต้องปั๊มหลานสาวให้ได้สักคนก็แล้วกัน”“ไม่มีปัญหาค่ะ พี่สู้สุดใจเพื่อแม่สามีอยู่แล้ว” ลลิตาทำท่าฮึดสู้ แล้วหันไปสวัสดีแม่สามีที่เดินมาถึงละม่อมส่งยิ้มให้ลูกสะใภ้และนายหญิงของฟาร์ม ที่ยังยกมือไหว้ทุกครั้งที่เจอกัน“กะแล้วเชียวว่าหนูเกลต้องอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อกี้ป้าสวนกับคุณท่านแต่ไม่เห็นหนูอยู่ด้วย”“ป้าม่อมเจอพี่เขื่อนที่ไหนคะ”“เห็นขี่ม้าขึ้นเนินไป น่าจะไปที่คอกม้านะ” ละม่อมตอบแล้วชะโงกมองหลานชายที่หลับตาพริ้ม แต่ปากยังดูดนมมารดาไม่หยุด “หลานย่าหลับนานแล้วรึ”“เพิ่งจะหลับค่ะแม่ แม่เอาอะไรมาให้หนูกินคะ”“ผัดผักสี่สหาย ไข่เจียวกุ้งสับ แกงเลียงน้ำเต้า น้ำพริกผักจิ้ม” ละม่อมบอกรายการอาหารให้ล
“ผัวไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะจ๊ะเมียจ๋า ผัวรักเมียมาก ผัวจะทำแบบนั้นได้ยังไง เนตรดาวเขาโทรมาบ่อยก็จริง แต่ผัวก็ไม่เคยรับสายเลยนะ เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนนี้”“ถ้าจับได้ว่าคุณเขื่อนนอกใจเมื่อไหร่ เกลจะให้พี่ขันกับพี่จิระจับคุณโยนบ่อไอ้เข้เลยคอยดู”“โหดจัง เมียใครเนี่ย”“เมียคุณเขื่อน ถึงยังไม่เป็นทางการแต่ก็หนีไม่พ้นแน่ ๆ จำเอาไว้ให้ขึ้นใจด้วยนะคะ” เธอทำท่ากระเง้ากระงอดประกาศออกไป“จ้ะ ๆ เมียจ๋า นายเขื่อนคนนี้รับทราบแล้วจ้ะ สัญญาว่าจะไม่นอกใจเมียจ๋าเด็ดขาด ถ้านายเขื่อนผิดคำพูดเมื่อไหร่..” เขาทำท่านึกอยู่ชั่วครู่ จับมือของเธอมาวางทาบลงบนของรักของหวงที่เคยเผด็จศึกสาว ๆ มาเป็นร้อยยก “นายเขื่อนยอมให้เมียจ๋าเอาส่วนนี้ให้ไอ้เข้กินเลยจ้ะ”“พูดแล้วก็จำให้ได้ด้วยนะคะ” เธอชักมือออกจากสิ่งนั้น เพราะมันทำให้เธอใจเต้นรัวทุกครั้งที่ได้สัมผัสเขาชูสามนิ้ว ทำตาปริบ ๆ ใส่เธอ “ผัวจะท่องก่อนนอนทุกคืนเลยจ้ะเมียจ๋า”ตุลฎายิ้มกว้างกับความทะเล้นของคนรัก มันดูขัดกับหน้
เรือนพญาตุลฎายื่นถ้วยชาให้คนรักที่กำลังนั่งตรวจบัญชีอยู่ที่โต๊ะทำงาน“อะไรจ๊ะเมียจ๋า”“ชาคาร์โมมายล์ค่ะ ดื่มแล้วจะได้หลับยาว ๆ” เธอเริ่มชินกับการเรียกขานของเขาขึ้นมากแล้ว และการได้เปิดใจต่อกัน ทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนจิตใจดีมาก ผิดกับปากราวฟ้ากับเหว แต่ปากร้าย ๆ ของเขานั้น ยามเมื่ออยู่กับเธอก็หวานเป็น ขี้อ้อนก็มาก เอาใจเก่งอีกต่างหาก“ใครจะไปหลับลง ในเมื่อมีเมียสวย ๆ คอยนอนขนาบข้างอยู่ทุกคืน” เขาดื่มชาอุ่น ๆ ที่เธอยกมาให้จนหมดถ้วย“แค่แฟนสาวเท่านั้นค่ะ”“แฟนอย่างเดียวไม่ได้เหรอ ทำไมต้องแฟนสาวด้วยล่ะ”“ก็เพราะคุณเขื่อนอายุมากกว่าเกลตั้งหนึ่งรอบไงคะ”“จะว่าพี่แก่งั้นสิ”“คุณพูดเองนะคะ เกลไม่ได้พูดซะหน่อย”“นี่ผัวนะ ไม่กลัวแล้วใช่ไหมหนูเกล” เห็นเธอกล้าต่อปากต่อคำไม่สะทกสะท้าน จึงแสร้งตีหน้าเครียดใส่“ไม่กลัวแล้วค่ะ ให้โหดกว่านี้อีกสิบเท่าก็ไม่กลัว”“ห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นฟังนะ เด
