แชร์

ความรู้สึกแปลกๆ

ผู้เขียน: มิลเลียนาห์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-20 10:25:50

ความไม่แน่ใจทำให้ข้าวหอมขยับตัวเล็กน้อย เธอยกแขนขึ้นกอดอกแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่มาหวั่นไหวกับคำพูดเล่นๆ ของเขาแบบนี้

…เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว! เธอต้องเลิกใส่ใจคำพูดของเขาให้ได้!

ดวงตาคมเหลือบมองเด็กสาวข้างๆ ที่ยังนั่งกอดอก หน้าบูดเหมือนกำลังข่มความว้าวุ่นใจไว้เต็มที่ ความเงียบระหว่างพวกเขาไม่ได้อึดอัด… แต่มันกลับทำให้ธีร์ต้องใช้แรงทั้งหมดเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นอยู่ในอก

…บางทีเขาน่าจะแค่เงียบไปตั้งแต่แรก ไม่ควรเผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไปเลยจริงๆ

รอยยิ้มของเขาก็จางลงเมื่อความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว

แล้วถ้าเธอไม่ได้รู้สึกเหมือนเขาล่ะ?

ถ้าเธอแค่เขินเพราะคำพูดกำกวม ไม่ใช่เพราะรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเขา…

ธีร์กำมือที่จับพวงมาลัยแน่นโดยไม่รู้ตัว คำพูดเมื่อครู่มันหลุดออกไปตามสัญชาตญาณ เหมือนทุกครั้งที่เขามักแหย่เธอให้หน้าแดงเล่น แต่คราวนี้กลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม

บางที…เขาอาจจะพูดอะไรเกินไปจริงๆ

ถ้าเขาปล่อยให้ตัวเองเผลอแสดงอะไรออกไปมากกว่านี้ล่ะ?

ถ้าเธอจับได้… แล้วถอยห่างออกไปล่ะ?

คิดได้ดังนั้น เขาก็แค่หัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเลือกที่จะเงียบไป เหมือนไม่ได้ตั้งใจพูดอะไรออกมาแต่แรก

เขายอมให้ตัวเองแกล้งเธอ แหย่เธอให้โวยวายใส่เขาเหมือนเดิมดีกว่า ดีกว่าต้องมานั่งเห็นเธอสร้างกำแพงกั้นเขาออกไปจากชีวิต…

และถ้าต้องแลกกับการได้อยู่ข้างเธอแบบนี้ต่อไป

…เขาก็ยอมทำเป็นไม่รู้สึกอะไรต่อไปก็ได้

ไม่นานนัก รถก็เคลื่อนเข้ามาจอดที่ลานจอดประจำมหาวิทยาลัย ข้าวหอมรีบปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูออกทันที ราวกับต้องการหนีจากบรรยากาศชวนให้ใจเต้นเมื่อครู่

ข้าวหอมก้าวลงจากรถ ยืนนิ่งอยู่ข้างตัวรถชั่วครู่ แล้วกวาดตามองไปรอบๆ

บรรยากาศของมหาวิทยาลัยในช่วงเช้าคึกคักไปด้วยนักศึกษาที่เดินขวักไขว่ บ้างเดินถือหนังสือหนาเตอะ บ้างรวมกลุ่มคุยกันเฮฮา เสียงหัวเราะและเสียงกดชัตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือดังเป็นระยะ ทำให้ข้าวหอมรู้สึกถึงชีวิตชีวาของที่นี่

“วันแรกดูคึกคักกันดีจัง” ข้าวหอมพูดพึมพำกับตัวเองในขณะที่สายตายังคงสำรวจไปทั่ว

ธีร์เดินอ้อมมาจากฝั่งคนขับ สายตาเผลอหยุดอยู่ที่ข้าวหอมที่ยืนอยู่ข้างรถ ดวงตากลมโตของเธอกวาดมองรอบตัวด้วยความสนอกสนใจ แววตาที่สดใส รอยยิ้มที่เผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเบื่อเลย

เธอเป็นคนที่เข้ากับทุกสถานที่ได้ง่ายดาย แค่ยืนเฉยๆ ก็ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ข้าวหอมไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเธอมีอิทธิพลต่อตัวเขามากแค่ไหน

ธีร์กระแอมเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปสะกิดสายกระเป๋าเธอเล่น พลางพูดแหย่ “อย่ามัวแต่มองเพลิน เดี๋ยวก็หลงหรอก”

