ในเช้าวันจันทร์ที่อากาศสดใส เด็กน้อยตัวอ้วนตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น เพราะเมื่อวานผู้เป็นแม่บอกว่าจะพาไปร้านขนมเจ้าประจำ ซึ่งเวลามาเที่ยวที่นี่ทีไร หม่าม้าจะพาน้องงามไปทุกที แค่คิดถึงบลูเบอรี่ชีสพายน้องงามก็น้ำลายไหลแล้ว
“ว้าว วันนี้หลานป้าแต่งตัวสวยจังเลย” ณฤดีเอ่ยชมหลานสาวที่วันนี้แต่งตัวสวย ด้วยชุดเดรสผ้ายีนสีน้ำเงินเข้มมีระบายลูกไม้สีขาวรอบตัว พร้อมด้วยพร็อพ เป็นกระเป๋าสะพายใบเล็ก ดูน่ารักน่าชัง
“หม่าม้าเป็นคนเลือกให้ค่ะ วันนี้หม่าม้าคนสวยจะพาหนูไปซื้อขนมเค้กด้วยน้า”
“งั้นเช้านี้น้องงามต้องทานข้าวเยอะ ๆ มีไข่ตุ๋นของโปรดหนูด้วยนะจ๊ะ” บัวบูชาพูดกับลูกสาว ก่อนจะอุ้มเด็กอ้วนนั่งบนเก้าอี้
“ได้เลยค่ะ หม่าม้า” ร่างเล็กนั่งโยกไปมาอย่างอารมณ์ดี
“เก่งจังเลยลูกสาวใครเนี่ย” บัวบูชาหอมแก้มอ้วนเบา ๆ ก่อนจะหันไปบอกให้ป้าฟองแม่บ้านตักข้าวให้
“เดี๋ยวแวะไปร้านขนมก่อนนะ ยังมีเวลาเหลือ” บัวบูชาบอกกับณฤดี ขณะที่ตักของโปรดให้บัวงามไปด้วย
“โอเค”
“วันนี้ไปท
ตอนนี้ทั้งห้องเหลือเพียงจันทรรัตน์ และบัวงามสองคน เด็กหญิงตัวน้อยคุยจ้อไม่หยุด เรียกเสียงหัวเราะให้หญิงสูงวัยได้เป็นอย่างดี ชีวิตที่เงียบเหงาเพราะทั้งสามี และลูกชายทำแต่งาน ได้มีเด็กน้อยมาเป็นเพื่อนคุยด้วยแบบนี้ก็ดีไม่น้อย“บัวงามเรียกคุณยายว่า คุณย่าได้ไหมจ๊ะ” หญิงสูงวัยถามเด็กน้อยที่ตอนนี้กำลังเล่นบทบาทสมมุติ“เอ๋...คุณย่า คือใครคะ?” เด็กน้อยถามอย่าสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน ก็น้องงามมีแต่คุณยายนี่น่า“คุณย่าก็คือ คุณแม่ของคุณพ่อไงจ๊ะ คุณยายมีลูกชาย ถ้าบัวงามเป็นหลานสาวก็ต้องเรียกคุณยายว่า คุณย่า หนูเข้าใจไหมจ๊ะ”บัวงามทำหน้ายู่ หัวคิ้วพันกันยุ่งเหยิง ปากน้อยเม้มนิด ๆ อย่างกำลังพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก เห็นแบบนั้นหญิงสูงวัยจึงหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู“ไม่ต้องคิดแล้วลูก สรุปก็คือเรียกว่าคุณย่า โอเคไหมจ๊ะ”“โอเคค่ะ” บัวงามตกลงทันที เพราะไม่อยากที่จะคิดเยอะ บัวงามปวดหัว“มากันแล้วเหรอลูก ตาศิรา มานี่มา แม่มีหลานสาวคนสวยมาแนะนำให้รู้จัก คนนี้ลูกสาว
