Share

บทที่ 0012

บนรถเกิดความเงียบเป็นเวลานาน

ป๋อจิงโจวหันศีรษะมาและมองดูเธอ “ก็เพราะว่าคุณโง่ ป่วยทางจิต และตาบอดไง”

“จริง ๆ ฉัน……” เสิ่นหว่านฉือยิ้มด้วยความโกรธ “ทำไมต้องเสียเวลาคุยกับคนไม่มีสติกันน่ะ?”

เธอหันกลับไปจะเปิดประตูรถ แต่ป๋อจิงโจวคว้าเธอไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจ

หลีไป๋ที่อยู่ข้างนอกเห็นว่าด้านในรถไม่มีความเคลื่อนไหว เขาจึงเคาะกระจกรถอย่างร้อนใจ “หวานหว่าน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“หวานหว่าน?” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ยังไม่ทันหย่าคุณก็อดใจรอไม่ไหวอยากจะไปหาผู้ชายคนอื่นซะแล้วเหรอ? แต่สเปคการเลือกผู้ชายของคุณนี่ลดลงไปเยอะเลยนะ”

ประโยคสุดท้าย ป๋อจิงโจวกัดฟันพูดด้วยความโกรธ

เสิ่นหว่านฉือขี้เกียจที่จะอธิบายความเข้าใจผิดของเขา อย่างไรก็แล้วแต่มันไม่สำคัญอยู่แล้ว

“ใช่น่ะสิ การเลือกผู้ชายของฉันมันแย่ ไม่ใช่ว่าฉันก็เลือกแต่งงานมาแล้วคนหนึ่งเหรอ? ฉันกับหลีไป๋เป็นแค่เพื่อนร่วมงา....เพื่อนกัน ตัวคุณเองสกปรก อย่าคิดว่าคนอื่นจะสกปรกเหมือนกับคุณสิ”

เธอทำให้เขาสำลักได้ แต่คุณไม่สามารถลากคนที่เขาไม่ได้ผิดอะไรไปเดือดร้อนได้หรอกนะ

เธอไม่ได้บอกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เพราะไม่อยากจะเถียงกับป๋อจิงโจวอีกแล้ว อีกอย่างเรื่องพวกนี้ไม่ควรเป็นหัวข้อสำคัญที่พวกเขาสองคนควรจะต้องมาคุยกัน?

“คุณว่างเมื่อไหร่ เราจะไปที่สำนักงานอำเภอกันเพื่อดำเนินเรื่องหย่าร้างให้เสร็จสิ้น”

เมื่อได้ยินเธอพูดถึงเรื่องการหย่าอีกครั้ง ป๋อจิงโจวก็ขมวดคิ้วอย่างแรง

เสิ่นหว่านฉือไม่สนใจว่าเขาจะสีหน้าเป็นอย่างไร เธอยืนยันจะพูดว่า “ถ้าหากว่าเพราะสัญญายังไม่หมดอายุเรื่องนี้ล่ะก็ ฉันสามารถชดเชยค่าเสียหายล่วงหน้าให้คุณได้นะ”

ไม่รู้ว่าประโยคไหนที่ไปกระตุ้นทำให้ป๋อจิงโจวหงุดงหงิด ดวงตาของเขาแทบจะลุกเป็นไฟ

“คนรักใหม่คุณรู้ไหมว่าคุณแต่งงานแล้ว? ถ้าเขามาเห็นว่าคุณกับผมทำอะไรกันบนรถล่ะก็ เขาจะว่ายังไงนะ?”

เสิ่นหว่านฉือ ให้ตายเถอะ เขาได้ฟังที่เธอพูดบ้างหรือเปล่าเนี่ย?

แต่เมื่อสังเกตเห็นความเข้าใจอันลึกซึ้งในสายตาของเขา ใจของเสิ่นหว่านฉือก็เต้นอย่างแรง!

