“รับทราบครับ” เพชรนิลยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้งสี่ แล้วเลื่อนประตูปิด ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เปลี่ยนชุดเสร็จ ชายหนุ่มสวมรองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนส์ เสื้อยืดและสวมทับด้วยเสื้อยีนส์แขนยาว เขาสวมหมวกแก๊ปของทีมฟุตบอลทีมโปรด สัญลักษณ์บนหมวกที่เด่นชัด ทำให้เจ้าสี่กุมารที่นั่งรออยู่บนมอเตอร์ไซด์พ่วงซาเล้งตาลุกวาว
“หมวกพี่กระต่ายเท่สุด” เจ้าไฟที่นั่งอยู่ส่วนพ่วงด้านข้างทักขึ้น เขามองด้วยสายตาหลงใหล
เพชรนิลยิ้ม สัญชาตญาณผู้บริหารทำให้เขาฉกชิงโอกาสทันที
“แลกกันไหม” เพชรนิลถาม เจ้าไฟตาลุกวาว
เพชรนิลถอดหมวกยื่นให้ไฟ แฝดน้องคนสุดท้องมองตาพี่ทั้งสามขอความเห็น เจ้าดินที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่ให้รับ แต่เจ้าน้ำที่นั่งซ้อนท้ายดินอยู่ และเจ้าลมที่นั่งอยู่บนพื้นซาเล้งรีบพยักหน้าบอกให้รับ เมื่อมติเสียงข้างมากบอกว่ารับได้ เจ้าไฟก็รีบถอดหมวกของตนยื่นไปเปลี่ยนกับหมวกของพี่กระต่ายทันที
รถมอเตอร์ไซค์ซาเล้งพ่วงข้างเคลื่อนตัวออกจากบ้านตรงไปยังท้ายไร่ มีเจ้าดินเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์และเจ้าน้ำนั่งซ้อนท้ายดิน เพชรนิลนั่งที่นั่งส่วนพ่วงด้านข้างคู่กับเจ้าไฟ บนพื้นซาเล้งมีเ
“รับทราบครับ” เพชรนิลยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้งสี่ แล้วเลื่อนประตูปิด ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เปลี่ยนชุดเสร็จ ชายหนุ่มสวมรองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนส์ เสื้อยืดและสวมทับด้วยเสื้อยีนส์แขนยาว เขาสวมหมวกแก๊ปของทีมฟุตบอลทีมโปรด สัญลักษณ์บนหมวกที่เด่นชัด ทำให้เจ้าสี่กุมารที่นั่งรออยู่บนมอเตอร์ไซด์พ่วงซาเล้งตาลุกวาว“หมวกพี่กระต่ายเท่สุด” เจ้าไฟที่นั่งอยู่ส่วนพ่วงด้านข้างทักขึ้น เขามองด้วยสายตาหลงใหลเพชรนิลยิ้ม สัญชาตญาณผู้บริหารทำให้เขาฉกชิงโอกาสทันที“แลกกันไหม” เพชรนิลถาม เจ้าไฟตาลุกวาวเพชรนิลถอดหมวกยื่นให้ไฟ แฝดน้องคนสุดท้องมองตาพี่ทั้งสามขอความเห็น เจ้าดินที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่ให้รับ แต่เจ้าน้ำที่นั่งซ้อนท้ายดินอยู่ และเจ้าลมที่นั่งอยู่บนพื้นซาเล้งรีบพยักหน้าบอกให้รับ เมื่อมติเสียงข้างมากบอกว่ารับได้ เจ้าไฟก็รีบถอดหมวกของตนยื่นไปเปลี่ยนกับหมวกของพี่กระต่ายทันทีรถมอเตอร์ไซค์ซาเล้งพ่วงข้างเคลื่อนตัวออกจากบ้านตรงไปยังท้ายไร่ มีเจ้าดินเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์และเจ้าน้ำนั่งซ้อนท้ายดิน เพชรนิลนั่งที่นั่งส่วนพ่วงด้านข้างคู่กับเจ้าไฟ บนพื้นซาเล้งมีเ