ในเช้าวันจันทร์ที่อากาศสดใส เด็กน้อยตัวอ้วนตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น เพราะเมื่อวานผู้เป็นแม่บอกว่าจะพาไปร้านขนมเจ้าประจำ ซึ่งเวลามาเที่ยวที่นี่ทีไร หม่าม้าจะพาน้องงามไปทุกที แค่คิดถึงบลูเบอรี่ชีสพายน้องงามก็น้ำลายไหลแล้ว“ว้าว วันนี้หลานป้าแต่งตัวสวยจังเลย” ณฤดีเอ่ยชมหลานสาวที่วันนี้แต่งตัวสวย ด้วยชุดเดรสผ้ายีนสีน้ำเงินเข้มมีระบายลูกไม้สีขาวรอบตัว พร้อมด้วยพร็อพ เป็นกระเป๋าสะพายใบเล็ก ดูน่ารักน่าชัง“หม่าม้าเป็นคนเลือกให้ค่ะ วันนี้หม่าม้าคนสวยจะพาหนูไปซื้อขนมเค้กด้วยน้า”“งั้นเช้านี้น้องงามต้องทานข้าวเยอะ ๆ มีไข่ตุ๋นของโปรดหนูด้วยนะจ๊ะ” บัวบูชาพูดกับลูกสาว ก่อนจะอุ้มเด็กอ้วนนั่งบนเก้าอี้“ได้เลยค่ะ หม่าม้า” ร่างเล็กนั่งโยกไปมาอย่างอารมณ์ดี“เก่งจังเลยลูกสาวใครเนี่ย” บัวบูชาหอมแก้มอ้วนเบา ๆ ก่อนจะหันไปบอกให้ป้าฟองแม่บ้านตักข้าวให้“เดี๋ยวแวะไปร้านขนมก่อนนะ ยังมีเวลาเหลือ” บัวบูชาบอกกับณฤดี ขณะที่ตักของโปรดให้บัวงามไปด้วย“โอเค”“วันนี้ไปท
บริษัทดูแว็ง จำกัด“แก ไปกรุงเทพครั้งนี้จะเอาบัวงามไปด้วยจริงเหรอ?”“อืม อยากพาลูกไปเที่ยวกรุงเทพ” บัวบูชาตอบคำถามเพื่อนน้ำเสียง“แล้วตอนแกไปคุยงาน บัวงามจะอยู่กับใคร? อย่าบอกนะว่าจะเอาหลานฉันไปด้วย”“ใช่”“แกจะให้พ่อลูกเจอกันแล้วเหรอ?”“มั้ง”“แกว่าผัวเก่าแกจะรู้ไหม ว่าบัวงามเป็นลูกเขาอะ”“ไม่รู้สิ” บัวบูชายิ้มเล็กน้อย พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อนักสืบที่เธอจ้างมาแจ้งว่ามีคนสะกดรอยตามเธออยู่สองวัน และผู้ชายในรูปที่นักสืบส่งมาให้ก็คือศิราและคินน์ ซึ่งเธอจำได้ดี“แกเลยจะเอาบัวงามไปกระตุ้นความอยากรู้ของคุณศิรา ว่างั้น”“รู้ได้ไงอะ สมกับที่เป็นเพื่อนฉันมานาน แกนี่มันน่ากลัวจริง ๆ เปลี่ยนอาชีพไปเป็นหมอดูเถอะ” บัวบูชาว่าพลางทำตาโต“ฮ่า ๆ ใครกันแน่ที่ร้าย เจ้าแผนการ” ณฤดีมองบน“ธรรมดา” บัวบูชาหัวเราะพลางยักไหล่เบา ๆ&ldquo
“เอายังไงต่อ?” คินน์ถามขึ้นระหว่างที่พวกเขาสองคนกำลังขับรถกลับโรงแรม หลังจากที่ขับตามดูบัวบูชาไปจนถึงบ้านแล้ว“กูขอตามดูลูกกูอีกสักวัน พรุ่งนี้ค่อยกลับเที่ยวบินสุดท้ายตอนสี่ทุ่ม ตอนนี้กูรู้บ้าน รู้ที่ทำงาน รู้โรงเรียนลูกแล้ว กูขอกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพก่อน แล้วค่อยหาทางให้บัวมาเจอกูที่กรุงเทพ”“จะเอาเรื่องงานมาอ้างเหรอ?” คินน์เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ตอนนี้กูกับบัว มีเรื่องให้เกี่ยวข้องกันก็แค่เรื่องงานเท่านั้น”“อืม”บ้านกิจธนะวรกุลหลังทานข้าวเช้าเสร็จ ศิราก็เข้าไปพบผู้เป็นพ่อในห้องทำงานทันที ร่างสูงเดินมาจนถึงหน้าห้องทำงานขนาดใหญ่ซึ่งผู้เป็นพ่อใช้ทำงานหลังจากมอบตำแหน่งประธานให้เขา และรับตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสให้กับบริษัทศิรายืนอยู่ตรงประตูไม้สักรูปมังกรบานใหญ่ สูดลมหายใจเข้าลึก เขารู้สึกหนักใจเล็กน้อย เพราะการเข้าไปหาผู้เป็นพ่อครั้งนี้ก็คงต้องทะเลาะกันเหมือนอย่างทุกที มือหนายกขึ้นเคาะประตูสองครั้งเบา ๆก๊อก ก๊อก“เข้ามา” เสียงแหบของชายชราวัย ๖๕ ที่ทรงอำนาจดังขึ้น ก่อนที่ศิราจะผลักประตูเข้าไป“คุณพ่อมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมครับ” ศิราเอ่ยถามหลังจากที่นั่งลงเรียบร้
อดีต“ไงวะ ช่วงนี้มาบ่อยนะมึง” มาวินเอ่ยทักทายเจ้าของร่างสูงเพื่อนสนิทที่ช่วงนี้เห็นหน้าเห็นตาบ่อยกว่าปกติ“อืม” ตอบรับด้วยเสียงเย็นชา“ช่วงนี้เป็นอะไรของมึง เครียดเรื่องขึ้นเป็นประธานหรือไง”“อืม ช่วงนี้เบื่อ ๆ เรียกเด็กให้กูสักคนซิ”“เฮ้ย! เอาจริงดิ”“เอามาเถอะน่า ไม่ต้องพูดมาก”“ตามใจมึงแล้วกัน เมียงอนมากูไม่เกี่ยวนะเว้ย ได้กลายเป็นหมาไม่รู้ตัวนะบอกก่อน”ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ภายในบาร์ สายตาคมกริบทอดมองออกไปข้างหน้าอย่างเรื่อยเปื่อยคล้ายรอเวลาให้หมดลงไปก็เท่านั้น มือหนายกไวน์ขึ้นจิบเป็นระยะ ๆ ส่วนสาวน้อยนางหนึ่งที่ถูกเรียกมาบริการก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้าง ๆ เพราะชวนคุยก็แล้ว รินไวน์ให้ก็แล้ว อ่อยจนไม่รู้จะอ่อยยังไง ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วย เพราะอีกฝ่ายนั่งเงียบไม่พูดไม่จามาร่วมสองชั่วโมงแล้ว“เดินตามมานี่หน่อย” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืน แล้
ศิราที่ได้ให้เลขาจัดการสมัคร IG และสอนวิธีการเล่นไปบ้างแล้วในเบื้องต้น กำลังค้นหาชื่อแอคเค้าท์ที่ต้องการ ก่อนที่สายตาคมจะสะดุดตรงรูปโปรไฟล์ ชื่อก็ตรงไม่มีผิดสักตัวอักษร แต่ทำไมรูปโปรไฟล์เป็นรูปเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาว หน้าตาน่ารัก“ลูกใคร หน้าตาน่ารักน่าชัง” ศิราพึมพำ ในนั้นมีทั้งรูปทั้งคลิปอยู่ทั้งหมดร้อยกว่ารายการ มือหนากดเข้าไปดูรูปล่าสุดที่เจ้าของพึ่งโพสต์ไปเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ในรูปเป็นงานวันเกิดของเด็กหญิงตัวน้อยเจ้าของรูปหน้าโปรไฟล์ เจ้าตัวกำลังยิ้มอย่างมีความสุขถ่ายรูปคู่กับเค้กวันเกิดก้อนใหญ่ พร้อมข้อความใต้โพสต์“สุขสันต์วันเกิดน้องบัวงาม อายุครบ ๔ ขวบ หม่าม้าขอให้หนูมีความสุข เป็นที่รักของทุกคน และปีนี้ขอให้พี่นางฟ้าใจดีทำความฝันของหนูให้เป็นจริงนะคะ”ดวงตาสีดำสนิทฉายแววประหลาดใจ มือหนารีบกดย้อนไปดูโพสต์ ก่อนหน้า ทีละโพสต์ ทีละโพสต์ ส่วนมากที่เห็นจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของหนูน้อยที่ชื่อบัวงาม เช่น กินข้าวเช้ากับอะไร ไปเที่ยวที่ไหน หรือช่วงเวลาที่หนูน้อยงอแงเพราะไม่สบายศิราเลื่อนลงไปดูจนสุด ชาย