ช่วงเวลาต่อมา ป๋อจิงโจวบอกเธอผ่านการกระทำว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น

มือของเขาจับเอวเรียวของเธอแล้วโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วก็ก้มหน้าลงจูบเธอ——

มีที่วางของกั้นระหว่างกลางของพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถหยุดการกระทำของเขาได้เลยแม้แต่น้อย

มือของเขาข้างหนึ่งแตะที่ปุ่มด้านล่างเบาะนั่ง มืออีกข้างประคองเอวของเสิ่นหว่านฉือ เบาะนั่งถูกปรับให้ราบลงไป แล้วตัวของเธอก็ถูกตัวเขาทับเอาไว้

เป็นครั้งแรกที่เสิ่นหว่านฉือเห็นป๋อจิงโจวควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ เธอดิ้นแล้วพูดว่า “คุณปล่อยฉันนะ!”

การที่เธอดิ้นนั้น ทำให้รถแกว่งไปมา และเสียงเคาะกระจกด้านนอกก็หยุดกะทันหัน

ฉากแบบนี้……

จะไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดนั้นคงจะยากหน่อย!

เสิ่นหว่านฉือไม่กล้าขยับตัวทันที เธอจ้องป๋อจิงโจว ดวงตาของเธอแดงและริมฝีปากที่ถูกจูบนั้นบวมแดงเหมือนถูกรังแกอย่างหนัก

เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ อารมณ์ของป๋อจิงโจวก็ผ่อนคลายลง เขายกมือขึ้นกดระหว่างคิ้ว “เขาไปแล้ว ผมไม่แตะต้องคุณแล้ว”

ทันทีที่เขาถอยออกไป เสิ่นหว่านฉือก็วุ่นกับการรีบจัดเสื้อผ้าและผมที่ยุ่งของเธอให้เรียบร้อย จากนั้นเปิดประตูและลงจากรถ เสียงปิดประตูกระแทกอย่างแรง!

ป๋อจิงโจว……

หลีไป๋ที่อยู่นอกรถเห็นประตูเปิดออกแล้วรีบเดินเข้ามา “หวานหว่าน คนบนรถได้รังแกคุณหรือเปล่า?”

ทันทีที่ประตูรถปิด เขาเห็นผู้ชายที่อยู่บนรถ ดวงตาคู่นั้นแวววาวและชัดเจนราวกับสระน้ำที่ไม่มีก้นบึ้ง

แถมเสื้อผ้าที่เขาสวมนั้น หลีไป๋เคยเห็นในนิตยสารซึ่งราคาอย่างน้อยต้องหลักล้านได้

แถมรถคนนี้ยัง……

ไม่ว่าจะมองอย่างไรคนดังกล่าวก็ไม่น่าเป็นคนขับแท็กซี่ได้

เสิ่นหว่านฉือรู้ถึงความสงสัยของหลีไป๋ เธอแค่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณไปกินข้าวเถอะค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

เธอเรียกรถแท็กซี่ โดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูด เธอบอกที่อยู่ชุมชนเล็ก ๆ ที่เช่าใหม่ แล้วรถก็ขับออกไปท่ามกลางฝุ่นควัน……

เมื่อกลับถึงบ้าน เสิ่นหว่านฉือไปห้องอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็โทรหาทนายความที่เคยช่วยเธอเตรียมข้อตกลงในการหย่าร้าง——

“ทนายลู่คะ กรณีของฉันนี่ ถ้าฉันต้องการฟ้องหย่า จะมีโอกาสชนะคดีมากแค่ไหนคะ?”

“ถ้าคุณต้องการแบ่งทรัพย์สินตามที่ต้องการก่อนหน้านี้……ก็คงยากครับ” ทนายลู่รู้สึกประทับใจกับคดีของเสิ่นหว่านฉือเป็นพิเศษ ประการแรกคือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมาก และประการที่สองคือตัวตนของฝ่ายชาย

“แล้วถ้าไม่สนเรื่องทรัพย์สินล่ะคะ?”