ข้าวหอมละสายตาจากบรรยากาศรอบตัว หันมายิ้มให้เขาอย่างสดใส “ข้าวหอมจะหลงได้ไง ก็มีพี่ธีร์อยู่ด้วย”

เพียงคำพูดสั้นๆ แต่กลับทำให้ธีร์ชะงักไป

ธีร์เบือนหน้าหนี พยายามซ่อนความรู้สึกวูบหนึ่งที่แล่นผ่าน หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะกับคำพูดใสซื่อนั่น… ข้าวหอมคงไม่ได้คิดอะไร แต่สำหรับเขา มันกลับส่งผลมากกว่าที่ควรจะเป็น

แค่คำพูดสั้นๆ กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รับการยืนยันถึงตำแหน่งของตัวเองในชีวิตเธอ แม้เธออาจจะไม่ได้ตั้งใจพูดให้ลึกซึ้ง แต่สำหรับธีร์ มันคล้ายกับการตอกย้ำว่าเธอยังคงเห็นเขาเป็น ‘พี่ชาย’ ที่เธอเชื่อใจ เป็น ‘พี่ธีร์’ ที่เธอพึ่งพาเสมอมา ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย

…มีเพียงเขาเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง

“ก็ดี… งั้นอย่าทิ้งพี่ไปล่ะ” เขาพูดออกไปเรียบๆ พยายามทำให้มันฟังดูปกติที่สุดทั้งที่ในใจรู้ดีว่าความหมายจริงๆ ของมันลึกซึ้งกว่านั้นมากนัก

ข้าวหอมขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดกำกวมนั้น แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรจริงจังนัก

“พี่ธีร์พูดอะไรเนี่ย ข้าวหอมไม่ได้เดินหนีสักหน่อย”

ธีร์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินนำไป “งั้นก็รีบเดินตามมา อย่ามัวแต่โอ้เอ้”

ข้าวหอมรีบก้าวตาม พลางอมยิ้มขำกับตัวเอง แต่สำหรับธีร์... เขาไม่ขำไปกับเธอ เพราะตอนนี้... คำว่า ‘ข้าวหอมจะหลงได้ไง ก็มีพี่ธีร์อยู่ด้วย’ ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่ไปไหนเลย

ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงสวนริมน้ำที่มีนักศึกษานั่งอยู่กันเกือบเต็ม ข้าวหอมกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจ ที่นี่ดูร่มรื่น ลมเย็นพัดผ่านให้ความรู้สึกสบาย เหมาะสำหรับมานั่งพักชิลๆ หลังเลิกเรียน

แต่ทันทีที่พวกเขาเดินผ่านโต๊ะหนึ่ง เสียงเรียกที่ฟังดูตั้งใจเรียกเป็นพิเศษก็ดังขึ้น

“พี่ธีร์คะ~”

ข้าวหอมหันไปตามเสียง ก่อนจะพบกลุ่มนักศึกษาสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวเฉี่ยวกำลังจ้องธีร์ด้วยแววตาเป็นประกาย ดูจากชุดที่พวกเธอใส่ ก็คงเป็นรุ่นพี่ของเธอแน่ๆ และที่สำคัญคือพวกเธอคงรู้จักธีร์กันดีอยู่แล้ว

ก็ไม่น่าแปลก... ธีร์เป็นเดือนคณะและหนุ่มฮอตที่ใครๆ ก็หมายตา การที่มีสาวๆ เรียกเขาแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ

ธีร์หยุดฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปส่งยิ้มตามมารยาทให้พวกเธอ ข้าวหอมเห็นรอยยิ้มจางๆ นั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“พี่ธีร์ นั่งด้วยกันก่อนไหมคะ~” หนึ่งในกลุ่มเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ดวงตาหวานเยิ้มเต็มไปด้วยความตั้งใจที่ชัดเจน

“ใช่ค่ะ ไม่เห็นพี่ธีร์แวะมานั่งที่นี่นานแล้วเลย~” อีกคนเสริมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม

ข้าวหอมกะพริบตาปริบๆ มองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมานะ?

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   หรือว่าคิดจะเดินวนเล่นให้ใครบางคนมาส่งแทน?