สองเดือนผ่านไป“อะไรนะ!” แขไขถามเสียงสูงด้วยความตกใจ “แกบอกว่าท้องงั้นเหรอ!” ถามย้ำกับหลานสาวอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิด“ค่ะคุณน้า” ลลิตาตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “กิ๊งก็เลยมาขออนุญาตคุณน้า เพื่อย้ายไปอยู่กับพี่ไกรที่บ้านพักคนงาน”“แกจะไปอยู่แบบนั้นได้ยังไง ห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ อย่างนั้น อีกหน่อยถ้าลูกแกเกิดมาจะอยู่กันยังไงหมด”“แต่ห้องของพี่ไกรเขาไม่เล็กนะคะ ใหญ่เท่ากับห้องอื่นสองห้องรวมกัน แล้วคุณเขื่อนก็อนุญาตให้ทุบผนังห้องของน้องเกล ให้รีโนเวตเป็นห้องเดียวกัน เพื่อให้เราได้ใช้เป็นห้องหอ”“ไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่ยอมให้แกไปลำบากอยู่ที่บ้านพักคนงานหรอก”“ทำไมล่ะคะน้าแข กิ๊งท้องโตขึ้นทุกวันนะคะ น้าแขพรากพ่อกับแม่เหลนแบบนี้ ไม่สงสารเหลนบ้างเหรอคะ”“แล้วที่ฉันเลี้ยงแกมา ฟูมฟักแกมา แกไม่สงสารฉันบ้างเหรอกิ๊ง” แขไขมองหลานสาวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจด้วยสายตาตัดพ้อ“แต่ลูกกิ๊งต้องมีพ่อนะคะน้าแข”“ถ้ามันรักแกกับ
“คุณเขื่อนพูดว่าเราจะแต่งงานกันเหรอคะ” ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะแต่งงานกับเธองั้นเหรอเห็นแววตาเป็นประกายสุกใสของเธอก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก “จ้ะ ทันทีที่พี่ชายของหนูเกลกลับมา ฉันจะสู่ขอหนูกับเขาอย่างเป็นทางการ และจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี ให้สมกับความสวยของเจ้าสาวเลยดีไหม”“..คุณเขื่อนไม่ได้หลอกเกลให้ดีใจเล่นใช่ไหมคะ” เธอถามเขาให้แน่ใจหลังจากนิ่งอึ้งไปสักพัก“ฉันรักหนูเกล ไอ้เขื่อนอยากแต่งงานกับหนูเกล รอพี่ชายหนูกลับมาแล้วเราแต่งงานกันนะ” เขาพูดในสิ่งที่คิดว่าเธออยากได้ยินได้ฟังมากที่สุด “แต่งงานกับฉันได้ไหมหนูเกล” เขาถามอีกครั้งเมื่อเธอเอาแต่นั่งยิ้ม ไม่ยอมตอบสักทีตุลฎารีบพยักหน้ารับหลายทีซ้อน “แต่งค่ะ เกลอยากแต่งงานกับคุณเขื่อน เพราะเกลก็เผลอรักคุณเขื่อนไปแล้วเหมือนกันค่ะ”ชายหนุ่มโอบกอดเรือนร่างนุ่มนิ่มที่โผเข้ามาซบอกไว้แนบแน่น จูบเบา ๆ ที่ต้นคอหอมกรุ่นของเธอ ความเย้ายวนของกลิ่นกายสาว บวกกับอารมณ์ที่ค้างคาก่อนหน้า ทำให้ความต้องการของเขาตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว