"เช็คเงินสด 20 ล้าน ค่าตอบแทนตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แล้วหนูจะไปไหนก็ไปได้เลยค่ะ พี่ให้เวลาหนู 3 วัน เก็บข้าวของออกจากคอนโดให้หมดนะคะ น้องการ์ตูนจะได้ย้ายของเข้ามาอยู่ต่อ" "นานไปค่ะ แค่วันเดียวก็พอแล้ว"
Lihat lebih banyakบัวบูชา เจ้าของใบหน้าเรียวงดงามราวเทพปั้น นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องทำงานส่วนตัวชั้นที่ยี่สิบ ของตึกพาณิชย์แฝดสูงสามสิบชั้น ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนสีเดียวกับเส้นผมละเอียดราวแพรไหมที่ยาวสลวย กำลังจดจ้องหน้าจอไอแพด ไล่สายตาอ่านข้อความพาดหัวข่าวบันเทิงซุบซิบดารา และนักธุรกิจคนดังในวันนี้
“นักธุรกิจหนุ่มหล่อ ทายาทเจ้าของโรงแรมดัง ควงสาวสวยดีกรีลูกเจ้าของห้าง ดินเนอร์สุดโรแมนติก ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านต่อ...”
“อื้อฮือ ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาซะด้วย” บัวบูชาพึมพำเสียงเบา ดวงตาเรียวยาวเบิกกว้างเล็กน้อย เรื่องราวในอดีตเมื่อเจ็ดปีก่อนหวนคืนมาในความทรงจำอีกครั้ง ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อเม้มเป็นเส้นตรง เมื่อใบหน้าของชายหนุ่มคนในข่าว กระจ่างชัดเข้ามาในห้วงความนึกคิดอีกครั้ง
มือบางเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์แบรนด์เนมสีดำใบโปรดออกมาจากกระเป๋าถือ หยิบรูปถ่ายที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นออกมาดู รูปภาพสี่เหลี่ยมใบเล็กเป็นภาพคู่ของชายหญิงคู่หนึ่ง
โดยผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวกำลังถูกผู้ชายผิวเข้มตัวโตโอบกอดด้วยสองแขนจากทางด้านหลัง พร้อมกับจมูกโด่งกดแนบแก้มขาวจนเต็มพื้นที่ รอยยิ้มที่กว้างของคนทั้งสอง ทำให้รับรู้ได้ว่าทั้งคู่กำลังมีความสุขมากมายแค่ไหนในขณะนั้น
ดวงตาเรียวสวยฉายแววหม่นลงเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ บัวบูชาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเก็บรูปดังกล่าวไว้ในซอกหลืบของกระเป๋าดังเดิม
“ดินเนอร์สุดโรแมนติก งั้นเหรอ” รอยยิ้มเหยียดเล็ก ๆ ประดับขึ้นที่มุมปากบาง พร้อมกับสีหน้าที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า ในตอนนี้หญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ มือเรียวยกหูโทรศัพท์ต่อสายตรงถึงเลขาที่เป็นเพื่อนสนิทในทันที
“ฤดี ช่วยตามเรื่องขอเข้าพบท่านประธานบริษัทศัจกรกิจไพศาล ให้ฉันหน่อยสิ รายละเอียดตามที่ได้ประชุมกันคราวก่อนนะ ถามให้ด้วยว่าสะดวกให้ทางเราเข้าไปคุยได้เมื่อไหร่?”