เดิมทีเสิ่นหว่านฉือไม่คาดหวังที่จะได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินของป๋อจิงโจวด้วยซ้ำ ตอนนั้นที่จดรายการไว้ เธอเพียงแค่อยากทำให้เขารู้สึกรังเกียจเธอ

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูว่าประธานป๋อต้องการหย่ามากแค่ไหนครับ คดียังสู้ได้ แต่ถ้าหากว่าประธานป๋อไม่เห็นด้วย เวลาก็จะยิ่งยืดเยื้อไปอีกนานครับ หากไม่มีความรุนแรงในครอบครัวหรือความขัดแย้งที่เข้ากันไม่ได้ ปกติแล้วผู้พิพากษามักจะสนับสนุน-จบแบบสันติ หากในครั้งแรกไม่ได้พิพากษาหย่าร้าง การยื่นอุทธรณ์ต้องรออีกสามเดือนครับ”

เสิ่นหว่านฉือคิดว่าเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดที่ป๋อจิงโจวยึดถือเธอก็คือเธอเริ่มการหย่าร้างก่อน ซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติเขา และจังหวะเวลานั้นก็บังเอิญเกินไป ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเจี่ยนเวยหนิงเป็นเมียน้อย

แต่ว่าพวกเขาแต่งงานกันแบบไม่เปิดเผย หากว่าขึ้นศาล ทุกคนจะรู้เรื่องการแต่งงานของพวกเขา และเจี่ยนเวยหนิงที่ถูกติดป้ายว่าเป็นเมียน้อยนั้นก็คงไม่สามารถเอาออกได้!

เพื่อเจี่ยนเวยหนิง ป๋อจิงโจวต้องยอมหย่าแน่ ๆ

เสิ่นหว่านฉือเม้มริมฝีปากของเธอแล้วพูดว่า “ทนายลู่คะ รบกวนช่วยฉันร่างจดหมายทวงถามและส่งให้เขาก่อนทีนะคะ”

หลังจากวางสาย เธอก็ถอนหายยาว……

ทนายลู่ทำงานรวดเร็วมาก ในเช้าวันรุ่งขึ้นป๋อจิงโจวก็ได้รับจดหมายทวงถามแล้ว

ทุกครั้งที่ส่งพัสดุด่วนไปที่ป๋อจิงโจว เฉินสวี่ต้องดูผ่าน ๆ ตาก่อนสักรอบ ขณะที่เขาเห็นสิ่งนี้เขาก็คิดว่าท่าไม่ดีแน่ ๆ

เป็นอย่างที่คิด ขณะนี้บรรยากาศภายในสำนักงานนั้นเคร่งขรึมอย่างมาก เขาเห็นประธานป๋อสีหน้าเย็นชาเหมือนกับน้ำแข็ง เขาพูดด้วยเสียงสั่นเทาว่า “ประธานป๋อครับ คุณหนูเสิ่นเธอน่าจะล้อเล่นแหละครับ”

ป๋อจิงโจวเงยหน้า มองไปที่เฉินสวี่อย่างเย็นชา “ไปดูหน่อยว่าช่วงนี้เสิ่นหว่านฉือเธอกำลังทำอะไร”

เธอได้งานที่รายได้ดีหรือว่าไปคบกับคนที่มั่นคงแล้วกันแน่ เธอถึงได้มั่นใจกล้าส่งจดหมายทวงถามมาหาเขาขนาดนี้!

ถ้าจะหาที่ที่เสิ่นหว่านฉือไปนั้นไม่ยาก เมื่อกลางวันเฉินสวี่ได้รับข่าวที่แม่นยำ “ตอนนี้คุณหนูเสิ่นทำงานที่จิงหยวนสตูดิโอครับ”

“จิงหยวน?”

“สตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม มีชื่อเสียงมากในแวดวงนั้น โครงการที่ทำล้วนเป็นโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมระดับสูง คนที่เข้าร่วมที่นี่ได้คือคนที่มีความสามารถชั้นยอดและเป็นสมบัติของชาติเลยครับ”

ป๋อจิงโจวขมวดคิ้ว เขาไม่เคยเห็นเสิ่นหว่านฉือทำอะไรพวกนี้มาก่อน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะจบการศึกษามหาวิทยาลัยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์อะไรสักอย่าง

“เธอยังมีความสามารถด้านการฟื้นฟูโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมด้วยเหรอ?”