    พวกมันสองคนหัวเราะอย่างสนุกสนานกับมุกที่โยนมาใส่เขา แต่ธีร์กลับไม่ขำด้วยเลยสักนิดรอยยิ้มที่เคยมีกระตุกไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปจากใบหน้าอย่างช้าๆบรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาเงียบลงไปชั่วขณะโดยปกติแล้ว ธีร์เป็นคนเฟรนด์ลี่ ขี้เล่น และมักเป็นศูนย์กลางของกลุ่ม ต่อให้ถูกเพื่อนแซวแรงแค่ไหน เขาก็มักจะรับมือได้ด้วยมุกกวนๆ หรือรอยยิ้มสบายๆ แต่ครั้งนี้... เขาไม่ได้ตั้งใจเล่นไปตามมุกของพวกมันเลยธีร์ชะงักไปชั่ววินาที ดวงตาคมจัดตวัดมองเพื่อนสนิทช้าๆ ไม่มีท่าทีโกรธเกรี้ยว ไม่มีคำพูดเถียงกลับ แต่กลับให้ความรู้สึกกดดันอย่างประหลาดเขาเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างที่ไม่เคย"น้องสาวกู ห้ามยุ่ง จำไว้เลย"น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดังขึ้น แต่กลับกดต่ำลงกว่าเดิมเล็กน้อย คำพูดของเขาฟังดูเรียบนิ่ง ไม่มีคำหยาบคาย ไม่มีโทนเสียงแข็งกร้าว มีเพียงแววตาเย็นเฉียบที่ส่งผ่านความหมายบางอย่างให้พวกมันรับรู้บอลกับเบสที่เมื่อครู่ยังหัวเราะกันสนุกสนานเผลอหยุดไปชั่วขณะ มองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างรู้ตัวว่าเผลอเล่นผิดเรื่องแล้ว"เอ้า ใจเย็นดิวะ กูแค่แซวเล่น" บอลรีบยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ พยายามทำใ

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   พี่ชายนี่ขี้หวงหรือเปล่า?

    ธีร์ไม่ได้ปล่อยมือเธอ แม้ข้าวหอมจะพยายามขยับข้อมือหนี เขาก็ยังจับไว้แน่น ราวกับต้องการประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเธอเป็นของเขา ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะไม่มีสิทธิ์คิดแบบนั้นก็ตามเขากวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นสายตาของนักศึกษาหนุ่มที่เหลือบมองข้าวหอมด้วยความสนใจแล้วก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม ใจหนึ่งก็หงุดหงิด อีกใจหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะหวง ทั้งที่รู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์หวงเธอในแบบนั้นธีร์เดินมาส่งข้าวหอมจนถึงหน้าคณะศิลปศาสตร์ มือของเขายังคงกอบกุมมือของเธอไว้ตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงจุดที่ต้องแยกกัน เขาถึงได้คลายมือออกช้าๆ ทิ้งไว้เพียงไออุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนที่รับรู้ถึงสัมผัสนั้น รอบตัวเต็มไปด้วยสายตาของนักศึกษาคนอื่นๆ ที่หันมามองกันเป็นแถว บ้างแอบมองผ่านหางตา บ้างกระซิบกระซาบกันเบาๆ ข้าวหอมรู้สึกถึงแรงกดดันทันที“พี่ธีร์…” เธอเงยหน้ามองเขา คล้ายจะถามว่า ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ต่อหน้าคนเยอะแยะ?! แต่ธีร์กลับแค่ยิ้มขำๆ เหมือนไม่ได้สนใจอะไรเลย“ส่งถึงที่แล้วนะตัวเล็ก” เขาพูดพลางล้วงกระเป๋ากางเกง ยืนมองเธออย่างใจเย็น ผิดกับข้าวหอมที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเป็นเป้าส

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   ตัวเล็กของพี่

    ธีร์ไม่ได้ตอบรับ เพียงแค่ยกยิ้มบางๆ ก่อนจะพูด“ไม่ดีกว่า พี่ไม่สะดวกน่ะ”คำตอบสั้นๆ ของเขาทำให้บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ นักศึกษาสาวกลุ่มนั้นแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาชัดเจน แต่ยังไม่วายพยายามต่อ“เอ๊ะ... แล้วนั่นใครเหรอคะ?” หนึ่งในนั้นเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ข้าวหอม สายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น“น้องสาวเหรอ?”ข้าวหอมชะงัก รู้สึกเหมือนถูกเพ่งเล็งขึ้นมาทันที เธอกำลังจะอ้าปากตอบอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันได้พูด ธีร์ก็เอื้อมมือมาคว้ามือเธอมากุมไว้แน่น นิ้วสอดประสานกันอย่างแนบสนิทข้าวหอมตกตะลึง หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งรอบสนามสักห้ารอบ เธอพยายามดึงมือออกตามสัญชาตญาณ แต่ธีร์กลับบีบไว้แน่นขึ้นไม่ยอมปล่อย“ก็น่าจะ...ประมาณนั้นล่ะมั้งครับ”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างคลุมเครือ กลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปทันทีกลุ่มนักศึกษาสาวที่มองธีร์ด้วยสายตาชื่นชอบถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ บางคนขมวดคิ้ว บางคนเม้มริมฝีปากอย่างขัดใจ และบางคนถึงกับถอนหายใจแรงราวกับพยายามระงับอารมณ์ สายตาหลายคู่ตวัดมามองข้าวหอมอย่างเห็นได้ชัด เต็มไปด้วยความอิจฉาปนสงสัยข้าวหอมรู้สึกถึงแรงกดดันจากสายตาเห