หลังจากวางสาย สายตาคู่สวยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพท้องฟ้าสีครามสดใสตรงหน้า ไม่ได้ทำให้จิตใจของคนมองสดใสตามไปด้วยเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้มันก็คงเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วสินะ ที่เธอจะกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคน กลับไปลบคำดูถูกเหยียดหยาม กลับไปให้คนที่เคยเฉดหัวเธอทิ้งในอดีตเสียดายเล่น
“แล้วพบกันค่ะ คุณศิราคนดี”
**********************************************************
เย็นวันหนึ่งขณะศิรากลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่เจอผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น และตอนนี้เขาก็มาอยู่ภายในห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศในห้องตอนนี้แตกต่างออกไปจากทุกที มันไม่ได้อึดอัดและมีแรงกดดันเหมือนเมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อในตอนนี้ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก จนตัวเขาเองก็แทบไม่เชื่อ“คุณพ่อ มีอะไรครับ?”“เห็นแม่เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดบัวงาม” ชายสูงวัยเอ่ยถาม มือเหี่ยวย่นขยับแว่นตาที่ใส่เล็กน้อย“ครับ”“วันที่เท่าไหร่?”“วันที่ ๖ ครับ ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ ผมว่าจะลางานแล้วไปก่อนสักหนึ่งวัน” ศิราตอบเสียงเรียบ“ช่วงนี้งานก็ไม่ได้เยอะอะไร”“ครับ?” ศิราทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อต้องการที่จะสื่อถึงอะไร“งานไม่เยอะก็ลาสักสามสี่วัน”“…”“เดี๋ยวฉันกับแม่แกจะตามไปทีหลัง อาจจะเป็นวันศุกร์ตอนเช้า ยังไงฉันจะเข้าไปช่วยดูที่บริษัทให้ ในช่วงที่แกไ
วันนี้บ้านสินธปกรณ์ได้ต้อนรับแขกคนสำคัญสองคนในช่วงเช้าของวันจันทร์ นั่นก็คือศิราและจันทรรัตน์“สวัสดีครับคุณป้า นี่คุณแม่ผมเองครับ แม่ครับ นี่ป้าอุบลแม่ของบัวบูชา” ศิรากล่าวสวัสดี หลังจากที่ทุกคนนั่งลงกันหมดแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณอุบล”“สวัสดีค่ะ จันทรรัตน์ เรียกอุบลเฉย ๆ เถอะค่ะ”“ค่ะ ถ้างั้นก็เรียกจันทร์เฉย ๆ ก็พอนะคะ ที่เราสองคนมาในวันนี้ เพราะมีเรื่องจะมาคุยด้วยค่ะ เรื่องหนูบัวและน้องบัวงาม”“ค่ะ ดิฉันก็พอทราบมาบ้างแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีการคุยกันไปบ้างแล้ว”“ที่ดิฉันมาในวันนี้ คืออยากจะมากราบขอโทษคุณอุบลแล้วก็หนูบัว ทางฝั่งดิฉันทำผิดต่อพวกคุณจริง ๆ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาพวกคุณต้องเจอกับอะไรมาบ้าง แต่นับตั้งแต่นี้ไปฉันจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยให้นะคะ” จันทรรัตน์ มีสีหน้าสำนึกผิด“ดิฉันไม่ต้องการเงินทองของนอกกายหรอกค่ะ ขอแค่ให้ลูกกับหลานมีความสุขเท่านั้นก็พอ ส่วนเรื่องอดีตก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป อย่าไปยึดติดคิดแค้นว่าใครผิดใครถูกเลยค่ะ ทุกคนมีเรื่องที่ตัดสินใจผิดพลา
บ้านกิจธนะวรกุลเพียะ!ใบหน้าคมหันไปตามแรงตบของผู้เป็นพ่อ ร่างสูงของศิรายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เขายอมให้ผู้เป็นพ่อตบเขาได้ตามใจต้องการ จะทุบจะตบตียังไงเขาก็ไม่สนใจแล้ว“พอหรือยังครับ? ถ้ายังไม่พอตบอีกสิครับ”“นี่! แกอย่ามาท้าฉันนะ”“ผมไม่ได้ท้าครับ ผมพูดจริง ผมยอมให้พ่อตบตีได้เท่าที่พอใจเลยครับ เพราะมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อจะได้ตบผมอีก”“...”“และหลังจากนี้ผมจะได้ไปใช้ชีวิตของผมเองสักที ชีวิตที่ไม่มีพ่อคอยควบคุม”“แกจะไปไหน?”“ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังทำงานให้พ่อต่อเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เพื่อพ่อนะครับ แต่เพื่อลูกเพื่อเมียของผม”“หึ หายไปตั้งห้าปี แกดูมั่นใจนะว่าเป็นลูกแก”ศิราไม่พูดอะไร ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลในกระเป๋าแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของผู้เป็นพ่อแทน เขาเห็นผู้เป็นพ่อเหลือบตามามองดูเล็กน้อย“ผมจะเข้าไปกราบขอโทษคุณลุงคุณป้ารวมถึงน้ำเพชรด้วย ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอ
ภายในงานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรแห่งใหม่ในพื้นที่เขตบางนา เช้านี้ศิราเดินทางมาแต่เช้า พร้อมกับจารวีเลขาคนรู้ใจ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม บวกกับบุคลิกภายนอกที่นิ่งขรึม ส่งผลให้ศิราดูมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามงานนี้สื่อมวลชน และนักข่าวต่างมากันอย่างล้นหลาม สมกับเป็นงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ เพราะงานนี้บริษัททุ่มทุนไม่อั้นในการประชาสัมพันธ์เหล่าบรรดาผู้บริหารน้อยใหญ่ หุ้นส่วนทั้งหลาย รวมถึงคู่ค้าทางธุรกิจมากมาย ต่างตบเท้าเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับท่านประธานใหญ่ศัจกรกิจไพศาล กันอย่างท่วมท้นนอกจากงานหลักอย่างงานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรแล้ว สิ่งที่นักข่าวทั้งหลายต่างพากันสนใจก็คงจะเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของศิรา เพราะเจ้าตัวดูขยันเป็นข่าวกับคนโน้นคนนี้บ่อยเหลือเกินอย่างช่วงเดือนก่อนก็มีข่าวกับนักธุรกิจสาวหน้าหวานคนเชียงใหม่ ที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจ จนเกิดการเปรียบเทียบกับว่าที่คู่หมั้นสาวสวยลูกเจ้าของห้างดัง ในเรื่องของความเก่ง และความสามารถ หากต้องการคู่ครองที่เกื้อหนุนกันในเชิงธุรกิจทั้งสองฝ่ายก็ดูมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันไป
ร่างบางรับคำผู้เป็นแม่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินนำศิราไปที่ห้องนั่งเล่น บัวงามตอนนี้กำลังนั่งระบายสีอยู่กับป้าน้อย พอเห็นคนที่เดินตามหลังผู้เป็นแม่มาเท่านั้นแหละ มือน้อยทิ้งสีเทียนลง และวิ่งไปกอดหาคุณลุงทันทีด้วยความคิดถึง“คุณลุงคนหล่อเท่”“สวัสดีคุณลุง ก่อนสิลูก”“สวัสดีค่ะคุณลุง วันนี้มารับน้องงามไปเที่ยวใช่ไหมคะ?” เพราะศิราเคยสัญญาไว้ก่อนจะกลับไปกรุงเทพครั้งก่อน ซึ่งบัวงามจำได้ดี“น้องงามอยากไปเที่ยวเหรอครับ?” ศิราก้มตัวลงไปอุ้มเด็กน้อยไว้แนบอก ดีใจจนน้ำตารื้น อยากจะหอม อยากจะกอดอย่างนี้นาน ๆ อยากได้ยินเสียงเล็กเรียกเขาว่าปะป๊าสักครั้งจะรู้สึกดีแค่ไหนกันนะ“อยากมาก ๆ เลยค่ะ หม่าม้าก็ไปทำงาน น้องงามเหง้าเหงา” เด็กน้อยฟ้อง“งั้นวันนี้ไปเที่ยวที่ทำงานกับหม่าม้าดีไหมคะ?” บัวบูชาเอ่ยชวน“น้องงามเบื่อที่ทำงานหม่าม้าแล้วเหมือนกัน” พูดเสียงเล็กเสียงน้อย ท่าทางกระเง้ากระงอด น่าเอ็นดูเป็นที่สุด“อ้าว เป็นงั้นไป ถ้าป้าฤดีมาได้ยินคงร้องไห้แล้วป่านนี้&rdqu
เวลาผ่านไปเกือบสามอาทิตย์แล้ว ในที่สุดการรอคอยของศิราก็สัมฤทธิผล เมื่อคินน์โทรมาบอกว่าได้เอกสารผลการตรวจ DNA มาแล้ว ให้มาเอาที่บริษัทได้เลย ศิราได้ยินประโยคนั้นแทบจะรีบบึ่งรถออกไปเอาเสียตั้งแต่ตอนนั้น แต่เขาฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน“มึงเอาไปฝากไว้ที่บาร์ไอ้มาวินนะ เดี๋ยวคืนนี้กูไปเอา ถ้ากูไปเอาตอนนี้มันจะน่าสงสัย กูกลัวพ่อกูรู้”“พ่อมึงยังให้คนตามมึงอยู่อีกเหรอ?”“กูไม่รู้ แต่กันไว้ดีกว่า ยิ่งตอนนี้ทั้งน้ำเพชรทั้งพ่อกูเงียบไปแปลกๆ กูไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น เอาไว้ที่บาร์ไอ้มาวินน่ะดีแล้ว เหมือนกูไปเที่ยวปกติ จะได้ไม่มีใครสงสัย”“โอเค กูจัดการให้”“ขอบใจว่ะ คืนนี้ออกไหม”“ไปดิ มึงเตรียมตัวเลยคืนนี้ไอ้วินแซวมึงแน่”“แซวอะไร?” ศิราขมวดคิ้ว“เรื่องรูปที่มึงโพสต์ใน IG อะ แหม ๆ ดูท่าพ่อคนคลั่งรักจะกลับมาแล้วโว้ยย”“ไร้สาระ” เสียงเข้มทำเป็นดุเพื่อน แต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มหลังจากได้อ่านเอกส
Komen