ชิม่อนไม่สามารถลบล้างความสับสนวุ่นวายที่เขากำลังเผชิญได้ แต่เขารู้ดีว่าตระกูลฟลินเดอร์ที่มีอำนาจมากมานเช่นนี้ย่อมชิงบัลลังก์กลับมาได้อย่างง่ายดายมันอาจจะฟังดูไม่เข้าท่าไม่ว่าชิม่อนจะคิดทบทวนมากแค่ไหนก็ตามเจฟฟ์อ่านใจเขาได้จากนั้นเขาก็ถามอย่างจริงจังว่า “นายจำชื่อหัวหน้าตระกูลคนแรกของตระกูลฟลินเดอร์ได้หรือไม่?”ชิม่อนงุนงงถ้าหากเขาจำไม่ผิด ดูเหมือนผู้นำคนแรกของตระกูลฟลินเดอร์จะมีชื่อว่า...เจฟเฟอร์สัน ฟลินเดอร์!ใช่แล้ว นั่นคือชื่อของเขาชิม่อนถูกทิ้งให้อยู่ในความตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาเจฟฟ์ยกมุมปากขึ้นโดยไม่พูดอะไรชิม่อนมองเห็นความมั่นคงในสายตาของเจฟฟ์ และการปรากฏตัวที่สง่างามซึ่งมาพร้อมกับอำนาจสูงสุดในตระกูลชิม่อนกำลังล่องลอยหลุยส์พูดขึ้นในทันใด “กล่าวทักทายท่านฟลินเดอร์สิ!”ใบหน้าของชิม่อนถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเขาส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อและพึมพำ “มัน เป็นไปไม่ได้ มันจะเป็นไปได้ยังไง...”แท้จริงแล้ว เขาเพียงแค่ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าจะมีใครที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นับพันปีบนโลกใบนี้จริง ๆ!นานนับสหัสวรรษ! กระดูกของเขาควรจะกลายเป็นเถ้าถ่านหรือหิ
ถึงแม้ว่าแม้เจฟฟ์จะได้อธิบายไปแล้ว แต่ชิม่อนก็ยังไม่สามารถคลายความสงสัยได้เขาเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับมันในหนังสือโบราณเท่านั้น แต่เขาไม่ยักรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันมีจริงแต่เมื่อไหร่กัน?ชิม่อนมองดูเจฟฟ์และก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่เขาใช้เวลาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะถามว่า “สิ่งที่คุณพูดมันเป็นความจริงเหรอ? ที่คุณบอกว่าคุณ...”เจฟฟ์ชำเรืองมองดูเขาอย่างเฉยเมยเพียงแค่สายตาที่เขาได้รับ ชิม่อนก็ไม่กล้าถามคำถามต่ออีกเลยชิม่อนสงสัยว่า ถ้าหากเจฟฟ์ผู้นี้คือเจฟเฟอร์สันจริง ๆ แล้วชายผู้นี้สามารถรักษาความเยาว์วัยของเขาไว้ได้ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่มานานนับพันปีได้อย่างไร? เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งใดอยู่ภายในใจของเจฟฟ์เจฟฟ์จะไม่ปล่อยให้เขาค้นหามันเจอชายผู้นั้นเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “ที่ฉันต้องการพบนายในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้นายได้รู้จักฉันและฉันก็เชื่อใจนาย ฉันยังมีเรื่องสำคัญที่ฉันจะต้องฝากฝังเอาไว้ในมือนาย และฉันก็จะได้สบายใจถ้าหากว่านายจัดการให้ฉันได้เข้าใจไหม?"ชิม่อนพยักหน้าอย่างหนักแน่น"บอกมาได้เลย"“เกรกอรีและคนอื่น ๆ กำลังมองหาหยกอาถรรพ์ แต่ฉันไม่ไว้ใจพวกเขา ดังนั้นฉ
กล่องไม้มีการออกแบบที่เรียบง่ายและดูไม่มีราคาอะไร น้ำหนักของมันเบาบางไม่เหมือนดั่งไม้พะยูงหรือไม้จันทน์เกรดสูงแต่ทว่าเสียงที่ดังขี้นกลับมาจากกล่องไม้ใบนั้น จนทำให้ทุกคนต่างก็ต้องตกตะลึงจนขนบนผิวหนังลุกเจฟฟ์มีใบหน้าที่โกรธแค้น ถึงแม้ว่าเขาจะฉลาดและเจ้าเล่ห์มากเพียงใด แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับเขา เมื่อเขามีความคิดในเรื่องของการเล่นกับความรู้สึกและจิตใจมากกว่า ในขณะที่เทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นไม่ใช่จุดแข็งของเขา เพราะเขาเรียนรู้มันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นอาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าเจฟฟ์จะมีแนวคิดขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยโดยไม่รู้ตัวเขามักจะอยู่อย่างสันโดษบนเกาะของเขา ในขณะที่โลกภายนอกไม่เคยตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขาเลย แล้วนับประสาอะไรที่เขาจะสามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้ เจฟฟ์ไม่ทันได้เตรียมตัวเสียงใครบางคนภายในกล่องไม้ยังคงดังขึ้นต่อไป “ในเมื่อคุณเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ไม่สนใจการเป็นหุ้นส่วนกับเรา แล้วทำไมเราทั้งคู่ไม่ลองทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะดูล่ะ”เจฟฟ์กัดฟันแน่นเขาหันกลับมาและเอียงศีรษะไปทางหลุยส์หลุยส์รับรู้ได้ถึงสิ่งที