กระต่ายน้อยถอนหายใจครุ่นคิด เขาชูแก้วเหล้าไปทางวาโย แล้วดื่มรวดเดียวหมดแก้ว“ถ้ามันเสี่ยงแล้วคุ้มค่าก็เสี่ยงเถอะ นี่อาจจะเป็นเวรกรรมที่นายเคยทำไว้กับใครก็ได้” พบรักพูดเหมือนให้กำลังใจ แต่ใครๆก็รู้ว่านี่มันช่วงพบรักเอาคืนชัดๆเพชรนิลไม่ตอบโต้พบรัก เขามองเหม่อไปไกล ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยอมรับแหละว่า นี่อาจจะเป็นเวรกรรมที่เขาเคยทำไว้กับพบรักก็ได้ ตอนนั้นที่เขารู้ว่า พบรักทำอะไรเกินเลยกับกระติ๊บน้องสาวเขาโดยที่ยังไม่ทันได้แต่งงานกัน เขาตามไปกระทืบพบรักถึงรีสอร์ต และกีดกันต่างๆนานา แต่ในที่สุดแล้วพบรักก็ได้แต่งงานกับกระติ๊บ ได้มาเป็นน้องเขยเขานี่นา เออ...ถ้ามันจะเริ่มต้นด้วยความวุ่นวาย ต้องถูกกระทืบเจ็บตัวเหมือนกัน เขาก็ขอให้มันลงท้าย ด้วยการได้แต่งงานกัน และอยู่กินกันอย่างมีความสุขเหมือนคู่พบรักกับน้องสาวของเขาด้วยเถิด“บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิดกันก็ได้ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย คิดในแง่ดีสิ อย่างน้อยต่ายก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมีย ระหว่างนี้ ต่ายก็เร่งทำคะแนน ทำให้ทางนั้นเห็นว่าเรารักจริงหวังแต่ง และดูแลหนูจ๋าได้ พี่เชื่อว่าสักว
“หนูจ๋าจ๊ะ วันนี้ญาติทางฝั่งของกระต่าย เขามาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนู แม่กับพ่อ คุณตา คุณยายตัดสินใจเรื่องนี้แทนหนูไม่ได้ เพราะนี่คือชีวิตในอนาคตของหนู หนูจ๋าจะว่าอย่างไร ต้องการให้พี่เขารับผิดชอบไหม” แม่ปันปันเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหนูจ๋ายิ้มให้แม่จ๋าของเธอ ก่อนหันมาบอกสิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ให้ทุกคนได้รับทราบพร้อมกันด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวทว่ากังวานหวาน"ถึงหนูยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่หนูก็โตพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรแล้ว แต่หนูกลับไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล หากหนูเตือนสติและห้ามพี่กระต่ายจริงจังกว่านี้ เรื่องแบบนั้นก็คงไม่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าจะต้องมีการการรับผิดชอบ หนูก็ต้องผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ หนูขอรับผิดชอบพี่กระต่ายเองค่ะ"ครอบครัวของเพชรนิลกลับกันไปหมดแล้ว ในห้องรับแขกจึงเหลือเพียงครอบครัวของหนูจ๋า ทุกคนเดินออกไปส่งแขกแล้วกลับมานั่งที่เดิม ป๋าฟ้าดูจะมีอาการเคร่งเครียดมากกว่าคนอื่น ใบหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา หนูจ๋ายังคงนั่งอยู่บนพื้นเหมือนเดิม เจ้าสี่กุมารขยับมานั่งขนาบข้างพี่สาวข้าง
“ป๋าคะ ค่อยๆพูดค่อยๆคุยกันค่ะ เกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่นะคะ” ป๋าฟ้ามองหน้าเมียแล้วถอนหายใจแรง“กระต่ายมานั่งที่เดิมก่อน รอผู้ใหญ่คุยกันก่อนลูก” แม่กระแตกลัวว่าป๋าฟ้าอารมณ์ร้อนจะยกเท้าถีบหน้าลูกชายเสียก่อนที่จะได้เจรจาอะไร จึงรีบบอกให้ลูกชายถอยออกมาก่อนพ่อเพชรมองคนหวงลูกด้วยสายตาหมั่นไส้เล็กน้อย แต่ก็พอเข้าใจอารมณ์ห่วงหวงลูกอยู่หรอก เพราะขนาดกระติ๊บบรรลุนิติภาวะแล้วตอนที่ท้องกับพบรักก่อนจะแต่งงานกันนั้น เขาก็ยังโกรธจนอยากจะฆ่าลูกเขยทิ้ง แต่นี่หนูจ๋าเพิ่งสิบเก้า ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ ก็น่าโกรธน่าเคือง น่ากระทืบไอ้กระต่ายน้อยให้ตายคาตีนอยู่หรอก แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ควรต้องให้ความร่วมมือช่วยกันคิดหาทางออก ให้ทุกอย่างมันลงตัวลงเอยด้วยดี ดีกว่าจะตั้งแง่เอะอะมะเทิ่งกันอยู่แบบนี้“ฟ้าอยากให้ทางเรารับผิดชอบอย่างไรว่ามาได้เลยนะ ขออย่างเดียวขออย่าได้ปฏิเสธความรับผิดชอบในครั้งนี้ อาจะไม่สบายใจเลยถ้าฟ้าไม่ยอมรับความรับผิดชอบจากทางเรา”“ผมไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นครับคุณอา สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ปล่อยให้มันผ่านเลยไป แต่ผมจ
“ครับๆ พี่จะไปบอกเขาเดี๋ยวนี้ล่ะครับ แต่น้ำฝนต้องปล่อยมือออกก่อนนะครับ หนีบไว้แบบนี้พี่ไปไหนไม่ได้” เพลิงตะวันบอกภรรยาแล้วยิ้มแหยให้เธอ น้ำฝนมองค้อนสามีก่อนจะดึงมือกลับทุกคนมองตามร่างสูงที่เดินไปบอกรถฉุกเฉิน แล้วพากันส่ายหน้ากับความคิดที่พิเรนทร์ของเพลิงตะวันไปตามๆกันรถตู้สองคันแล่นออกจากไร่ภูอิงฟ้ามุ่งหน้าสู่บ้านไร่ปันรัก คันที่นำหน้าเป็นคันของทีมเจรจาสู่ขอ มีพ่อเพชร แม่กระแต พ่อนนท์ แม่พราว เพชรนิล และบุคคลสำคัญที่ทุกคนคิดว่าป๋าฟ้าจะต้องเกรงใจคือ คุณปู่ประภาส คุณย่าแพรวพรรณ ซึ่งทั้งสองท่านรู้จักมักคุ้นกับคุณพ่อคุณแม่ของป๋าฟ้าเป็นอย่างดีส่วนรถตู้ที่ตามหลังคันที่สองนั้นเรียกว่าทีมกำลังใจ บนรถประกอบด้วยเพลิงตะวัน น้ำฝน วาโย กระเต็น พบรัก กระติ๊บ กวีและหนูพรรณ เรียกว่าอัดกำลังใจแน่นมาเต็มคันรถ และพร้อมนำกระต่ายน้อยส่งโรงพยาบาลทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น“อื้อฮือ! พ่อตาไอ้กระต่ายน้อย เตรียมปืนไว้ยิงฉลองเปิดงานการเจรจาสู่ขอแน่ๆ” เพลิงตะวันว่าติดตลกแต่ทั้งรถไม่มีใครตลกด้วย เพราะเมื่อมองตรงไปยังเฉลียงหน้าบ้านที่รถกำลังเคลื่อนเข้าไปใกล้ก็เห็นว่า ป๋าฟ้าประทับกระบอกป
คนถูกกล่าวหาว่าเป็นสมภารหน้าหงิก หันไปมองซ้าย ไอ้พี่วีก็เงยหน้าหัวเราะลั่นอย่างสะใจ หันไปทางขวา พี่ชายไก่วัดที่ถูกเขาจับกินก็หันมาสบตาเขาทั้งยิ้มเยาะ เออ...ก็แค่เอาน้องมาทำเมีย มันผิดตรงไหนเล่า น้องก็น้องคนละสายเลือด อีกอย่างลุงเพชรเต็มใจยกน้องให้เขาเองด้วย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทำน้องป่องทั้งที่ยังเรียนไม่จบเหมือนไอ้กระต่ายน้อยสักหน่อยเพลิงตะวันถอนหายใจหงุดหงิด เมื่อเถียงไม่ออก เขาก็เลิกคุยกับพวกชอบรุม หันไปหาน้องชายที่ตากำลังจะปิดมิปิดแหล่อยู่“สรุปว่ามึงรักจริงหวังแต่ง แต่เพราะน้องน่ารักเลยอดใจไม่ไหวใช่ไหม” สามหนุ่มใหญ่ที่นั่งฟังเพลิงตะวันเค้นคนเมาพากันส่ายหน้า เรื่องชาวบ้านนี่วุ่นวายกับเขาจริงๆ ไอ้เพลิงเอ๊ย!“ผมพยายามอดใจแล้วนะโว้ย! พี่รู้ไหม ตอนแรกผมไม่กล้าทำอะไรหนูจ๋า ผมกลัวน้องตื่นตกใจ กลัวน้องไม่รัก กลัวน้องไม่มาหา ผมต้องอดทนอดกลั้น ผมโคตรทรมานเลย พี่เพลิงเข้าใจใช่ไหม เข้าใจความทรมานของผมใช่ไหม เข้าใจใช่ไหม” กระต่ายน้อยว่าเสียงอ้อแอ้ พร้อมทั้งใช้กำปั้นตบอกตัวเองดังปึ้กๆเพลิงตะวันยื่นมือไปตบบ่าคนเมาเบาๆ“เออ...พี่เข้าใจ”“พี่เป็นพี่ท