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   ความรู้สึกแปลกๆ

    ความไม่แน่ใจทำให้ข้าวหอมขยับตัวเล็กน้อย เธอยกแขนขึ้นกอดอกแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่มาหวั่นไหวกับคำพูดเล่นๆ ของเขาแบบนี้…เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว! เธอต้องเลิกใส่ใจคำพูดของเขาให้ได้!ดวงตาคมเหลือบมองเด็กสาวข้างๆ ที่ยังนั่งกอดอก หน้าบูดเหมือนกำลังข่มความว้าวุ่นใจไว้เต็มที่ ความเงียบระหว่างพวกเขาไม่ได้อึดอัด… แต่มันกลับทำให้ธีร์ต้องใช้แรงทั้งหมดเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นอยู่ในอก…บางทีเขาน่าจะแค่เงียบไปตั้งแต่แรก ไม่ควรเผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไปเลยจริงๆรอยยิ้มของเขาก็จางลงเมื่อความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวแล้วถ้าเธอไม่ได้รู้สึกเหมือนเขาล่ะ?ถ้าเธอแค่เขินเพราะคำพูดกำกวม ไม่ใช่เพราะรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเขา…ธีร์กำมือที่จับพวงมาลัยแน่นโดยไม่รู้ตัว คำพูดเมื่อครู่มันหลุดออกไปตามสัญชาตญาณ เหมือนทุกครั้งที่เขามักแหย่เธอให้หน้าแดงเล่น แต่คราวนี้กลับรู้สึกไม่เหมือนเดิมบางที…เขาอาจจะพูดอะไรเกินไปจริงๆถ้าเขาปล่อยให้ตัวเองเผลอแสดงอะไรออกไปมากกว่านี้ล่ะ?ถ้าเธอจับได้… แล้วถอยห่างออกไปล่ะ?คิดได้ดังนั้น เขาก็แค่หัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเลือกที่จะเงียบไป เหมือนไม่ได้ตั้

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   แล้วตัวเล็กเข้าใจผิดหรือเปล่าล่ะ?

    ธีร์นั่งลงที่เบาะคนขับ มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยอย่างหลวมๆ แต่มั่นคง มืออีกข้างเสียบกุญแจแล้วบิดสตาร์ทรถ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลกจากทุกเช้า ยกเว้นแค่หัวใจของเขาที่ดันเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ช่างเถอะ ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่ไปมหา’ ลัยพร้อมข้าวหอมแค่นั้นเองเขาขับรถออกไปอย่างไม่เร่งรีบในขณะที่เสียงบ่นอุบอิบดังมาจากที่นั่งข้างๆ“พี่ธีร์! มายุ่งอะไรกับผมข้าวเนี่ย” ข้าวหอมบ่นออกมาอย่างหัวเสียพลางใช้มือจัดทรงผมตัวเองขณะมองกระจกหน้ารถ สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างจากลูกเจี๊ยบที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ผมฟูยุ่งเหยิงไปหมดเพราะฝีมือของคนข้างๆธีร์ที่กำลังขับรถเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขำออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา “พี่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ไง”ข้าวหอมหันขวับไปมองเขาตาขวาง “ใครขอให้พี่ช่วย!”ธีร์ไม่ได้ตอบในทันที เขายกมือขึ้นปรับกระจกมองหลังอย่างใจเย็นเหมือนไม่ได้ยินเสียงโวยวายของเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ก็เห็นทำหน้างอแล้วมันสนุกดี เลยอยากแกล้ง”ข้าวหอมจ้องเขาอย่างไม่ไว้ใจ ท่าทางสบายๆ ของธีร์นั่นทำให้เธออดรู้สึกหมั่นไส้เขาไม่ได้“พี่นี่มัน... ว่างเกินไปใช่ไหม หือ?”“อืม... ก็อาจ

