"ในเมื่อจีนเป็นคนหยิบมันขึ้นมา เราควรจะไปเอามันกลับมาจากเธอ ฌอนขอร้องล่ะอย่าไปทะเลาะกับคนอื่นเลย สุดท้ายแล้วเธออาจจะเป็นคนดีก็ได้ ในตอนนี้เธออาจจะรอให้เราไปเอาจี้หยกนั้นกลับคืนมาก็ได้”ใบหน้าของฌอนเริ่มหม่นหมอง “ผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนดีได้เลย เธอคงอยากจะเก็บจี้นั้นเอาไว้ใช้เอง ถ้าหากเธอต้องการที่จะเอาคืนกับเจ้าของจริง ๆ เธอคงจะส่งต่อให้กับเจ้าของที่นี่ แล้วทำไมเธอถึงเก็บมันออกไปอย่างเงียบ ๆ แบบนี้"เคธี่ขมวดคิ้ว จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา“คุณอย่าพูดแบบนั้นเลย ตระกูลลีย์ เป็นตระกูลอันทรงเกียรติที่มีอำนาจมากมาย คุณลีย์คงจะไม่ทำอะไรแบบนั้น ถ้าหากเธอปฏิเสธที่จะคืนจี้นั้นให้กับเรา เราก็สามารถซื้อมันคืนมาจากเธอได้สิ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”ฌอนไม่ได้พูดอะไรต่ออีกหลังจากที่ฟังเคธี่พูดจบผ่านไปครู่หนึ่งคุณดอนเนลลี่ก็กลับมาเมื่อเขาเข้ามาในห้อง เขาก็แสดงรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขา “เป็นยังไงบ้าง? คุณเจอร่องรอยอะไรบ้างหรือเปล่า?”เคธี่ยิ้มออกมา “ใช่ค่ะ เราพบร่องรอยบางอย่างแล้ว แต่เราอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณเพื่อติดต่อกับใครคนหนึ่ง”คุณดอนเนลลี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ “อ้าว คุณเจอม
จีนหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็มองดูสีหน้าของเนลล์อย่างระมัดระวังและนึกได้ว่าบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจได้ว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอนดังนั้นเธอจึงโบกมือให้พนักงานออกไปข้างนอกก่อนหลังจากนั้น เธอก็ยิ้มให้เนลล์แล้วถามว่า “เนลลี่ มีธุระอะไรกับป้าเหรอ?”เนลล์หยิบจี้หยกออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วมองไปที่จีนด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม “คุณป้าคะ คุณป้าไปเอาจี้หยกนี้มาจากที่ไหน?”จีนตกใจเมื่อเห็นจี้หยกนั้น เธอเกิดความรู้สึกผิดเล็กน้อยเช่นกันเธอพยายามหลบสายตาของเนลล์ “จี้หยกนี้…ป้าจะไปเจอมันได้ที่ไหนอีก? ป้าไปซื้อมันมาจากเคาน์เตอร์เครื่องประดับ แต่ป้าได้ให้จี้หยกอันนี้กับลิซซี่ แต่ทำไมตอนนี้มันถึงอยู่ในมือของเธอได้ล่ะ?”ขณะที่เธอพูดจบ เธอได้พยายามที่จะคว้าจี้หยกนั้น แต่เนลล์สามารถหลบได้อย่างรวดเร็วเนลล์ไม่ต้องการที่จะพูดอ้อมค้อม เธอพูดตรงไปถึงประเด็นนั้น“เคาน์เตอร์เครื่องประดับที่ไหนเหรอคะ? พาฉันไปที่นั่นหน่อยได้ไหม?”หลังจากที่จีนได้ยินคำขอจากเนลล์ เธอมองกลับไปอย่างมืดมนเธอจ้องไปที่เนลล์ด้วยความโกรธ“แล้วยังไง? เธอหมายความว่าอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งนี้? ที่เธอกำลังถามฉ
หรือเราจะบอกว่าโชคชะตาเป็นเรื่องที่น่าแปลก? ก่อนหน้านี้มิสเตอร์ดอนเนลลี่เองก็สงสัยว่าเขาจะได้พบกับจีนอีกเมื่อไหร่ แต่ในตอนนี้เธอมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา เขารีบเดินเข้าไปหาเธออย่างกระตือรือร้น “คุณลีย์ในที่สุดคุณก็อยู่ที่นี่ เชิญเข้ามาก่อนครับ” เขาสังเกตเห็นว่าจีนอารมณ์ไม่ดี ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ มิสเตอร์ดอนเนลลี่เดินทางไปรอบ ๆ อยู่นานหลายปี ดังนั้นเขาจึงอ่านสีหน้าของผู้คนได้อย่างง่ายดาย เขาสังเกตเห็นว่าจีนไม่ได้มาคนเดียว เธอไม่ได้พาแฟนหนุ่มรูปหล่อมาด้วย แต่เธอกลับพาหญิงสาวสวยคนหนึ่งมากับเธอแทน หญิงสาวอยู่ในชุดลำลองทั่วไป แต่เธอมีใบหน้าที่งดงาม ในขณะที่ดวงตาของเธอดูเคร่งขรึมเป็นพิเศษ ทุกคนต่างก็บอกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ได้รับการฝึกฝนมานานหลายปี คุณดอนเนลลี่เลิกคิ้วและยิ้ม “คุณลีย์ คุณมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดเร่งด่วนของโครงการของเราใช่หรือเปล่า?” จีนกวาดสายตาไปมา “ใช่แล้ว คุณคิดว่าฉันว่างมากอย่างนั้นเหรอ? คุณคงไม่คิดว่าฉันมาที่นี่เพียงเพื่อดื่มชาหรอกใช่ไหม?” เมื่อพูดจบเธอก็หันไปแนะนำหญิงสาวที่เธอพามา “เธอคือเนลล์ เจนนิงส์ หลานสะใภ้ของฉัน เธอเป็นประธานบริษัทอ