ชิม่อนรับรู้ได้ถึงความชัดเจนในบทบาทของเขาในตระกูลนี้ เขาเป็นคนที่มีวรรณะที่ต่ำต้อยที่สุดทั้งเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ส และหลุยส์ ฟลินเดอร์ต่างก็มีพลังที่จะปิดปากเขาได้ทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ มันคงจะง่ายเหมือนการขยี้มดด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวนั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาไม่ต้องการพูดอะไร ไม่ว่าเขาจะสงสัยหรือรู้สึกสับสนเพียงใดก็ตาม เขากลัวว่าเขาจะถูกฆ่าทิ้งถ้าหากว่าเขารู้มากเกินไปชิม่อน ฟลินเดอร์ไม่กล้าคิดว่าตระกูลฟลินเดอร์นั้นไร้เดียงสาอย่างที่เคยเป็นเพราะสัตว์ประหลาดอายุนับพันปีที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาก็ทำให้เขาตกใจมากพอแล้วถึงแม้ว่าเขาจะยังคงสงสัยเกี่ยวกับอายุของชายผู้นี้อยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าเจฟฟ์จะไม่ได้หลอกลวงเขา เมื่อเขาได้เห็นชายผู้นั้นทำให้สิ่งของสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ และชิม่อนก็มองไม่เห็นข้อผิดพลาดใด ๆ เมื่อเขาแสดงมันให้ดู เขาสามารถมีอายุนับพันปีได้อย่างที่เขาพูดจริง ๆ และถ้าหากเป็นเรื่องจริง สถานการณ์ทั้งหมดอาจจะทำให้ชิม่อนแย่ลงได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ ไม่ว่าพวกเขาจะฉลาดแกมโกงและอันตรายมากแค่ไหนก็ตาม แต่ใครบางคนที่มีชีวิตอยู่ได้ถึงหนึ่งพันปีเช่นนี้ ชิม่อ
คนที่มีชีวิตอยู่มานานนับพันปีจะตายอย่างง่ายดายได้อย่างไร?นั่นคือเหตุผลที่ชิม่อนมั่นใจว่าเจฟฟ์จะต้องไม่ตายแต่คนที่เป็นอมตะจะต้องการหยกอาถรรพ์ไปเพื่ออะไร?ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเหตุผลที่หยกอาถรรพ์ในตำนานถูกผู้คนที่มีอิทธิพลไล่ตามนั่นก็เพราะว่ามันมีพลังแห่งความเป็นอมตะชายที่อยู่ตรงหน้าดูมีอายุราว 30 ปี ถึงแม้ว่าเขาจะอ้างว่าเขามีชีวิตอยู่มานานนับพันปีแล้วก็ตาม ถ้าเป็นเช่นนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นอมตะอยู่แล้วหรอกเหรอ?ทำไมเขาถึงยังต้องการหยกอาถรรพ์อีก?ชิม่อนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรเขาทำได้เพียงถือกล่องบนฝ่ามืออย่างระมัดระวังและยืนขึ้น จากนั้นเขาก็ออกจากห้องไปภายใต้การนำของผู้อาวุโสไมค์หลังจากที่เขาจากไป หลุยส์ก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ“นายท่านครับ มันจะไม่เสี่ยงเกินไปหรือที่ท่านจะปล่อยให้เขาจัดการงานสำคัญเช่นนี้?”หลุยส์มองว่าชิม่อนเป็นคนนอกของตระกูลเท่านั้น ก่อนหน้านี้ชิม่อนไม่มีอำนาจแม้แต่จะเข้าพบกับเขา แล้วนับประสาอะไรกับเจฟฟ์ ฟลินเดอร์แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่นายท่านของเขากลับมอบบางสิ่งที่สำคัญอย่างลูกปัดเงิน ซึ่งเป็นเหมือนดั่งชะ
ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่สมบัติภายในกล่องด้วยความเงียบจนเกือบลืมหายใจผ่านไปครู่หนึ่ง เกรกอรีดึงตัวเองออกจากความคิดเป็นคนแรก เขามองชิม่อนและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “มีแค่นี้เหรอ?”สีหน้าของชิม่อนงุนงงและโกรธ“แค่นี้ก็ควรจะเพียงพอแล้วสำหรับพวกนายไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่เป็นคนได้รับมอบหมายให้นำมันมามอบให้กับนาย นายอาจจะไม่ได้รับมันด้วยซ้ำ!”เกรกอรีรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเกินจริงเขาขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาเอื้อมมือออกไปเขารับกล่องมาเนื่องจากชิม่อนมาที่นี่เพื่อส่งมอบมอบลูกปัดเงินให้กับเขา เกรอกอรีจึงไม่ได้ส่งชายคนนั้นออกไปในทันทีเกรกอรีหันหลังและพาทุกคนเข้าไปในบ้าน เขายื่นกล่องให้พ่อบ้านออสบอร์น ก่อนจะพูดกับชิม่อนอีกครั้ง “คู่มือการเพาะปลูกอยู่ที่ไหน? ส่งมาให้ฉัน"เขาไม่เชื่อว่าพืชที่ล้ำค่าเช่นนี้จะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้โดยการปลูกในดินเหมือนวัชพืชทั่วไปดูเหมือนว่าชิม่อนจะตกตะลึงกับความต้องการของเขา และเบิกตากว้างด้วยความตกใจ“คู่มือการเพาะปลูก? ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”เกรกอรีขมวดคิ้ว สีหน้าของเขามืดมนลง“เจฟไม่ได้
“วิกกี้ ภรรยาของคุณจะต้องกินผลของมัน 4 ผลต่อหนึ่งเดือน เพียงแค่ต้นเดียวมันจะไม่เพียงพอสำหรับเธอ ดังนั้นคุณจะต้องช่วยตามหาหยกอาถรรพ์เพิ่มเติม และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหามันเจอ ผมจะมอบมันให้กับคุณอีกหนึ่งต้นพร้อมกับคู่มือการเพาะปลูก คุณคิดว่ายังไง?"เกรกอรีเงียบไปในขณะที่เขาครุ่นคิดก่อนหน้านี้ที่เขาเห็น ที่บนต้นของมันมีผลลูกปัดเงินเพียงแค่ 5 ถึง 6 ผล เท่านั้น เจฟ์ฟอาจจะไม่ได้โกหกเขาเกรอกอรีพยักหน้า"ตกลง ผมยอมรับข้อเสนอของคุณ”รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจฟฟ์“ต้นลูกปัดเงินต้นนั้นจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเติบโต คุณจะต้องเก็บไว้ในที่มืดและสถานที่ที่ดูดซับแก่นแท้ของแสงจันทร์ได้ดีที่สุด มันไม่สามารถสัมผัสดินได้ ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเหี่ยวเฉาในทันที คุณจะต้องนำมันใส่ในภาชนะที่ทำจากหยกเท่านั้น ยิ่งหยกมีคุณภาพดีมากเท่าใด ต้นไม้ก็จะยิ่งเติบโตแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น และขนาดของผลก็จะใหญ่ขึ้นเช่นกัน“เมื่อคุณพบตำแหน่งที่เหมาะสมและภาชนะดังกล่าวแล้ว คุณควรวางต้นไม้ไว้ลงบนภาชนะและเทน้ำเพียงเล็กน้อยลงที่ก้นภาชนะ และน้ำจะต้องไม่ท่วมรากของมัน คุณจะต้องเปลี่ยนน้ำวันละสามครั้ง เช้า บ่
ด้วยความไม่แน่ใจที่อยู่ภายในใจของวิกกี้ เธอจึงหันไปเผชิญหน้ากับเกรกอรีช้า ๆ แต่แล้วเธอก็ได้พบกับดวงตาที่มืดมิดและเต็มไปด้วยความครอบงำ ในขณะที่เธอหันหลังกลับมาดวงตาของเขามืดมนราวกับหลุมดำ ราวกับว่ามันกำลังจะดูดเธอลงไปข้างใน วิกกี้อ้าปากค้างในขณะที่เธอจ้องมองเกรกอรี“เกรกอรี คุณ…”เขาเดินเข้ามาและดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยอย่างรวดเร็วร่างกายที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวถูกกดทับลงกับร่างกายของเขาอย่างหนัก และลมหายใจของเขาก็ค่อย ๆ ผิดปกติ เขาเอื้อมมือออกไปยกคางเธอขึ้นเขา ๆ และบังคับให้เธอมองมาที่เขา“เธอเลือกชุดนั้นโดยตั้งใจที่จะลองยั่วยวนฉันใช่ไหม?”รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของวิกกี้นิ้วที่เรียวยาวของเธอลูบไล้ไปตามใบหน้าของเขา ลงผ่านคาง คอยหอย กระดูกไหปลาร้า และเลื่อนไปทางขวาระหว่างหน้าอกของเขา"ใช่ ฉันต้องการที่จะยั่วนาย ฉันแค่สงสัยว่าคุณเกรแฮมจะตกหลุมพรางหรือเปล่า”มุมปากของเธอขดเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ นี่เป็นครั้งแรกที่เกรกอรีเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกไฟเผาจนทำให้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มและสามารถจะระเบิดได้ในทุกวินาทีเขามองใบหน้าที่ยิ้มแย้มขอ