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   คนขี้แกล้ง

    “ก็ช่วยให้ธีร์มันขยับสักทีไง” หมวยถอนหายใจ “พ่อไม่เห็นเหรอว่าลูกเราน่ะเป็นเอามาก แอบชอบข้าวหอมขนาดนั้น ยังไม่ยอมพูดอะไรเลย เดี๋ยวก็โดนคนอื่นคาบไปหรอก”แมนเลิกคิ้ว ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด“อืม... จริงแฮะ มัวแต่เก็บไว้แบบนี้ เดี๋ยวก็อดแน่ๆ ใช้ไม่ได้เลยนะเจ้าลูกชายคนนี้ ต้องให้พ่อแม่ช่วยอีกแน่ะ”หมวยหัวเราะออกมากับท่าทีนั้น เธอเองก็รู้ดีว่าธีร์รู้สึกยังไงกับข้าวหอม แต่อีกฝ่ายก็เก็บอาการเก่งเกินไป“เด็กเฟรชชี่แบบข้าวหอมเนี่ยนะ นิสัยก็ดี หน้าตาก็น่ารัก แม่ว่าไม่เกินเดือน เดี๋ยวมีคนมาจีบแน่นอน”แมนแค่หัวเราะขำให้กับความเป็นห่วงลูกของหมวย“ปล่อยเด็กๆ ไปเถอะ อย่างเรายังจัดการกันได้เลย จริงไหม?”ว่าแล้วเขาก็โอบเมียเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ให้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ“แมน! จะทำอะไร... ว้าย!!” หมวยร้องลั่นเมื่อโดนสามีอุ้มขึ้นกลางอากาศดื้อๆ“อย่าดิ้นสิเมียจ๋า เดี๋ยวตก” แมนว่าอย่างอารมณ์ดี เดินดุ่มๆ พาเธอเข้าไปในห้องนอนอย่างไม่สนเสียงประท้วงของเธอ“แมน! เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดหรอก!”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่ออุ่นให้ใหม่~”ประตูห้องปิดลง พร้อมกับเสียงเอ็ดของหมวยที่ดังขึ้นมาเป็นระลอก แต่ไม่นานนัก... เสีย

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   ภารกิจที่ทำให้หัวใจวุ่นวาย

    ใครจะไปคิดว่าการรับ-ส่งเด็กข้างบ้าน จะกลายเป็นภารกิจที่ทำให้หัวใจของธีร์วุ่นวายที่สุดในชีวิตธีร์ไม่ใช่คนตื่นเต้นง่าย โดยเฉพาะเรื่องไปมหาวิทยาลัย... ทั้งที่แค่จะไปมหา’ ลัย... ก็แค่เปิดเทอมวันแรกปีสุดท้ายของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่เช้านี้มันต่างออกไปเพราะเขาจะได้เจอ ‘ข้าวหอม’ ทุกวัน...และนั่นมันเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่เขาคิดแม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้ โตมาด้วยกันในซอยแคบๆที่เด็กวิ่งไล่จับกันแทบทุกเย็น แต่ตอนนี้ ‘เด็กข้างบ้าน’ คนนั้นไม่ใช่เด็กอีกแล้วเธอใส่ชุดนักศึกษา...และเธอก็น่ารักจนใจเขาโคตรจะไม่ปลอดภัยเขารีบคว้ากระเป๋าแล้วพุ่งตัวลงบันไดด้วยความเร็ว ใจมันรีบไปหาคนที่อยู่บ้านข้างๆ แต่เท้าเกือบสะดุดขั้นบันไดเพราะเสียงบางอย่าง เสียงที่ดังมาจากครัวเสียงพูด เสียงหัวเราะ... ที่หวานจนชวนเลี่ยนธีร์ชะงักฝีเท้าเบาลงโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ดวงตาจะหันไปเห็นภาพประจำบ้านที่ไม่มีวันชินแมนกับหมวย พ่อกับแม่ของเขา ตัวต้นแบบของคู่แต่งงานที่โลกไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างพ่อยังคงรัดเอวแม่ไว้แน่นจากด้านหลังในขณะที่แม่กำลังทอดไข่เจียวอยู่หน้ากระทะ กลิ่นไข่เจียวอาจจะหอม... ถ้าไม่ติดว่ามันมากับกลิ่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status