เนลล์ไม่ได้เอ่ยความคิดที่อยู่ภายในใจออกมา เพราะท้ายที่สุด เธอก็ไม่ได้รู้จักมิสเตอร์ดอนเนลลี่ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ในขณะที่จีนเองก็ไว้ใจไม่ได้ เนลล์บอกไม่ได้ว่าคนที่เธอรู้จักเป็นคนดีหรือไม่ และไม่มีใครที่จะได้รับรู้ข้อมูลที่สำคัญจากปากของเธอ เมื่อเนลล์คิดเช่นนั้น เธอก็กล่าวว่า “ถ้าหากว่าจี้หยกชิ้นนี้เป็นของเธอ ถ้าเช่นนั้น ฉันคงจะต้องรบกวนคุณดอนเนลลี่ให้เชิญเพื่อนของคุณมาพบกับเรา และฉันจะคืนจี้หยกชิ้นนี้ให้กับเธอด้วยตัวเอง” มิสเตอร์ดอนเนลลี่พยักหน้า เขาคิดว่าการแสดงออกของเนลล์นั้นค่อนข้างแปลก แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จากนั้นเขาก็รีบโทรหาเคธี่เพื่ออธิบายเรื่องนี้ เคธี่เพิ่งกลับไปที่คฤหาสน์ได้ไม่นานนัก เธอก็ได้รับสายจากมิสเตอร์ดอนเนลลี่ หลังจากที่เธอรู้ว่าเขาพบจี้หยกของเธอแล้ว เธอก็มีความสุขขึ้นในทันที "จริงเหรอ? คุณหามันเจอได้รวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” “ใช่แล้ว คุณลีย์กำลังรอคุณอยู่ที่นี่ เธอต้องการคืนจี้หยกให้กับคุณด้วยตัวเอง คุณควรจะรีบออกมาพบเธอ” เคธี่พยักหน้าและตอบด้วยความตื่นเต้น “แน่นอน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” หลังจากที่เธอวางสายแล้ว ฌอนจึงถามเธอด
เนลล์ถามเขาว่า “ร่างกายของเธออ่อนแอเหรอ?” สายตาของเธอมือมนลง ในขณะที่เธอจ้องมองไปยังเคธี่ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของฌอนเคธี่จับเสื้อของฌอนเอาไว้แน่น ในขณะที่เธอจ้องมองปฏิกิริยาของเนลล์ เธอหวาดกลัวด้วยร่างที่สั่นเทา เธอซ่อนตัวอยู่ด้านหลังฌอนราวกับแมวที่ไร้เดียงสาที่กำลังซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ ทันใดนั้น เนลล์ก็เริ่มหัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอฟังดูเย้ยหยันและโดดเดี่ยว “คุณ…กลัวฉันเหรอ?” เคธี่ไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงจ้องมองเนลล์และรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น ฌอนไม่พอใจ เขากอดร่างของเคธี่อย่างหวงแหนราวกับว่าเขากลัวเนลล์จะทำร้ายเธอ จีนเดินเข้าไปและพยายามดึงเนลล์กลับมาอย่างหวาดระแวง “เนลลี่ อย่าสร้างปัญหาเลย เรากำลังพูดคุยเรื่องธุรกิจอย่างจริงจัง…” “เงียบไปซะ!” เนลล์ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ จีนตกใจมาก ในอดีต เธอเคยทะเลาะกับเนลล์อยู่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เนลล์ตะโกนใส่เธอในที่สาธารณะเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ “เนลล์ เจนนิงส์! เธอกำลังจะทำอะไร? เธอคิดว่าตัวเองจะทำตัวเช่นนี้ต่อหน้าผู้ที่เรากำลังทำธุรกิจด้วยได้อย่างนั้นเหรอ? กลับไปนั่งลงเดี๋ยวนี้!” เป
อยู่มาวันหนึ่ง ในที่สุดนักสืบที่เคธี่จ้างมาก็ได้ข้อมูลกลับมาใหม่ นักสืบกล่าวว่า พวกเขาได้เห็นฌอร์นเข้าไปในคฤหาสน์ของแซลลี่ด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขายังบอกให้เคธี่นำกล้องไป และซุ่มดูเหตุการณ์ด้วยเธอตัวเอง ดังนั้นเคธี่จึงขับรถไปที่คฤหาสน์ของแซลลี่อย่างเร่งรีบ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อรถของเธอเสียการควบคุม ทั้ง ๆ ที่ก่อนที่เธอจะออกเดินทาง รถของเธอไม่ได้มีปัญหาใด ๆ แต่จู่ ๆ รถของเธอก็เสียการควบคุมเมื่อเธอไปถึงที่สะพาน