“นั่นไม่ใช่ครับ คุณหนูเสิ่นกำลัง……ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่นั่นครับ”

เรื่องนี้ เฉินสวี่ไปที่นั่นด้วยตัวเอง เห็นเสิ่นหว่านฉือกำลังกวาดพื้นด้วยตาของเขาเอง เขาก็กลัวว่าจะเข้าใจผิด เลยตั้งใจถามใครสักคนและยืนยันว่าเธอเป็นพนักงานทำความสะอาด

“พนักงานทำความสะอาด?” ป๋อจิงโจวหัวเราะเยาะและโยนจดหมายทวงถามในมือทิ้งไป——

“เป็นเรื่องจริงที่เธอเป็นภรรยาที่อยู่บ้านไม่เคยต้องซักผ้าถูบ้านมามากพอแล้ว ว่างเกินจนต้องไปสัมผัสชีวิตจริง ผมไม่ควรตามใจเธอในช่วงสองปีที่ผ่านมา ปล่อยให้เธอทำงานทั้งวันเพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอก็ไม่คิดไปทำอะไรแบบนั้นแล้ว”

เฉินสวี่ “……”

อันที่จริง เขาคิดว่าคุณหนูเสิ่นดูน้อยใจมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในฐานะภรรยาของประธานตระกูลป๋อ เธอต้องทำงานบ้าน เช่น เสิร์ฟชาและน้ำ แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย แม้แต่อาหารเดลิเวอรี่ที่เธอสั่งก็ยังถูกโยนทิ้งลงถังขยะ

ถ้าเป็นคนอื่นคาดว่าคงเอากล่องอาหารเดลิเวอรี่ตบที่หน้าผากประธานป๋อไปแล้ว!

“ออกไปได้” หลังจากโบกมือให้เฉินสวี่ออกไป ป๋อจิงโจวก็กดหมายเลขโทรศัพท์ของเสิ่นหว่านฉือ……

ในขณะนี้เสิ่นหว่านฉือกำลังทำงานซ่อมแซมที่ละเอียดอ่อน และเสียงโทรศัพท์สั่นทำให้เธอเกือบจะทำผิดพลาด

เดิมทีก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นชื่อบนหน้าจอที่กำลังสั่นนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดหนักมากกว่าเดิม

เธอรู้ว่าทำไมป๋อจิงโจวถึงโทรมาหาเธอ เวลานี้เขาคงจะได้รับจดหมายทวงถามแล้ว

เมื่อรับสายโทรศัพท์นั้น เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงเหน็บแนมของเขาก็ดังขึ้นก่อน——

“เสิ่นหว่านฉือ เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ราคาที่อยู่อาศัยในจิงตูอยู่ที่เท่าไหร่?”

“อะไรนะ?”

“ด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดจากการกวาดพื้นของเธอน่ะ เกรงว่าแค่ค่าเช่าก็คงจ่ายไม่ไหวน่ะสิ?”

รู้สึกเหน็บแนมได้พอหอมปากหอมคอแล้วน้ำเสียงของป๋อจิงโจวก็อ่อนลง “การทะเลาะกันระหว่างสามีภรรยาเป็นอรรถรส แต่หลังจากทะเลาะกันเสร็จมันก็ไม่สนุกแล้ว ผมไม่มีเวลาเล่นละครหย่าร้างและแต่งงานใหม่แบบนี้กับคุณหรอกนะ ถ้าคุณย้ายกลับมาคืนนี้ ผมจะไม่ถือสาเรื่องที่คุณแสร้งทำในช่วงนี้”

เสิ่นหว่านฉือไม่ได้ฟังคำพูดของเขาอย่างละเอียด ยิ่งไม่คิดเรื่องที่เขาพูดถึง ‘การกวาดพื้น’ นั้นว่าหมายความว่าอะไร เธอได้ยินเพียงเขาวิพากษ์วิจารณ์เธอเรื่องเงินเดือนที่ต่ำของเธอ เรื่องที่เธอไม่มีกำลังพอจะเช่าบ้านและยังบอกด้วยว่าเธอแสร้งทำ!

“ป๋อจิงโจว คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ?” ไม่ว่าเงินเดือนของฉันจะต่ำแค่ไหน หรือแม้ต้องนอนใต้สะพานกัดหมั่นโถวกิน ฉันก็ไม่ย้ายกลับไปเด็ดขาด เอาอย่างนี้ไหม คุณรีบไปทำเอกสารกับฉันให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นก็เจอกันที่ศาล!”

เธอวางสายแล้วก็บล็อกเบอร์เขาไป——

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status