จากนั้นเธอก็ชนเข้ากับรั้วและตกลงไปในแม่น้ำ เป็นที่รู้กันดีว่าแม่น้ำสายที่อยู่ใต้สะพานนั้นเป็นแม่น้ำที่ไหลเร็วที่สุดในจินเฉิง และยังเป็นแม่น้ำที่โด่งดังในเรื่องของความอันตรายที่สุดในจินเฉิงอีกด้วย และในวันนั้นก็เป็นช่วงฤดูมรสุม เมื่อรถได้ตกลงไปในแม่น้ำในขณะที่น้ำขึ้นสูงเช่นนั้น จะมีใครรอดจากสถานการณ์เช่นนั้นไปได้? รถพังยับเยินและเคธี่ก็หายตัวไปเช่นกัน เนลล์ได้รับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้น ฌอนเล่าถึงเหตุการณ์ด้วยท่าทางที่สงบ จากนั้นเขาก็อธิบายต่อว่า “หลังจากนั้นเราก็ได้รู้ความจริงว่านักสืบได้ให้ข้อมูลเท็จแก่เคธี่ เพราะฌอร์นได้ซื้อตัว
มันเป็นความรู้สึกที่โศกเศร้าที่เคธี่ไม่สามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้ ราวกับว่ามีคนขโมยของสำคัญของเธอไป ฌอนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วง “เคธี่ เป็นอะไรหรือเปล่า?” เคธี่ส่ายหน้า จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าว่า “ฌอน ฉันเหนื่อย พาฉันกลับก่อนได้ไหม? ฉันอยากกลับไปพักผ่อน” ฌอนพยักหน้า มิสเตอร์ดอนเนลลี่รีบหยิบจี้หยกบนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นเขาก็ส่งให้กับเคธี่และยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นเชิญพวกคุณไปพักผ่อนก่อน เราจะคุยกันในภายหลังเมื่อคุณสบายใจขึ้นแล้ว” ฌอนพยักหน้า จากนั้นเขาก็ประคองเคธี่ออกไป … กิดเดียนทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท เนื่องจากวันนี้เขาต้องยุ่งกับเรื่องการประชุม เมื่อเขากลับถึงบ้านก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว โดยปกติแล้ว เด็ก ๆ จะนอนเร็วเพราะจะต้องไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่กิดเดียนเปลี่ยนรองเท้าแล้ว เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเนลล์ไม่ได้อยู่ภายในห้องนั่งเล่น เขามองเห็นป้าจอยซ์คนเดียวที่อยู่ที่นั่น ในขณะที่เธอกำลังทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ เขาแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้ว เนลล์จะรอเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นทุกครั้งที่เขาต้องทำงานล่วงเวลา จากนั้นพวกเข
“คุณมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่คุณไม่คิดว่าคุณควรจะมีความสุขไปกับเธอเหรอ? เพราะเธอกำลังใช้ชีวิตในแบบที่คุณปรารถนา และในตอนนี้เธอก็มีชีวิตที่สงบสุขและมีความสุขไม่ใช่เหรอ?” เนลล์มองกิดเดียนด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็หัวเราะ “คุณพูดถูก” กิดเดียนลูบหัวเธอด้วยความปลอบโยน “ถ้าเช่นนั้น คุณจะเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าเรื่องราวเป็นยังไง?” เนลล์คิดอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง กิดเดียนเองก็ตกใจเมื่อได้ฟังเช่นนั้น เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “แล้วคุณจะทำยังไง?” เนลล์ส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอจำอะไรไม่ได้เลย เธอไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ ฉันเลยไม่รู้ว่าฉันจะคุยกับเธอยังไงดี” “อย่ากังวลไปเลย” กิดเดียนปลอบโยนเธอ “ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปีนั้นคงทำให้เธอเจ็บปวดมาก มันเป็นเรื่องปกติถ้าเธออยากจะลืมทุกอย่าง โชคดีแค่ไหนที่เธอยังมีชีวิตอยู่และที่สำคัญ คุณก็ได้พบกับเธอ ผมเดาว่ามันคงเป็นโชคชะตาและไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง แต่การที่เธอยังมีชีวิตอยู่นั่นเป็นพรจากพระเจ้า คุณอย่าเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้เลย ตกลงไหม?” เนลล์พยักหน้า การที่เคธี่ยังมีชีวิตอยู่หลังจ